หัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 356 ยินดีออกเรือนกับข้าหรือไม่ ?
หนานกงยวี่ตระกองกอดเกอซีอยู่นานครู่หนึ่ง จากนั้นเขาพลันค่อยๆคลายฝ่ามือที่เกาะกุม หยิกหยอกปลายจมูกนาง พลางเอ่ยถามด้วยน้ําเสียงแสร้งขุ่นเคือง “ยังจะกล้าพูด เจ้าทิ้งกระดาษไว้เพียงแผ่นเดียวแล้วหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าจะถูกสถานการณ์บังคับให้กระทําเช่นนั้นหรือไม่? จะให้ข้าคลายใจได้อย่างไร ?”
เกอซีก้มหน้ากระแอมสองคราด้วยความขัดเขิน ในตอนนั้นนางหมายจะมอบประสบการณ์อันโหดร้ายให้แก่เฟิ่งอวิ๋นจิ่ง และเฟิ่งเหลี่ยนอิ่งจึงไม่ทันคิดถึงเรื่องใด นางเร่งร้อนใจจึงทําเพียงรีบทิ้งข้อความไว้ให้พวกหนานกงยวี่ ยามนั้นนางมิได้คิดไตร่ตรองใดมากนัก
หวูอวี้ และกู้หลิวเฟิงหาได้ร้อนใจเหมือนหนานกงยวี่ ทว่าเมื่อทั้งคู่ได้เห็นเกอซีกลับมาอย่างปลอดภัย พวกเขาต่างก็ยินดี
ทว่าเมื่อคิดถึงกลุ่มผู้คนจํานวนมากที่หายลับกระเด็นออกจากอาณาจักรกําบังอย่างประหลาดเช่นนั้นหวูอวี้จึงอดเอ่ยถามไม่ได้ “แปลกมาก เขตแดนผนึกมังกรในอาณาจักรกําบังแห่งนี้กว้างใหญ่ยิ่งนัก หากมิใช่เป็นเพราะมีผู้เข้าควบคุมใจกลางอาณาจักรกําบังแห่งนี้ พวกมันทุกคนจะถูกส่งออกนอกเขตแดนได้อย่างไร ?”
“อย่าบอกนะว่าเกิดเหตุใดขึ้นกับอาณาจักรกําบัง ? หรือมีผู้สามารถครอบครองกระบี่ผนึกมังกรได้แล้ว?”
เป็นที่รู้กันโดยทั่วว่าเขตแดนผนึกมังกร คือสถานที่เก็บซ่อนกระบี่ผนึกมังกร ซึ่งหากผู้ใดสามารถชักกระบี่ด้ามนั้นออกมาได้ คนผู้นั้นย่อมสามารถเปิดและควบคุมอาณาจักรกําบังได้ทั่วเขตแดน
เกอซีเขียจมูกไปมาโดยมิได้เอ่ยกล่าวถ้อยคําใด
มังกรทองตัวน้อยกําชับนางไว้หนักหนาว่า ก่อนครอบครองกระบี่ผนึกมังกรได้นั้น จะต้องมิให้ผู้ใดล่วงรู้ได้ว่านางคือผู้ครอบครองอาณาจักรกําบังแห่งนี้ ทั้งความลับนี้จะต้องปกปิดให้มิด ไม่เว้นกระทั่งคนใกล้ชิดติดตัว
หาไม่ หากนางถูกสังหารจนสิ้นลม อาณาจักรกําบังทั้งหมดจะล่มสลาย ตลอดถึงมังกรทองตัวน้อยย่อมต้องเผชิญหน้ากับความตายอันโหดร้าย
หนานกงยวี่จ้องมองนัยน์ตาของเกอซีด้วยความรุ่มร้อนแผดเผา คล้ายที่สุดเขาพอจะคาดเดาได้ว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้น หากแต่แทนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยกล่าวสิ่งใด เขากลับยกมือขึ้นลูบศีรษะนาง พลางกล่าวด้วยน้ําเสียงอ่อนโยน “ซีเอ๋อ เจ้าอยากกลับตําหนักราชันมัจจุราชกับข้าหรือไม่?”
เกอซีสายหน้าด้วยสีหน้าบูดบึง เหตุใดเขาจึงชวนนางติดตามกลับตําหนักราชันมัจจุราช ?
“ข้าเพียงมาสะสางเรื่องบางเรื่องที่เทือกเขาฉางแห่งนี้เท่านั้น เมื่อทุกสิ่งเรียบร้อยแล้ว ข้าย่อมต้องกลับคืนสู่เรือนน้อย”
ไม่คิดฝันเลยว่าครานี้หนานกงยวี่จะไม่เหนี่ยวรั้งนางไว้ เขาผงกศีรษะ ทว่ายังคงเห็นความผิดหวังวาบผ่านนัยน์ตาคู่นั้น “เจ้ากลับเรือนย่อมเป็นการสมควร ข้าจะสั่งการให้อู่ซินคอยติดตามดูแลปกป้องเจ้า”
ในขณะที่หญิงสาวกําลังจะบอกปัด หนานกงยวี่กลับเหยียดยื่นฝ่ามือ ไล้เนินแก้มอุ่นของนางอย่างอ่อนโยน พลางกล่าวด้วยน้ําเสียงอ่อนเบานุ่มหู “ช่วงระยะนี้ ข้าคงไม่อาจมาพบเจ้าได้ เจ้าต้องเป็นเด็กดี ดูแลรักษาตนให้ดี รอกระทั่งข้ากลับมา เข้าใจหรือไม่ ?”
เกอซีกลับใช้ฝ่ามือตบใส่อีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ทว่ามิคิดเลยว่าเพียงนางฟาดมือลงไปกลับไม่เป็นเหมือนเช่นเคย เมื่อครานี้ชายหนุ่มกลับเหยียดฝ่ามือคว้ารางนางเข้าสู่อ้อมแขน
น้ําเสียงล้ําลึกบางเบาแฝงไว้ด้วยความอ่อนแอแอบออดอ้อนอยู่ในที่กระซิบข้างใบหู “ซีเอ้อ หากเรื่องนี้สิ้นสุดลงเมื่อใด เจ้า…เจ้าจะยินยอมสมรสกับข้าหรือไม่ ?”
เกอซีนิ่งค้าง คล้ายมีบางสิ่งจุกอยู่ที่คอหอย กระทั่งไม่อาจเปล่งน้ําเสียงออกไป
นางตระหนักดีว่ายามนี้หนานกงยวี่กําลังจะกระทําสิ่งสําคัญที่สุ่มเสี่ยงต่อภัยอันตรายอย่างยิ่งยวด เช่นนั้นถ้อยคําที่กล่าวเมื่อครู่จึงคล้ายน้ําเสียงสั่งอําลาเป็นคราสุดท้าย
แม้เกอซีอยากไถ่ถามว่าเขาคิดกระทําการใด ทว่าเมื่อได้เห็นแววตาที่เปล่งประกายร้อนระอุคู่นั้น หญิงสาวจึงจํากล้ํากลืนวาจาทั้งหมดที่หมายจะเอ่ยกล่าวกลับคืนลงลําคอไป
เกอชีหมุนธํามรงค์เวทในฝ่ามือเล่น ใบหน้าของนางเรียบเฉย น้ําเสียงไร้อารมณ์ความรู้สึก “ข้าไม่อาจรับคําร้องขอใดของเจ้า! หากเจ้าไปที่นั่น คงมีเพียงสวรรค์เบื้องบนล่วงรู้ว่าเจ้าจะสามารถกลับมาอยู่ตรงหน้าข้าได้อีกหรือไม่!”
เพียงอึดใจนางกลับโยนธํามรงค์เวทวงนั้นใส่ร่างของชายหนุ่ม พร้อมคํากล่าวเฉยเมยเย็นชา “ทุกสิ่งที่บรรจุอยู่ในธํามรงค์วงนี้ล้วนเป็นของเจ้า ข้าเชื่อมั่นว่ามันจะมีประโยชน์สําหรับเจ้า ไม่ว่าสิ่งที่เจ้าหมายมุ่งกระทําจะเป็นสิ่งใดก็ตาม !”
***จบตอน ยินดีออกเรือนกับข้าหรือไม่ ?*-*-*