หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 171 ต้านต้านผู้ลึกลับ

เกอซีแทบไม่เชื่อสายตา นางยังคงพยายามลองปลูกพรรณพืชอีกสามต้น ทั้งยังพยายามรดน้ำพรรณพฤกษาที่แห้งเหี่ยวด้วยน้ำอมฤตจากทิพย์วารีแห่งความสันโดษชั้นเก้า ถึงกระนั้นพฤกษาเวททั้งหลายกลับยังคงเหี่ยวเฉาปราศจากสัญญาณแห่งความคืนชีวิตโดยไม่ไว้หน้าให้แก่นางเลย

 

เกอซีสิ้นหวังที่จะฟื้นคืนพฤกษาเหล่านี้อย่างสิ้นเชิง นางมั่นใจแล้วว่าต้านต้านนับเป็นสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับอย่างแท้จริงในยามที่นางเป็นแค่เพียงมนุษย์เดินดินแสนสามัญ น่าจะเป็นการดีที่จะไม่ท้าทายสิ่งเหนือธรรมชาติดังเช่นต้านต้าน

 

ต้านต้านรู้สึกได้ถึงความผิดหวังกับท่าทางหมดอาลัยของผู้เป็นนาย เขาตรงเข้ามาลูบไหล่ปลอบใจนาง ท่าทางเช่นนี้บ่งบอกอย่างชัดเจนคล้ายเขากำลังกล่าวปลอบขวัญนาง ‘ท่านแม่อย่าได้เสียใจไปเลย’ ทำให้เกอซีไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

 

นางเหยียดมือขึ้นจับหนวดน้อย ๆ ของต้านต้านพลางกล่าวขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ “ต้านต้านผู้น่าสงสาร ข้าช่วยเจ้าไม่ได้เลย ข้าไร้หนทางเลือกอื่นใดนอกไปเสียจากมอบหน้าที่นี้ให้แก่เจ้า ให้เจ้าเป็นผู้ปลูกพฤกษาเวทที่เหลือเหล่านี้”

 

ต้านต้านหันกลับไปมองกองสมุนไพรขนาดยักษ์ที่อยู่ด้านข้าง ใบหน้าเปื้อนยิ้มพลันแปรเปลี่ยนเคล้าหยาดน้ำตา หนวดน้อย ๆ ทั้งสองห้อยเหี่ยวร่วงลง ความโศกาอาดูรฉาบทาไปทั่วทั้งดวงหน้า

 

เกอซีหัวร่อออกมาอย่างจนปัญญา “เอาอย่างนี้ อย่าเสียใจไปเลย ประเดี๋ยวข้าจะไปเตรียมของอร่อยมาให้เจ้ากินไม่อั้นเลยดีไหม ?”

 

 

เพียงต้านต้านได้ยินร่องรอยแห่งหยาดน้ำตาทั้งหลายกลับกลายเป็นความชื่นบาน เขารีบกลับไปปลูกพฤกษาเวทกองเท่าภูเขานั้นอย่างขมีขมัน และเมื่อเกอซีไม่อาจช่วยปลูกพฤกษาทั้งหลายได้ นางจึงเข้ามาในตำหนักเพลิงสวรรค์ และเริ่มตระเตรียมอาหาร หลังจากคู่นายและสัตว์เลี้ยงพักกินอาหารกันอย่างอิ่มหนำสำราญแล้ว ต้านต้านก็ไปจัดการแปรสภาพพฤกษาที่แห้งเหี่ยวให้กลายเป็นพฤกษาเวทที่เปี่ยมพลังชีวิตพร้อมใช้การได้อีกครา ขณะที่เกอซีเริ่มช่วยลงมือเก็บเกี่ยวผักสด และผลไม้เวทที่สุกงอมแล้วมาเก็บไว้ในมิติ ก่อนจะเริ่มลงมือปรุงอาหารอันโอชะขึ้น

 

เมื่อมองดูกองผลไม้เวทที่เนืองแน่นอยู่เต็มตำหนักเพลิงสวรรค์ เกอซีพลันฉุกคิดถึงการหมักสุราผลไม้ขึ้นในทันที

 

พึงทราบว่า สุราที่ได้จากการหมักจากผลไม้เวทนั้นมีราคาที่สูงลิ่วยิ่งเมื่อประสานเขากับหยาดหยดทิพย์วารีสวรรค์ชั้นเก้า สุราหมักชั้นดีเลิศนี้ย่อมถูกผลักดันให้มันกลายเป็นสุราชั้นเลิศอย่างเหนือปกติสามัญ

 

เกอซีฝังไหสุราไว้ในแปลงผืนธรณีศักดิ์สิทธิ์ครึ่งหนึ่ง และแบ่งอีกส่วนไว้ในทิพย์ธาราแห่งความสันโดษชั้นเก้า ในอดีต นางเคยหมักสุราไว้ในบ่อน้ำพุ ครั้นเมื่อผ่านล่วงเลยไปสามถึงสี่วัน สุราในไหจะหมักได้ที่กำลังดี อีกทั้งสุราที่ได้จากการหมักในบ่อน้ำพุเพียงช่วงระยะเวลาสั้น ๆ จะมีรสชาติล้ำเลิศกว่าสุราที่ได้จากการฝังหมักลงดินนานถึงสองสามปี เมื่อยามนี้ทิพย์ธาราในมิติเวทเลื่อนชั้นขึ้นมาอีก คุณภาพของสุราที่ได้ย่อมสูงขึ้นอย่างแน่นอน

 

 

 

ส่วนผืนธรณีซึ่งเดิมเป็นเพียงแผ่นดินที่มีเพียงเม็ดกรวดเม็ดทราย ไร้ค่ากระทั่งนางไม่เคยมีความคิดจะฝังไหสุราลงบนผืนดินนี้มาก่อน ทว่ายามนี้ ผืนธรณีลำนำศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นอุดมไปด้วยพลังชีวิต เช่นนี้แล้วคุณภาพของสุราที่หมักลงบนผืนดินนี้ย่อมกลายเป็นสุราชั้นเลิศขึ้นมาได้อย่างแน่นอน เช่นนั้นนางจึงต้องการลองหมักสุราดูสักครา

 

ทว่าสิ่งที่เกอซียังไม่ล่วงรู้นั้นคือคุณสมบัติของผืนธรณีลำนำศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นเพิ่มมากขึ้นนับร้อยเท่า ยามนี้ไม่เพียงพฤกษาเวทที่หว่านปลูกลงไปจะได้ผลงอกงามอย่างดีเยี่ยมเท่านั้น กระทั่งสุราเวทที่หมักลงในผืนธรณีนี้ย่อมต้องกลายเป็นสุราชั้นเลิศที่ยากจะหาใดเทียมเช่นกัน

 

และเมื่อนางกลับมาเปิดไหสุราเวทออกชม เพียงกลิ่นหอมของสุรานั้นก็แรงกระทั่งมันโชยออกไปยั่วยวนความรู้สึกของเหล่าสัตว์เวททั้งหลายบนภูเขาให้ได้รับความชื่นใจจนเกอซีต้องฉงน แน่นอนว่าผลของมันช่างเกินเลยไปไกลกว่าความคาดหวังของนางยิ่งนัก

 

 

*****

 

เมื่อรุ่งอรุณแห่งวันใหม่มาเยือน เกอซีก็มุ่งหน้าตรงไปยังตำหนักราชันมัจจุราชแต่เช้าตรู่

 

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่แออัดอยู่ตีนเขาฉางในยามนี้กลับหนาแน่นยิ่งไปกว่าเมื่อวันก่อน สีหน้าท่าทางของพวกเขาแต่ละคนล้วนแฝงไว้ด้วยความกระวนกระวายร้อนรน  เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และตื่นเต้น เมื่อคืนยอดฝีมือที่พากันมารวมตัวในที่นี้โดยส่วนใหญ่ล้วนมีระดับพลังฝีมือในขั้นเมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม และปฐมภูมิโลกันตร์ ทว่ายามนี้กลับไม่เห็นร่องรอยเหล่าผู้ฝึกยุทธข้้นเมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม  หากแต่กลับกลายเป็นกลุ่มทหารซึ่งมีพลังในระดับปฐมภูมิโลกันตร์ กับผู้ฝึกยุทธขั้นพลิกผันอเวจีเท่านั้น ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ที่พวกเขาสวมใส่ล้วนเป็นแบบเดียวกันเป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องมาจากพรรคหรือตระกูลเดียวกันอย่างแน่นอน

 

 

นับว่ายังโชคดีที่พวกเขาไปรวมตัวกันอยู่ที่ตีนภูเขาฝั่งตะวันตก ขณะที่เรือนของเกอซีตั้งอยู่อีกด้านทางทิศตะวันออก อีกทั้งการอำพรางเรือนที่แฝงร่วมไปกับสภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างดีย่อมไม่มีผู้ใดทันสังเกตเห็นเรือนหลังน้อยที่ตั้งอยู่ได้

 

ทว่าความสนใจใคร่รู้ยังมากล้นอยู่ภายในใจของเกอซี ที่สุดแล้ว เกิดสิ่งใดขึ้นในเทือกเขาฉางกันแน่ เหตุใดยอดฝีมือมากมายถึงมารวมตัวกันในที่นี้ เสร็จเรื่องของหนานกงยวี่เมื่อไรนางจะรีบกลับมาสืบสาวราวเรื่องให้กระจ่าง จะอย่างไรเสียสถานที่นี้คือฐานที่มั่นของนาง หากอาณาจักรกำบังตั้งอยู่ในบริเวณนี้จริง เกอซีจะต้องรู้สึกย่ำแย่อย่างยิ่งหากปล่อยให้คนนอกตัดหน้าพบเจอมันเสียก่อน

 

เมื่อแสงแรกแห่งอรุโณทัยเริ่มสาดทอประกายอย่างอบอุ่นเหนือยอดตำหนักราชันมัจจุราช เกอซีก็มาถึงบริเวณหน้าซุ้มประตูทางเข้าตำหนักแล้ว

 

ยามนี้นางอยู่ในชุดคลุมสีจันทร์นวล บนศีรษะเสียบปิ่นหยกแค่เพียงชิ้น ทว่ากลับส่งให้ใบหน้าของนางยามเมื่อปลอมแปลงเป็นบุรุษยิ่งแลดูบริสุทธิ์สง่างามอย่างเหนือคำบรรยาย ผิวพรรณของนางผุดผ่องเนียนใสประดุจกระเบื้องเคลือบ สองคิ้วเรียวยาวได้รูปอยู่เหนือดวงตาหงส์ที่เปล่งประกายระยิบระยับ ริมฝีปากแดงระเรื่องราวผลเชอร์รี่สุก แม้นางจะสวมใส่อาภรณ์ของบุรุษทว่ากลับยังคงดึงดูดสายตาทุกคู่ตามตรอกซอกซอยตลอดเส้นทางที่ย่างกรายผ่าน

 

 

***จบตอน ต้านต้านผู้ลึกลับ***

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

Options

not work with dark mode
Reset