ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนี้โอวหยางฮ่าวเซวียนผู้องอาจคือบุรุษรูปงาม โดดเด่น และเก่งอาจ แม้เขาจะถูกจับให้หมั้นหมายสมรสกับน่าหลานเฟยเสวี่ยผู้มีพลังยุทธเพียงระดับสองปฐมภูมิโลกันตร์เท่านั้น แต่ถึงกระนั้นตระกูลโอวหยางยังคงยินยอมรับการสมรสที่จะมีขึ้นนี้ ตระกูลน่าหลานย่อมยินดีปรีดาด้วยนับเป็นพิธีสมรสที่เหมาะสมควรคู่ยิ่งนัก
หากแต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าทันทีที่โอวหยางฮ่าวเซวียนแปรเปลี่ยนไป ตระกูลน่าหลานกลับเปลี่ยนท่าทีกลายเป็นดั่งศัตรู พวกเขาปฏิเสธการหมั้นหมายอีกทั้งยังนำเรื่องที่น่าสมเพชของโอวหยางฮ่าวเซวียนออกเผยแพร่สู่สาธารณชนอีกด้วย
โอวหยางฮ่าวเซวียนผู้เคยเป็นดาวจรัสแสงเจิดจ้า ยามนี้กลับร่วงหล่นจมสู่โคลนตม บรรดาผู้ที่เคยอิจฉาริษยาเขากลับได้ทีเหยียบย่ำซ้ำเติมร่าเริงยินดีในคราวเคราะห์หามยามร้ายเช่นนี้
บรรดาเครือญาติสายต่าง ๆ ของสกุลโอวหยางต่างหมายปองตำแหน่งท่านผู้นำตระกูลโอวหยาง แม้กระทั่งคนของน่าหลานเฟยเสวี่ยที่เคยนับถือเลื่อมใสเขา กลับพากันมาเยาะเย้ยถึงหน้าประตูจวน ยามนี้เขากลับกลายเป็นคางคกที่ไม่อาจป่ายปีนขึ้นจากหลุมบ่อโคลนตมนี้ได้ ผู้คนยิ่งพากันโห่ร้องด่าทอว่าเขาคือคางคงหมายหงส์ฟ้าผู้สูงส่งดังเช่นน่าหลานเฟยเสวี่ย
ภายหลังตระกูลโอวหยางจึงพบว่า น่าหลานเฟยเสวี่ย และฮูหยินน่าหลานคือผู้ปล่อยข่าวลือนี้ออกไป ทำให้ตระกูลโอวหยางไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกเสียจากขอยกเลิกการหมั้นหมายที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้โอวหยางฮ่าวเซวียนตกเป็นเป้าสายตาของทุกผู้คน เมื่อเขาคือฝ่ายปฏิเสธการสมรสโดยไม่มีผู้ใดใส่ใจในความเนรคุณที่ตะกูลน่าหลานละทิ้งคำมั่นของมิตรสหาย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ย่อมเพียงพอที่จะทำให้ตระกูลโอวหยางเกลียดชังตระกูลน่าหลานเข้ากระดูกดำ โดยเฉพาะหญิงโฉดชั่วไร้ยางอายเยี่ยงน่าหลานเฟยเสวี่ย พวกเขาใคร่ปรารถนาจะฉีกนางออกเป็นชิ้น ๆ
โอวหยางจื้อโซวงกำลังโกรธเกรี้ยวอย่างหนัก หากแต่เมื่อได้เห็นสีหน้าที่มีเพียงความท้อแท้หดหู่ของบุตรชายตนแล้ว เขาอดมิได้ที่จะพลอยโศกเศร้าไปด้วย น้ำเสียงของเขาอ่อนลง “ฮ่าวเซวียน เจ้าเป็นความหวังเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลโอวหยางของเรา เหตุใดเจ้าจึงยอมเลิกราง่าย ๆ เช่นนี้ ? บิดารับรองได้ว่าท่านหมออัจฉริยะผู้นี้แตกต่างจากผู้อื่น บิดาเห็นมากับตาตอนที่ท่านหมอให้การรักษาอาการเส้นชีพจรลมปราณขาดสะบั้น ยามนี้คนผู้นั้นกลับแข็งแรงเป็นปกติ และสามารถเดินเหินได้แล้ว ท่านหมอผู้นี้จะต้องสามารถให้การรักษาเจ้าได้อย่างแน่นอน”
ได้ยินเช่นนั้นฮูหยินโอวหยางตื่นตกใจด้วยความปลื้มปิติ น้ำเสียงของนางตื่นเต้นยินดี “ท่านพี่ เป็นเช่นนั้นจริงหรือ ?”
“แน่นอน ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง” โอวหยางจื้อโซวงกล่าวต่อ “เมื่อวานข้าอยู่กับองค์ชายราชันมัจจุราช เราทั้งคู่ต่างได้เห็นท่านหมออัจฉริยะผู้นี้ให้การรักษา องค์ชายราชันมัจจุราชกับท่านหมอสนิทสนมคุ้นเคยกันดี ไม่ผิดอย่างแน่นอน !”
ฮูหยินโอวหยางหลั่งน้ำตาแห่งความปิติออกมา นางรีบปาดหยาดน้ำบนสองแก้มก่อนจะเร่งเร้า “ฮ่าวเซวียน ฮ่าวเซวียน ! เจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่ เจ้าจะหายเป็นปกติแล้ว เจ้าจะหายดีแล้ว ! เร็ว…เร็วเข้า ใครก็ได้ มาช่วยคุณชายเตรียมตัวให้เรียบร้อย แล้วไปเรียนเชิญท่านหมออัจฉริยะเข้ามาด้านใน”
นัยน์ตาของโอวหยางฮ่าวเซวียนพลันเปล่งประกายแวววาว หากแต่กลับกลายเป็นหม่นหมองมัวลงไปอีกครา
มิใช่เขาไม่อยากรับการรักษา หากแต่ความสุขยินดีกลับต้องแปรเปลี่ยนเป็นความสิ้นหวังครั้งแล้วครั้งเล่ามานานนับปีจนทำให้ความหวังอันน้อยนิดที่เขาแบกไว้ดับมอดลง และกลับกลายเหลือเพียงความสิ้นหวังอย่างล้ำลึกอยู่ภายในห้วงใจ
ครู่ต่อมาเกอซีก้าวเข้าสู่ด้านในห้องที่อึมครึมของโอวหยางฮ่าวเซวียน ทันทีที่ฝ่าเท้าย่างกรายเข้ามาในห้อง หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความทุกข์ระทม มรณะอันเงียบงัน ความมืดมนอนธการ และกลิ่นโอสถเข้มข้นรุนแรง
สายตาของฮูหยินโอวหยางว่างเปล่าลงทันทีที่ได้เห็นเกอซี ประกายตาแห่งความหวังพลันดับหาย ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความสับสน และผิดหวังอย่างล้ำลึก
เกินความคาดคิดของนางเหลือเกินว่าท่านหมออัจฉริยะที่กล่าวถึงนั้นจะกลับกลายเป็นหนุ่มน้อยหน้ามนปากแดง ไรฟันขาวสะอาด หนุ่มน้อยผู้บอบบางไร้สิ้นพลังยุทธ ร่างที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าไร้สิ้นเค้าลางแห่งความเป็นท่านหมอผู้มีทักษะฝีมือแพทย์ระดับสูง ท่านหมอผู้มีท่วงทีหน้าตาราวนักปราชญ์ผู้ปรีชาเช่นที่พวกเขาเคยได้พบเห็นมาก่อนเลย
หากทว่าฮูหยินโอวหยางย่อมไม่ยินยอมที่จะเลิกรา นางอดมิได้ที่จะเอ่ยปากออกถามไถ่ “คุณชายท่านนี้ มิทราบว่าท่านหมออัจฉริยะ คือท่านอาจารย์ของคุณชายหรือ ? ไม่ทราบพอจะเป็นไปได้หรือไม่ที่เราจะขออนุญาตเรียนเชิญท่านอาจารย์ของคุณชายมาให้การรักษาฮ่าวเซวียนของพวกเรา ?”
สีหน้าของโอวหยางจื้อโซวงแปรเปลี่ยนไปทันใด เขาเหลือบสายตาชำเลืองมองรอยยิ้มที่ไม่เชิงยิ้มบนใบหน้าขององค์ราชันมัจจุราชคราหนึ่งก่อนจะรีบตรงเข้าไปขวางฮูหยินโอวหยางไว้ “ฮูหยิน อย่าไร้มารยาท นี่คือท่านหมอน้อยอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์สูงส่งล้ำเลิศ”
ฮูหยินโอวหยางตื่นตระหนกตกใจ ยามนี้ภายในใจของนางห่อเหี่ยวหม่นมัวไปด้วยความสิ้นหวัง และผิดวัง หยาดน้ำตากลั่นรวมเอ่อล้นท่วมท้นขึ้นมาทันที
เกอซีคุ้นชินกับเรื่องราวเช่นนี้มานานแล้ว สถานการณ์ที่นางถูกตัดสินด้วยภาพลักษณ์ภายนอก แม้ก่อนหน้านี้ทักษะทางการแพทย์ และโอสถที่สูงส่งของนางจะมีไว้เพื่อพิฆาตสังหาร หาใช่การมอบชีวิต หากแต่ย่อมไม่มีแพทย์ผู้ให้การรักษาคนใดที่จะไม่ขุ่นเคือง เมื่อไม่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ ถึงกระนั้นแทนที่นางจะไม่ยินยอมให้การรักษา กลับกันสายตาที่เย็นชาของนางกวาดผ่านคู่สามีภรรยาโอวหยางไป ก่อนจะสืบฝ่าเท้าก้าวตรงไปยังเตียงผู้ป่วย
***จบตอน ท่านหมออัจฉริยะเป็นอาจารย์ของท่านหรือ ?***