หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 307 สมบัติล้ําค่าหายาก
“พี่ใหญ่ !” เฟิ่งเหลียนอิ่งเพิ่งตื่นจากความตระหนกตกตะลึง หญิงสาวรีบรุดเข้ารับร่างเฟิ่งอวิ๋นจิ่ง หากทว่าสายตาอันเปี่ยมด้วยความชิงชังยังคงจับจ้องที่หนานกงยวี่อย่างไม่ละคลาย “พี่ยวี่ เหตุใดท่านจึงไร้น้ําใจถึงเพียงนี้! เพียงเพื่อคนต่ําช้าผู้หนึ่ง ท่านถึงกับมองข้ามความเมตตาที่ตระกูลเฟิ่งเคยมีต่อท่านเชียวกระนั้นหรือ?”
“ชริ้ง ‘ เสียงกระบี่ถูกชักออกจากฝักอีกครา ปลายแหลมของมันชี้ตรงมายังเฟิ่งเหลียนอิ่ง
อายเย็นที่ส่งแสงวูบวาบสะท้อนเรียวกระบี่ห่างลําคอของนางแทบไม่ถึงปลายเล็บทั้งยังแฉลบผิวเนื้อเนียนละเอียดของนาง ส่งผลให้หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่ปรากฏแม้เพียงบางเบา
มุมปากของหนานกงยวี่ยกขึ้นขณะถ้อยคําของเขา ถูกขับเคลื่อนออกอย่างเชื่องช้า “หากมิใช่ด้วยเห็นแก่น้ําใจที่ตระกูลเพิ่งเคยมีต่อข้า พวกเจ้าทั้งหมดล้วนต้องสิ้นชีพไม่เหลือกระทั่งกระดูกภายใต้หมอกขาวแห่งนี้ไปนานแล้ว!”
เฟิ่งเหลียนอิ่งคล้ายจะเอ่ยกล่าวบางสิ่ง ทว่าเมื่อได้เห็นสายตามืดมนเฉียบคมของหนานกงยวี่ หญิงสาวรู้สึกจุกอึดอัดในลําคอ ใบหน้าซีดเซียว นางไม่อาจเปล่งวาจา แม้เพียงครึ่งคํา
บรรดาศิษย์สํานักหลิวหลีรีบเข้ามาดูอาการบาดเจ็บของเฟิ่งอวิ๋นจิ่งอย่างไม่รอช้าด้วยความห่วงใย
เฟิ่งอวิ๋นจิ่งผลักทุกคนกระเด็น นัยน์ตาที่ดําสนิทล้ําลึก ยากเกินหยังกวาดมองสํารวจรอยแผลกลางทรวงอกของตน
ทว่าเมื่อใบหน้านั้นแหงนเงยขึ้นอีกครา ร่องรอยแห่งความเหี้ยมโหดกลับเลื่อนสลาย คงเหลือเพียงความสุขุมสงบนิ่ง “หนานกงยวี่ คนผู้นั้นสําคัญกับเจ้าถึงเพียงนี้เชียวกระนั้นหรือ ?”
หนานกงยวี่ค่อยๆ สืบฝ่าเท้ากลับมายืนเคียงข้างเกอซี พลางเหยียดยืนฝ่ามือเกาะกุมนวดเฟ้นอุ้งมือน้อยของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน กระทั่งเกอซีสะบัดฝ่ามือเขาทิ้งอย่างไม่ใส่ใจ ชายหนุ่มจึงหันกลับไปหาเฟิ่งอวิ๋นจิ่งด้วยสายตาที่เย็นชาพร้อมน้ําเสียงบางเบา “ซีเอ๋อคือสมบัติของข้า ทั้งยังเป็นสมบัติล้ําค่าหายากที่ข้าไม่อนุญาตให้มันผู้ใดล่วงเกินหรือแตะต้อง เช่นนี้เจ้าจงตรองดูเถิดว่า…เขาสําคัญสําหรับข้าหรือไม่?”
เพียงได้ยินเกอซีก็อดมิได้ที่จะต้องยกมือขึ้นลูบเส้นขนที่ลุกชูชันตามท่อนแขน ชายผู้นี้ไปร่ําเรียนวิธีการพูดน่าขนลุกเช่นนี้มาแต่เมื่อไร?!
หากทว่านางกลับไม่รู้ตัวเลยว่ามุมปากของตนกําลังยกขึ้นประดับด้วยรอยยิ้มที่อ่อนบาง
เมื่อเฟงอวิ่นจึงปราดตาเห็นใบหน้าของเกอซี ความคับแค้นหึงหวงพลันแผดเผาลึกในแววตาของเขา หากทว่าเพียงครู่ ทุกสิ่งกลับเลือนหายอย่างไม่หลงเหลือ ทั่วดวงหน้าอันหล่อเหลาของคุณชายตระกูลเฟิงยังคงไร้ร่องรอยเศษเสี้ยวอารมณ์ “เยี่ยม เข้ารับปากจะปล่อยตัวเขาไป ทั้งจะไม่ใส่ใจความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเขาตลอดช่วงเวลานี้ เพียงทว่าเจ้าต้องให้เขาใช้เถาวัลย์ม่วงอเวจีทําลายริ้วอาคมเมฆาแห่งนี้ให้พวกเรา”
พร้อมคํากล่าวนั้น เฟิ่งอวิ๋นจิ่งก็หันมาทางเกอซีพลางเอ่ยกล่าวอย่างช้าๆ “ขอเพียงเจ้ายอมทําลายริ้วสายเมฆา นําพาพวกเราเข้าสู่สวนสมุนไพร ข้ารับปากว่าบรรดาศิษย์สํา นักหลิวหลีของข้าจะไม่ล่วงเกินเจ้าตลอดช่วงเวลาที่พวกเรา ยังคงรั้งอยู่ในเขตแดนผนึกมังกร เช่นนี้เจ้าเห็นเป็นอย่างไร
เฟิ่งเหลียนอิ่งแผดเสียงร้องอย่างเหลืออด “พี่ใหญ่ เหตุใดพวกเราจึงต้องปล่อยตัวคนผู้นั้น?”
ทว่าเพียงถูกสายตาที่คมกริบของเฟิ่งอวิ๋นจิ่งทิ่มแทงเชือดเฉือน เฟิ่งเหลียนอิ่งกลับเสียงสั่นมิกล้าปริปากอีกต่อไป
เกอซีขมวดคิ้วขณะคาดคะเนความได้เปรียบเสียเปรียบในการก้าวเข้าสู่สวนสมุนไพรพร้อมกลุ่มคนเหล่านี้
ช่วงเวลานั้นเอง กู้หลิวเพิ่ง ชิงหลง หวูอวี้ และพรรคพวกก็เร่งรุดติดตามมาได้อย่างทันท่วงที เพียงเห็นว่าเกอซีไม่ได้รับบาดเจ็บใด กู้หลิวเฟิงก็รีบตรงเข้ามาทักทายด้วยน้ําเสียงสุขใจ “เยว่เอ๋อน้อย ดีจริงที่เจ้าไม่เป็นไร!”
กล่าวคําไป ฝ่ามือชายหนุ่มก็เหยียดยืนตรงหมายจับไหล่ทักทายอีกฝ่าย
เพียงเสี้ยวนาที แววตาที่เย็นยะเยียบเสียดกระดูก ทิ่มแทงเฉียบคมก็ปราดพุ่งเข้าใส่เขาอย่างไร้ความปรานี เป็นเหตุให้ฝ่ามือของกู้หลิวเพิ่งแข็งค้างนิ่งกลางอากาศ ยามนี้เขาไม่กล้าสัมผัสร่างกายของเกอซีดังเช่นเคย
หนานกงยวีรีบดึงเกอซีเข้ามากอดพลางส่งสายตาขู่กู้หลิวเฟิง ก่อนจะก้มลงกล่าวกับเกอซี “เจ้าสมควรรับคําภายในสวนสมุนไพรแห่งนั้น หากเจ้าประสงค์สิ่งใด ข้าจะช่วยนํามาให้เจ้า”
แม้หนานกงยีจะมั่นใจในพลังฝีมือของตน ทว่าหากสํานักหลิวหลีหมายมุ่งต่อเกอซี ภายหลังเมื่อพวกเขาละออกจากอาณาจักรกําบังแห่งนี้ เกอซีย่อมตกอยู่ในอันตรายรอบด้าน
เกอซีค่อนข้างตระหนกตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทว่าฉับพลันหญิงสาวตระหนักได้ถึงผลที่ย่อมเกิดขึ้นหากนางปัดปฏิเสธ
นางหันไปหาเฟิ่งอวิ๋นจิ่งพลางกล่าวอย่างไร้เยื่อใย “ตกลง ข้าจะช่วยเจ้าสลายริ้วอาคมเมฆา เพียงต้องกระทําตามวิธีการของข้าเท่านั้น!”
เฟิ่งอวิ๋นจิ่งไถ่ถามด้วยความประหลาดใจ “วิธีการของเจ้า
***จบตอน สมบัติล้ําค่าหายาก***