หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 317 ท่านหมออัจฉริยะผู้เป็นที่เลื่องลือไปทั่วหล้า
ทันทีที่วาจาเหล่านั้นถูกเอ่ยกล่าว นัยน์ตาของพวกมันเหล่านั้น ผู้ซึ่งกําลังคุกเข่าร่ําร้องขอความเมตตาจากเฟิ่งเหลียนอิ่งยิ่งเผยความหวังภายในใจ
แม้สีหน้าของเฟิ่งเหลียนอิ่งยังคงซีดเผือด แม้ภายในใจจะเต็มไปด้วยความรังเกียจ เพียงได้เห็นสภาพพวกมันเหล่านั้น
หากทว่าถ้อยคําของหวอ ที่ยกยอสรรเสริญนาง ทําให้นางต้องหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี
ถูกแล้ว นางคือยอดหมออัจฉริยะผู้ในสองสามศตวรรษจะปรากฏให้พบเห็นแค่เพียงคน ไม่ว่าจะด้วยกลการเล่นแร่แปรธาตุ หรือจะเป็นทักษะการเยียวยารักษา นางล้วนมีฝีมือสูงส่งยิ่งไปกว่าเศษสวะผู้ใช้ทักษะที่อาศัยเพียงตํารายา ผีบอกแล้วเกิดโชคดีรักษาผู้ป่วยได้สักคราสองคราเท่านั้น
แม้นคนพวกนี้จะอยู่ในสภาพน่ารังเกียจ น่าสยดสยองสักเพียงไร หากทว่าแท้จริงแล้ว พวกมันทั้งหมดล้วนมิใช่ชาวบ้านธรรมดาสามัญ หากนางสามารถเยียวยารักษาพวกมันท่ามกลางประจักษ์พยานทุกสายตา กิตติศัพท์ของนางจะยิ่งเลื่องลือระบือไปทั่วแถบทวีปหมีหลัว ทั้งสถานภาพในตระกูลของนางย่อมได้รับการยอมรับยิ่งขึ้นกว่าเก่าก่อน
และที่สุด ท่านพี่ยวี่ย่อมตระหนักซึ้งว่าผู้ใดคือสตรีที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมเหมาะสมจะยืนเคียงคู่อย่างแท้จริง !
เฟิ่งเหลียนอิ่งอดมิได้ที่จะเหลือบชําเลืองมองหนานกงยวี่ หากทว่าเขากลับมิได้เหลียวแลนาง กลับกัน ชายหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่กลับโน้มกายลงพูดคุยหยอกล้อกับเกอซีราวกับไม่มีผู้ใดอื่นในที่นั้น
เฟิ่งเหลียนอิ่งฉุนเฉียวจนใบหน้าบิดเบี้ยว ฝ่ามือทั้งสองกําหมัดแน่นข้างกาย
ฮึ่ม ! นางจะทําให้พี่ยวประจักษ์ชัดว่า ผู้ใดคือสตรีที่วิเศษที่สุดสําหรับเขา นางเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเพียงพอจะครอบครองตําแหน่งพระชายาแห่งตําหนักราชันมัจจุราช !
ด้วยความคิดเหล่านั้นนั่นเอง ที่ส่งให้เพิ่งเหลียนยิ่งสืบฝ่าเท้าก้าวขึ้นมาด้านหน้าด้วยหมายจะโอ้อวดทักษะการรักษาของตน
หากทว่ากลับถูกแทรกขัดด้วยน้ําเสียงอันเย็นชาของเฟิ่งอวิ๋นจิ่ง “เจ้ามั่นใจหรือว่าจะรักษาพวกมันได้ ? หากมิได้ ก็อย่าได้ทําอวดฝีมือให้เสียหน้าพวกเราคนตระกูลเฟิ่ง”
ความหยิ่งผยองที่ปรากฏบนใบหน้าของหญิงสาวพลันแปรเปลี่ยนเป็นโกรธขึ้นในทันที แม้น้ําเสียงของนางจะแผ่วเบา หากทว่ากลับเฉียบคมบาดใจ “พี่ใหญ่ ท่านเองก็เชื่อมั่นในตัวเจ้าหนุ่มเหลือขอผู้นั้น หากทว่ากลับไม่เชื่อใจข้ากระนั้นหรือ ? ขอท่านอย่าได้หลงลืมไปว่าข้าคือแพทย์ระดับห้า อีกทั้งยังได้รับการกล่าวขวัญว่า ข้าคือแพทย์อัจฉริยะในใต้หล้า”
“พี่ใหญ่ ยิ่งมิต้องกล่าวถึงอีกเรื่อง คล้ายท่านจะหลงลืมไปกระมังว่าท่านอาจารย์ของข้านั้นคือ- ท่านอาจารย์แห่งขุนเขาพันพิษ เช่นนั้นยังจะมีพิษชนิดใดที่ข้าไม่เคยเห็น มาก่อนเล่า ?”
เฟิ่งอวิ๋นจิ่งทิ้งหางตามองอย่างเฉยเมย “เจ้ามั่นใจว่าจะช่วยพวกมันได้ใช่หรือไม่ ?”
ประกายฉายวูบผ่านนัยน์ตางามของเฟิ่งเหลียนอิ่ง ขณะนางกัดฟันตอบคํา “พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วง ข้ารู้จักโรคร้ายชนิดนี้ ทั้งยังเคยอ่านเจอในตําราบันทึกสารพัดพิษของท่านอาจารย์ ข้าจดจําวิธีการรักษาได้อย่างแม่นยํา”
นางกล่าวด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม กระทั่งสามารถโน้มน้าวให้เฟิ่งอวิ๋นจิ่งค่อนข้างเชื่อมั่นได้อีกคน และเมื่อเป็นเช่นนี้ นายน้อยตระกูลเพิ่งจึงถอยกลับไปยืนด้านหลังโดยไม่เอ่ยกล่าวสิ่งใดอีก
หากเฟิ่งเหลียนอิ่งมีหนทางในการเยียวยารักษายอดฝีมือทั้งหมดนี้ ย่อมหมายความว่าพวกมันทั้งหมดตลอดทั้งเจ้าสํานัก และอาจารย์ของพวกมันล้วนติดหนี้บุญคุณตระกู ลเพิ่ง และเมื่อเป็นเช่นนั้นย่อมเป็นธรรมดาที่เฟิ่งอวิ๋นจิ่ง จะพึงพอใจกับผลพวงที่จะได้รับ
กล่าวจบ เฟิ่งเหลียนอิ่งก็รีบก้าวฉับ ๆ ออกไปเบื้องหน้า เป้าหมายแรกที่นางมุ่งหานั้นคือฉางกวนรุ่ย องค์ชายสามแห่งอาณาจักรจินหลิง
เพียงได้เห็นใบหน้าที่ถูกปกคลุมไปด้วยแผลพุพองชําเลือดซ้ําหนอง แววตาคู่งามเต็มไปด้วยความสะอิดสะเอียด หากทว่าบนดวงหน้านั้นกลับกัน มันยังคงความอ่อนโยน เปี่ยมเมตตามากล้นไปด้วยความเอื้ออาทร “องค์ชายสาม โปรดวางพระทัย หม่อมฉันต้องรักษาพระองค์ได้อย่างแน่นอนเพคะ”
เพียงนางเอ่ยกล่าวถ้อยคํานั้น เหล่ายอดฝีมือมากมายที่อยู่รายล้อมล้วนระเบิดเสียงให้กําลังใจด้วยความตื่นเต้น
ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับเชื้อ หรือกระทั่งเหล่าคนที่เฝ้าสังเกตการณ์ล้วนก้มลงโขกศีรษะในความเมตตา พวกมันต่างยกย่องให้เพิ่งเหลียนยิ่งเป็นโพธิสัตว์เดินดิน
รอยแย้มยิ้มแห่งความหยิ่งผยองพึงพอใจฉายประดับบนดวงหน้าหญิงสาว ขณะดวงตาคู่งามแลกวาดไปยังทุกคนโดยรอบ “เหลียนอิ่งเป็นผู้ฝึกยุทธคนหนึ่งเช่นกัน ย่อมเป็นธรรมดาที่ไม่อาจจะทนดูผู้ใดบาดเจ็บล้มตายโดยไม่พยายามให้การช่วยเหลือ ทั้งนี้ยังเป็นเจตนารมย์อันแน่วแน่ของตระกูลเฟิ่งของข้าอีกด้วย พวกท่านกล่าวหนักไปแล้ว”
จากนั้นนางก็ชี้นิ้วไปยังยอดฝีมือผู้ยังคงนอนหลับใหลไม่ได้สติอยู่ในสวนสมุนไพร “รบกวนพวกท่านช่วยนําผู้ที่ยังไม่รู้สึกตัว ตลอดถึงผู้ที่ไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายร่างกายที่ยังคงอยู่ในสวนสมุนไพรมารวมกันในบริเวณเดียวกันนี้ด้วยเถิด”
***จบตอน ท่านหมออัจฉริยะผู้เป็น ที่เลื่องลือไปทั่วหล้า***