หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 298 เส้นไหมเซียน
เกอซีพยายามสะบัดตัวให้หลุดออกจากพันธนาการในกายจึงพบว่า นางมิได้ล่วงรู้เลยว่าตลอดทั่วทั้งร่างถูกสายใยบางเพียงเส้นผมรัดรึงไว้
ปลายสายใยบางถูกฝ่ามือของบุรุษผู้นั้นยึดไว้ ยามนี้ ความรู้สึกประดุจปลาที่นอนนิ่งอยู่กลางเขียง ไร้หนทางเลี่ยงหลบหลีกหนี
คนธรรมดาโดยทั่วไปเมื่อต้องตกอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องตื่นตระหนกหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ทว่าบุคคลเยี่ยงเกอชีนั้นเป็นเช่นไร? ภารกิจที่นางต้องแบกรับในชาติภพก่อนต้องประสบพบเจอภยันตรายหลากหลาย ต้องปะทะกับกลุ่มอิทธิพลมืดตลอดถึงพวกเจ้าพ่อยาเสพติดทั้งหลายมาโดยตลอด
มุมปากหญิงสาวเหยียดออกด้วยความเย้ยหยันก่อนจะเผยความงดงาม น้ําเสียงเย็นชาไร้ความลุกลี้ลุกลนตื่นตระหนกหลุดออกมาจากริมฝีปากแดงระเรื่อ “น่าขัน เจ้ายังสามารถพบเจอตําแหน่งนัยน์ตาจิ๋วอาคมได้ แล้วเหตุใดข้าจะค้นพบมิได้เล่า ? หรือสายริ้วเมฆาแห่งนี้ตระกูลเจ้าเป็นผู้ก่อกําเนิดขึ้นเล่า ? ที่สุด เจ้าก็มิได้มีค่ามากไปกว่าเจ้าพวกไม่ได้เรื่องที่ถูกกักกันไว้ภายใต้สายมนตรา กระทั่งไม่อาจหาทางหลุดรอดออกไปได้ !”
สิ่งที่ได้ฟังสร้างความประหลาดใจให้แก่ชายผู้นั้นอย่างยิ่ง แต่เล็กกระทั่งเติบใหญ่ ยังหามีผู้ใดขวัญกล้าเอ่ยกล่าวกับเขาเยี่ยงนี้
ทิ้งเวลาไปครู่ใหญ่ก่อนบุรุษผู้นั้นจะหัวเราะออกมาอย่างเงียบงัน หากทว่าการหัวเราะนั้นกลับมิได้ส่งถึงดวงตา กลับกัน แววตาของชายผู้นั้นกลับให้ความรู้สึกที่เย็นชา “เยี่ยม! พลังฝีมือของเจ้าหาได้สูงส่งไม่ ทว่าความขวัญกล้าของเจ้ากลับหาได้ต่ําเตี้ยไม่ เมื่อเจ้าร่ําร้องหาความตายให้ตนเอง เช่นนั้นข้าย่อมต้องช่วยส่งเสริม หลังจากทําลายพลังฝีมือของเจ้าแล้ว ข้าจะใช้วิชาสํารวจจิตสืบสาวเรื่องราวของเจ้า สําหรับเจ้าแล้ว ไม่ว่าจะหนทางใดผลที่ได้รับย่อมไม่ต่างกับความตาย
ทันทีที่คํากล่าวสิ้นสุด ลําแสงเฉียบคมเปล่งประกายขึ้นในมือคนผู้นั้นวาบหนึ่งก่อนจะพุ่งเข้าหาหัวใจของเกอซี
ทว่าเพียงเสี้ยวนาทีถัดมา ความตื่นตระหนกตกใจกลับปรากฏขึ้นบนดวงหน้าบุรุษผู้นั้น
สายตาที่จับจ้องเขม็งอยู่กับเกอซีผู้ควรถูกยึดตรึงไว้ด้วยเส้นไหมเซียน กระทั่งไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ จู่ๆนางกลับโน้มกายก้มหลบสายพลังพิฆาตไปได้ในช่วงเสี้ยวนาทีวิกฤติ
ติดตามมานั้นคือ เส้นไหมเซียนที่รัดรึงเกอซีไว้พลันฉายประกายสว่างจ้าขึ้นวูบหนึ่งก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสีดําเข้มราวถูกเผาไหม้ มันเหี่ยวแห้งหมดสภาพก่อนจะร่วงหล่นลงพื้น สลายกลายเป็นเศษเถ้า
ร่องรอยแห่งความเยาะหยันเผยขึ้นบนมุมปากของหญิงสาว เถาวัลย์ม่วงอเวจีในมือพุ่งตรงเข้าหาบุรุษเบื้องหน้าอย่างไม่รอช้า
ชายผู้นั้นตื่นตระหนกไม่ทันตั้งตัว เช่นนั้นกลางแผ่นอกจึงถูกเถาวัลย์ม่วงอเวจีตวัดใส่เข้าอย่างจัง
หากมิใช่เพราะเขาไหวตัวทันจึงรีบกระถดหลบถอยกลับมาได้อย่างรวดเร็ว หัวใจของเขาคงถูกเถาวัลย์ม่วงอเวจีกระชากออกไปแล้ว
ทว่าแม้นจะสามารถเลี่ยงหลบได้ ชิ้นเสื้อส่วนบนยังคงถูกกระชากเฉือนกระทั่งเผยให้เห็นแผ่นอกเปลือยเปล่า ผิวเนื้อที่แข็งแกร่งสมบูรณ์แนวมัดกล้ามเนื้อทั้งหกเรียงตัวแน่นอย่างสวยงามบนหน้าท้อง
ชายผู้นั้นก้มลงมองเศษผ้าที่ถูกตัดขาดพร้อมหยาดโลหิตที่ไหลลงบนเนินอกด้วยความเหลือเชื่อ ไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บจากผู้ฝึกยุทธขั้นต่ําตัวน้อยนิดเช่นนี้
ขณะที่เกอซีก็หาได้มีความพอใจยินดีกับผลงานของตนไม่ บุรุษผู้อยู่เบื้องหน้า หากจะเปรียบกับนางแล้ว นับว่าเปี่ยมประสบการณ์ทั้งพลังฝีมือล้วนสูงส่งกว่านางมากนัก
แม้นภายใต้สายริ้วเมฆาแห่งนี้ จะบีบบังคับให้บุรุษผู้นี้ไม่อาจแคลื่อนพลังปราณในกายได้ ทว่านางไม่เชื่อว่าหากเขาขยับโจมตีอีกครานางจะสามารถหลบหนีได้อีกครั้ง
เมื่อคิดเช่นนั้น เกอซีควงเถาวัลย์ม่วงอเวจีในมืออย่างไม่รอช้าไม่ลังเล ม่านหมอกสีขาวรอบกายเคลื่อนตัวพลุ่งพล่าน ไร้หนทางควบคุมประดุจพวกมันกําลังพุ่งตรงเข้าโจมตีหญิงสาว
เพียงชั่วพริบตา ที่หมอกขาวรอบกายดูคล้ายกําลังจะสูบกลืนร่างของเกอซีให้หลุบหายเข้าไปพุ่งตรงเข้ามา ม่านหมอกทั้งหมดกลับถูกเถาวัลย์ม่วงอเวจีในมือนางดูดซับเข้าไปจนสิ้นสูญ
เถาวัลย์ม่วงเวจีซึ่งสูบกลืนหมอกขาวไปอย่างเต็มที่ตวัดสั่น มันถูใบเข้าหากันไปมาส่งเสียงดังกรอบแกรบ คล้ายอยากบอกกล่าวผู้เป็นนาย ถึงความกระหายโลหิตที่คั่งขัน
เมื่อม่านหมอกขาวกว่าครึ่งถูกสูบกลืนเข้ามา ชั้นบรรยากาศรอบกายจึงเริ่มกระจ่าง ทว่าหมอกขาวแตกกระจายเพียงพริบตาก็กลับกลายหนาแน่นคืนกลับอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ใบหน้าของบุรุษชุดดําผู้จับจ้องเกอซีพลิกสายเถาวัลย์ม่วงอเวจีในมือไปมาเผยความตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัดภายใต้หมอกขาว และจู่ๆดวงหน้าของเขากลับแปรเปลี่ยนเป็นความกระจ่างแจ้งระคนตื่นเต้นเร้าใจ
***จบตอน เส้นไหมเซียน***