หัวโจก – ตอนที่ 50.แค่ไปขู่!

“ยัยจิงจิงเป็นคนทำ”

“ฮะ!”

“ฉันต้องกลับไปเรียนแล้ว ว่างๆ จะลองเข้าไปอ่านนะ แล้วค่อยคุยกัน”

“โอเค มีอะไรก็โทรมานะ ฉันอยู่ข้างเจ๊เสมอ”

โจวจิ้งกลับมานั่งเรียน ใจก็วิเคราะห์เรื่องที่มั่วลี่เล่าไปด้วย

ทำไมมั่วลี่ถึงคิดว่าคนโพสต์เป็นศัตรูของเถาม่าน ตามหลักแล้วควรเป็นศัตรูกับพวกเธอทั้งคู่ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวแบบนี้จะพลาดได้ยังไง

แล้วเธอก็ได้คำตอบอย่างรวดเร็ว

ช่วงนี้เพจของโรงเรียนไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหว ส่วนใหญ่จะเป็นกระทู้ของเด็กมัธยมสี่และห้า น้อยครั้งที่จะเขียนโดยเด็กมัธยมหกเพราะต่างคนต่างต้องเตรียมตัวสอบ

เมื่อเรื่องของเถาม่านถูกเขียนจึงกลายเป็นเรื่องโด่งดังในเพจและขึ้นอันดับหนึ่งในเวลาอันรวดเร็ว

เจ้าของกระทู้ไม่ได้เอ่ยชื่อโจวจิ้งหรือเถาม่าน เพียงใช้นามสมมุติว่านางสาว ก. และ นางสาว ข. ต่อให้โง่ขนาดไหนก็รู้อยู่ดีว่าผู้เขียนหมายถึงใคร

โพสต์ที่ว่าไม่ได้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพวกเธอ แต่เกี่ยวกับพ่อและแม่ที่กำลังจะหย่าร้าง ราวกับต้องการสร้างกระทู้นี้เพื่อทำลายเถาม่าน

เริ่มด้วยการเล่าว่าได้รับข่าวจากวงในที่รู้เหตุการณ์เป็นอย่างดี บอกด้วยว่าเถาจิงเข้าหาโจวฉีเทียนก็เพราะเงินทั้งที่มีสามีอยู่แล้วใส่ร้ายว่าเถาจิงเป็นผู้หญิงเสแสร้ง ทำตัวเป็นคนมีการศึกษาแต่เบื้องลึกไม่ต่างจากหญิงขายบริการ โจวฉีเทียนจึงขอหย่าเพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว

เถาจิงเคยมาประชุมผู้ปกครองสองครั้ง เธอเป็นคนมีเสน่ห์และหน้าตาดีมาก ซ้ำยังเป็นแม่ของเถาม่านที่โด่งดังในหมู่นักเรียนอีกบางคนจึงออกมาคอมเมนต์ปกป้องเธอ บอกว่าเถาจิงดูไม่น่าจะใช่คนอย่างที่เจ้าของกระทู้เล่า

“แม่ของเถาม่านสวยมาก ดูยังไงก็ไม่ใช่คนแบบนั้น!”

น้อยคนนักที่จะช่วยแก้ต่าง ส่วนใหญ่จะซ้ำเติมมากกว่า

“มีแม่แบบไหน ลูกสาวก็แบบนั้นแหละ! เถาม่านเองก็แย่งหลินเกาจากโจวจิ้งไม่ใช่เหรอ?”

อ่านถึงตรงนี้ โจวจิ้งก็รู้สึกเพลียเพราะเธออุตส่าห์อยู่เฉยๆ แล้วยังถูกพาดพิงอีก

น่าแปลกที่กระทู้นี้ไม่ได้พูดถึงเธอในทางลบแต่กลับโจมตีเถาม่านคนเดียว แถมยังวิจารณ์ราวกับเป็นคนในครอบครัว แรกๆ ยังไม่มีคนเชื่อ แต่สักพักก็เริ่มคอมเมนต์ด่า

โจวจิ้งปิดมือถือด้วยความระอาเพราะรู้ดีว่าจิงจิงเป็นคนทำ ก่อนหน้านี้เธอพยายามตีตัวออกห่างแล้ว พออีกฝ่ายรู้ตัวจึงวางแผนทำลายเถาม่านแทน

ที่เถาม่านโดนเล่นงานสืบเนื่องจากบทสนทนาของจิงจิงกับหลินเกาวันก่อน เธอเข้าใจว่าหลินเกายังรักเถาม่านอยู่จึงแก้แค้นด้วยวิธีสกปรก ถ้าวันนี้จิงจิงเข้าใจว่าหลินเกาชอบโจวจิ้ง กรรมคงตกที่
โจวจิ้งเช่นกัน

เถาจิงเป็นคนแบบไหนไม่รู้ แต่ที่โจวจิ้งรู้คือโจวฉีเทียนไม่ใช่คนโง่ ถ้าเถาจิงไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีเขาคงไม่ยอมแต่งงานด้วย แถมเธอยังเป็นคนสมบูรณ์พร้อมอีก ถ้าเขาจะหย่าคงเพราะเหตุผลส่วนตัวไม่ใช่อย่างที่ในกระทู้บอกแน่นอน

อย่างไรก็ดี การที่จิงจิงเอาเรื่องในครอบครัวของคนอื่นมาเขียนแบบนี้ โจวจิ้งจะไม่ทนอีกต่อไป

ใจจริงเธอยากจะจ้างแฮกเกอร์สักคนมาล่มเว็บของโรงเรียน เพราะการถูกเอาเรื่องส่วนตัวมาเผยแพร่ในที่สาธารณะย่อมไม่เป็นการดี เพราะทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่สมควรถูกรุกราน

แต่การอยู่ในร่างนี้ก็ยากที่จะหาแฮกเกอร์มาช่วย หลังคิดอยู่นานจึงตัดสินใจส่งข้อความไปหามั่วลี่และเจ้าเขียว ซึ่งทั้งคู่ก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

เจ้าเขียว : ได้เลยลูกพี่ ต้องเตรียมอะไรก็บอกมา

มั่วลี่ : ลุยๆๆ เจอกันหลังเลิกเรียน

หลังเลิกเรียน โจวจิ้งเก็บกระเป๋าอย่างรวดเร็วจนหยวนคังฉีสงสัย

“ไม่กินข้าวด้วยกันเหรอ?”

“มีธุระ ไปก่อนนะ”

จะหาเรื่องทั้งทีต้องให้มืออาชีพอย่างมั่วลี่และเจ้าเขียวจัดการดีกว่าชวนหยวนคังฉีหรือเฮ่อซวินเยอะ

หลังลงจากตึก เธอก็พบกับเจ้าเขียวและมั่วลี่ที่ยืนพิงกำแพงรอนานแล้ว

พอเห็นโจวจิ้งเดินมาหา มั่วลี่ก็ขยี้หัวตนเอง “เจ๊ทำสีผมแบบนี้ฉันใจไม่ดีเลย ไปซื้อวิกสามสีมาใส่แก้ขัดก่อนดีไหม?”

โจวจิ้งส่ายหน้า “ไม่อยากกลับไปเป็นสัญญาณไฟจราจรแล้ว”

“ไม่ได้ต่อสู้มานาน ไม่ค่อยมั่นใจเลย พวกเราไปเรียกคนมาเพิ่มดีไหม?” เจ้าเขียวเสนอ

“ใครบอกว่าจะไปต่อสู้?” โจวจิ้งขำ

“ไม่ต่อสู้แล้วจะไปทำอะไร ไปคุยด้วยเหตุผลงั้นเหรอ?” มั่วลี่ทำหน้าผิดหวัง

“เหตุผลใช้ไม่ได้กับคนแบบนั้นหรอก” โจวจิ้งตอบ

“สรุปว่าเราจะไปทำอะไรกัน?” เจ้าเขียวทำหน้างง

“แค่ไปขู่!”

 

ห้องซ้อมเปียโนของโรงเรียนอยู่ชั้นบนสุดของตึกดนตรี ซึ่งด้านในสุดคือห้องที่ดีที่สุดและจัดไว้สำหรับเด็กห้องกิฟต์โดยเฉพาะ

โจวจิ้งไม่มีความรู้ด้านดนตรีคลาสสิก ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในห้องกำลังเล่นเพลงอะไร รู้เพียงว่าเสียงที่ได้ยินเพราะเสนาะหูมาก

“แปะๆๆๆๆ” เธอปรบมือหลังการบรรเลงหยุดลง

จิงจิงลุกขึ้นแล้วหันมองด้วยความตกใจ หน้าซีดเผือด ยิ่งเห็นว่าเจ้าเขียวและมั่วลี่มาด้วยก็ถึงกับผงะถอยหลัง

“พวกเธอมาทำอะไรที่นี่?”

โจวจิ้งยิ้มตอบ “แค่ผ่านมาเลยอยากชวนไปกินข้าวด้วย ทำไม… เดี๋ยวนี้ไม่ต้อนรับฉันแล้วเหรอ?”

“ปะ… เปล่า” จิงจิงยิ้มเจื่อน

“งั้นก็ดี” โจวจิ้งหันไปหาเจ้าเขียวที่มองซ้ายมองขวาอยู่ “สำรวจครบหรือยัง?”

“มีอันหนึ่งอยู่ตรงนี้” เจ้าเขียวตอบอย่างรวดเร็วพร้อมกับชี้กล้องวงจรปิดตรงมุมห้อง

โจวจิ้งยักคิ้วแล้วหันไปหามั่วลี่ต่อ “จัดการ!”

พอได้ยินคำสั่งมั่วลี่ก็ลากจิงจิงไปที่มุมอับ

จิงจิงพยายามดิ้นรนจากการควบคุมของอีกฝ่าย แต่ความบึกบึนของมั่วลี่ก็ทำให้เรื่องนี้ไม่ง่าย อีกอย่างคนที่กำลังลากเธอก็มีสีหน้ายิ้มแย้มไม่ได้ดูเหี้ยมโหดอะไร เหมือนเพื่อนจูงมือเพื่อนไปหาที่ลับตาคนเพื่อเล่าความลับกันเฉยๆ

“อย่าคิดจะโวยวาย!” โจวจิ้งเตือน “เพราะฉันไม่รับประกันความปลอดภัย!”

“พวกเธอคิดจะทำอะไร?” จิงจิงถามเสียงสั่น

“คิดจะทำการใหญ่ก็ต้องแอบทำในที่ลับตาคนสิ จริงไหม?”โจวจิ้งถามกลับ

จิงจิงเม้มปากแน่น ไม่ยอมตอบคำถาม

“สุดยอดไปเลยลูกพี่!” เจ้าเขียวยกนิ้วโป้งให้โจวจิ้ง

“ถอดกระโปรงยัยนี่แล้วถ่ายรูปลงกระทู้ดีไหม?” มั่วลี่เสนอ

จิงจิงเบิกตากว้างด้วยความกลัว ก่อนจะพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของมั่วลี่แต่ก็ไม่สำเร็จ

“นี่มันผิดกฎหมายนะ พวกเธอจะบ้าหรือไง?!”

“สิ่งที่ฉันจะทำต่างจากที่เธอทำตรงไหน?” โจวจิ้งส่ายหน้าด้วยความระอา “ขนาดรู้ว่าผิดกฎหมายก็ยังกล้าทำ!”

“กลัวกับเขาเป็นด้วยเหรอ?” มั่วลี่ถามต่อ

จิงจิงกัดปากแน่นไม่ยอมตอบแม้แต่คำเดียว

“อย่าทำหน้าน่าสงสารใส่ฉัน ฉันไม่แพ้มุกนี้หรอก!” พูดจบโจวจิ้งก็หันไปถามเจ้าเขียว “เจอหรือยัง?”

“อยู่นี่ไง!” เจ้าเขียวยกแล็ปท็อปขึ้นโชว์

ทุกวันจิงจิงจะอยู่ซ้อมเปียโนจนดึก โจวจิ้งจึงไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกลับไปทำเรื่องนี้ที่หอพัก

“บอกรหัสผ่านมา!” เธอออกคำสั่ง “ถ้าไม่บอกฉันจะเอาไปส่งร้าน ไม่ก็ให้อาจารย์สอนคอมพิวเตอร์เปิดให้!” โจวจิ้งพูดอย่างเหลืออด

ได้ยินประโยคนี้ จิงจิงก็จำใจบอกรหัส

หลังเปิดเครื่องได้ โจวจิ้งก็หัวเราะเสียงดังลั่น “โอ้โห ติดตามสถานการณ์ยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยเหรอเนี่ย หน้าจอยังค้างอยู่ที่เดิมเลยคงสนุกมากสินะ!”

“แล้วไง?” จิงจิงสวนกลับ

“ก็ไม่แล้วไงหรอก” โจวจิ้งควักมือถือขึ้นถ่ายหน้าจออย่างละเอียด “ถ้ารูปพวกนี้ถูกปล่อย ทุกคนก็จะรู้ว่าเธอเป็นคนโพสต์คนโรคจิตที่อ้างว่ารู้จักเถาจิงนานกว่ายี่สิบปีอีก!”

“คิดว่าจะมีคนเชื่อคำพูดของเธอเหรอ?” จิงจิงแสยะยิ้ม

“ทำไมฉันต้องอยากให้คนอื่นมาเชื่อ แค่พวกนั้นเชื่อว่าเธอเป็นนังตอแหลก็พอแล้ว!” โจวจิ้งยักไหล่

มั่วลี่กดจิงจิงให้นั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนโจวจิ้งก็เดินไปกอดอกพิงเปียโน

“สาวสวยน่ารักที่ใครๆ ก็ชื่นชอบอย่างเธอทำไมถึงแทงข้างหลังคนอื่นได้เลือดเย็นขนาดนี้ เรียกว่านังตอแหลยังเบาไป!” โจวจิ้งก้มมองเล็บของตัวเอง “เธอกับเถาม่านต่างก็เป็นคู่แข่งด้านการเรียน แต่ไม่มีใครรู้ว่าเธอแอบคั่วหลินเกาอยู่ด้วย ถ้าฉันเฉลยรับรองว่าเธอไม่มีที่ยืนแน่ โดยเฉพาะข้างๆ หลินเกา!”

พอได้ยินชื่อของหลินเกา จิงจิงก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม “เธอเองก็เกลียดเถาม่านเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? มาวันนี้กลับเสแสร้งทำเป็นดี ทุเรศ!”

“เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับฉัน?” โจวจิ้งเดินเข้าไปบีบคางอีกฝ่าย “เธอเอาเรื่องในบ้านของฉันมาประจานเหมือนพวกพ่อแม่ไม่สั่งสอน บุญเท่าไหร่แล้วที่ฉันไม่จับเธอแก้ผ้าถ่ายรูปประจานลงกระทู้ของโรงเรียน!”

ประโยคนี้ทำจิงจิงหุบปาก ไม่กล้าเถียงต่อ

“ลบกระทู้แล้วโพสต์ชี้แจงด้วย ภายในคืนนี้ต้องเสร็จ!” โจวจิ้งยกยิ้มมุมปาก “เธอโพสต์ได้ ฉันก็โพสต์ได้ ถ้าอยากให้ช่วยเปิดตัวเธอกับหลินเกาต่อสาธารณชนก็เอา!”

เธอส่งสัญญาณให้มั่วลี่ปล่อยจิงจิง โดยมีเจ้าเขียวแยกเขี้ยวข่มขวัญอย่างรู้งาน

จิงจิงนั่งหมดแรงอยู่บนเก้าอี้ จ้องโจวจิ้งอย่างโกรธแค้น

“อย่าคิดจะแก้แค้นเชียวนะ ฉันเป็นคนแบบไหนเธอย่อมรู้ดี!” โจวจิ้งพูดเตือนสติ

หลังออกจากตึกดนตรี เจ้าเขียวกับมั่วลี่ก็ยืนเงียบทั้งคู่

“เป็นอะไร ยืนอึ้งทำไม ไปกินข้าวกัน” โจวจิ้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“วันนี้ลูกพี่ดูน่ากลัวมาก” เจ้าเขียวพูดเสียงเบา

“ไม่สนุกเลย ไม่ได้ขยับไม้ขยับมือ” มั่วลี่ทำหน้าผิดหวัง

“ขืนลงไม้ลงมือกับคนแบบนั้น คงถูกกัดไม่ปล่อย แค่ขู่ให้สงบก็พอแล้ว”

“แล้วถ้าหล่อนยังหาเรื่องอีกจะทำยังไง?” เจ้าเขียวถามต่อ

“อีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบกันแล้ว หล่อนคงไปหาเรื่องคนอื่นต่อ ส่วนฉันก็ลอยตัว”

“เจ๊ออกหน้าให้เถาม่านขนาดนั้น ไม่กลัวถูกแก้แค้นเหรอ?”มั่วลี่ถามด้วยความเป็นห่วง

หัวโจก

หัวโจก

หัวโจก
Score 5.9
Status: Ongoing Released: N/A
อ่านนิยายเรื่อง หัวโจกชาติที่แล้วโจวจิ้งวัยสามสิบเอ็ด พกความซวยมาเต็มพิกัด อุตส่าห์เกิดมาเรียนดี ดันยากจน! อุตส่าห์หลุดจากคานได้แต่งงานมีผัว อ้าวผัวมีกิ๊ก! อุตส่าห์ท้อง กลับตายทั้งกลมในห้องคลอด ดราม่าสุด ๆ! สวรรค์ต้องการอะไรจากฉัน…หา?! ด้วยความรู้สึกผิด สวรรค์เซอร์วิสจึงส่งเธอไปเกิดใหม่ โจวจิ้งตื่นมาในร่างสก๊อยสาวผมทองวัยสิบแปดที่ตกบันไดหัวกระแทกพื้น เพราะตบตีแย่งเด็กผู้ชายห้องกิฟต์ที่ไม่ได้หล่ออะไรเลย เจ้าของร่างนี้เงินก็ไม่มี หัวก็ขี้เลื่อย แถมยังมีศัตรูรอเช็กบิลเป็นหางว่าว มีดีอย่างเดียว… นมบึ้ม! เรื่องราวการเอาชีวิตรอดในรั้วโรงเรียนมัธยมปลาย และวีรกรรมปราบเด็กแสบของอดีตป้าวัยสามสิบเอ็ด จึงเริ่มต้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset