ตอนที่ 262 อุดปาก
“เซ่าเชิน คุณรีบปล่อยฉัน” ถังโจวโจวดิ้นรน มือของลั่วเซ่าเชินบีบแน่นจนเธอเจ็บไปหมด
“ไม่ปล่อย คุณบอกไม่ใช่เหรอว่าจะไปหาผู้ชาย ทำไมผมต้องปล่อยด้วย” ลั่วเซ่าเชินจับมือเธอแน่น ยิ่งบีบแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาเห็นว่าเธอเจ็บ แต่เขาไม่อยากปล่อยมือ เพราะตอนนี้เขารู้สึกไม่ปลอดภัยเอามากๆ
ถังโจวโจวเห็นลั่วเซ่าเชินมีท่าทางไม่เหมือนในยามปกติ หรือเธอจะพูดอะไรผิดไปเลยทำให้เขากลายเป็นแบบนี้
“เซ่าเชิน ฉันเจ็บจังเลย” ถังโจวโจวตัดสินใจใช้ไม้อ่อนก่อน อีกอย่างเธอก็เจ็บมากจริงๆ นั่นแหละ ลั่วเซ่าเชินคิดถึงแต่ตัวเอง ไม่สนใจความรู้สึกของเธอเลยสักนิด
เมื่อลั่วเซ่าเชินได้ยินว่าถังโจวโจวเจ็บก็ค่อยๆ คลายมือออกและมองข้อมือของถังโจวโจว เมื่อเห็นเป็นรอยช้ำแดง ลั่วเซ่าเชินก็อยากจะขอโทษ แต่ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีจึงทำได้แค่เงียบ
ถังโจวโจวนวดมือที่เพิ่งถูกลั่วเซ่าเชินบีบ แววตาของลั่วเซ่าเชินฉายแววรู้สึกผิด แต่เขาไม่ยอมพูดอะไรออกมา ตอนนี้ถังโจวโจวไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่จึงทำได้แค่ถาม “เซ่าเชิน เมื่อกี้ทำไมคุณถึงโกรธเหรอ เพราะฉันรึเปล่า”
ถังโจวโจวรู้สึกว่าตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เดิมทีควรจะเป็นเธอที่โกรธ แต่นี่กลับเป็นลั่วเซ่าเชินที่โกรธแทน และเธอก็ยังไม่รู้ว่าเขาโกรธเรื่องอะไรอีกด้วย
“ถังโจวโจว ถ้าคุณกล้าหนีผมไปหาผู้ชายคนอื่น ผมจะต้องสั่งสอนไอ้ผู้ชายคนนั้นแน่” เมื่อลั่วเซ่าเชินคิดว่าถังโจวโจวหลบหน้าตน แถมยังบอกอีกว่าจะไปหาผู้ชายคนอื่น ทันใดนั้นก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
“ฉันพูดตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าจะไปหาผู้ชายคนอื่น” ถังโจวโจวรู้สึกว่าไม่มีเหตุผลเลย เธอพูดแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน…แต่ดูเหมือนว่า เมื่อกี้เธอเพิ่งจะพูดไปใช่ไหมนะ
ถังโจวโจวจึงเข้าใจว่าทำไมลั่วเซ่าเชินถึงเอะอะโวยวายแบบนี้ ที่แท้เพราะเธอพูดไปแบบนั้นนี่เอง ถังโจวโจวอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“เซ่าเชิน ฉันไม่เคยเห็นด้านนี้ของคุณมาก่อนเลย” เมื่อเห็นสีหน้าเปื้อนยิ้มของถังโจวโจว ลั่วเซ่าเชินก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังขำอะไร เพียงแต่รู้สึกว่าถังโจวโจวจะต้องกำลังขำเขาอยู่แน่
“หยุดหัวเราะนะ” ลั่วเซ่าเชินรู้สึกเสียหน้า ทำไมถึงให้ถังโจวโจวเห็นด้านนี้ของเขาได้นะ
แต่เดิมถังโจวโจวก็ไม่ฟังคำพูดเขาอยู่แล้ว เอาแต่ยิ้มหัวเราะและทำท่าจะหัวเราะหนักขึ้นกว่าเดิม ลั่วเซ่าเชินคิดอยากอุดปากของเธอไว้ แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ภายใต้ความกดดันจึงทำได้แค่ใช้ปากตัวเองอุดปากเธอไว้
“อุ๊บ…” ถังโจวโจวเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มเข้ามาชิด รับรู้ได้ถึงสัมผัสบนริมฝีปากถึงได้รู้ว่าตัวเองถูกลั่วเซ่าเชินจูบเข้าเสียแล้ว ลั่วเซ่าเชินอุดปากเธอไว้ ไม่ยอมให้เธอพูดอะไรออกมาได้แม้แต่คำเดียว
ลิ้นซอกซอนเข้าไปสำรวจ ถังโจวโจวอยากผลักเขาออกแต่กลับถูกลั่วเซ่าเชินล็อกมือเอาไว้ ร่างกายค่อยๆ อ่อนระทวยลง ถังโจวโจวรู้สึกว่าเรี่ยวแรงในร่างกายกำลังถูกลั่วเซ่าเชินดูดไป หลังจากการจูบผ่านพ้นไป ถังโจวโจวก็หน้าแดง ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาราวกับเพิ่งถูกคนมอบความรักมาหยกๆ อย่างนั้น
เธอหายใจหอบ เหมือนจะกลัวว่าลั่วเซ่าเชินจะเข้ามาใกล้อีก เมื่อลั่วเซ่าเชินถอยห่างจากเธอเธอจึงใช้มือปิดปากตัวเองไว้ ลั่วเซ่าเชินเลียริมฝีปากชิมรสชาติที่หอมหวาน ท่าทางที่มองถังโจวโจวนั้นราวกับจับจ้องศัตรูและกำลังรอคอยโอกาสให้อีกฝ่ายเผลอก็ไม่ปาน
“ยังจะกล้าขำผมอีกไหม ผมไม่ถือสาที่จะจูบคุณอีกครั้งหรอกนะ” อย่างไรเสียเขาก็ไม่ขาดทุนอยู่แล้ว ถังโจวโจวมองเจตนาร้ายกาจของลั่วเซ่าเชินออก เธอรีบส่ายหน้าพัลวัน “อย่านะ อย่าทำอีกนะ”
ตอนที่ 263 เอ่ยความในใจ
ลั่วเซ่าเชินเห็นถังโจวโจวมีท่าทางเชื่อฟังดีก็พอใจ ตอนนี้เขาเองก็ไม่ควรทำตัวรุ่มร่ามอีก คิดถึงเรื่องที่ถังโจวโจวปรากฎตัวขึ้นในบาร์อย่างน่าสงสัย เขาจึงเอ่ยปากถาม “คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
“แล้วคุณล่ะ” ถังโจวโจวถามอย่างไม่เกรงกลัว
ถ้าอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เขาก็ควรจะบอกเรื่องของเขากับเธอก่อน ลั่วเซ่าเชินรู้ว่าถ้าเขาไม่ยอมอธิบายออกมาก่อน ถังโจวโจวคงไม่ยอมพูดแน่ ดังนั้นเขาจึงอธิบายกับเธอเสียงเบา
“ผมมาคุยธุรกิจกับเจียงรุ่ยเฉิน หลังจากนั้นเขาก็ชวนมาดื่ม ผมก็ตกลง แต่ไม่คิดว่าเขาจะพาหันฮุ่ยซินกับเหวินมั่นมั่นมาด้วย ผมเพิ่งมาถึงได้ไม่นานเท่านั้นเอง”
ลั่วเซ่าเชินกลัวถังโจวโจวเข้าใจผิด เพราะอย่างไรตรงนั้นก็มีผู้หญิงตั้งสองคน อย่างไรก็ต้องเกี่ยวข้องกับเขาไม่น้อย
หันฮุ่ยซินคือแฟนเก่าของเขา และเหวินมั่นมั่นเคยมีความรู้สึกดีๆ ต่อเขา และไม่รู้ว่าถังโจวโจวรู้เรื่องนี้หรือเปล่า อย่างไรก็ควรพูดให้ชัดเจนก่อนจะดีกว่า เกิดถังโจวโจวหึงหวงขึ้นมาจะไม่ดี
“เป็นแบบนี้จริงๆ เหรอ” ถังโจวโจยังรู้สึกสงสัยอยู่ เขาและเจียงรุ่ยเฉินคุยธุรกิจอะไรต้องมาร้านเหล้าด้วย แต่เมื่อก่อนลั่วเซ่าเชินเองก็ไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ถังโจวโจวจึงยังเชื่อว่าเขาไม่มีความคิดแบบนี้
“แน่นอน โจวโจว ตอนนี้คุณบอกผมได้รึยังว่ามาที่นี่ทำไม” หลังจากลั่วเซ่าเชินอธิบายจบแล้วก็ถามเธอกลับทันที
ถังโจวโจวคิดถึงซูอวิ๋นเสี่ยวขึ้นมา ตอนนี้ยังบอกเรื่องนี้กับเซ่าเชินไม่ได้ เซ่าเชินต้องไม่ยอมแน่ “ฉันออกมาเที่ยวกับเพื่อนคนหนึ่งน่ะคะ ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณที่นี่ อาการป่วยของคุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ”
ถังโจวโจวเองก็ไม่อยากจะพูดถึงคุณแม่ลั่วขึ้นมาหรอก แต่ในใจของเธอคิดเรื่องของคุณแม่ลั่วอยู่ตลอด กลัวว่าคุณแม่ลั่วจะเกิดเรื่อง ลั่วเซ่าเชินยังไม่ได้รับอนุญาตให้พาเธอไปเยี่ยมคุณแม่ลั่ว ยกเว้นว่าเขาจะได้ยินเรื่องของคุณแม่ลั่วจากปากลั่วอิง ถังโจวโจวเองก็ไม่มีหนทางอื่นที่จะสามารถรับรู้ข่าวสารของคุณแม่ลั่วได้เลย
เมื่อพูดถึงคุณแม่ลั่ว ใบหน้าเปื้อนยิ้มของลั่วเซ่าเชินก็จางลงไม่น้อย “ดีนะ ตอนนี้ร่างกายค่อยๆ ฟื้นฟูแล้วล่ะ” ลั่วเซ่าเชินคิดถึงเงื่อนไขที่คุณแม่ลั่วเสนอก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ถังโจวโจวเห็นเขามองเธออย่างเหม่อลอยและเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมองเขาเขาก็หลบตา เขาเป็นอะไร เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่เหรอ “เซ่าเซิน คุณมีเรื่องอะไรอยากบอกฉันไหม”
“ไม่มี” ลั่วเซ่าเชินตอบอย่างรวดเร็ว ถังโจวโจวไม่เชื่อ แต่ลั่วเซ่าเชินไม่ยอมพูด เธอเองก็บังคับเขาไม่ได้
“เซ่าเซิน ฉันรู้สึกว่าครั้งนี่ที่ฉันออกมา ความสัมพันธ์ของพวกเราดูเหมือนจะจางหายไปไม่น้อยเลย” ลั่วเซ่าเชินยังไม่เชื่อเธอใช่ไหม ที่จริงในใจเขาโทษเธอใช่ไหม เธอทำร้ายแม่ของเขา ไม่ว่าอย่างไรในใจของเขาก็คงเกิดเป็นปมในใจขึ้นแน่
ถ้าวันนั้นไม่ใช่วันที่เธออาสาส่งข้อความหาเขา เขาคงลืมไปแล้วใช่ไหมว่าเธอเป็นภรรยาของเขา หรือเมิ่งชิงซีต่างหากที่เขาต้องการ
ลั่วเซ่าเชินไม่ได้ยินถังโจวโจวตัดพ้อมานานมากแล้ว ถังโจวโจวอยู่คนเดียวคงเลี่ยงไม่ให้คิดมากไม่ได้ เธอรู้สึกว่าลั่วเซ่าเชินไม่เชื่อใจเธอเลย สุดท้ายเขาก็ส่งเธอกลับบ้านตัวเองแถมไม่พูดอะไรสักคำ แถมนานขนาดนี้แล้วลั่วเซ่าเชินยังไม่เคยมาหาเธอเลยสักครั้ง
“ที่ไหนกัน คุณว่างเกินไปแล้วถึงได้คิดมากแบบนี้” ลั่วเซ่าเชินไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้คุณแม่ลั่วกำลังโกรธ เขาไม่สามารถพาถังโจวโจวไปรับเคราะห์ได้ ตอนนี้เรื่องก็เกิดไปแล้ว สุขภาพของคุณแม่ลั่วก็ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ลั่วเซ่าเชินต้องทำก็คือทำให้คุณแม่ลั่วหายโกรธให้ได้