หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 296 นัยน์ตาจิ๋วอาคม
“ข้าเพียงต้องค้นหาใจกลางม่านอาคมให้ได้เช่นนั้นหรือ
เฉินชิ่งชูเอียงศีรษะคล้ายครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยกล่าว “แท้จริง ย่อมมีอีกหนึ่งหนทาง นั่นคือ ทําลายนัยน์ตาริ้วอาคมทั้ง 64 จุดภายในช่วงเวลาอันสั้น ด้วยหนทางนี้ย่อมส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างสายมนตราถูกทําลายลงอย่างรวดเร็ว แม้นม่านอาคมจะถูกสะกัดให้สิ้นสุดชะงักลงเพียงชั่วระยะเวลาไม่กี่อึดใจ ทว่าย่อมเพียงพอให้ท่านสามารถล่วงเข้าสู่สวนสมุนไพรได้ เช่นนี้ย่อมเป็นหนทางที่ยังอาจพอเป็นไปได้ หากทว่า การจะค้นหานัยน์ตาริ้วอาคมทั้ง 64 จุดภายในระยะเวลาอันสั้นดังกล่าวย่อมอาจแทบไม่เหลือความเป็นไปได้ ด้วยเพราะหากทําลายนัยน์ตาริ้วอาคมทั้ง 64 จุดไม่ทันภายในช่วงระยะเวลาที่กําหนด ม่านอาคมที่ถูกสะกัดจะกลับมาแสดงอานุภาพอีกคราในทันที ยังอีกทั้ง พลังในการสูบกลืนปราณของหมอกขาวนั้นจะเพิ่มพูนขึ้นอย่างน่าใจหาย”
เกอซีมีท่าที่ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะกล่าวตอบ “เข้าใจแล้ว ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยบอกกล่าวแก่ข้าในเรื่องนี้ !”
กล่าวจบ เกอซีก็ควักอาภรณ์ซึ่งเก็บรักษาอยู่ในมิติของตนส่งให้แก่เฉินชิ่งชู ก่อนจะกล่าวอย่างไม่รู้สึกติดค้างใด “สิ่งนี้สมควรเพียงพอจะตอบแทนเจ้าที่ช่วยบอกเล่าเรื่องราวแก่ข้า ภายในหมอกขาวแห่งนี้อันตรายอย่างยิ่ง เช่นนั้นเจ้าสมควรเร่งหลึกจากไปเสีย !”
ครานี้เกอซีมิได้ชะงักหยุดฝีเท้า ร่างของนางเคลื่อนกลืนหายไปในหมอกหนาทึบอย่างรวดเร็ว
ทิ้งให้สาวน้อยผู้นั้นสวมใส่อาภรณ์ที่ได้รับด้วยอาการเร่งรีบ นางยกแขนเสื้อข้างหนึ่งขึ้นจรดปลายจมูก กลิ่นหอมของสมุนไพรสดโชยแตะจมูก พวงแก้มทั้งสองถูกปกปลุมไปด้วยสีแดงระเรื่ออ่อนบาง “เราจะได้พบกันอีกใช่ไหม ?..เราต้องได้พบกันอีกอย่างแน่นอน”
เมื่อเกอซีผู้เคลื่อนหายเข้าสู่อายหมอกมั่นใจแล้วว่ารอบกา ยไร้ผู้ใด หญิงสาวรีบเรียกเถาวัลย์ม่วงอเวจีออกมาจากมิติใน ทันที
เพียงเมื่อเถาวัลย์ม่วงอเวจีสัมผัสกับหมอขาวอีกครา มันก็เริ่มตวัดแกว่งสายเถาวัลย์ด้วยอาการตื่นเต้น ทั้งเริ่มส่งต่อความตื่นเต้นกระหายอย่างล้นเหลือผ่านเข้าสู่สัมผัสรู้ทางจิตของเกอซี
หากทว่าเกอซีกลับไม่กล้าปล่อยให้มันกระทําตามความพอใจ ทั้งยังไม่อนุญาตให้มันสูบคลื่นพลังปราณในหมอกขาวแห่งนี้ ด้วยหากมันสูบคลื่นพลังกระทั่งก่อกําเนิดขุมพลังวนที่สูบกลืนสรรพสิ่งภายใต้หมอกแห่งนี้ หรือเกิดภาวะกระทบต่อสายริ้วมนตราขึ้นโดยตรงย่อมกลายเป็นปัญญาใหญ่สําหรับหญิงสาว
เมื่อปลอบประโลมเถาวัลย์ม่วงอเวจี และให้คํามั่นจะมอบปราณเพลิงให้มันได้สบกินเมื่อเข้าสู่สวนสมุนไพรได้แล้ว เถาวัลย์ม่วงจึงยอมสงบลงทั้ง ๆ ที่มีท่าที่อิดออด
เกอซีพลิกฝ่ามือขึ้น เพียงเสี้ยววินาที สายเงาสีม่วงนับร้อยก็พุ่งกระจายออกไปตลอดทั่วทุกทิศภายใต้ม่านหมอกขาว
นั่นคือความสามารถเฉพาะของเถาวัลย์ม่วงอเวจีซึ่งสามารถแบ่งแยกร่างออกนับพันส่วน ทั้งยังเป็นหนทางค้นหาใจกลางอาคม และนัยน์ตาจิ๋วอาคมภายใต้หมอกขาวอันไร้ขอบเขตสิ้นสุดนี้ได้อย่างรวดเร็วที่สุด
เส้นสายเถาวัลย์แต่ละเส้นล้วนเชื่อมต่อโดยตรงกับสัมผัสรู้ทางใจของเกอซี หากทว่าน่าเสียดายที่นั่นย่อมหมายความถึง สายเถาวัลย์ที่แยกออกมานับร้อยแต่ละเถาล้วนไม่อาจคงสภาพความแข็งแกร่งได้อย่างยอดเยี่ยมดังเช่นปกติ เช่นนั้นย่อมส่งผลให้มันไร้ความสามารถในการโจมตี ทั้งย่อมหมายความถึง หากมันถูกโจมตี ความเสียหายย่อมรุนแรงอย่างหนักหน่วง ทั้งย่อมส่งผลเสียหายต่อจิตสัมผัสซึ่งเชื่อมต่อกับเกอซีด้วยเช่นกัน
เช่นนั้น ระยะเวลานานช่วงเผาก้านธูป สีหน้าเกอซีจึงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นซีดเซียวลงเล็กน้อย ทว่าสายเถาวัลย์สีม่วงที่ตวัดรัดรอบข้อมือหญิงสาวกลับเริ่มตวัดเด้งไปมาคล้ายมันกําลังกระหาย พยายามจะสือสารบอกกล่าวบางสิ่ง
ที่สุดเกอซีเผยอเปลีกตาขึ้น เผยให้เห็นประกายสีม่วงที่หมุนเคลื่อนอย่างคมกริบวิบวับลึกลงในแววตานั้น และเพียงเสี้ยวนาที สายเถาวัลย์ทั้งหมดก็คืนกลับสู่ร่างของเกอซีอย่างรวดเร็วประดุจลูกศรอันเฉียบคม
ยอดเยี่ยม นางค้นพบนัยน์ตาอาคมทั้ง 64 จุดแล้ว
เสียดายที่ยังไม่อาจพบเจอใจกลางม่านอาคม ซึ่งย่อมช่วยให้กระบวนการทั้งหมดง่ายดายยิ่งขึ้น
จะอย่างไรก็ตามที ใจกลางม่านอาคมนั้นคือพลังชีวิตทั้งยังเป็นจุดก่อกําเนิดสายมนตราเหล่านี้ เช่นนั้นไม่ว่าสายมนตราจะเป็นเช่นไร มันย่อมพยายามปกปิดใจกลางม่านอาคมเพื่อป้องกันไม่ให้ใจกลางม่านอาคมถูกทําลาย ย่อมเป็นธรรมดาที่เถาวัลย์ม่วงอเวจีไม่อาจค้นพบจุดที่ตั้งของใจกลางม่านอาคมได้
ทว่า จากตําแหน่งของนัยน์ตาริ้วอาคมทั้ง 64 จุดที่พบเจอ การจะทําลายพวกมันทั้งหมดภายในช่วงระยะเวลาอันสั้นย่อมมิใช่เรื่องซับซ้อนยากเย็นแต่อย่างใด
มุมปากเกอซีเหยียดออกแสดงรอยยิ้มอ่อนบาง เพียงปลายเท้าแตะจรดพื้นปรากฏแสงสว่างวูบ ร่างของหญิงสาวก็เลือนหายจากตําแหน่งที่ยืนอยู่
ตําแหน่งของนัยน์ตาริ้วอาคมจุดแรกอยู่ไม่ไกลนัก เกอซีจึงมาถึงอย่างรวดเร็วยิ่ง
ม่านหมอกขาวที่ปกคลุมโดยรอบนัยน์ตาริ้วอาคมหนาทึบกว่าบริเวณอื่นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งแรงพลังสูบกลืนคลื่นปราณในกายยังทรงพลังอย่างยิ่งยวด
สายตาของหญิงสาวจับจ้องอยู่กับสายเถาวัลย์ที่พุ่งตรงเข้าสู่ใจกลางนัยน์ตาจิ๋วอาคมอย่างไร้สิ้นความลังเล
แม้เบื้องหน้าจะถูกปิดกั้นด้วยม่านหมอกหนาทึบเป็นชั้น ๆ กระนั้นหญิงสาวยังคงได้ยินเสียงดังก้องสะท้อนโดยรอบคล้ายบางสิ่งแตกทําลาย
***จบตอน นัยน์ตาริ้วอาคม***