หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 345 คุณชายสามน่าหลานจออวิน
ยามนี้ทั้งหรูอี้ และกู้หลิวเพิ่งต่างเดินกลับมาหยุดยืนอยู่เบื้องหลังเกอซี ทว่าเมื่อทั้งคู่ได้เห็นโฉมหน้าของสตรีในภาพเขียนทั้งสองกลับต้องสูดหายใจเย็นยะเยือก
นัยน์ตาหงส์ของสตรีผู้นี้ล้วนงามสรรพ ผิวพรรณของนางละเอียดเนียนสมบูรณ์แบบ นางงดงามประหนึ่งเทพธิดาจิ๋วเทียนเซวียนหนี่“ผู้จําแลงร่างลงสู่โลกมนุษย์
*เทพธิดาจิ๋วเทียนเซวียนหนี่* คือเทพธิดาจากสวรรค์ชั้นเก้าเป็นเทพธิดาแห่งทองคํา
ทว่าที่น่าตื่นตระหนกอย่างที่สุดนั้นคือใบหน้าของสตรีผู้นี้เจ็ดถึงแปดส่วนมีส่วนละม้ายคล้ายเกอซีหากเพ่งพินิจอย่างใกล้ชิดผู้คนล้วนสามารถจินตนาการเกอซียามเมื่ออยู่ในอาภรณ์ของสตรีได้อย่างชัดเจน
ประกายตาของกู้หลิวเพิ่งเต็มไปด้วยความตกตะลึงเปี่ยมล้นด้วยความชื่นชมเขารีบขจัดความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลเหล่านั้นออกจาก ใจพยายามข่มห้ามหัวใจที่สั่นกระเพื่อมไม่หยุดหย่อน
หวูออดเปล่งอุทานออกมาด้วยความตื่นตกใจมิได้ “นี่มิใช่…” ครอบครัวของพระชายาของเขากระนั้นหรือ ? !
เขาหันไปหาหนานกงยว ก่อนจะย้ายมาหยุดอยู่ที่เกอซีทว่ากลับได้เห็นสีหน้าที่ยังคงไม่อนาทรร้อนใจของผู้เป็นนาย ไม่เพียงแค่นั้นแววตาอันอ่อนโยนของนายท่านยังไม่เคยหยุดจับจ้องมองเกอซีแม้เพียงน้อย
เกอซีย่อมตระหนักดีว่าสตรีผู้อยู่ในภาพวาดเบื้องหน้าย่อมคือ ผู้ ป็นมารดาของนาง – อันเหลิงเยว
เพียงทว่า เกอซีหันกลับไปหาน่าหลานเยี่ยนหมิงพลางกล่าวด้วยน้ําเสียงเฉื่อยชา “นี่คือผู้ใด ?”
น่าหลายเยี่ยนหมิงตอบทันควัน “เจ้า…เจ้าต้องช่วยข้าก่อน !หากเจ้าช่วยชีวิตข้า ข้าจะยอมบอกทุกเรื่องที่เจ้าอยากรู้”
เกอซียิ้มเยาะ นางมองเขาด้วยสายตาหยิ่งยโส
“ข้าไม่ตกลง !”
กล่าวจบเกอซีพลันหมุนกายหันกลับเดินจากไป ครั้นได้เห็นสีหน้าไร้ความอนาทรร้อนใจของนาง น่าหลานเยี่ยนหมิงพลันยิ่งตื่นตระหนกเขารีบสาวเท้าก้าวตามนางพลางร้องตะโกน “ข้าบอกแล้ว! บอกแล้ว ! สตรีในภาพนี้คืออันเหลิงเยว่ นางคืออนุของน่าหลานเจิ้งเจ๋อซึ่งปัจจุบันคือผู้นําแห่งตระกูลน่าหลาน”
น้ําเสียงของเขาเริ่มลดลงทีละน้อย หากทว่าท่าที่กลับยโสเมื่อเอ่ยกล่าว “และเจ้า เจ้าช่างดูคล้ายน่าหลานจื่ออวุ่นเด็กที่หายตัวไปจากตระกูลน่าหลานเมื่อสิบกว่าปีก่อน”
แม้ภายในใจของเกอซีจะหวั่นไหว ทว่าบนสีหน้ายังคงเรียบสงบเสียงของนางกล่าวเยาะเย้ยออกไป “น่าหลานจื่ออวุ่นกระนั้นหรือ ? เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กสามขวบที่เจ้าจะปั่นหัวหลอกเอาโดยง่า ยเช่นนั้นรี ? ทั่วทั้งเมืองเหยียนจิงแห่งนี้ผู้ใดบ้างไม่รู้ว่าคุณชา ยสามน่าหลานจื่ออวิ่นแห่งตระกูลน่าหลานถูกส่งไปฝากตัวเป็นศิษย์ในสํานักใหญ่มีชื่อกันเล่า ?”
“หากข้าคือน่าหลานจื่อออื่น เช่นนั้นผู้ที่ถูกส่งไปศึกษายังสํานักใหญ่คือผู้ใดกันเล่า ? ”
น่าหลานเยี่ยนหมิงยิ่งร้อนใจ นัยน์ตาคู่นั้นเผยความร้อนรน เขายังคงยืนกรานคําเดิม “เจ้าต้องเชื่อคําข้า เจ้าคือน่าหลานจื่ออวุ่นจริง ๆ เจ้าคือคนสกุลน่าหลาน หาไม่แล้วเหตุใดใบหน้าของเจ้าจึงละม้ายคล้ายอันเหลิงเยว่เช่นนี้เล่า ?”
เกอซีแค่เพียงยิ้มเยาะ “ใต้หล้า ผู้คนที่ละม้ายคล้ายกันปรากฏมากมายสิ่งนี้ล้วนเป็นเพียงภาพเขียนผืนหนึ่ง หากแต่เจ้ากลับหมายจะให้ข้าเชื่อถ้อยคําโป้ปดของเจ้าคิดว่าข้าเบาปัญญาถึงเพียงนั้นเชียวรึ ? ”
น่าหลานเยี่ยนหมิงเริ่มรู้สึกได้ว่าพิษในกายดูคล้ายจะกําเริบยิ่งเห็นเกอซีไม่เชื่อถ้อยคําของเขา น่าหลานเยี่ยนหมิงก็ยิ่งรู้สึกหวั่น
ในใจเขาคิดว่ารอให้หนุ่มน้อยหน้าเหม็นผู้นี้กลับเรือนตระกูลน่าหลานให้ได้เสียก่อน เขาจะจับมันมาทรมานให้สาสมมีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่จะช่วยลบล้างความรู้สึกอัปยศที่เขาได้รับในวันนี้ได้
ทว่าน่าหลานเยี่ยนหมิงย่อมไม่กล้าเผยความขุ่นเคืองผ่านใบหน้าของตนออกไป ลังเลอยู่ชั่วครู่เขาก็กัดฟันเผยความออกไป “ข้ามั่นใจว่าเจ้าคือคุณชายสามน่าหลานจื่ออวุ้นแห่งตระกูลน่าหลานเพราะ…เพราะน่าหลานจื่ออวุ่นอีกคนเป็นตัวปลอม มันคือคนที่ น่าหลานเจิ้งเจ่อคว้าตัวมาแทนเด็กคนนั้นนอกจากน่าหลานเจิ้งเจ๋อแล้วมีแค่เพียงข้ากับอาวุโสสามเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ !!”
ขณะที่น่าหลานเยี่ยนหมิงบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด ร่างของมันก็พลันล้มลงกลิ้งเกลือกกับพื้นด้วยความเจ็บปวดโลหิตดําคล้ําทะลักออกจากปากแผลทั่วร่าง ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าแน่ชัดแล้วว่าพิษโลหิตหลั่งสําราญในร่างของเขากําลังกําเริบขึ้นอย่างรุนแรง