ตอนที่ 422 ความเที่ยงตรงของคุณปู่
“วางใจเถอะ ทางบ้านตระกูลเมิ่งเดี๋ยวผมจัดการเอง ผมเชื่อว่าถ้าคุณปู่เมิ่งรู้ว่าเมิ่งชิงซีทำเรื่องอะไรไว้ จะต้องไม่เข้าข้างเธอแน่ เพราะผมรู้ว่าท่านเป็นคนเที่ยงตรง”
การแสดงออกของลั่วเซ่าเชินแสดงให้เห็นถึงความชื่นชม ถังโจวโจวรู้ว่าเขาจะต้องเคารพคุณปู่เมิ่งคนนี้จริงๆ เพียงแต่คนที่มีความเที่ยงตรงเที่ยงธรรม เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเรื่องของคนในครอบครัว จะเกิดลังเลขึ้นมารึเปล่า
“ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไร วางใจเถอะ คุณปู่เมิ่งจะไม่ทำแบบนั้นแน่ เรื่องงานแต่งงานของผมกับเมิ่งชิงซีที่ตัดสินกันได้อย่างรวดเร็วนั้นก็ต้องขอบคุณท่าน” ในเรื่องนี้ ลั่วเซ่าเชินคิดว่าเขาและถังโจวโจวต้องขอบคุณเมิ่งซงอวิ๋น
“ดูเหมือนว่าท่านคงเป็นคนที่เที่ยงตรงจริงๆ นะคะ” เพราะสามารถตัดใจทิ้งเรื่องการแต่งงานของบ้านตระกูลเมิ่งและบ้านตระกูลลั่วได้ เรื่องการแต่งงานของเมิ่งชิงซีและลั่วเซ่าเชินเป็นเพราะผู้ใหญ่ทั้งสองฝั่งกระตือรือร้นที่จะให้เกิดขึ้น ความหวังของรุ่นต่อไปอยู่ที่คนสองคนนี้ เมิ่งซงอวิ๋นสามารถตัดมันทิ้งได้ก็คุ้มค่าที่จะให้ถังโจวโจวชื่นชมแล้ว
“ว้าย” เสียงร้องของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากด้านหลังของพวกเขา ลั่วเซ่าเชินเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขาเหมือนจะอยู่ในห้องน้ำหญิงนานมากแล้ว ผู้หญิงคนเมื่อครู่คงไม่ได้คิดว่าเขาเป็นพวกโรคจิตไปแล้วหรอกนะ
“เซ่าเซิน ดูเหมือนว่าวันนี้คุณจะถึงคราวซวยแล้วล่ะ พวกเรารีบไปกันเถอะ อีกเดี๋ยวถ้ามีคนมาจะโดนเข้าใจผิดเอา” ถังโจวโจวรู้สึกว่าน่าขำดี เพราะในชีวิตนี้ของลั่วเซ่าเชินคงไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน
“คุณยังกล้าหัวเราะเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมจะกลายเป็นแบบนี้ไหม” ลั่วเซ่าเชินไม่สนว่าใครจะหัวเราะหรือไม่หัวเราะ เพียงแค่ให้ถังโจวโจวปลอดภัยก็พอแล้ว
“ได้ๆ ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรหัวเราะ ฉันขอโทษคุณจากใจจริง เซ่าเซิน ฉันขอโทษ โอเคไหม” คำพูดขอโทษที่เพิ่งพูดจบไปนั้น แค่ถามว่าเขาให้อภัยไหม คำขอโทษของถังโจวโจวนี้ความจริงใจสักนิดก็ไม่มี แต่ลั่วเซ่าเชินก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ มันคือความสุขของชีวิตคู่ ถ้าจริงจังมากไปคงเป็นเขาเองที่ไม่ปกติ
พอออกมาจากห้องน้ำแล้ว ทั้งสองคนก็ตรงไปที่งานเลี้ยง ลั่วเซ่าเชินไม่อยากพาถังโจวโจวไปเจอพวกเมิ่งชิงซีให้ยุ่งยาก ตอนนี้ไปคาดคั้นอะไร พวกเธอก็คงไม่ยอมรับ ยังไม่สู้เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อน
พอเมิ่งชิงซีมองเห็นลั่วเซ่าเชินประคองถังโจวโจวเข้ามาในงานก็กำมือแน่น จนกลางฝ่ามือปรากฏรอยเล็บ
ฉินอวิ๋นเห็นความผิดปกติของเมิ่งชิงซีจึงเข้าไปเอ่ยเตือน “ชิงซี ลูกไม่ควรใจร้อน ใครหลายคนกำลังมองลูกอยู่ หรือลูกอยากให้พ่อของลูกลำบากใจ”
ฉินอวิ๋นให้ความสำคัญกับชื่อเสียงตัวเองที่สุด หลังจากที่รู้ว่าเธอสามารถอยู่ในสังคมชั้นสูงนี้ คบค้าสมาคมกับกลุ่มเพื่อนและมีชื่อเสียงอันดีงามได้ ถ้าถูกเมิ่งชิงซีทำลายลงไปตอนนี้ เธอไม่แน่ใจว่าจะสามารถให้อภัยเธอได้ไหม
“แม่ ทำไมต้องให้หนูเห็นอะไรแบบนี้ด้วย ตอนแรกทำไมคุณปู่ต้องยอมด้วย” ตอนนี้เมิ่งชิงซีเกลียดทุกคน ใครที่ขัดขวางเธอกับลั่วเซ่าเชิน เธอจะไม่ให้อภัยมันแน่
เมิ่งไหวเซินปราดเข้ามาตรงหน้า เมิ่งชิงซียังไม่สามารถทำอะไรถังโจวโจวได้ ทำได้เพียงโยนความผิดทั้งหมดให้กับเมิ่งซงอวิ๋น
“ชิงซี อาอวิ๋น พวกเธอเป็นอะไรไป” เมิ่งไหวเซินมองดูภรรยาและลูกสาวของเขาที่ดูผิดปกติไป ทั้งสองมองไปทางเซ่าเซินอยู่ตลอดเวลา “นี่กำลังมองอะไรน่ะ”
ฉินอวิ๋นได้ยินเมิ่งไหวเซินถามเลยกลัวว่าเขาจะสงสัย “ไหวเซิน ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณก็รู้ว่าลูกสาวคุณปล่อยวางไม่ได้ ครั้งนี้เธอเห็นลั่วเซ่าเชินก็คงจะหวั่นไหวไปบ้าง”
เมื่อพูดถึงปัญหานี้ เมิ่งไหวเซินก็ไม่ได้ถามอะไรอีก สิ่งที่แย่ที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้สำหรับลูกสาวของเขา คือการที่เธอใช้อารมณ์มากเกินไป
ชัดเจนแล้วว่าควรปล่อยวางทั้งหมดให้เร็ว แต่เธอจงใจที่จะไม่ปล่อย ทำให้ทั้งครอบครัวต้องลำบาก ตอนนี้เมิ่งไหวเซินเริ่มรู้สึกรู้สึกผิดที่แรกเริ่มเชื่อฟังคำของฉินอวิ๋นให้เมิ่งชิงซีไปตามตื๊อลั่วเซ่าเชิน ปกติถูกเมินใส่ยังไม่พอใจอีกเหรอ
“ชิงซี ลูกก็ควรจะปล่อยวางได้แล้ว นี่ก็ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว เดี๋ยวพ่อจะแนะนำคนหล่อๆ ให้ลูกได้รู้จัก” เมิ่งไหวเซินนึกถึงหุ้นส่วนทางธุรกิจของตัวเอง ครอบครัวของพวกเขาเองก็มีคนหนุ่มหล่อเหลาอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ตอนที่ 423 กระตุ้น
เห็นเมิ่งชิงซีไม่หันกลับมาแม้แต่น้อย เอาแต่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของฉินอวิ๋น ในเมื่อลูกสาวไม่ฟังคำแนะนำ เมิ่งไหวเซินก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องพูดอีกต่อไป
เวลาของเขามีค่ามาก นอกจากนี้หัวหน้าครอบครัวก็ไม่ได้พูดเล่น จะยอมให้เมิ่งชิงซีทำให้เขาเสียหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้อย่างไร
สายตาของเมิ่งไหวเซินมองไปทางถังโจวโจวอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขาเพียงคิดว่ารู้สึกคุ้นหน้าเด็กผู้หญิงคนนี้ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเธอคือใคร
เมิ่งไหวเซินพูดสิ่งที่สงสัยออกมาทันที “เธอเป็นใคร”
“ไหวเซิน คุณกำลังพูดอะไร คุณถามว่าเธอคือใครเหรอ” ฉินอวิ๋นได้ยินจึงรีบถามกลับทันที เมิ่งไหวเซินส่ายหัว รู้ว่าคุณแม่ฉินอวิ๋นไม่เคยเจอถังโจวโจวมาก่อน ถ้าเกิดบอกพวกเธอไปคงแย่แน่ๆ
ถังโจวโจวรู้สึกว่ามีคนมองเธออยู่ตลอดจึงหันมองไปรอบๆ เพื่อมองหา แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ความรู้สึกนี้ก็ยังไม่จางหายไป ทำให้เธอรู้สึกว่าเหมือนโดนจ้องมองอยู่
“เซ่าเซิน คุณรู้สึกว่ามีคนกำลังมองคุณอยู่บ้างไหม”
“ไม่นะ มีอะไรรึเปล่า” ลั่วเซ่าเชินมองดูรอบๆ แล้วก็ไม่เห็นว่ามีใคร ถังโจวโจวมองผิดไปหรือเปล่า
“งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันคงเข้าใจผิดไป” ถังโจวโจวก็ไม่เห็นว่ามีอะไรน่าสงสัย
ฟังหยวนแนะนำหลินเหยากับทางบ้านของเขาและญาติกระกูลฟัง อย่างที่ฟังหยวนพูด คุณพ่อฟังคุณแม่ฟังสำหรับเธอนั้นไม่มีอะไรยาก ทั้งสองคนยิ้มให้เธอตลอด ไม่ได้แสดงออกว่ามีเจตนาร้ายอะไร
แต่หลินเหยาคิดว่าคุณพ่อฟังคุณแม่ฟังอาจจะดีกับเธอแค่ตอนอยู่ต่อหน้าของฟังหยวนเท่านั้น อาจจะต้องรอให้ฟังหยวนออกไปหรืออยู่กันแค่สามคนก่อน พวกท่านถึงจะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา แต่หลังจากนั้นก็ได้พิสูจน์ได้ว่าหลินเหยาคิดมากไปแล้ว
งานเลี้ยงสิ้นสุดลง ถังโจวโจวกลับถึงบ้าน เสี่ยวอวี่ก็นอนไปแล้ว ถังโจวโจวอยู่ในห้องนอนแขกของคุณแม่ถัง นั่งมองลูกชายของตัวเองแต่ก็ไม่ได้อุ้มเขากลับห้อง ในเมื่อเขาหลับสนิทขนาดนี้ก็คงไม่ต้องเคลื่อนย้ายเขาอีก ให้นอนหลับกับคุณแม่ถังเธอก็วางใจ
เมื่อลั่วเซ่าเซินกลับมาถึงห้องถังโจวโจวก็อยู่บนเตียงแล้ว สายตาจดจ้องอยู่ที่โทรศัพท์มือถือ ขนาดเขาเข้ามาก็ยังไม่รู้สึกตัว
เมื่อร่างของเขาขึ้นไปอยู่บนเตียงแล้ว เธอถึงจะเงยหน้าขึ้นมา “คุณทำอะไรนะ ตกใจหมดเลย” ถังโจวโจวพบว่ามีเงาดำสายหนึ่งเข้ามาถึงจะรู้สึกตัวว่าลั่วเซ่าเชินกำลังนั่งอยู่ข้างๆ เธอ ตอนที่เขาเดินมาทำไมเธอถึงไม่ได้ยินเสียงนะ ตกใจแทบแย่
“ก็เพราะเห็นว่าคุณกำลังมีสมาธิอยู่ไง เลยไม่ได้ส่งเสียงรบกวนคุณ” ลั่วเซ่าเชินไม่ผิด เขาเพียงแค่หวังดีเฉยๆ ที่ไหนได้ถังโจวโจวมองความปรารถนาดีของเขาเป็นเจตนาร้ายไปเสียนี่ นี่ทำให้เขาเสียใจอยู่บ้าง
“แหม หาข้ออ้าง แล้วไปดูลั่วอิงหรือยังคะ”
“อืม กล่อมเธอให้หลับไปแล้วล่ะ” ลั่วเซ่าเชินลูบผมของถังโจวโจว มองดูใบหน้าที่เงียบสงบของเธอ ทันใดนั้นก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมา ถ้าหากแก่ตัวไปแล้วยังสามารถอยู่กับถังโจวโจวต่อไปได้แบบนี้ คิดๆ แล้วก็คงจะเป็นเรื่องที่หวานล้ำมากเรื่องหนึ่ง
“คุณรีบไปอาบน้ำเร็ว ดึกแล้ว เดี๋ยวต้องนอนแล้ว” พรุ่งนี้เขายังต้องทำงาน ถ้าไม่รีบนอนเดี๋ยวก็ไปทำงานไม่ไหวอีก
“ยังไม่ดึก โจวโจว คุณอยากนอนแล้วเหรอ” ลั่วเซ่าเชินได้ยินเธอพูดถึงเรื่องนอนหลับก็อดเลี่ยงคิดไปถึงอีกเรื่องหนึ่งไม่ได้ เขาคิดว่าตัวเขาเองเป็นคนที่มีความอดทนมาก ตั้งแต่ที่ถังโจวโจวกลับมากับเขาจนถึงวันนี้ เขายังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ” ถังโจวโจวกอดอกอย่างระแวดระวัง เธอฟังน้ำเสียงของลั่วเซ่าเชินแล้วใจไม่ดีเลย คงไม่ใช่อย่างที่เธอคิดใช่ไหม
“โจวโจว หรือคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าวันนี้เสี่ยวอวี่ไม่อยู่พอดี พวกเราจะได้มีเวลาทำเรื่องของพวกเราไง” เมื่อลั่วเซ่าเชินนึกขึ้นมาได้เสี่ยวอวี่นอนกับคุณแม่ถังก็ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นจนทั้งร่างอดสั่นระริกไม่ได้
“เซ่าเซิน วันนี้ดึกมากแล้ว รีบนอนเถอะ” มองดูลั่วเซ่าเชินที่นัยน์ตาวิบวับ ถังโจวโจวจึงรีบขัดขึ้น นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ใกล้ชิดกับลั่วเซ่าเซิน เธอเลยกลัวนิดหน่อย สามารถถ่วงเวลาได้มากเท่าไหร่เธอก็จะทำ
“โจวโจว คุณไม่คิดจริงๆ เหรอ ผมอยากให้คุณคิดนะ” ลั่วเซ่าเชินคนนี้ไม่อาจถูกกระตุ้นได้แม้เพียงนิด ตอนนี้เขาหยุดมันไม่ได้แล้ว