แม้จะถูกพวกมันกล่าวหยามหมิ่น ทว่าหวอ กลับมิได้มีความโกรธเกรี้ยวแม้เพียงน้อย กลับกัน ชายหนุ่มยกไหล่เอ่ยคํา “ดังที่คาดเจตนาปรารถนาดีของข้าล้วนถูกมองข้าม ! พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่ามีแค่เพียงพวกเจ้าเท่านั้นที่สัมผัสร่างผู้ป่วย หากการช่วยชีวิตพวกมันล้วนสมควรคุ้มค่าเช่นนั้นเหตุใดจึงไม่มีคนจากสํานักหลิวหลีแม้สักคนเคลื่อนกาย เพื่อให้ความช่วยเหลือ ? หวังว่าพวกเจ้าจะไม่สํานึกเสียใจกับการกระทําของตนในภายหลังก็เท่านั้น !”
ภายในใจของเพิ่งเหลียนยิ่งมีเพียงความเกลียดชังเมื่อได้ยินเช่นนั้นหากทว่าแทนที่นางจะหันมองหอ หญิงสาวกลับเลือกจ้องหน้าเกอซีผู้ยืนด้านข้าง
“คุณชายซี คล้ายท่านมีความมุ่งหมายใดแอบแฝงจึงเพียรสร้างเหตุให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายบาดหมางกับสํานัก หลิวหลีท่านมีจุดประสงค์ใดกันแน่ ? หรือท่านหมายรอให้ เหล่ายอดยุทธทั้งหลายสิ้นชีพเพื่อรอตักตวงผลประโยชน์
“แม้ข้าจะตระหนักดีว่าท่านร้ายกาจสักเพียงไรทว่าไม่คาดคิดเลยว่าท่านจะมีจิตใจโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ !”
ทันทีที่เพิ่งเหลียนยิ่งพ่นวาจาเหล่านั้นออกมาความเคียดแค้นที่ปะทุในแววตาของยอดฝีมือทั้งหลายพลันหันมาถลึงจ้องเกอซีเป็นจุดเดียว
หญิงสาวเพียงยกยิ้มอย่างสบายอารมณ์ เมื่อนางหาได้ใส่ใจกับปฏิกิริยาโต้ตอบทุกประการ
หากทว่าหวอ กลับเปล่งเสียงเย้ยเยาะ “เห็นได้ชัดว่าผู้ที่เอ่ยกล่าวคือข้า แล้วเหตุใดเทพธิดาบัวเยือกแข็งจึงโยนความผิดให้ผู้อื่นเช่นนี้เล่า ? แทนที่จะมัวมาจ้องเกรี้ยวกราดใส่ข้าไยไม่รู้จักถ่างตาดูไอ้พวกที่อยู่ด้านหลังโน่นเล่า ?”
เพียงสิ้นคํากล่าว พวกมันทุกคนล้วนได้ยินเสียงดังซึ่ง” จากด้านหลัง
ยอดฝีมือหลายคนล้มลงกับพื้นหมดสติ ! ใบหน้าของพวกมันแดงก่ํา ทั่วร่างร้อนผ่าว อีกหลายคนเริ่มป รากฏผื่นแดงบนดวงหน้า
“นี่เป็นเช่นนี้ได้เยี่ยงไร ?!!” เหล่าผู้เยี่ยมยุทธทั้งหลายต่างร้องอุทานด้วยความตื่นตระหนก
“เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่ได้ก้าวล่วงเข้าสู่สวนสมุนไพรด้วยซ้ํา !”
“นั่น- หนอง!! หนองตามตัวพวกมันสามารถติดต่อสู่ผู้อื่น !”
“ทุกคน หนี หนีเร็ว !!!”
เพียงครู่ บนดวงหน้ายอดฝีมือทั้งหลายล้วนถูกความหวาดผวาตื่นกลัวเข้าครอบงํา พวกมันทั้งหมดรีบวิ่งหนีหลีกไกลจากผู้ที่ได้รับเชื้อ
ภาพฉากเมื่อครู่เวียนกลับมาปรากฏกลายเป็นความปั่นปวนโกลาหลอีกคราไม่เหลือผู้ใดใส่ใจเหล่ายอดยุทธที่ยังนอนเจ็บล้มป่วยอยู่ในยามนี้
เมื่อชีวิตอันน้อยนิดของพวกมันกําลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายวิถีแห่งผู้ทรงเกียติยอดนักบุญผู้เสียสละอุทิศตนเพื่อผู้อื่นยังจะเหลือแต่ที่ใด ? ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นเพียงแค่ผายลม !
เพียงครู่อึดใจฉากที่ปรากฏเบื้องหน้าทุกผู้คนล้วนเอะอะยุ่งเหยิงสวนสมุนไพรยามนี้มีเพียงเสียงร้องแห่งความหวาดผวาตื่นกลัวกึกก้องโดยทั่ว
เสียงตะคอกแผดลั่นด้วยความขุ่นเคืองของเพิ่งเหลียนยิ่งพลันแทรกขึ้น“คุณชายซี ! ท่านล้วนตระหนักแก่ใจว่าโรค ร้ายนี้สามารถติดต่อสู่ผู้อื่นได้เหตุใดจึงไม่กล่าวเตือนแต่แรก ?เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายจะได้ไม่ติดโรคร้ายมากมายถึงเพียง นี้ ?!”
เกอซีส่งยิ้มไม่เชิงยิ้มให้อีกฝ่าย “ข้าเพียงคิดว่าเจ้าย่อมสมควรรู้ เจ้านั้นคือท่านหมอผู้มีฝีมือรักษาระดับห้ามิใช่หรือ ?ตัวข้านั้นหรือจะหาญกล้าไปก้าวก่ายการวินิจฉัยของเจ้าทั้งย่อมมิกล้ากล่าวบงการให้เจ้ากระทําโน่นนี่มิใช่หรือ ?”
เพิ่งเหลียนอิงกัดกรามแน่น ความเคียดแค้นเร่าร้อนอยู่ในแววตา “ชีวิตเพื่อนมนุษย์ คือสิ่งที่มิอาจประเมินค่าเหตุใดเจ้าจึงอาศัยความหมางใจที่มีต่อข้า ละทิ้งชีวิตผู้คนมากมายเช่นนี้ ?”
“ข้ากําลังครุ่นคิดหาหนทางเยียวยารักษาทุกคนย่อมเป็นธรรมดาอาจจะละเลยบางสิ่ง หากทว่าคุณชายซีเห็นได้ชัดว่าท่านตระหนักในความจริงข้อนี้ทว่ากลับไม่เอ่ยกล่าว ท่านทําเช่นนี้มีจุดประสงค์ใด?ชีวิตนับร้อยตรงหน้าของเหล่ายอดยุทธทั้งหลาย หาได้มีความสําคัญยิ่งไปกว่าความแค้นส่วนตัวของท่านกระนั้นหรือ ? !”
ทันทีที่เพิ่งเหลียนยิ่งกล่าวจบ ทุกสายตาพลันหันมาหาเกอซีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นดูแคลน
ยิ่งโดยเฉพาะกับพวกมันที่ยังคงมีสหาย หรือญาติมิตรอยู่ในสภาพหมดสติไม่รู้สึกตัว พวกมันไม่อาจแม้กระทั่งจะล่วงรู้ ได้ว่าตนติดเชื้อไปแล้วหรือไม่เช่นนั้นความเคียดแค้นที่มันมีต่อเกอซีจึงยิ่งท่วมท้นมันเริ่มชักกระบี่ด้ามยาวในใจคั่งแก้นหมายพุ่งร่างตรงเข้าฉีกร่างผู้ที่อยู่เบื้องหน้า
หวอ ยิ่งรู้สึกถึงกับความสามารถในการกลับขาวให้เป็นดําได้อย่างแนบเนียนของเพิ่งเหลียนยิ่ง
ก่อนหน้า เขายังไม่เข้าใจว่าเหตุใดกู้หลิวเฟิงและพระชายาของตนจึงเกลียดเพิ่งเหลียนยิ่งผู้นี้จนเข้าไส้เขาเคยพบเจอเพิ่งเหลียนยิ่งเพียงสองสามคราที่รับรู้นั้นเพียง นางปักใจชื่นชอบนายท่านของตนเท่านั้น
ทว่ายามนี้ เขาตระหนักทุกสิ่งอย่างกระจ่างแจ้ง !
สตรีผู้นี้มากเล่ห์เพทุบายทั้งยังโหดเหี้ยมจิตใจอํามหิต!คือสตรีที่ไร้ยางอายเกินกว่าจะรับได้ !!
*-*-*จบตอน ไร้ยางอายเกินกว่าจะรับได้ !*-*-*