ตอนที่ 242 มีดบาด
คุณแม่ลั่วต้องเปิดปากพูด ลั่วเซ่าเชินถึงยอมขยับ เขาหยิบแอปเปิลมาจากตะกร้าหนึ่งลูก เมิ่งชิงซีหยิบมีดออกจากลิ้นชักแล้วส่งให้เขา “เซ่าเชิน รบกวนด้วยนะคะ แต่คุณปอกให้คุณป้าทานก่อนเถอะค่ะ ฉันรอได้”
เมิ่งชิงซีมองตรงไปยังลั่วเซ่าเชิน ไม่ใช่ว่าเธอไม่ร้อนใจ แต่เธอแค่ต้องอดทนเท่านั้น เธอรอได้
ลั่วเซ่าเชินปอกผลไม้เงียบๆ คุณแม่ลั่วและเมิ่งชิงซีก็คุยกัน เมิ่งชิงซีมองลั่วเซ่าเชินอยู่ตลอด ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาไม่สามารถปกปิดได้
คุณแม่ลั่วมองเมิ่งชิงซีแล้วก็รู้สึกนับถือในจิตใจยึดมั่นนี้ เธอรู้ว่าเมิ่งชิงซีรักเขาไม่เปลี่ยน ก่อนหน้านี้เมิ่งชิงซีเคยบอกว่าจะปล่อยลั่วเซ่าเชินกับถังโจวโจวไป จะไม่ไปยุ่งวุ่นวายอีก คุณแม่ลั่วมองว่าเมิ่งชิงซีใช้ใจกับเธอและตระกูลลั่ว แตกต่างจากถังโจวโจวที่ใช้แต่พิษสง
“อาเชิน แม่ไม่ได้จะขอร้องอะไรมาก ขอแค่ให้ลูกหย่ากับถังโจวโจว แล้วแม่จะยกโทษให้เธอ”
“อ๊ะ เซ่าเชิน มือของคุณบาดเจ็บแล้วค่ะ ฉันจะไปเรียกพยาบาลมานะคะ” เมื่อเมิ่งชิงซีร้องเตือน ลั่วเซ่าเชินถึงพบว่ามือของตัวเองมีเลือดไหลออกมา เขาปอกผลไม้ไม่ระวัง มีดบาดเสียแล้ว
คุณแม่ลั่วเห็นลั่วเซ่าเชินเป็นแผลเพราะตัวเอง ก็ร้อนรนรีบลุกจากเตียง “อาเชิน มือลูกเป็นยังไงบ้าง ไม่เป็นไรใช่ไหม” คุณแม่ลั่วไม่คิดว่าลั่วเซ่าเชินโตขนาดนี้แล้วจะบาดเจ็บเพราะมีดปอกผลไม้ได้ หรือเป็นเพราะคำพูดของเธอเมื่อครู่นี้?
ถังโจวโจวมีผลกระทบต่อใจเขามากจริงๆ คุณแม่ลั่วรู้สึกไม่พอใจถังโจวโจวขึ้นมาอีกที่เธอมีความสำคัญต่อลั่วเซ่าเชินขนาดนี้
เมิ่งชิงซีเรียกพยาบาลมาจากข้างนอก เมื่อพยาบาลเห็นว่ามือของลั่วเซ่าเชินมีแผลแค่เล็กน้อยเท่านั้น ก็คิดว่าเมิ่งชิงซีทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่พอเห็นว่าลั่วเซ่าเชินช่างเป็นคนที่โดดเด่นน่ามอง เธอจึงระงับความโกรธของตัวเองลงและทำแผลให้ลั่วเซ่าเชิน
“เอาละ ระวังอย่าให้โดนน้ำนะคะ”
พยาบาลทำแผลให้ลั่วเซ่าเชินเสร็จแล้วก็ออกไป เธอเพียงลอบมองลั่วเซ่าเชินเป็นครั้งคราว เพราะถ้าแฟนของเขารู้ว่าเธอมีความคิดอื่นๆ ในหัว เธอจะต้องซวยแน่ๆ เธอเป็นพยาบาลที่มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย ต้องแยกแยะให้ชัดเจน
“เซ่าเชิน ทำไมไม่ระวังเลยล่ะคะ เดี๋ยวฉันปอกต่อให้นะ?” เมิ่งชิงซีเห็นมือของลั่วเซ่าเชินมีแผลก็ไม่อยากให้ลั่วเซ่าเชินจับมีดอีก และในใจเธอก็รู้สึกเจ็บปวดราวกับเป็นแผลเสียเอง
“ไม่เป็นไร เมื่อกี้แค่เหม่อ คุณไปนั่งคุยเป็นเพื่อนคุณแม่เถอะ เดี๋ยวแอปเปิลก็ปอกเสร็จแล้ว” สาเหตุที่ลั่วเซ่าเชินต้องบาดเจ็บ เพราะคุณแม่ลั่วพูดถึงถังโจวโจวขึ้นมา เขาตกใจจึงไม่ได้ระวัง
ใช่ว่าคุณแม่ลั่วไม่อยากพูดซ้ำอีก ตอนนี้เมิ่งชิงซีเอาความสนใจทั้งหมดไปอยู่กับอาการบาดเจ็บของลั่วเซ่าเชิน แล้วตอนนี้ลั่วเซ่าเชินก็กำลังปอกผลไม้อยู่ ถ้าคุณแม่ลั่วพูดถึงถังโจวโจวขึ้นมาอีก เธอก็กลัวว่ามีดจะบาดมือลั่วเซ่าเชินอีกครั้ง หากเป็นอย่างนั้นคุณแม่ลั่วก็ต้องปวดใจกว่าใคร
ลั่วเซ่าเชินเห็นคุณแม่ลั่วไม่พูดถึงถังโจวโจวอีก ในใจก็โล่งอก ไม่พูดถึงก็ดี ลั่วเซ่าเชินไม่อยากได้ยินเรื่องหย่า เขาไม่อยากจบความสัมพันธ์กับถังโจวโจว
เขารู้ทันความหมายในประโยคนี้ของคุณแม่ลั่ว ที่อยากให้เขาหย่ากับถังโจวโจว หลังจากนั้นคงจะต้องให้เขาแต่งงานกับเมิ่งชิงซี แต่เมิ่งชิงซีเป็นผู้หญิงร้ายกาจอย่างนี้ เขาจะปล่อยลั่วอิงไว้กับเธอได้อย่างไร
“แม่ครับ แอปเปิลปอกเสร็จแล้ว ผมจะหั่นให้เป็นชิ้นๆ นะครับ ชิงซี ช่วยหยิบจานมาให้ผมที”
ตอนที่ 243 รับไม่ได้
“ค่ะ เซ่าเชิน ฉันจะหยิบให้เดี๋ยวนี้”
เมิ่งชิงซีไปหยิบจานใส่ผลไม้มายื่นให้ลั่วเซ่าเชิน ลั่วเซ่าเชินเอาแอปเปิลที่หั่นใส่จาน เมิ่งชิงซีเสียบไม้จิ้มฟันทีละอัน “คุณป้าคะ ชิมเร็วค่ะ นี่เป็นแอปเปิลที่เซ่าเชินตั้งใจปอกให้คุณป้านะคะ”
เมิ่งชิงซีเห็นลั่วเซ่าเชินหยิบมีดขึ้นมาอีกครั้งและหยิบแอปเปิลออกมาจากตะกร้า จึงรีบบอกว่า “เซ่าเชิน ไม่ต้องปอกแล้วล่ะค่ะ ฉันไม่อยากกินแล้ว คุณพักเถอะ”
เมิ่งชิงซีเห็นมือลั่วเซ่าเชินบาดเจ็บ ก็ไม่สามารถทนได้หากต้องเห็นลั่วเซ่าเชินปอกผลไม้ให้เธอต่ออีก
คุณแม่ลั่วเห็นลั่วเซ่าเชินไม่ได้เป็นอะไรมาก ความปวดใจเมื่อครู่จึงกลายเป็นความโกรธ “ชิงซี ไม่ต้องไปห้าม ให้อาเชินปอกไปเถอะ ป้าเชื่อว่าถ้าป้าไม่พูดถึงถังโจวโจวอีก เขาก็คงจะไม่ทำมีดบาดแล้วล่ะ”
เมื่อฟังคำพูดของคุณแม่ลั่วแล้ว ลั่วเซ่าเชินก็ไม่ได้โต้แย้ง เพราะเมื่อครู่เขาคิดถึงถังโจวโจวอยู่จริง แล้วแผลนี้มันก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งหมดที่คุณแม่ลั่วพูดมาล้วนถูกต้องแล้ว
เมิ่งชิงซีได้ยินชื่อถังโจวโจว สีหน้าก็ดูเศร้าไปไม่น้อย “เซ่าเชินคะ ฉันรู้ว่าคุณยังคิดถึงถังโจวโจว เพียงแต่คุณก็ต้องคิดถึงตัวเองด้วยนะคะ ถ้าเกิดคุณทำให้มือบาดเจ็บขึ้นมาอีก ฉันก็คงไม่กล้ากินแอปเปิลอีกแล้วล่ะค่ะ”
น้ำเสียงของเมิ่งชิงซีมีแต่ความจริงใจ ในสายตาคุณแม่ลั่วมีแต่ความไม่พอใจลั่วเซ่าเชิน ดูเหมือนตอนนี้เมิ่งชิงซีจะเป็นลูกสาวของเธอ ส่วนลั่วเซ่าเชินก็เป็นเพียงคนอื่น
“อาเชิน ชิงซีเป็นห่วงลูกขนาดนี้ แต่ในใจลูกกลับมีแต่ผู้หญิงอย่างถังโจวโจว ลูกคู่ควรกับความรักที่เมิ่งชิงซีมีให้ลูกมากกว่านะ”
“แม่ครับ เรื่องนี้มันใช้วิธีคิดแบบนี้ไม่ได้นะครับ” ลั่วเซ่าเชินรู้สึกว่าคุณแม่ลั่วพูดแต่เรื่องไร้สาระ ชอบคิดแต่อะไรอย่างนี้ ถ้าเมิ่งชิงซีชอบเขา เขาต้องรับรักหรือ? บนโลกนี้มีผู้หญิงตั้งมากมายที่ชอบเขา เขาต้องแต่งงานด้วยทั้งหมดไหม?
แน่นอนว่าเขาไม่โง่พอที่จะพูดสิ่งที่คิดออกมาต่อหน้าแม่ของเขา และทำให้คุณแม่ลั่วโกรธขึ้นมา
คุณแม่ลั่วยังไม่ยอมแพ้ “ชิงซี หนูช่วยไปเรียกพยาบาลมาให้ป้าหน่อยได้ไหม น้ำเกลือป้าใกล้จะหมดแล้ว”
เมิ่งชิงซีเห็นว่าน้ำเกลือคุณแม่ลั่วหายไปเพียงหนึ่งในสี่ เธอรู้แล้วว่าคุณแม่ลั่วหาข้ออ้าง แต่เธอก็ยังคงยิ้มออกมาเป็นปกติ “ได้ค่ะคุณป้า ฉันจะไปเรียกให้ค่ะ เซ่าเชิน อยู่เป็นเพื่อนคุณป้าก่อนนะคะ อย่าเพิ่งพูดอะไรให้ท่านโกรธ”
คุณแม่ลั่วเห็นเมิ่งชิงซีออกไปจากห้องแล้วก็พูดขึ้นทันที “อาเชิน ชิงซีดีกับลูกขนาดนี้ ลูกไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอเลยหรือ”
“แม่ครับ ไม่ใช่ว่าใครดีกับผม แล้วผมจะต้องดีตอบทุกคน และถ้าแม่จะให้ผมแต่งกับเธอ ผมก็ต้องบอกว่าคงจะไม่ได้ แม่ไม่คิดถึงหลานสาวของแม่หน่อยหรือครับ”
“ทำไมแม่จะไม่คิดถึงลั่วอิง” คุณแม่ลั่วรู้สึกว่าคำพูดนี้ของลั่วเซ่าเชินไม่มีเหตุผล เธอเป็นย่าของลั่วอิงนะ แล้วจะไม่หวังดีกับหลานได้อย่างไร
“จิตใจของเมิ่งชิงซีไม่เหมาะกับลั่วอิง ผมจะไม่มีวันส่งตัวลูกให้ผู้หญิงคนนั้นดูแลแน่นอนครับ” ลั่วเซ่าเชินพูดจนทำให้เมิ่งชิงซีที่ยืนแอบฟังอยู่ข้างนอกเจ็บปวด
เมิ่งชิงซีจับประตูแน่น เมื่อครู่เธอรู้ว่าคุณแม่ลั่วต้องมีเรื่องอะไรจะพูดกับลั่วเซ่าเชิน ดังนั้น เธอจึงไม่ได้ไปไกล เพราะอยากฟังว่าคุณแม่ลั่วจะคุยอะไรกับลั่วเซ่าเชิน
ที่แท้ก็พูดเรื่องเธอจริงๆ เมิ่งชิงซีรู้สึกว่าความพยายามของเธอไม่สูญเปล่า แต่น่าเสียดายที่ลั่วเซ่าเชินกลับเป็นคนไม่มีความรู้สึก ทำเป็นไม่รับรู้ว่าใจเธอคิดอย่างไร ทั้งๆ ที่ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา
“ชิงซีเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีมาก ถังโจวโจวของลูกต่างหากที่เป็นคนไม่ดี อาเชิน ใจของลูกบอดหรือไง” คุณแม่ลั่วเห็นลั่วเซ่าเชินไม่ตอบ อยู่ๆ เธอก็หายใจอย่างรวดเร็วและจับหน้าอกไว้แน่น