ส่วนแม่นมเฉินหลังจากได้รับการฟื้นฟูสุขภาพมาช่วงระยะหนึ่งแล้ว ความตีบตันที่ปรากฏในจุดตันเถียนพลันค่อย ๆ คลายลงทีละน้อย ใบหน้าของนางเริ่มกลับกลายแลดูอ่อนเยาว์ขึ้นเล็กน้อย อีกทั้งยิ่งในยามนี้ นางได้แช่โอสถรับการฝังเข็มเสริมให้พลังปราณสามารถไหลถ่ายเทเข้าสู่เส้นชีพจรปราณยิ่งขึ้น ยามนี้พลังฝีมือของแม่นมเฉินจึงค่อย ๆ เคลื่อนเข้าสู่ขอบเขตพลังปราณขั้นเมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม เพียงเสียดายที่การจะทำให้นางสามารถคืนสู่ขั้นพลังปราณเดิมนั้นจำต้องอาศัยเวลา สืบเนื่องมาจากเส้นชีพจรปราณของแม่นมเฉินนั้นพิกลพิการมานานจนเกินไป !
เมื่อตระเตรียมโอสถที่จำเป็นต่อการรักษาแม่นมเฉิน และพวกซีเจี่ยเรียบร้อยแล้ว เกอซีจึงกลับเข้าไปในห้อง และคืนสู่มิติเวทอีกครา
เมื่อซีเจี่ย และหนานกงยวี่ช่วยกันรวบรวมสมุนไพรแห้งมาได้มากมายถึงเพียงนี้ ย่อมนับได้ว่าล้วนมากจนเกินไป ยามนี้นางมีสมุนไพรมากมายที่ต้องใช้เวลาในการจัดสรร เกอซีจึงเก็บสมุนไพรชุดใหญ่กลับเข้าไปในมิติเวทไว้ก่อนหน้านี้เพื่อตระเตรียมจัดสรรแยกประเภท
ทว่าแค่เพียงย่างกรายเข้าสู่มิติเวท สิ่งที่ปรากฏตรงหน้ากลับทำให้หญิงสาวต้องประหลาดใจ
ร่างอวบอ้วนกลมกลิ้งของต้านต้านกำลังก้มงุด ๆ อยู่กับผืนธรณีลำนำศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล หญิงสาวจ้องมองดูเขาพยายามยืดแขนขาสั้นตันของตนขุดหลุมน้อย ๆปลูกสมุนไพรเหี่ยว ๆ อย่างขะมักเขม้น
ครั้นเมื่อนางกำลังจะเอ่ยเย้าต้านต้านว่าช่างไม่รู้เรื่องใดเอาเสียเลย พืชที่ตายแล้วจะฟื้นคืนได้อย่างไร ? สมุนไพรตายแล้ว จำต้องอาศัยเมล็ดเพื่อเพาะปลูกและเติบโตขึ้นใหม่อีกครา……ทว่ายังไม่ทันที่อาการยิ้มเยาะจะฉายผ่านดวงตา เกอซีกลับต้องตื่นตะลึงเมื่อได้เห็นสมุนไพรเหี่ยวเฉาที่ต้านต้านปลูกลงบนผืนดินพลันคืนสภาพเป็นเขียวขจีอย่างรวดเร็วด้วยตาตนเอง กิ่งก้านผืนใบค่อย ๆ ผลิแตกแผ่ออกแกว่งไกวบางเบาด้วยอาการที่บ่งบอกถึงความเปี่ยมล้นด้วยพลังชีวิต
เกอซีขยี้ตาตนเอง แทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น ทั้งยังคิดว่านางคงฝันไปกระมัง ทว่าเมื่อหันสำรวจไปโดยรอบจึงเห็นพฤกษาเวทด้านหลังต้านต้านล้วนฟื้นคืนชีวิตทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้น ทุกต้นทุกกิ่งใบล้วนเขียวชอุ่มผลิใบแตกกิ่งก้านแน่นหนาอย่างมีชีวิตชีวา
เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ? หรือผืนธรณีลำนำศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลสามารถฟื้นคืนชีพให้พฤกษาเวทได้ ? นี่….ช่างเหนือธรรมชาติยิ่งนัก !
เมื่อต้านต้านเงยหน้าขึ้นพบเจอเกอซี ความตื่นเต้นตกใจฉายผ่านดวงหน้า สองขาสั้นตันนั้นควบตรงเข้าไปกอดแข้งขาเกอซีราวหนูน้อยขี้อ้อน “ท่านแม่ ท่านแม่ ต้านต้านเบื่อจังเลย ท่านแม่ไม่มาหาต้านต้านเลย อ๊ะ ! ท่านแม่มีของอร่อยมาให้ต้านต้านด้วยหรือเปล่า ?”
เกอซีคว้าขากวางย่างออกมาจากธำมรงค์มิติที่สวมใส่อยู่บนนิ้วให้แก่ต้านต้าน นางลงนั่งดูต้านต้านอ้าปากกัดกินหมดเกลี้ยงด้วยคำเพียงคำเดียว ก่อนจะอุ้มอีกฝ่ายขึ้นพลางชี้นิ้วตรงไปยังผืนธรณีศักดิ์สิทธิ์ที่เขียวขจีและเอ่ยปากไต่ถาม “เจ้าปลูกเองหรือ ?”
“ต้านต้านปลูกเอง ท่านแม่ชอบไหม ? ต้านต้านเอามันออกมาปลูกเป็นระเบียบเลย” ต้านต้านกัดปลายมือน้อย ๆ ตัน ๆ ของตนพลางหัวเราะคิกคักอย่างน่ารักไร้เดียงสา “ ท่านแม่ ท่านแม่ ต้านต้านเป็นเด็กดีไหม ? ต้านต้านช่วยงานท่านแม่ใช่ไหม ?”
“ต้านต้านน่ารักที่สุดเลย !” แม้ภายนอก เกอซีจะดูสงบนิ่ง ทว่าภายในกำลังลิงโลดด้วยความยินดี นางก้มลงหอมแก้มนุ่มนิ่มน้อย ๆ ของต้านต้านไปหลายคราพลางเอ่ยกล่าว “ต้านต้านช่วยเอามาปลูกให้หมดเลยได้ไหม เสร็จเมื่อไร แม่มีรางวัลให้ จะเตรียมของอร่อย ๆ รอรับต้านต้านให้เต็มโต๊ะเลย”
ต้านต้านเพิ่งจะสวาปามขากวางย่างไปได้แค่เพียงข้างเดียวยังไม่หนำใจด้วยซ้ำ เช่นนั้นแค่เพียงได้ยิน ต้านต้านก็รีบขยับขาสั้น ๆตัน ๆ ของตนวิ่งกลับไปปลูกสมุนไพรเพิ่มด้วยความกุลีกุจอเคล้าเสียงหัวเราะร่าที่แสนสุขใจ
เกอซียังนึกสงสัยจึงคว้าพืชสมุนไพรเวทที่เหี่ยวเฉาขึ้นมาลงมือขุด และปลูกมันด้วยตนเอง
ทว่าที่คาดคิดว่าพฤกษาเวทจะคืนชีพกลับไม่เป็นเช่นนั้น สมุนไพรที่แห้งเหี่ยวก็ยังคงแห้งเหี่ยวต่อไป ไร้สัญญาณบ่งบอกว่ามันจะสามารถคืนกลับมาเขียวขจีได้ดังเดิม
นางหันไปหาต้านต้านด้วยสีหน้าปนตะลึง “ต้านต้านเหตุใดเป็นเช่นนี้ ?”
เหตุใดเมื่อต้านต้านปลูกพฤกษาเหล่านี้พวกมันกลับคืนชีวิต ทว่าเมื่อถึงคราวของนางบ้างกลับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเล่า ? หรือทั้งหมดทั้งมวลนั้นหาใช่ด้วยเพราะผืนธรณีลำนำศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล ทว่าด้วยเพราะต้านต้าน ?
ต้านต้านยกมือกลม ๆ ขึ้นเกาหนวดน้อย ๆ บนหัวด้วยท่าทีงุนงง จากนั้นก็ขยับอุ้งมือตัน ๆ จับสมุนไพรแห้งเหี่ยวที่เกอซีปลูกไว้ เพียงครู่ ลำต้นน้อย ๆ ที่เหี่ยวเฉาไร้ชีวิตพลันฟื้นคืนให้ทั้งสองได้ประจักษ์แก่สายตาในทันที
***จบตอน คืนสภาพ***