ตอนที่ 258 อย่าเอามือสกปรกของเจ้าไป แตะต้องร่างนาง
เมื่อได้ยินคํากล่าวของเกอซี ความกริ้วโกรธฉายผ่านดวงตาของเฟิ่งเหลียนอิ่ง ฝ่ามือของนางกําแน่น หยาดน้ำตาร่วงหล่น หญิงสาวยึดแขนเสื้อหนานกงยวี่ไว้แน่นคล้ายต้อ งกล้ำกลืนความเจ็บปวดไว้อย่างเหลือแสน นางกัดฟันกล่าว
“ความสัมพันธ์ของคุณชายซี และคุณชายกู้ลึกซึ้งยิ่งนัก ข้าเคยได้ยินมาว่าอุปนิสัยของกู้หลิวเฟิ่งนั้นเย่อหยิ่งผยองทั้งไม่ชอบสุงสิงกับผู้ใด หากทว่าวันนี้มีคิดเลยว่าเจ้าจะร่วมมือกับคุณขายซีตั้งตนเป็นปรปักษ์กับข้า ความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านทั้งสองช่างน่าอิจฉายิ่งนัก หากแต่เมื่อข้ายอมไว้หน้าคุณชายซี ข้าย่อมไม่สร้างความลําบากใจให้ท่านกู้หลิวเฟิ่ง พวกท่านสมควรหลีกไปเสีย รีบไปก่อนที่ท่านพี่ยี่จะเกรี้ยวกราด วางใจเถิด ข้าจะช่วยพูดกับท่านพี่ยวให้พวกเจ้าเอง…”
แม้วาจาตลอดถึงท่าทีของนางจะมีไมตรีเปี่ยมความเห็นใจ หากทว่านัยน์ตากลับฉายประกายแห่งความโอ้อวดถือดียั่วโทสะ ประกายตาเย็นเยียบยามเมื่อนางจับจ้องเกอซีเลือนหายไปโดยฉับพลัน ครั้นเมื่อนางเบี่ยงสายตากลับมาหาหนานกงยวี่ท่วงท่ากิริยาของนางกลับกลายเป็นอ่อนหวานอ่อนโยนเอื้ออารีในทันที
เนียจินเฉินยังคอยประคองร่างของนางอยู่ข้าง ๆ ด้วยใบหน้าที่ฉายความแค้นเคืองขึ้นวูบหนึ่ง ยิ่งเมื่อได้รับฟังสิ่งที่นางเอ่ยกล่าว ความเดือดดาลภายในใจกลับเพิ่มทวี “หนานกงยวี่อย่าได้ฟังคําน้องหญิงเหลียนยิ่ง นางมีจิตใจงดงามเกินไปทําให้พวกที่ไม่อาจแยกแยะดีชั่วกล้าคิดล่วงเกินนางถึงเพียงนี้ คนจิตใจชั่วช้าเยี่ยงพวกมันไม่สมควรได้รับการอภัย ! เราต้องสั่งสอนให้พวกมันได้รู้เสียบ้างว่าจุดจบของผู้ที่ล่วงเกินบุคคลอันมิอาจล่วงเกินจะลงเอยเช่นไร !”
กู้หลิวเฟิ่งเดาะลิ้นเป็นเชิงชื่นชมก่อนจะยกมือขึ้นวางทาบบนลาดไหล่ของเกอซีพลางทอดถอนใจ “ข้าเห็นพวกคนไร้ยางอายมาก็มาก กลับไม่เคยเห็นผู้ใดสิ้นยางอายถึงเพียงนี้ ไม่คิดเลยว่าองค์ราชันมัจจุราชผู้เลื่องลือจะหลงใหลสตรีน่ารังเกียจเช่นนี้ได้ ช่างสมดังคํากล่าวที่ว่าประจักษ์ชัดด้วย ตาย่อมดีกว่าเพียงได้ฟังคํากล่าวเล่าอ้างนับร้อยเท่า”
“เย่วเอ๋อน้อย ข้าคิดว่าพวกเราอย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับพวกวิกลจริตเหล่านี้เลย ความไร้ยางอายของพวกมันเกินจะทนทอดสายตามอง เมื่อพลังฝีมือของเราไม่อาจเทียบพวกมันได้ เช่นนั้นเราย่อมสมควรฉวยโอกาสนี้หลบหนีไปเสีย…”
ขณะที่เอ่ยกล่าวอยู่นั้น ชายหนุ่มเอนกายกระซิบแนบข้างหูเกอซีคล้ายกําลังหยอกเย้า “เมื่อข้านับถึงสาม เจ้ารีบพาเหยียนหนีไปเสีย เรามีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
หญิงสาวผงกศีรษะ หากทว่าเมื่อแหงนเงยหน้าขึ้นอีกครากลับประสานเข้ากับสายตาที่เหี้ยมเกรียมของหนานกงยวี่ที่แผดเผาบดขยี้จิตใจประดุจในอกถูกกระหน่ำด้วยหินผา
ฉับพลัน หนานกงยวี่สืบฝ่าเท้าก้าวยาวตรงมาหาเกอซี ทว่าเมื่อเฟิ่งเหลียนอิ่งยังคงยึดแขนเสื้อชายหนุ่มไว้ ทันทีที่เขาขยับกายอย่างกระทันหันร่างของนางจึงคะมำซวนเซ
เฟิ่งเหลียนอิ่งได้เพียงมองตามแผ่นหลังของหนานกงยวี่ ผู้ก้าวฝ่าเท้าฉับ ๆออกไปด้วยแทบไม่เชื่อสายตา ปากของนางยังร่ำร้องตะโกน “ท่านพี่ยวี่ !”
หากทว่าฝีเท้าของอีกฝ่ายกลับไม่ชะงักหยุดแม้เพียงน้อยคล้ายดั่งเขาไม่ได้ยินเสียงร้องของนาง
ใบหน้าของกู้หลิวเพิ่งแปรเปลี่ยนเป็นองอาจห้าวหาญขึ้นในทันทีเมื่อเห็นหนานกงยวี่มุ่งตรงมาหา เขาเอนกายเข้าหาใบหูของเกอซีหมายกระซิบสั่ง
สําแสงสายฟ้าสีน้ำเงินที่ดุเดือดร้ายกาจพุ่งแทงใส่ท่อนแขนกู้หลิวเฟิ่งในทันที
เขาซวนเซถอยหลังเปล่งเสียงครางในลําคอด้วยความเจ็บปวด ท่อนแขนที่ถูกสายฟ้าฟาดลงใส่ยามนี้ถูกชโลมด้วยหยาดโลหิตอย่างเห็นได้ชัด
หนานกงยวี่ถลึงตามองด้วยสายตาเหี้ยมเกรียมกระหายเลือด น้ำเสียงหม่นมัวเย็นชาถูกบังคับขับออกผ่านช่องปากไรฟัน “ข้ากล่าวแล้วว่า อย่าเอามือสกปรกของเจ้าไปแตะต้องตัวนาง !!”
กู้หลิวเฟิ่งตกตะลึงนิ่งงงงัน ทว่ายังไม่ทันจะโต้ตอบสิ่งใด เกอซีก็คว้าท่อนแขนที่ได้รับบาดเจ็บของเขามาละเลงผงโอสถสีขาวเงินยวงใส่อย่างเร็วรี่
ชั่วพริบตา โลหิตที่ทะลักผ่านปากแผลพลันหยุดชะงักอาการบาดเจ็บทุเลา ทั้งอีกแค่เพียงครู่รอยแผลนั้นก็ตกสะเก็ดติดตามมาในทันที
เกอซีถอนใจเฮือกใหญ่ด้วยความคลายใจ ก่อนจะหันมาเอ่ยถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงแฝงความห่วงใย “ไม่เป็นไรใช่ ไหม ?”
เพียงถ้อยคําเหล่านั้นล่วงผ่านริมฝีปาก หญิงสาวกลับรับรู้ได้ถึงบางสิ่งที่รัดแน่นรอบข้อมือ ทว่ายังมิทันตระหนักได้ว่าเกิดสิ่งใด ร่างของนางก็ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศก่อนจะตกลงในอ้อมอกอันอบอุ่นของคนผู้หนึ่ง
เมื่อแหงนเงยศีรษะขึ้นอีกครา สายตาของนางจึงประจันเข้ากับนัยน์ตาที่แดง…ประหนึ่งสายโลหิตของหนานกงยวี่
***จบตอน อย่าเอามือสกปรกของเจ้าไปแตะต้องร่างนาง***