ยิ่งชิงหลงคิดถึงภาพฉากชวนขนลุกเขาก็ยิ่งรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ชายหนุ่มหมายใจจะเร่งกระตุกฝีเท้าม้าให้มุ่งหน้าขับเคลื่อนไปให้ห่างไกลจากตำหนักอีกหลังขององค์ราชันมัจจุราชซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่พละกำลังของตนจะทำได้ นายท่านผู้ดื้อรั้น หากพระองค์ไม่ต้องการจะสั่นสะเทือนโลกหล้าให้ต้องตื่นตะลึง ก็จงอย่าได้ทำให้เรื่องนี้เอิกเกริกออกไป
หนานกงยวี่ใช้สายตาชำเลืองมองชิงหลงผู้กำลังเดือดร้อนเป็นฟืนเป็นไฟด้วยรอยยิ้มที่แดกดันและรัศมีกายที่เย็นยะเยียบ
ขณะที่เกอซีเอ่ยปากขึ้นอย่างเย็นชา “หาได้จำเป็นไม่ ข้ากลับเองได้ เช่นนั้นเราแยกกันตรงนี้”
ทันทีที่วาจาสิ้นสุดหญิงสาวบิดกายก้าวจากไป หากแต่เพียงสืบฝ่าเท้าออกไปได้แค่สองก้าว แรงพลังที่แข็งแกร่งกลับรวบรัดเข้าที่เอวดึงรั้งร่างของนางให้ลอยละลิ่วปลิวไปกับอากาศ
เกอซียังมิทันจะได้ร้องตะโกนด้วยความประหลาดใจก็ถูกโยนใส่เข้าไปในรถม้าเสียแล้ว ประตูรถม้าถูกปิดกั้นไว้โดยหนานกงยวี่
รถม้าโยกไปเยกมายามเมื่อมันกำลังถูกขับเคลื่อนให้มุ่งไป และเมื่อฝีเท้าอาชาควบขยับออกไปได้หลายระยะควบ ความเร็วของมันกลับเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งแทบจะเทียบได้กับรถยนต์ในโลกยุคปัจจุบันของหญิงสาว
เกอซีจ้องหนานกงยวี่เขม็งด้วยสีหน้าข่มขวัญ “องค์ราชันมัจจุราชผู้เกรียงไกรถึงกับฉุดคร่าสตรีตัวน้อยขึ้นรถม้ากระนั้นหรือ ?”
หนานกงยวี่คลี่ยิ้มอย่างสบายอารมณ์ “มีกฏข้อใดระบุห้ามเปิ่นหวางฉุดคร่าสาวน้อยกันเล่า ?”
เกอซีใจเต้นไม่เป็นส่ำกระทั่งต้องเบือนหน้าหลบสายตาคู่นั้น หากแต่มิรู้ว่าด้วยเหตุใดความรู้สึกภายในกลับเอ่อล้นไปด้วยความสุขใจอย่างมิอาจหาที่มาที่ไปได้โดยไม่รู้ตัว
มุมปากของหนานกงยวี่ยกแย้มขึ้น ชายหนุ่มหยิบเครื่องดื่มหลากหลายออกมาจัดเรียงไว้บนโต๊ะกลางตัวน้อย ก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างแผ่วเบา “เจ้ายุ่งมาตลอดทั้งวันยังไม่ได้กินสิ่งใดเลยมิใช่หรือ ?”
เกอซีจ้องมองไปเบื้องหน้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่า กลิ่นหอมหวานฟุ้งจากคลื่นพลังแห่งจิตวิญญาณพุ่งจู่โจมกระแทกปลายจมูก
เมื่อนางหันกลับไปจึงเพิ่งสังเกตว่า ภายนอกรถม้าคันนี้ย่อมดูไม่มีสิ่งใดผิดแผกแตกต่างจากรถม้าที่มีอยู่ทั่วไปมากนัก หากแต่ภายในกลับถูกตบแต่งไว้อย่างหรูหราอลังการ
เครื่องตกแต่งที่อยู่ด้านในล้วนกอปรไปด้วยสิ่งที่เปี่ยมล้นด้วยพลังชีวิตจิตวิญญาณ ข้าวของเครื่องใช้ทั้งปวงปลดปล่อยคลื่นพลังบางเบาออกมาเป็นระยะ กระทั่งผ้าปักลายดอกที่ปลิวสะบัดอยู่กับพื้นยังทำมาจากเส้นไหมน้ำแข็งซึ่งมีอายุนับหมื่นปี ส่วนโต๊ะกลางตัวเล็กที่แลดูเหมือนเครื่องใช้ทั่วไปนั้นทำมาจากไม้จันทน์ดำโบราณที่หาได้ยากยิ่ง
ชุดน้ำชาสีขาวที่หนานกงยวี่จัดเตรียมไว้นั้น แม้ว่านางไม่อาจระบุถึงคุณสมบัติและวัตถุดิบแหล่งที่มาที่ไปของมันได้ หากแต่มันสามารถส่งความรู้สึกที่สดชื่นให้โอบล้อมครอบคลุมกระจายไปทั่วทั้งพื้นที่ ด้วยการมองเพียงปราดเดียวนางสามารถกล่าวได้ทันทีว่าชุดน้ำชานี้หาใช่ข้าวของเครื่องใช้ธรรมดาสามัญ
เกอซีเดาะลิ้นไปพลางส่งสายตาสำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวไปพลาง ก่อนจะส่ายหน้าไปมา “สมดังคำกวีพรรณา ‘ภักษาเหม็นคลุ้งที่หน้าบานประตูอันโอ่อ่า ร่างเย็นเยียบเหยียดยาวบนแผ่นพื้นธรณี’*”
*เป็นบทกวีที่กล่าวถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมระหว่างชนชั้นสูงกับยาจก ขณะที่บรรดาผู้มีอันจะกินนั่งจิบสุราชั้นสูงชิมอาหารมื้อหรู ผู้ที่กำลังตกทุกข์ได้ยากกลับต้องนอนแข็งตายอยู่ข้างถนน
เพียงได้เห็นสิ่งของเครื่องใช้เหล่านี้ก็เพียงพอจะสร้างความอิจฉาตาร้อนให้แก่ผู้คนได้แล้ว เฉพาะข้าวของทั้งหมดที่มีอยู่ในรถม้าคันนี้ก็มีมูลค่าห่างไกลกว่าเรือนเล็ก ๆ หลังน้อยของนางแล้ว
หนานกงยวี่ไม่เคยได้ยินกวีบทนี้มาก่อน หากแต่จะอย่างไรเขาย่อมสามารถเข้าใจความหมายของมันได้ ชายหนุ่มหัวเราะขึ้นอย่างเฉื่อยชา “อะไรกัน เจ้าไม่ชอบเปิ่นหวางในยามนี้หรอกหรือ ?”
“มิใช่ ! ข้าเพียงไม่ชอบพวกคนรวย !” เกอซียกยิ้มก่อนจะคว้าขนมโยนใส่ปาก
กลิ่นหอมอบอวลแผ่กระจายไปทั่วริมฝีปากและปลายลิ้น แม้ว่ามันไม่อาจเทียบได้กับฝีมือการทำขนมของนาง หากแต่พลังปราณยังคงสามารถได้รับการเก็บกักรักษาไว้ได้ถึงเก้าส่วน อาจกล่าวได้ว่านางกำลังกินขนมที่ดีที่สุดในโลกชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว
ดวงตาของเกอซีเปล่งประกายขณะเสียงอุทานดังขึ้น “อร่อยจริง ๆ ”
สายตาแวววาวของหนานกงยวี่ยังคงติดค้างอยู่กับริมฝีปากทั้งสองของนาง ไรฟันขาวสะอาดประดุจไข่มุกที่ซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังริมฝีปากแดงระเรื่ออันอ่อนนุ่มนั้นราวกับปุยหิมะบนดอกบ๊วยแดง ภายในใจที่เงียบเหงานิ่งสงบมาเนิ่นนานหลายปี ยามนี้กลับเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ไฟปรารถนาแรงกล้าภายในร่างเริ่มคุกรุ่นถาโถม
ทันใดนั้นชายหนุ่มเหยียดยื่นท่อนแขนของตนออกคว้ามือของเกอซีที่ยังถือขนมส่วนที่เหลืออีกครึ่งชิ้นอย่างอ่อนโยนก่อนจะรั้งตัวนางเข้ามาใกล้ เขาค่อย ๆ ก้มศีรษะต่ำลงไป ขนมที่อยู่ในมือของเกอซีพลันกลับเข้ามาอยู่ในช่องปากของเขา ยังอีกเรียวนิ้วงามของนางข้างหนึ่งก็ถูกเขาแทะเล็มอย่างอ่อนเบาไปด้วย
ร่างของเกอซีนิ่งแข็งค้างไปทุกส่วนประดุจดั่งถูกสายฟ้าฟาดกระหน่ำ “เจ้า…. !”
หนานกงยวี่กลืนส่งขนมเข้าลำคอไปอย่างไม่ใคร่จะเข้าใจสิ่งที่เรียกว่าอร่อยสักเท่าไร หากแต่เขากลับส่งเสียงหัวเราะอย่างชั่วร้ายออกมา “จริงด้วย รสชาติเยี่ยม !”
***จบตอน รสชาติเยี่ยม !***