หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 321 เจ้าคือกู้อี้ตาวเช่นนั้นหรือ ?
บนดวงหน้าของเพิ่งเหลียนยิ่งเอิบอิ่มไปด้วยความเย่อหยิ่งจองหองขณะฝ่ามือละเอียดเนียนค่อย ๆ บรรจงหยิบขวดโอสถใบหนึ่งออกมาก่อนจะเทเม็ดโอสถธาตุจิ้มโลหิตมอบให้ฉางกวนรุ่ย
ยังไม่ทันสิ้นช่วงเผาก้านธูปฉางกวนรุ่ยผู้คล้ายกําลังยืนอยู่เหนือปากเหวแห่งความตายก็เริ่มกลับฟื้นคืนพลังทั่วร่างที่พุพองหยาดเยิ้มด้วยน้ําเหลืองน้ําหนองพลันระเหิดระเหยแปรเปลี่ยนเป็นอายควันหนังเนื้อเยื่อที่เริ่มเน่าเปื่อยพลันหยุดความเสียหาย กระทั่งบาดแผลตุ่มหนองพลันค่อย ๆ ปิดคืนสนิท
ใบหน้าขององค์ชายหนุ่มเต็มไปด้วยความปลื้มปิติยินดี เมื่อสามารถกลับคืนมาจากปากประตูมัจจุราชได้ราวปาฏิหาริย์ เขาทรุดเข่าลงตรงหน้าเพิ่งเหลียนยิ่ง เอ่ยกล่าวด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ “ข้าข้ารับรู้ได้ถึงขุมพลังที่ค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้งความเจ็บปวดแสบร้อนในอวัยวะภายในค่อย ๆ เลือนสลายเทพธิดาบัวเยือกแข็งทักษะความสามารถทางการแพทย์ของท่านนั้นไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนอย่างแท้จริง ! ข้าฉางกวนรุ่ยจะมิมีวันลืมบุญคุณในครานี้”
ขณะถ้อยวาจาเหล่านั้นถูกขับออกจากปาก เสียงให้กําลังใจที่ดังสนั่นพลันระเบิดออกจากกลุ่มฝูงชน
เสียงร่ําร้องตะโกนจากปากสู่ปาก “เทพธิดาบัวเผือกแข็ง” สายตาที่จับจ้องมายังสตรีผู้สูงสง่าเยี่ยมแรงศรัทธาราวกําลังชื่นชมโพธิสัตว์ผู้ปลดชีวิตให้บรรดาสรรพสัตว์
ครั้นเมื่อเกอซีได้เห็นภาพฉากเบื้องหน้าก็อดหันมาแอบหัวเราะเบา ๆ กับหนานกงยวีมิได้ “ดูสิน้องหญิงน้อยเหลียนยิ่งของท่านเป็นที่นับถือของผู้คนมากมายเพียงไร กระนั้นนางก็ยังคงหลงใหลในตัวท่านทั้งตลอดเวลานางก็ยังไม่เคยหลงลื มคอยหันมาเล่นหูเล่นตากับท่านอยู่ตลอดเวลาเพียงนี้แล้วท่านกลับยังไม่ยอมโอนอ่อนให้นางบ้างเชียวหรือ ?”
“เจ้านี่มันร้ายจริง ๆ ! ” หนานกงยวี่ยื่นมือมาหยิกจมูกน้อย ๆ ที่งอนงามของอีกฝ่าย พลางกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ผู้ใดคือน้องหญิงน้อยเหลียนยิ่งของข้ากัน ? ใต้หล้านี้ จะมีเพียงน่าหลานเกอซีเท่านั้นที่เป็นผู้หญิงของข้า เข้าใจหรือไม่ ? เบื้องหน้าต่อไป หากเจ้ากล่าวผิดความเช่นนี้อีกจะให้เป็นหวาง*ลงโทษเจ้าเช่นไรจึงจะสาสม ! ”
*เป็นหวาง แปลว่า ข้า เป็นคําเรียกแทนตนเองของท่านอ๋อง
ใบหน้าของเกอซีแดง… นางรีบปัดมือไม้ที่เปะปะของอีกฝ่ายออก ทั้งยังเตรียมจะสวนกลับอย่างทันควันหากทว่ากลับได้ยินเสียงเปล่งอุทานจากกลุ่มอารักขาในตําหนักราชันมัจจุราชแทรกขึ้นก่อน
“นายท่าน ! คุณชายซี ! ดูนั่น ! มีคนกําลังตรงมาทางนี้ขอรับ ! ”
เงาร่างสองสายกําลังเดินโซซัดโซเซออกจากหุบเขาทิศทางคล้ายกําลังมุ่งหน้าตรงมาหาพวกเขา
บนใบหน้าของบุรุษทั้งสองปกคลุมไปด้วยทุ่มพุพองโลหิตที่น่าสยดสยองเกินกว่าจะทนแลดูร่างหนึ่งกลับล้มทรุดลงกับพื้น มันนอนร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดทั้งที่ยังไม่ ทันก้าวออกจากสวนสมุนไพรแห่งนั้นมาได้ ทั้งมันไม่อาจลุกหยัดยืนกลับคืนได้อีกครา
ส่วนบุรุษอีกนายยังคงพยายามตั้งหน้าตั้งตาวิ่งปัดซ้ายปัดขวาหนีออกจากสวนสมุนไพรปากของมันยังร่ําร้องตะโกนไม่หยุดยั้ง “ช่วยด้วย !”
หากทว่าเพียงสายตาของมันผู้นั้นผ่านไปพบกับร่างอันไร้สติของกู้หลิวเฟิง มันกลับคล้ายหลงลืมความเจ็บปวดทุกสิ่งความหวาดกลัวทุกอย่าง เมื่อยามนี้ เสียงร่ําร้อ งตะโกนของมันกลับท่วมท้นไปด้วยความห่วงใยอย่างเหลือแสน “หลิวเฟิงนี่ นี่มันเกิดอันใดขึ้นกับเจ้า ? !”
ทันทีที่เห็นบุรุษผู้นั้นกําลังจะพุ่งร่างเข้าหากู้หลิวเพิ่งเหล่าอารักขาแห่งตําหนักราชันมัจจุราช พลันรีบชักกระบี่ ยาวขึ้นกั้นขวางขู่กรรโชก
บุรุษผู้นั้นตกตะลึงตื่นใจ เมื่อเห็นคนกลุ่มใหญ่กําลังจับจ้องตนด้วยสายตาที่เย็นชา มันอดมิได้ที่จะเอ่ยถามออกไปด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ “ พวกเจ้า…พวกเจ้า เป็นผู้ใดกัน ? พวกเจ้าทําอะไรหลิวเฟิง ?!”
หวูอี้ยกพัดขึ้นโบก สายตายังคงจับจ้องเขาด้วยท่าทางห ยิ่งผยอง ยามเมื่อโต้ตอบกลับ “แล้วเจ้าเป็นใคร ? มีสัมพั นธ์อันใดกับกู้หลิวเฟิง ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากเจ้าสัมผัสร่างของเขาเจ้าจะทําให้เขาติดพิษของเจ้าไปด้วย ?”
“ข้าข้า” ในแววตาของบุรุษผู้นั้นพลันเอิบ อาบไปด้วยความหวาดกลัว และสิ้นหวัง ต่อมโลหิตบนใบหน้าที่เริ่มปะทุแตกทีละเม็ดทีละส่วนยิ่งส่งให้ใบหน้านั้นแล ดูสยดสยองเกินกว่าจะทนดู
เกอซีขมวดคิ้วฉับพลัน “หรือเจ้าคือกู้อี้ตาว ?”
“เจ้า…เจ้ารู้ชื่อข้าได้อย่างไร ?!”
หญิงสาวหาได้ตอบคํา กลับกันนางย่อกายลงหยิบขวดโอ สถโบกผ่านปลายจมูกของกู้หลิวเฟิง
หว่างคิ้วของกู้หลิวเพิ่งกดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็ว หากทว่ายังไม่ทันได้สติดีนักยังไม่ทันจะปรับพลังปราณในร่างให้เข้าที่ ยังไม่ทันที่ความแข็งแกร่งในกายจะฟื้นคืนเขากลับเร่งตะโกนก้อง “ปล่อยข้าปล่อยขาเดี๋ยวนี้ ข้าจะรีบไปช่วยเขา ! ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะตาย ! ! ! ”
หรูอี้ยกมือขึ้นตบไหล่กู้หลิวเพิ่งเพื่อปลอบใจพลางกล่าว “สงบใจก่อนเจ้ารู้จักคนผู้นี้หรือไม่ ?”
***จบตอน เจ้าคือกู้อี้ตาวเช่นนั้นหรือ ?***