หัตถ์เทวะธิดาพญายม – ตอนที่ 294 นัยน์ตาริ้วมนต์ ? ใจกลางริ้วมนตรา ?

หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 294 นัยน์ตาริ้วมนต์ ? ใจกลางริ้วมนตรา ?

 

สาวน้อยผู้นั้นยกมือขึ้นป้องปากส่งเสียงอุทานด้วยความยินดีอยู่ในลําคอ หยาดน้ำตาแห่งความยินดีพลันร่วงหล่นลงสองข้างแก้มประดุจเกล็ดสร้อยไข่มุกที่พร่างพราย

 

ขณะกลุ่มบุรุษร่างกํายําซึ่งแสดงท่าที่เย้ยหยันคึกคะนองไม่หยุดยั้งก่อนหน้านี้พลันเผยสีหน้าแห่งความตื่นผวาขึ้นในเวลาเดียวกัน

 

ฝ่าเท้าพวกมันเซถลาเปะปะล่าถอย ด้วยแทบไม่อยากเชื่อว่าหัวหน้าผู้มีพลังสูงส่งเช่นนั้นจะถูกกําราบลงได้

 

ทว่าเมื่อหรี่ม่านตาลงเพ่งพินิจศีรษะในมือหนุ่มน้อยผู้นั้น พวกมันต่างจดจําดวงหน้าที่คุ้นเคยนั้นได้ ใบหน้าบนศีรษะไร้ร่างบิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาด ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง ผืนผ้าดําที่เคยปกปิดคลุมหน้ามิได้หลงเหลืออยู่จึงเผยให้เห็นสีหน้าแห่งความตื่นกลัวสิ้นหวัง

 

“ได้โปรด…โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วย !” ใครบางคนในกลุ่มพวกมันคุกเข่าลงโขกศีรษะร่ำร้องขอความเมตตา

 

ขณะพวกที่เหลือต่างเปล่งเสียงร้องบีบเค้นดิ้นรนหนีออกจากม่านหมอกหนาทึบ

 

เถาวัลย์ม่วงอเวจีในมือของเกอซีพลันสะบัดพุ่งตรงออกไป และเพียงเสียววินาทีถัดมา มันก็ตวัดใส่แผ่นหลังของผู้หมายจะวิ่งหนีตีจากไปประดุจปลายกระบอันคมกริบ

 

โลหิตไหลหยดร่วงจากปลายใบบนเส้นเถาสัมผัสผืนดินที่ถูกเคลือบไว้ด้วยหมอกขาวหนาทึบ เพียงชั่วอึดใจ ทั่วชั้นบรรยากาศพลันถูกแทรกซึมไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตเหม็นคลุ้ง

 

ทว่าเมื่อเกอซีชักเถาวัลย์ม่วงกลับคืนมา ปลายใบของมวลเถาวัลย์กลับสะอาดบริสุทธิ์เฉกเช่นเดิมไม่เหลือร่องรอยแห่งคราบโลหิตใด เถาวัลย์ม่วงอเวจีกวัดแกว่งเส้นเถาวัลย์ไปมาอย่างเริงร่าแสดงความสุขใจคล้ายมันยังปรารถนาจะได้ลิ้มรสโลหิตอย่างต่อเนื่อง

 

เกอชีรีบหยุดยั้งการเข่นฆ่าสังหาร และสูบกลืนโลหิตภายใต้ม่านหมอกขาวของเถาวัลย์ม่วงอเวจีด้วยการโยนเถาวัลย์ที่ยังคงอิดออดไม่ยินยอมพร้อมใจกลับเข้าสู่มิติในทันที ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวย่างสามขุมเข้าหาบุรุษร่างกํายําผู้ยังหลงเหลือชีวิตอีกแค่เพียงหนึ่ง

 

มันผู้นั้นยามนี้กลับมีนัยน์ตาว่างเปล่า เนื้อตัวของมันสั่นสะท้าน สายตาของมันจ้องเขม็งอยู่กับซากร่างสหายร่วมอุดมการณ์ เสียงไรฟันสั่นกระทบกันอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง เพียงชั่วขณะถัดมา กลิ่นปัสสาวะที่ฉุนร้ายพลันคลุ้งขึ้นเมื่อความเปียกแฉะแผ่กระจายลงระหว่างง่ามขาทั้งสองของมัน

 

“โปรดเมตตาด้วยเถิด คุณชาย โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ! ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าไม่กล้าทําอีกแล้ว ! ไม่กล้าแล้ว !”

 

ร่างของเกอซียืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า สายตาเหยียดหยันจ้องมองลงมายังผู้อยู่เบื้องต่ำ พลันน้ำเสียงเย็นชาจึงเอ่ยถามขึ้น “บอกข้ามา เจ้าเข้ามาในหมอกขาวแห่งนี้นานเพียงไร ได้ปล้นสมบัติผู้คนทั้งหลายไปมากเท่าไรแล้ว”

 

มีหรือที่มันผู้นั้นจะยังกล้าปกปิดความจริงอีก ? มันรีบโขกศีรษะตอบคํา “เรียนคุณชาย พวกเรา พวกเราคือคนกลุ่มแรกที่เข้ามาในหมอกขาวแห่งนี้ ล่วงเวลามาได้ 6 วันแล้ว แต่แรก พวกเราล้วนไม่ล่วงรู้ว่าภายใต้หมอกขาวแห่งนี้จะสามารถสูบกลืนพลังปราณของเหล่ายอดฝีมือทั้งหลาย เดิมที่พวกเราแค่เพียงหมายจะเข้ามาหาสิ่งล้ำค่าภายในสวนสมุนไพรเท่านั้น”

 

“ทว่าภายหลังเมื่อเราค้นพบว่ายอดฝีมือผู้มักทะนงตนว่าสูงส่งเหล่านั้นกลับกลายเป็นไร้ค่า สิ้นสภาพภายใต้หมอกขาวแห่งนี้ พวกเราจึงเปลี่ยนหันมาปล้นชิงสมบัติจากพวกมันแทน”

คลิปหลุด

ชายผู้นั้นเงยหน้าขึ้นเพียงเพื่อจะได้พบสายตาของเกอซีที่ยังคงเพ่งเล็งมาที่มัน “พูดต่อไปสิ เจ้าล่วงรู้สิ่งใดมาบ้าง”

 

“ขอรับ ! ขอรับ ! ผู้น้อยไม่กล้าปกปิดข้อเท็จจริงแม้เพียงสิ่ง !” ความตื่นกลัวของมันผู้นั้นท่วมท้นยิ่งขึ้น ร่างของมันสั่นสะท้านยิ่งกว่าเคย มันรีบละล่ำละลักตอบคํา “เดิมทีพวกเราผู้มีร่างกลั่นสายโลหิตล้วนถูกเหล่ายอดฝีมือผู้ฝึกพลังปราณทั้งหลายข่มเหงรังแก ทว่าเมื่อยามนี้พวกเราสามารถฉกฉวยโอกาสนี้ในการล้างแค้น ทุกสิ่งจึงเป็นเช่นที่คุณชายได้ล่วงรู้ ยังมี ภายใต้หมอกขาวแห่งนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก ด้วยภายหลังจากที่พวกเราออกเดินสํารวจค้นลึกเข้าไปกลับไม่อาจพบเจอปลายทางออก ทั้งยัง ไม่อาจพบเจอทางสู่สวนสมุนไพร เช่นนั้นพวกเราจึงรวมตัวอยู่ในที่นี้เพื่อรอฉกชิงสมบัติจากผู้ฝึกยุทธผู้สูญสิ้นพลังปราณถูกสูบกลืนกําลังกาย”

 

คิ้วทั้งสองของเกอซีจิกเข้าหากัน “ไม่อาจพบทางเข้าสู่สวนสมุนไพรเช่นนั้น ?”

 

“พวกเราไม่พบเลย ทว่า…ทว่ากลับพบกลุ่มยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งเหนือปกติวิสัยชุดหนึ่ง แม้พวกเขาจะได้สิ้นพลังปราณ ทว่ารัศมีกายที่ปลดปล่อยออกจากร่างคนเหล่านั้นกลับกว้างไกลแผ่ไพศาล พวกเราจึงไม่กล้าย่างกรายเข้าใกล้ ทั้งกลับแอบรีบหลบหนีออกมา”

 

“หากแต่ข้าจดจําได้ว่า พวกเขาสนทนากันเรื่องการเข้าสู่สวนสมุนไพรเพื่อความมุ่งหมายบางประการ เช่นนั้น พวกเขาจึงกําลังตามหา นัยน์ตาริ้วมนต์อาจบางทีคือ ใจกลางริ้วมนตรา…หรืออะไรสักอย่าง…”

 

นัยน์ตาริ้วมนต์ ? ใจกลางริ้วมนตรา ? คิ้วเรียวงามของเกอซีจิกเข้าหากันลึกอีกครา เป็นดังที่คาด หมอกขาวแห่งนี้ คือริ้วสายมนตราอันเกิดปรากฏขึ้นโดยธรรมชาติ 

 

***จบตอน นัยน์ตาริ้วมนต์ ? ใจกลางริ้วมนตรา ?***

 

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

หัตถ์เทวะธิดาพญายม

ในงานประมูลครั้งมโหฬารแห่งหอรื่นรมย์ สาวน้อยเครื่องอุ่นเตียงชั้นยอดได้ถูกเสนอราคาชนิดสูงเสียดฟ้า ในท่ามกลางความหื่นกระหายต่อสู้เยื้อแย่งราคากันอย่างบ้าคลั่งนั้น ดรุณีน้อยเปิดเปลือกตาทอดส่งผ่านลูกกรงขังสีทอง อายกระแสรังสีอันเย็นยะเยียบจับทรวงที่แผ่ซ่านออกมาจากเนื้อกาย บ่งบอกได้ว่ายามนี้นางไร้สิ้นความหวาดกลัวอีกต่อไป

Options

not work with dark mode
Reset