เกอซีรู้สึกขบขันไปกับน้ำเสียงที่ทั้งน่าเอ็นดูทั้งละห้อยเหี่ยวของต้านต้าน หญิงสาวฉีกขากระต่ายส่งเข้าปากกินไปคำโต กลิ่นหอมของเครื่องเทศแผ่กำซาบไปตลอดทั่วทั้งชิ้นเนื้อทำให้เนื้อกระต่ายวายุเวทย่างนั้นทั้งอร่อยอย่างเด็ดขาดและนุ่มละมุนลิ้น……นี่จึงนับเป็นยอดโอชารสอันประเสริฐยิ่ง !
เกอซีถอนใจก่อนจะหันไปเอ่ยกับต้านต้านผู้กำลังเฝ้ารออย่างจดจ่อด้วยความอดทน “ที่เหลือนี่ข้าให้เจ้าก็ได้ เจ้าจอมตะกละตัวจ้อย !”
“ว้าว ! ท่านแม่น่ารักที่สุดเลย !” แสงเรืองรองสีทองส่องสว่างวูบวาบไปมาครู่หนึ่งก่อนจะพุ่งตรงเข้าหาเนื้อกระต่ายวายุเวทย่างตัวนั้น เพียงพริบตาเนื้อกระต่ายถูกกลืนหายไปไม่เหลือทิ้งไว้แม้กระทั่งเปลวเพลิงที่ร้อนแรงก็ยังไม่มีเศษเหลือซาก
ต้านต้านดืมด่ำอยู่กับกระต่ายวายุเวทย่างแสนอร่อย เมื่อได้ลิ้มรสไปแค่เพียงครั้งเขาก็ร่ำร้องอยากกิน และขอให้เกอซีช่วยย่างมาให้อีกตัว กระทั่งหญิงสาวต้องพยายามชักจูงโน้มน้าวต้านต้านเป็นการใหญ่ นางชักแม่น้ำทั้งห้าพร้อมตกปากรับคำมั่นเหมาะว่าคราวหน้าเมื่อกลับมานางจะปรุงอาหารรสเลิศยิ่งกว่านี้ให้ต้านต้านได้ชิมอย่างแน่นอน ต้องลงมือปลุกเร้ากันถึงระดับนี้เท่านั้นเกอซีจึงสามารถผละออกจากเจ้าตัวน้อยจอมยุ่งและกลับออกมาจากมิติเวทได้
แม้ว่าภายในมิติเวทจะสามารถชำระล้างพลังปราณให้บริสุทธิ์ได้ แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวยังคงรู้สึกอ่อนล้ากับความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมาตลอดทั้งวัน
เกอซีให้คนเตรียมน้ำร้อนชำระกาย เมื่อได้ปลดอาภรณ์ทั้งหมดในกายออกให้ผิวเนื้อได้สัมผัสกับความอุ่นร้อน สายน้ำร้อนไหลเอิบอาบอย่างนุ่มนวลแทรกไปตลอดทั้งสรรพางค์กายจนทำให้หญิงสาวต้องผ่อนเสียงหายใจยาวออกมาด้วยความผ่อนคลาย
ฉับพลันคิ้วทั้งคู่กลับขมวดมุ่นเข้าหากัน ภายในใจวาบความรู้สึกถึงความอึดอัดร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกนี้ช่างคล้ายกับเมื่อครั้งที่นางถูกชิงหลงสะกดรอยตาม เป็นความรู้สึกที่คลุมเคลือยากจะอธิบาย ความรู้สึกที่พาให้กระวนกระวายตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา
มีคนแอบลอบเข้ามาในห้องนี้ !
ภายในใจของเกอซีสั่นระทึก นางรู้ตัวดีว่าไม่อาจสวมใส่อาภรณ์หรือห่อหุ้มปกปิดเรือนกายได้ทันการ หญิงสาวตัดสินใจคว้าเอาหน้ากากหนังมนุษย์มาสวมใส่บนใบหน้าของตนทันที
เพียงพริบตาใบหน้าที่ผ่องพรรณราวหิมะกลับกลายเป็นซีดเซียวไร้สีเลือด รูปหน้าที่งดงามละเอียดอ่อนอย่างเหนือคำพรรณนากลับกลายเป็นหมองคล้ำปูดบวมอัปลักษณ์ไม่น่าชม ดวงหน้านั้นแปรเปลี่ยนเป็นโครงหน้าเดิมของน่าหลานเกอซีโดยสมบูรณ์แบบ
ยังมิทันจะเสร็จสิ้นกระบวนการแปลงโฉมเท่าไรนัก เกอซีก็สัมผัสได้ถึงกระแสพลังที่คุกรุ่นออกมาจากคนแปลกหน้าผู้นั้น ดวงตาลึกลับคู่นั้นจับจ้องเขม็งมาที่นางท่ามกลางความมืดมิด สายตาเย็นเยียบประหนึ่งกำลังคาดคะเนบางสิ่ง
“สหายท่านใดมาเยี่ยมเยือนกันในยามวิกาลเยี่ยงนี้ ? กระทำตนย่องเบาหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ตามซอกตามมุมเช่นนี้มิน่าละอายล่ะหรือ ?”
คำกล่าวเยาะหยันอย่างเย็นชายังมิทันจะสิ้นสุด ร่างของคนผู้นั้นก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางเงาแสงเทียน
ความสว่างจากเปลวเทียนเผยให้เห็นเรือนร่างของสตรีในอาภรณ์สีแดงเพลิง ใบหน้าของนางงดงามเย้ายวนสายตา หากแต่กลับเย็นเยือกราวแท่งน้ำแข็ง ดวงตาทั้งคู่แสดงความเหยียดหยามอย่างเปิดเผยเมื่อมันจับจ้องลงมายังร่างของเกอซี ใบหน้าของนางแสดงออกถึงการเพ่งพินิจอย่างละเอียดละออ
“เจ้าคิดว่าตนเป็นใคร ! จึงกล้ากล่าวกับข้าเยี่ยงนี้ !”
น้ำเสียงของสตรีผู้นี้ไพเราะยิ่ง ทว่าวาจาที่โพล่งหลุดมาจากปากกลับเย่อหยิ่งจองหองเต็มไปด้วยความชิงชัง สายตาคู่นั้นจับจ้องมายังเกอซีราวกับมันกำลังจับจ้องมองดูขยะที่ไร้ค่าไร้ความหมาย
นางกวาดตามองตลอดทั่วทั้งใบหน้าของเกอซี ก่อนจะไล่สายตาลงต่ำสำรวจดูเรือนกายที่ผอมบางเลือนลางอยู่ภายใต้สายน้ำ ตลอดทั่วเรือนกายปรากฏเพียงรอยแผลฟกช้ำ และแผลเป็นที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน อาการเหยียดหยันเผยผ่านสายตาของหญิงสาวผู้นั้นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น “ก็แค่นี้เอง เพียงหญิงไร้ประโยชน์ผู้หนึ่งเท่านั้น ฮึ่ม !”
เกอซียิ้มเยาะขณะเหยียดยื่นฝ่ามือออกไปเกาะที่ตรงขอบอ่างพลางเอ่ยวาจาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยี่หระ “ข้าเป็นเพียงสตรีตัวเล็ก ๆ ผู้หนึ่งเท่านั้น ไหนเลยจะสามารถเทียบกับท่านป้านักโปรยเสน่ห์ผู้งดงามเยี่ยงท่านได้เล่า เพียงท่านมีจุดมุ่งหมายใดจึงเข้ามาเยี่ยมเยือนข้ากลางดึกเช่นนี้ ?”
สีหน้าของสตรีผู้นั้นพลันเปลี่ยนเป็นมืดคล้ำดวงตาที่ถลึงใส่เกอซีลุกโพลงดั่งเปลวเพลิงราวกับหมายจะเฉือนฉีกร่างของสาวน้อยผู้อยู่เบื้องหน้าออกเป็นพัน ๆ ชิ้น
นางเพิ่งมีวัยแค่เพียงยี่สิบ ทว่าหญิงน่ารังเกียจผู้นี้กล้าเอ่ยเรียกนางว่าท่านป้า ! อีกทั้งยังกล้าเอานางไปเปรียบเปรยกับหญิงนางโลม……มันวอนหาความตายชัด ๆ !
“ไปตายซะ—– !” แววตาเฉียบคมราวปลายกระบี่ฉายวาบผ่านดวงตาของสตรีชุดแดงขณะที่ตลอดทั้งเรือนกายของนางปลดปล่อยอายกระแสพลังกดดันอันหนักหน่วง
เกอซีรู้สึกถึงคลื่นพลังที่กดดันอย่างมหาศาลหนาแน่นโถมลงสู่ร่างประดุจใจกลางอกถูกถาโถมด้วยเหรียญทองนับพัน โลหิตทั่วเรือนกายเดือดพล่านพลุโพลงขึ้นอย่างรุนแรง
สีหน้าของเกอซีซีดเผือดร่างซวนเซลงไปตรงหน้าก่อนจะกระอักโอหิตออกมาคำโตเสียงดัง “อ่อก”
สตรีในชุดแดงเห็นท่าทีที่น่าสมเพชของเกอซี ความเย็นชาหยามหมิ่นของนางกลับทวีขึ้นอย่างรุนแรง น้ำเสียงเหยียดหยันเอ่ยขึ้น “แน่ชัดว่าเจ้าเป็นเพียงตัวขยะที่ไร้ค่าไม่มีแม้กระแสพลังปราณ เมื่อเจ้าเป็นเพียงเศษสวะเช่นนี้ก็สมควรรู้จักประมานตน….”
***จบบท ผู้มาเยี่ยมเยือนอย่างไม่คาดฝัน***