ชายหนุ่มเยื้องฝ่าเท้าก้าวตรงเข้าเกาะกุมข้อมือของเกอซีไว้ทั้งรอยแย้มยิ้มด้วยท่วงท่าประดุจคู่รักที่ทะนุถนอมนางยิ่งนัก
“นี่คือมือข้างที่ใช้ทำร้ายข้ากระนั้นหรือ ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้ที่กล้าทำร้ายข้าจะต้องลงเอยเช่นไร ?”
เกอซีผ่อนลมหายใจให้นิ่งสงบสุขุม ความเจ็บปวดจากอาการบาดเจ็บอวัยวะภายในทำให้ใบหน้าของหญิงสาวซีดขาวราวกระดาษ
บุรุษหนุ่มฉวยข้อมือบอบบางอ่อนระโหยด้วยสายตาชำเลืองแลที่เร่าร้อน ผิวพรรณที่เนียนละเอียดบางใสของนางสัมผัสต้องกับกล้ามเนื้อหน้าท้องที่น่าหลงใหลของเขาอย่างมิได้จงใจ หญิงสาวสั่นสะท้านด้านชา นางรีบชักแขนกลับทันที
เกอซีบิดข้อมือไปมา หาทางปลดพันธนาการจากอุ้งมือของคนผู้นั้น หากแต่กลับถูกชายหนุ่มดึงร่างกระตุกกลับเข้าซุกซบลงไปบนแผ่นอกกว้างนั้นพอดี
“เมื่อไม่นานมานี้ มีสตรีผู้กระทำตนเยี่ยงผู้ที่ถือมั่นว่าตนเป็นฝ่ายถูกต้องเสมอเพื่อหมายจะให้ข้ามอบความสนใจให้แก่นาง นางกล้าชี้กระบี่ใส่หน้าข้ากลางประชุมชน” น้ำเสียงที่ทุ้มต่ำเปี่ยมมนต์เสน่ห์มายาของมารปีศาจที่ชั่วร้ายอันตรายของเขาถูกปลดปล่อยออกมาเบา ๆ ให้ดังสะท้อนอยู่ในใบหู “สาวน้อย ลองบอกข้าสิว่าข้าควรตัดแขนหรือตัดเส้นชีพจรในกายของเจ้าดี ?”
“หากเจ้าหมายจะตัดแขนของข้าเช่นนั้นก็ลงมือเสีย ไยต้องเอ่ยให้มากความ ? เจ้าคิดว่าข้าจะยอมก้มศีรษะขอร้องเจ้ากระนั้นหรือ ?”
เกอซีแหงนเงยหน้ามองชายหนุ่มอย่างเยาะหยัน สีหน้าของนางหม่นมัวหากทว่าดวงตาคู่นั้นกลับเปล่งประกายสดใสราวหมู่ดารา ในแววตาที่ดื้อรั้นเย็นชาหยิ่งผยองจองหองจ้องกลับอย่างไร้สิ้นความหวั่นเกรง
ภายในใจของชายหนุ่มกลับว้าวุ่นประดุจประกายตาคู่นั้นได้ทิ้งร่องรอยประทับตรึงไว้ในเบื้องลึกแห่งจิตใจ บุรุษผู้สุขุมลุ่มลึกเย็นชาราวกับห้วงน้ำลึกในทะเลสาบกลับรู้สึกถึงความสั่นกระเพื่อมไม่หยุดนิ่งอย่างสุดที่จะพรรรณนา
เขาทำได้แค่เพียงปล่อยเสียงหัวเราะออกมา ลดคลื่นพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ก่อนที่น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยร่องรอยแห่งความยอมจำนนจะถูกเปล่งออกมา “เจ้ายังเยาว์วัยนัก ไฉนจึงดื้อรั้นปานนี้ ?”
คิ้วเกอซีขมวดมุ่น ขณะที่นางกำลังจะอ้าปากเอ่ยโต้กลับ สายพลังงานอันบริสุทธิ์กระแสหนึ่งพลันแทรกซึมไหลหลั่งเข้ามาตามเส้นโลหิตในกายผ่านข้อมือที่ถูกกักกันอยู่นั้นก่อนจะกระจายซ่านลงตลอดทั่วทุกอณูกาย
คลื่นกระแสพลังงานที่ผ่อนคลายหลั่งไหลเข้ามาแทนที่แรงพลังกดดันอันหนักหน่วงก่อนหน้านี้ กระแสพลังปราณนั้นโคจรไปทั่วร่างพุ่งรวมลงเข้าสู่จุดตัดเถียนของนางอย่างเร็วรี่ ความเจ็บปวดอวัยวะภายในทั้งหลายที่ประสบมาก่อนหน้านี้พลันมลายสิ้นไม่หลงเหลือทิ้งไว้แม้เพียงเศษเสี้ยวแห่งความรู้สึก หากแต่กลับถูกแทนที่ด้วยความผ่อนคลายและเบาสบาย
“ท่านทำอะไร ?” หญิงสาวรู้สึกแปลกประหลาดใจ คนผู้นี้กำลังลงมือรักษานางอยู่ ?
ทว่าบุรุษผู้นั้นกลับมีสีหน้าฉงน แรงบีบรัดที่ข้อมือของเกอซีกระชับขึ้น สีหน้าของเขาแสดงอาการลังเล ผ่านไปนานพอควรก่อนที่วาจาจะถูกเปล่งออกมา “ข้าได้ยินมาว่า น่าหลานเกอซี คุณหนูสามแห่งสกุลน่าหลานถูกลงความเห็นว่าเป็นผู้ไร้ค่าที่ไม่อาจฝึกฝนพลังฝีมือได้ นางจึงถูกละทิ้งไว้ในสถานที่ซึ่งมีเพียงกระแสพลังทางจิตวิญาณที่อ่อนบางแห่งนี้ เจ้า……เจ้าคือน่าหลานเกอซี เศษสวะผู้ไร้ค่าตามคำเล่าลือจริงหรือ ?”
ความรู้สึกยามนี้ของเกอซีงุนงงหากแต่สีหน้ายังคงแสดงออกอย่างนิ่งสงบสุขุมประดุจนางไม่รับรู้ไม่ใส่ใจ นางจึงเอ่ยตอบอย่างไม่แยแส “เจ้าสืบสาวความเป็นมาของข้าไว้เรียบร้อยก่อนจะสะกดรอยตามข้ามาถึงที่นี้มิใช่หรือ ? หากข้าไม่ใช่น่าหลานเกอซี เช่นนั้นข้าคือผู้ใด ?”
ฮึ่ม ! ร่างนี้คือร่างของเกอซีอย่างแน่ชัด อีกทั้งโลกนี้ยังไม่เคยมีเรื่องราวเกี่ยวกับการกลับชาติมาเกิดแอบแฝงในร่างของผู้ใด ตราบเท่าที่นางดึงดันไม่ยอมรับ ก็ไม่อาจมีผู้ใดกล่าวได้ว่านางไม่ใช่น่าหลานเกอซี !
ชายผู้นั้นหัวเราะด้วยสุ้มเสียงที่อัดแน่นไปด้วยความสนใจ “หึหึ เศษสวะชั้นดีที่ไม่อาจฝึกฝนพลังยุทธได้ ใต้หล้านี้ช่างเต็มไปด้วยผู้ไร้นัยน์ตาเสียจริง”
เกอซีแตกตื่นใจเอ่ยทวนคำที่ชายผู้นั้นกล่าวออกมาอีกครา “เจ้าหมายความว่าอย่างไร ?” ดวงหน้าน้อย ๆ ที่ปกติสุขุมนิ่งลึกแปรเปลี่ยนไปฉับพลัน
อุ้งมืออันร้อนผ่าวของชายผู้นั้นฉวยคว้าเรียวคางของนางแหงนเงยขึ้น เขาจับจ้องลึกลงไปในดวงตาหงส์ที่ใสกระจ่างพร่างพรายคู่นั้น “น่าหลานเกอซีกระนั้นรึ ? ข้าจะจดจำเจ้าไว้ เราจะได้พบกันอีกในไม่ช้า”
“เจ้าคือผู้ใดกันแน่ ?”
เพียงคำถามที่เฉียบคมเยียบเย็นของเกอซีหลุดออกไป หญิงสาวกลับรู้สึกได้ถึงสายลมกรรโชกพัดผ่านร่าง ชายผู้ยืนอยู่เบื้องหน้ายามนี้หายไปจากสายตาอย่างไม่หลงเหลือร่องรอยใด
เปลวเทียนริบหรี่ขยับไหวสะท้อนภายในห้องเหลือทิ้งไว้แค่นางเพียงผู้เดียว ประดุจบุรุษแปลกหน้าผู้นั้นเป็นเพียงภาพลวงตาที่ปรากฏขึ้นดั่งมายา
ชั่วช้า ! นางก่นด่าในใจก่อนจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขณะทิ้งร่างลงบนที่นอนและหวนกลับคืนสู่มิติเวทอีกครา
***จบตอน ผู้สิ้นดีพลันแปรเปลี่ยนเป็นอัจฉริยะ***