สายตาแห่งความริษยาชำเลืองมองไปทางเกอซีคล้ายจะนึกบางสิ่งขึ้นได้น้ำเสียงที่หม่นมัวของนางดังขึ้น “เมื่อท่านผู้ดูแลโจวกระเสือกกระสนมาถึงนี่ย่อมอาจเป็นได้ว่าท่านล้วนต้องการรับช่วงเป็นผู้รับการสืบทอดวังจื่อจินเช่นกันถูกต้องหรือไม่ ? หากทว่าวังแห่งนี้ถูกเจ้าหนุ่มหน้าเหม็นนั่นฉกชิงไปด้วยกลวิธีอันน่ารังเกียจเสียแล้วท่านผู้ดูแลโจวเองก็ต้องการเป็นผู้รับช่วงสืบทอดมิใช่หรือ ?”
เพียงเมื่อได้ยินผู้ดูแลโจวกลับตกอยู่ในอาการงุนงงก่อนจะหันไปชำเลืองมองเด็กหนุ่มผู้ยังคงนั่งหลับตาโคจรพลังด้วยสายตาแห่งความเหลือเชื่อ
นายน้อยเคยกล่าวว่าผู้ที่มีคุณสมบัติรับช่วงสืบต่อวังจื่อจินได้ล้วนย่อมต้องมีทักษะพลังปราณไม่ต่ำไปกว่าขั้นที่ 4 ปฐพีสะท้านสะเทือน หากทว่าพลังฝีมือของคุณชายซีผู้นี้อยู่ในระดับขั้นที่ 1 ปฐมภูมิโลกันตร์อย่างแน่ชัดเหนือความคาดหมายเหลือเกินที่คนผู้นี้จะสามารถรับช่วงเป็นผู้สืบทอดได้เช่นนี้ ! อาจเป็นได้ที่ทักษะการรักษาของคุณชายซีผู้นี้นับได้ว่าสูงส่งล้ำเลิศถึงระดับขั้นที่อาจเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ ?
ครั้นเมื่อต้านต้านได้ยินเฟิ่งเหลียนอิ่งยังคงหาทางไส่ไคล้เกอซีอยู่เช่นนี้เจ้าตัวน้อยจึงอดไม่ได้ที่จะร้องตะคอกออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด “นางปีศาจร้ายคนเยี่ยงเจ้าย่อมไม่อาจแม้กระทั่งจะได้ออกเรือนพลังฝีมือของเจ้าล้วนเห็นได้ชัดว่าต่่ำต้อยกว่าท่านแม่ของข้าเช่นนั้นเจ้าจึงพ่ายแพ้ให้แก่ท่านแม่กระทั่งท่านปรมาจารย์จื่อจินยังเปรยว่าเจ้าด้อยทรามกว่าท่านแม่ คนใจหยาบเยี่ยงเจ้าย่อมมีเพียงเฝ้าคอยริษยาท่านแม่ของข้าทั้งยังคิดฉวยโอกาสลอบสังหารท่านแม่ขณะกำลังโคจรพลังเพื่อรับการสืบทอดครอบครองวังจื่อจินอีกด้วย ! เจ้ามันชั่วช้าสามานย์เจ้าคนไร้ยางอายคนอัปรีย์เยี่ยงเจ้านี้ย่อมได้พบจุดจบที่เลวร้ายอย่างแน่นอน !”
โจวเหยียนอันต้องงุนงงเมื่อได้ฟังคำปรามาสเป็นฉาก ๆ เหล่านั้นคุณชายซีเป็นบุรุษหากทว่าสัตว์เวทของเขากลับเรียกขานเขาว่า ‘ท่านแม่’ ?
หากทว่าเฟิ่งเหลียนอิ่งกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อยามนี้ทั้งร่างของนางกำลังสั่นสะท้านไปด้วยความฉุนเฉียวสายตาที่จ้องเขม็งมายังต้านต้าน และเกอซีเผยถึงแรงปรารถนาจะสับร่างของทั้งคู่ให้แหลกเป็นชิ้น ๆไม่เหลือดี
“โจวเหยียนอันหากเจ้ารู้การควรไม่ควรก็เลี่ยงหลบไปเสีย หาไม่แล้วข้าจะลงมือสังหารเจ้าพร้อมพวกมันเสียเลย !”
สิ้นสุดคำกล่าวตลอดทั่วทั้งร่างของหญิงสาวพลันระเบิดขุมพลังอันน่าสะพรึงกลัวเต็มไปด้วยความน่าเกรงขามคลื่นพลังนั้นตรงเข้าโอบล้อมร่างของโจวเหยียนอัน และต้านต้านไว้
ใบหน้าของท่านผู้ดูแลโจวซีดเผือดเขากระถดถอยกลับไป แสงเรืองรองที่สาดส่องผ่านป้ายยันต์อาคมป้องภัยในมือเจือจางลง
ในแววตาปรากฏให้เห็นความประหวั่นครั่นคร้าม ย่อมเป็นดังที่เทพธิดาบัวเยือกแข็งได้กล่าวไว้ อาศัยเพียงเม็ดโอสถที่นายน้อยมอบให้ เขาจึงสามารถเร่งผลักดันพลังฝีมือของตนให้บรรลุถึงขอบเขตพลังปราณระดับที่สี่ปฐพีสะท้านสะเทือนได้ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นไปเพื่อสามารถเข้าสู่อาณาจักรกำบังแห่งนี้เพื่อผลักดันตนเข้าสู่กระบวนการรับช่วงสืบทอดวังจื่อจิน
ระดับพลังฝีมือของเขาย่อมไม่อาจเทียบได้กับสตรีผู้อยู่เบื้องหน้าหนทางเลือกอันชาญฉลาดนั้นคือหลีกทางจากไปเสีย……
หากทว่า เพียงบุรุษผู้ดูแลโรงโอสถหันกลับมาสายตาชำเลืองเหลือบแลเห็นเกอซีผู้ยังคงนั่งอยู่ในท่าขัดสมาธิปลายขนตายาวงอนของหนุ่มน้อยผู้นั้นยังคงพริ้มเข้าหากันอย่างอ่อนโยนพวงแก้มเนียนกลมกลึงผิวพรรณละเอียดอ่อนเหนือผู้ใดนั้นเปล่งประกายเรืองรองระยิบใสกระจ่างคล้ายดั่งคนผู้นี้คือชิ้นหยกงามอันถูกสลักเสลาขึ้นอย่างประณีตบรรจง งดงามละเอียดอ่อนเหนือถ้อยคำพรรณนาใด
ภาพที่หนุ่มน้อยให้ความช่วยเหลือเด็กหนุ่มที่หมดสติหลับใหลในคราก่อนพลันผุดขึ้นในหัวแม้ยามนั้นหนุ่มน้อยผู้นี้ล้วนสามารถให้ความรู้สึกที่สูงส่งสง่างามรุ่งโรจน์เจิดจรัสเหนือผู้ใดโรคร้ายอันไม่อาจเยียวยารักษาได้ในใต้หล้ากลับกลายเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งภายใต้ฝ่ามือของคนผู้นี้
ไม่แน่ว่า บางที หากเป็นหนุ่มน้อยผู้นี้อาจมีหนทางเยียวยารักษา…….แม้ไม่อาจแน่ชัดมั่นใจ หากทว่าล้วนพอมีโอกาสพบเจอหนทาง ! อาจบางทีเขาต้องมีความเชื่อมั่นให้ยิ่งไปกว่านี้ คนผู้นี้อาจสามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้มากเกินกว่าความคาดหมายของเขา !
คิดเช่นนั้นโจวเหยียนอันกำหมัดแน่นด้วยดวงหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเชื่อมั่น “เทพธิดาบัวเยือกแข็งข้าล้วนเป็นผู้หนึ่งซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้เชิงโอสถพวกเราล้วนเป็นผู้ให้การเยียวยารักษาผู้อื่นสมควรมีจิตใจโอบอ้อมเอื้ออารีเปี่ยมเมตตา การกระทำทั้งสิ้นทั้งปวงล้วนจำต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานนี้ การที่ท่านหมายใจลงมือสังหารหนุ่มน้อยผู้นี้เพียงเพราะความเคียดแค้นชิงชัง หรือริษยาเช่นนี้ล้วนไม่คู่ควรกับการเป็นแพทย์ผู้ให้การรักษา ที่สุดในวันนี้ ผู้น้อยก็ได้ตระหนักซึ้งแล้วว่า เทพธิดาบัวเยือกแข็งที่ผู้คนทั้งหลายทั่วหล้าต่างยกย่องชื่นชมในกิตติศัพท์แห่งจิตใจบริสุทธิ์งดงามไร้มลทินประดุจชิ้นหยกงามดั่งโพธิสัตย์ผู้อารี แท้จริง หาได้เฉียดใกล้แม้เพียงนิดแห่งเศษเสี้ยวชื่อเสียงอันเลื่องลือเหล่านั้นไม่ !”
“เยี่ยม ! เยี่ยมมาก ! เมื่อเจ้าอยากตายนัก เช่นนั้นจงอย่าได้ตำหนิข้าที่ไร้ความปรานี !”
กล้ามเนื้อทุกชิ้นบนดวงหน้าของหญิงสาวสั่นระริก นัยน์ตาแดงก่ำประดุจโลหิตเนื่องด้วยความเกรี้ยวกราด อีกทั้งแรงริษยา ยามนี้ดวงหน้าที่งดงามแปรเปลี่ยนกลับกลายบิดเบี้ยวน่ากลัว ภาพลักษณ์ในยามนี้ได้ถอดทิ้งความงดงามที่เคยเป็นปกติของนางอย่างไม่หลงเหลือให้ได้แลเห็น
หากนี่คือเฟิ่งเหลียนอิ่งในสภาวะการณ์ปกติ แม้ต้องพบเจอกับสภาพการณ์เช่นไร นางล้วนสามารถควบคุมอารมณ์ของตน รักษาภาพลักษณ์อันสูงส่งสง่างามได้อย่างไร้ที่ติ
***จบตอน ไร้แรงกำลังต่อต้าน***