ยามนี้เกอซีผู้กำลังถูกจูเฉวี่ยก่นด่าอย่างเกลียดชังได้ลืมเรื่องราวเกี่ยวกับหญิงผู้นั้นไปแล้ว
แม้นางจะยังไม่อาจทะลวงจุดตันเถียนของตนได้แต่หญิงสาวยังคงวิ่งวุ่นหัวปั่นทุกวัน
เหนือสิ่งอื่นใดนางต้องลงมือทดลองเพาะพันธุ์พฤกษาเวทในมิติของตน
เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับคุณสมบัติ และลักษณะการเจริญพันธุ์ ของพฤกษาเวท เกอซีจึงสั่งให้โม่ซาน และบ่าวไพร่ที่เหลือเก็บรวบรวมสมุนไพรทุกชนิดจากที่ต่าง ๆ ตามรายการที่นางจดบันทึกไว้
สิ่งที่อยู่ในรายการประกอบไปด้วยสมุนไพรพลังวิญญาณที่พบเห็นได้ทั่วไป แมลงเวท สัตว์ป่าเวทอีกทั้งเม็ดยาโอสถหลากหลายชนิดที่สามารถพบเจอได้ในดินแดนแถบทวีปหมีหลัว
สิ่งทั้งปวงเหล่านั้นล้วนไม่มีรายละเอียด วิธีการนำไปใช้ในการปรุงยา หรือแม้กระทั่งคุณสมบัติ และสรรพคุณของพวกมัน ทั้งหมดมีคำอธิบายเพียงคร่าว ๆ เท่านั้น โดยที่บางอย่างอาจพอมีรายละเอียดในเรื่องรูปลักษณะอยู่บ้าง หมอระดับธรรมดาสามัญของโลกนี้ย่อมคิดว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นแต่เพียงข้อมูลที่เก็บบันทึกไว้ในตำรา ไม่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริงได้ หากแต่นั่นย่อมมิใช่สำหรับเกอซี เมื่อพวกมันนับเป็นตัวช่วยชั้นเยี่ยม
เกอซีรวบรวมโอสถพลังชีวิต และสิ่งของตามรายการมาได้มากมายโดยอาศัยเม็ดเงินจำนวนมากจากครั้งก่อน หญิงสาวนำเมล็ดพันธุ์สมุนไพรพลังวิญญาณเข้าไปเพาะหว่านในมิติเวท และยังไม่กลับออกมาโดยง่าย
ผืนธรณีลำนำศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลสามารถช่วยย่นระยะการเจริญเติบโตของพรรณพฤกษาได้ถึงร้อยเท่า เมื่อเห็นเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นค่อย ๆ งอกเงยเติบโตขึ้นเป็นต้นกล้าสีเขียวเงางามพร้อมพลังชีวิตอันบริสุทธิ์ฟุ้งกระจายออกมาทำให้ต้านต้านร่าเริงยินดี
“ท่านแม่ ท่านแม่ มีสมุนไพรมากมายเลย พลังที่ฟุ้งกระกายไปทั่วพระราชวังซูมี่ยามนี้หนาแน่นดีพอจะให้ข้ากินแล้ว ต้านต้านอยากกินอีก ท่านแม่ ท่านแม่ ปลูกให้เยอะกว่านี้อีกหน่อยได้ไหม ?”
เกอซีกำลังบิดขี้เกียจหลังจากดื่มทิพย์วารีในบ่อเข้าไปอึกใหญ่ หญิงสาวถอนหายใจพลางเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์นัก “ข้ายุ่งกับการจัดแจงปลูกต้นไม้พวกนี้ด้วยความยากลำบากมาหลายวันกว่าจะกินพื้นที่กว้างใหญ่เพียงนี้ เจ้าคิดว่าข้าเป็นโคนางั้นรึ !”
“ว้า…….แต่ต้านต้านต้องใช้พลังชีวิตมหาศาลถึงจะออกไปพบหน้าท่านแม่ได้ ต้านต้านอยากเห็นท่านแม่ ต้านต้านอยากช่วยท่านแม่จัดการพวกคนชั่วนั่น…….”
สิ่งที่เกอซีหวั่นใจที่สุดนั้นคือยามเมื่อต้านต้านทำตัวน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนหนูน้อยที่ถูกตามใจจนเสียคน นางเพียงทอดถอนใจเอ่ยตอบ “ก็ได้ ก็ได้ ทว่าพืชสมุนไพรเหล่านี้เพิ่งเริ่มแตกกล้าเท่านั้น รอให้มันเจริญเติบโตเต็มที่ก่อนพวกมันก็จะปลดปล่อยขุมพลังอันมหาศาลให้เจ้า ถึงตอนนั้น เมื่อข้านำส่วนที่ต้องใช้ในการปรุงโอสถออกมาแล้ว ส่วนที่เหลือจะมอบให้เจ้ากินทั้งหมดเลย เช่นนี้ดีไหม ?”
เมื่อเกอซีหันมาปลอบใจต้านต้าน เขาก็ไม่รบกวนนางอีก หลังจากพักผ่อนอีกครู่หนึ่งหญิงสาวเริ่มลงมือปลูกพรรณพืชเพิ่มเติมเป็นเนื้อที่กว้างขึ้น
ยามทอดสายตามองแปลงต้นไม้ในมิติของนางมันเขียวชอุ่มสดชื่นจนทำให้ใบหน้าของเกอซีปรากฏรอยยิ้มขึ้น
นอกเสียจากแปลงปลูกพืชสมุนไพรพลังวิญญาณแล้วเกอซียังเพาะผลไม้ และพืชผักสวนครัวพลังวิญาณที่รับประทานได้ไว้เป็นแถวเป็นแนว จุดมุ่งหมายในการปลูกผลไม้ และพืชผักพลังวิญญาณพวกนี้มิได้มีความมุ่งหมายพิเศษอื่นใด สิ่งเหล่านั้นไม่มีพลังชีวิตมากนัก แต่สามารถช่วยเพิ่มรสชาติที่ยอดเยี่ยมให้แก่มื้ออาหารได้
เวลาในมิติของนางไม่เป็นไปดังปกติทั่วไป พืชผลที่หว่านไว้จึงเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และพร้อมที่จะให้นางสามารถเก็บเกี่ยวได้ในคืนนั้นเอง
ครั้นสายตาทอดลงสู่พื้นดินดำที่ว่างเปล่ากว้างไกล เกอซีก็รู้สึกผิดหวัง
พืชสมุนไพรพลังวิญญาณที่นางจัดเตรียมมาเพาะปลูกในวันนี้นับได้ว่ายังไม่เพียงพอ แท้จริงแล้ว แค่เพียงนางเก็บสมุนไพรพวกนั้นให้ต้านต้านกินก็ดูจะไม่เหลือพืชพรรณใดคงค้างอยู่บนผืนธรณีลำนำศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลแม้เพียงต้นเดียว
ทว่าเรื่องนี้จะโทษนางเพียงผู้เดียวก็หาควรไม่ ! การทำไร่นั้นย่อมต้องอาศัยเวลาและน้ำพักน้ำแรงมิใช่หรือ ? นางจะจัดการหว่านเมล็ดพันธุ์ในแปลงผักที่ใหญ่โตขนาดนี้ได้เสร็จลุล่วงแต่เพียงผู้เดียวได้อย่างไร ? นี่ยังไม่กล่าวถึงข้อที่นางจะต้องเป็นผู้ลงมือเก็บเกี่ยวกับมือตนเองเมื่อมันเจริญเติบโตเต็มที่ อีกทั้งยังต้องเตรียมแปลงดินเพื่อหว่านเพาะพันธุ์พืชชุดต่อไป……เพียงแค่คิดถึงเนื้องานทั้งหมดที่รออยู่ศีรษะของหญิงสาวก็แทบจะระเบิด
เห็นทีนางคงต้องหมายตาคนงานที่ซื่อสัตย์มีความสามารถมาช่วยนางทำไร่ คงจะดีไม่น้อย !
ช่วงจังหวะที่เกอซีกลับออกมาจากมิติเวท และขยับเปลือกตาเปิดขึ้นก็ได้เห็นเซี่ยวหลีแบกถังน้ำร้อนเต็มปรี่เดินเอียงไปเอียงมาในห้อง
เด็กสาวผู้นี้ยังเยาว์วัยนัก แม้จะอายุได้สิบปีแล้วแต่จากสภาพร่างกายที่ขาดสารอาหารมานานปีจึงทำให้รูปร่างของนางผอมบางตัวเล็กแลดูราวกับเด็กอายุเจ็ดหรือแปดขวบปีเท่านั้น
***จบตอน การจัดการในมิติเวท***