แววตาที่น่าหลานเจิ้งเจ๋อกวาดมองฮูหยินของตนนั้นโหดเหี้ยมร้ายกาจ เพียงประโยคเดียวหลุดออกจากปาก “ข้าจะจัดการกับเจ้าภายหลัง !”
จากนั้นเขาหันไปหาจูอี้ฉวินอีกคราด้วยใบหน้าเปี่ยมล้นความรู้สึกผิด “ฮูหยินของข้าช่างบังอาจนัก กล้ากระทำต่อนายใหญ่จู และองค์ชายหกราวกับเป็นตัวตลก ข้าต้องขออภัยด้วย ส่วนเรื่องของเฟ่ยเสวี่ยข้าได้ตรวจสอบดูแล้ว หากสกุลจูเจาะจงตัวเฟ่ยเสวี่ยเช่นนั้นย่อมหมายความว่าตระกูลน่าหลาน และตระกูลจูกำลังจะมีความสายสัมพันธ์ต่อกันแล้ว เมื่อคนทั้งสองสามารถเป็นผู้เชื่อมสัมพันธ์ในระหว่างสองตระกูลได้ย่อมนับเป็นเกียรติของเฟ่ยเสวี่ย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเมื่อเฟ่ยเสวี่ยออกเรือนไปแล้ว ตระกูลจูจะช่วยดูแลนางเป็นอย่างดี”
“แน่นอน แน่นอน !” จูอี้ฉวินเห็นว่าตนได้บรรลุวัตถุประสงค์แล้วก็ยิ้มหน้าบานด้วยความยินดี “คุณหนูรองมาสู่เรือนสกุลจูก็ย่อมเป็นคนสกุลจูเช่นกัน หากนางรู้ว่าสตรีที่ดีควรประพฤติเช่นไรคนสกุลจูย่อมปฏิบัติต่อนางอย่างดีอยู่แล้ว เมื่อพิธีสมรสของพวกเราทั้งสองตระกูลเป็นที่ตกลงกันได้แน่ชัดแล้ว ในวันนี้ข้าได้นำเทียบเชิญงานวันเกิดของจูจงปามาด้วย หากเราสามารถจัดพิธีมงคลสมรสในวันเดียวกันเลยย่อมจะเป็นนิมิตหมายที่ดี”
“ท่านพี่ ท่านบ้าไปแล้วรึ ! เฟ่ยเสี่ยจะเข้าพิธีสมรสกับ…..” เสียงโอดครวญของฮูหยินน่าหลานกลับชะงักเงียบไปทันทีด้วยสายตาที่เย็นเยียบเฉียบคมของน่าหลานเจิ้งเจ๋อ
มือข้างหนึ่งยังคงจับกุมพวงแก้มที่ด้านชาจนลามไปกระทั่งทั่วใบหน้า ยิ่งคิดถึงภาพฝันอันงดงามของบุตรสาวกลับต้องพังทลายลง ความเศร้าสลดภายในใจของผู้เป็นแม่กลับยิ่งทวีคูณ นางได้เพียงสะอึกสะอื้นร่ำร้องอยู่อย่างเงีบบงัน
เกอซีที่นั่งคุ้ดคู้อยู่ด้านข้างจ้องมองฮูหยินน่าหลานปานประหนึ่งหมายจะเข้าไปช่วยปลอบขวัญประโลมใจ นางยื่นมือออกไปใส่ผงยาซึ่งไร้สีไร้กลิ่นไล้ทาให้บนพวงแก้มของฮูหยิน
ทว่ากลับถูกปัดออกอย่างรุนแรงพร้อมเสียงก่นด่าแหลมบาดแก้วหู “นางเด็กเหลือขอ ! เป็นเพราะเจ้า เจ้าทำให้เฟ่ยเสวี่ยของข้าต้องเดือดร้อน ! ไสหัวไป— ! ไสหัวไปซะ—– !”
เกอซีถูกผลักตกลงไปนั่งกองเนื้อตัวสั่นเทาอยู่กับพื้น นางขดกายกลมนัยน์ตามีเพียงความผวาตื่นกลัว
น่าหลานเจิ้งเจ๋อชำเลืองมองด้วยหางตา ยังคงเป็นเด็กขลาดเขลาหวาดกลัวที่ไร้ความสามารถใดเฉกเช่นเดิม ทว่าเหตุใดภายในใจลึก ๆ ของเขากลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล
น่าหลานเจิ้งเจ๋อไม่ทันได้ใคร่ครวญค้นหาคำตอบใดด้วยเพราะจูอี้ฉวินคอยเร่งเร้าอยู่ตลอดเวลา เขาให้บุรุษสองนายเข้าไปในห้องหนังสือแลกเปลี่ยนเทียบเชิญ และกำหนดวันจัดงานมงคลสมรสระหว่างจูจงป้ากับน่าหลานเฟ่ยเสวี่ย
แม้จะยังคงลังเลด้วยเพราะน่าหลานเฟ่ยเสวี่ยคือบุตรสาวที่เขากล่อมเกลี่ยงเลี้ยงดูมา หากทว่าเมื่อเทียบกับสวัสดิภาพของสกุลน่าหลานแล้วย่อมไม่มีสิ่งใดที่มิอาจสละได้
ฮูหยินน่าหลานเห็นการนัดหมายถูกกำหนดเป็นที่เรียบร้อยจึงทำได้แค่เพียงร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุดเท่านั้น ก่อนออกไปส่งแขกนางกำชับสั่งหวางจ้งให้ส่งตัวเกอซีกลับเรือนหลังน้อย และคอยเฝ้าจับตาดูให้ดี นางประกาศคำสั่งออกไปอย่างชัดเจน นับแต่นี้ไม่อนุญาตให้เกอซีเหยียบย่างเข้ามายังเรือนใหญ่น่าหลานอีก
เกอซีทอดสายตาส่งตามหลังผู้คนทั้งหลายที่หลีกจากไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นด้วยยิ้มแห่งความเย้ยหยัน
ฮูหยินน่าหลานมิใช่ว่าเจ้าต้องการวางยาข้าหมายจะให้ข้าเลอะเลือนกระนั้นหรือ ? หากไม่ตอบแทนน้ำใจย่อมนับว่าหยาบคายไร้มายาท ข้าจะตอบแทนไมตรีของเจ้าด้วยการให้เจ้าได้รับความทรมานจากการเป็นโรคสมองเสื่อม ภาวนาให้บิดาต่ำช้าของข้าเป็นหมออัจฉริยะตัวจริงไว้เถิด เจ้าจะได้ไม่ต้องเป็นแม่เฒ่าสมองทารกไปกระทั่งสิ้นสุดช่วงเวลาที่เหลือของชีวิต !
รัตติกาลที่มืดมิดมาเยือนเรือนหลังน้อยริมเทือกเขาฉาง หมู่ดวงดาราพากันเปล่งแสงระยิบล้อแสงจันทรายามค่ำคืน
เกอซีนั่งเล่นอยู่บนจั่วหลังคาที่อยู่ระดับสูงสุดในเรือนหลังน้อยแต่เพียงลำพัง ใบหน้าของหญิงสาวขมวดมุ่นเล็กน้อยยามเมื่อนางทอดสายตาสู่ท้องฟ้าไกลที่พรั่งพราวไปด้วยหมู่เดือนดารา
พรุ่งนี้แล้วคือวันนัดหมายที่หนานกงยวี่ให้คำมั่นจะคลายผนึกจุดตันเถียนให้แก่นาง ทว่าชายผู้นั้นกลับหายตัวไปหลายวันแล้ว อีกทั้งสองสามวันที่ผ่านมานี้ กระทั่งไป๋หู่ยังไม่โผล่มาให้เห็นแม้เพียงเงา
ใบหน้าอันหล่อเหลาค่อย ๆ ผุดโผล่ขึ้นมาเบื้องหน้าสายตาทีละน้อย รอยยิ้มประจบประแจงเอาใจแฝงความร้ายกาจ พร้อมกับ….. กรุ่นอายลมหายใจอุ่น อ้อมกอดเร่าร้อนที่นางมิอาจต่อต้านขัดขืน
ใบหน้าของเกอซีแดงก่ำ น้ำเสียงพร่าแอบลอบก่นด่าทอ “คนเลว” หากแต่ความรู้สึกว้าวุ่นสับสนภายในใจกลับค่อย ๆ แอบฝังรากหยั่งลึกลงไปเรื่อย ๆ
หนานกงยวี่จอมเผด็จการที่แทบจะไม่ยอมเปิดโอกาสให้นางได้ขัดขวางต่อต้าน ครั้งที่เขาให้คำมั่น ท่าทีของเขาจริงจังหนักแน่นจนทำให้นางเชื่อมั่นในอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด นางยังคงเชื่อมั่นว่าเขาจะไม่หลอกลวง
เกอซีจมดิ่งอยู่ในห้วงแห่งความคิด ฉับพลัน ความเย็นยะเยือกสั่นสะท้านจับร่างให้แข็งนิ่งก็พุ่งเข้าจู่โจมทำให้นางตื่นตัวรีบผุดลุกขึ้นในท่าพร้อมรับสถานการณ์อย่างทันท่วงที
***จบตอน หญิงโง่***