ตอนที่ 446 อยากออกไป
“ทำไมคะ แม่คะแม่รีบยัดเงินให้พวกเขาสักนิดหน่อย พวกเขารับเงินไปก็จะได้ปล่อยหนูไป หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” เมิ่งชิงซีไม่ต้องการประสบกับการเมินเฉยจากคนในนี้ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เธอควรจะอยู่
เธอชอบยืนอยู่ที่สูงๆ เพลิดเพลินกับการเป็นจุดสนใจของทุกคน รสชาติแบบนั้นต่างหากถึงจะเป็นสิ่งที่เมิ่งชิงซีควรได้รับ ไม่ใช่มาอยู่ในที่แบบนี้ แค่เห็นสายตาของพวกเขา นี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการแล้ว
“ชิงซี ไม่ใช่ว่าแม่ไม่อยากพาลูกออกไปนะ แม่ก็อยากยัดเงิน แต่พวกเขาไม่รับ แม่จะทำยังไง” ฉินอวิ๋นหมดหนทาง เธอเชื่อมาตลอดว่าแค่ใช้เงินก็ไม่มีเรื่องอะไรที่ทำไม่ได้ ก่อนหน้านี้ก็เป็นการยืนยันได้ว่าความคิดนี้ของเธอนั้นถูกต้อง
แต่ตอนนี้เรื่องนี้ของเมิ่งชิงซี ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ เธอมีเงินแต่กลับทำอะไรไม่ได้ คนอื่นก็ไม่ยอมรับเงิน ทำให้ฉินอวิ๋นต้องเจอประสบกับความยากลำบาก
“แม่คะ แม่คิดหาวิธีสิคะ ให้พ่อมา พ่อต้องมีวิธีแน่” ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแบบนี้เมิ่งชิงซีพยายามทำทุกอย่าง ขอแค่เอาเธอออกไปได้ ให้เธอจ่ายเท่าไหร่เธอก็ยอม
“พ่อของลูกเขา….” ฉินอวิ๋นเห็นเมิ่งชิงซีดูกังวลเลยพูดประโยคนี้ออกไปไม่ได้ ตอนนี้จะไปซ้ำเติมรอยแผลเธอได้ยังไงกัน
“พ่อทำไมคะ” เมิ่งชิงซีเห็นฉินอวิ๋นพูดไม่จบประโยคก็จับมือเธอไว้แน่น ตอนนี้ฉินอวิ๋นเป็นความหวังเดียว เธอไม่มีทางยอมปล่อยไปแน่ ไหนเลยจะยังคิดถึงเรื่องที่เคยอารมณ์เสียใส่ฉินอวิ๋นก่อนหน้านี้
“พ่อของลูกบอกแล้วว่า เรื่องของลูกเขาจะไม่ยุ่ง ชิงซี ลูกก็อย่าร้อนใจไป แม่จะให้น้าสะใภ้น้าเขยของลูกช่วยคิดหาวิธี แม่จะต้องหาทนายที่ดีที่สุดมาช่วยว่าความให้ลูกชนะให้ได้”
ฉินอวิ๋นกลัวว่าการกระทำของเมิ่งไหวเซินจะทำร้ายใจของเมิ่งชิงซีจึงรีบเอ่ยเสริมไปหลายประโยค บางทีเธอควรลองไปหาน้องสาวของตัวเองให้ช่วยคิดหาวิธีดู ก่อนหน้านี้ช่วยเธอไปตั้งเยอะ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องช่วยเธอกลับบ้าง
“แม่คะ พ่อหมายความว่ายังไง หรือหนูไม่ใช่ลูกของพ่อหรือไง” เมิ่งชิงซีไม่คิดว่าเมิ่งไหวเซินไม่เพียงไม่มาเยี่ยมเธอ ยังไม่ยอมช่วยเหลือเธอด้วย เธอใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อไหม หรือเธอถูกเก็บมาเลี้ยง
“ชิงซี ลูกเป็นลูกของคุณพ่อแน่นอนจ๊ะ เพียงแต่ตอนนี้พ่อของลูกโกรธมาก ผ่านไปอีกสักพักก็จะดีขึ้นเอง ลูกทนอีกหน่อยนะ แม่จะมาเยี่ยมลูกบ่อยๆ” ฉินอวิ๋นเองก็หมดหนทาง เมิ่งไหวเซินบอกแล้วว่าจะไม่มาเยี่ยมก็คือจะไม่มา เมิ่งชิงซีร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
“แม่คะ ถ้าหนูออกไปได้หนูจะไม่ปล่อยถังโจวโจวไว้แน่ ทั้งหมดเป็นเพราะมัน” เมิ่งชิงซีรับรองกับฉินอวิ๋น แม้ว่าจะปวดใจกับการกระทำของเมิ่งไหวเซิน เพียงแต่ตอนนี้สิ่งสำคัญคือต้องออกไปให้ได้ก่อน นอกจากนั้นตอนนี้เธอเองก็ไม่มีกำลังพอที่จะไปงัดข้อกับบิดาได้
“ชิงซี ทำไมลูกยังพูดอย่างนี้อยู่อีก แม่ก็อยากให้ถังโจวโจวเกิดเรื่องเร็วๆ แต่ลูกเองก็ได้รับบทเรียนแล้ว ตอนนี้ลั่วเซ่าเชินคอยหนุนหลังเธออยู่ ถ้าไม่มีลั่วเซ่าเชินช่วย ครั้งนี้ลูกจะต้องเจอปัญหาอย่างนี้เหรอ”
ฉินอวิ๋นคิดดูแล้วก็รู้ว่าเมิ่งชิงซีไปแตะโดนจุดต้องห้ามของลั่วเซ่าเชินเข้าเสียแล้ว หล่อนนึกสงสารลูกสาวที่ตอนนี้ยังดูไม่ออกอีก ผู้ชายล้วนเชื่อไม่ได้สักคน นับประสาอะไรกับที่ใจของผู้ชายคนนี้ไม่ได้อยู่ที่เธอด้วยแล้ว
“แม่คะ ต้องไม่ใช่เพราะของพี่เซ่าเชินแน่นอน ต้องเป็นถังโจวโจว มันต้องเป่าหูพี่เซ่าเชิน ไม่อย่างนั้นพี่เซ่าเชินจะใจร้ายกับหนูขนาดนี้ได้ยังไง” เมิ่งชิงซีไม่อยากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เธอยอมทำตัวเป็นเต่าหดหัวเสียยังดีกว่า
ฉินอวิ๋นเห็นว่าเมิ่งชิงซีไม่ยอมเปลี่ยนความคิด ลั่วเซ่าเชินปฏิบัติต่อเธอนั้นชัดเจนอยู่แล้ว เธอยังไม่ยอมแพ้อีก ลั่วเซ่าเชินมีอะไรดีนัก ถึงมีค่าพอให้เมิ่งชิงซียอมทำทุกอย่าง
“ได้ แม่จะไม่เถียงกับลูกแล้ว ลูกอยู่ที่นี่ไปก่อน แม่จะต้องช่วยลูกออกมาให้ได้”
“ถึงเวลาแล้ว เมิ่งชิงซี เธอควรกลับได้แล้ว”
เจ้าหน้าที่หญิงเดินมาตรงหน้าเมิ่งชิงซีแล้วใส่กุญแจมือให้เธอ เมิ่งชิงซีรู้ว่าไม่มีเวลาแล้วจึงทำได้แค่พูดย้ำกับฉินอวิ๋น “แม่คะ แม่จำไว้นะ ชีวิตหนูขึ้นอยู่กับแม่แล้วนะ”
เมื่อเมิ่งชิงซีถูกลากออกไป เสียงของเธอก็ค่อยๆ จางหายไป ฉินอวิ๋นยังคงอยู่ที่เดิมมองอยู่นาน หล่อนกลั้นน้ำตาไม่ไหวน้ำตาจึงไหลออกมา ลูกสาวของเธอจะต้องได้กลับมาอยู่กับเธอ เธอจะไม่ยอมให้คนต่ำช้าพวกนั้นทำร้ายลูกสาวของเธอได้
ตอนที่ 447 ไปขอให้ฉินเหยียนช่วย
ฉินอวิ๋นตรงไปที่บ้านตระกูลเสิ่นเพื่อหาฉินเหยียน ฉินเหยียนเห็นพี่สาวตัวเองมาก็บอกให้เธอนั่งลงทันที “พี่คะ วันนี้ทำไมถึงมีเวลามาได้ล่ะ”
แม้ว่าฉินเหยียนจะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของฉินอวิ๋น แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้เจอกันบ่อยๆ ต่างคนต่างก็มีสังคมเป็นของตัวเอง วันนี้ดูเหมือนว่าฉินอวิ๋นถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็คงไม่มาหาเธอ
ฉินเหยียนครุ่นคิดวนไปมาแต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา เธอแต่งานกับเสิ่นเยี่ยนมาตั้งหลายปีแล้วจึงเรียนรู้ท่าทางมาได้นิดหน่อย พี่สาวคนนี้ไม่ใช่คนที่เห็นเธอเป็นคนสำคัญที่สุดอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้คนที่เธอรักมากที่สุดก็คือลูกสาวของเธออย่างชิงซีต่างหาก
“อาเหยียน พี่จะไม่พูดกับเธอให้มากมายนะ เธอเป็นน้าของชิงซีเพราะงั้นต้องช่วยหลานนะ ตอนนี้ชิงซีถูกคนใส่ร้ายจนติดคุกแล้ว” ฉินอวิ๋นพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหล ชิงซีเองก็ช่างไม่รู้ความ ทำไมต้องไปต่อกรกับลั่วซ่าเซินด้วย
ก่อนหน้านี้ลั่วเซ่าเชินไม่รู้เรื่องก็ช่างเถอะ ตอนนี้ถูกเขาจับได้แล้ว ยังโดนเขาบันทึกเสียงไว้ด้วย ทำไมลูกสาวของเธอถึงโง่อย่างนี้นะ
“พี่คะ พี่หมายความว่ายังไง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับชิงซี”
หากจะพูดถึงความสัมพันธ์ของฉินเหยียนกับเมิ่งชิงซีจะว่าดีก็ไม่ใช่ไม่ดีก็ไม่เชิง หลานสาวคนนี้มองว่าคนอื่นว่าต่ำต้อยกว่าตัวเอง ไม่เคยแยกแยะว่าใครเด็กใครผู้ใหญ่ บางครั้งฉินเหยียนก็ไม่พอใจเธอ เพียงแต่เพราะเห็นแก่หน้าพี่สาวอย่างฉินอวิ๋นจึงอดทนไว้
ตอนนี้ได้ยินว่าเมิ่งชิงซีเกิดเรื่อง ในใจของฉินเหยียนอดไม่ได้ที่จะดีใจ ในที่สุดหลานสาวของเธอก็ตกลงไปในหลุมถูกจัดการไปได้เสียที นี่ทำให้ในใจของเธอมีความสุขมาก
ฉินอวิ๋นเอาเรื่องที่เกิดขึ้นกับเมิ่งชิงซีบอกเล่ากับฉินเหยียน ครั้งนี้ที่เธอมาหาฉินเหยียนก็คิดอยากจะปรึกษาหารือ ลองดูว่าเสิ่นเยี่ยนจะมีทางไหม
ก่อนหน้านี้เธอมองน้องเขยไม่ค่อยดีนัก แต่ตอนนี้เมิ่งไหวเซินก็ไม่ช่วย เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวไม่ง่ายเลยที่จะหาเส้นสาย เรื่องพวกนี้ถ้าจะให้ดีก็ต้องให้เสิ่นเยี่ยนออกหน้า
“พี่คะ พี่วางใจเถอะ ฉันจะพูดกับเสิ่นเยี่ยนให้ ชิงซีก็เป็นหลานฉัน ฉันต้องช่วยอย่างเต็มที่แน่นอน”
ฉินเหยียนยังไม่อยากทำให้ฉินอวิ๋นเสียใจ เมิ่งชิงซีเกิดเรื่องก็ไม่ใช่ว่าเธอจะมีความสุขทั้งหมด ถ้าฐานะพี่สาวในบ้านตระกูลเมิ่งเกิดไม่มั่นคงขึ้นมา เธอก็คงจะไม่มีวันได้ดี เรื่องนี้ฉินเหยียนยังพอแยกแยะได้อยู่
ตอนแรกที่เธอสามารถกลายเป็นคนโปรดของพ่อแม่ตระกูลเสิ่นได้อย่างรวดเร็วนั้นก็เพราะพี่สาวเธอเป็นพลังขับเคลื่อน เสิ่นเยี่ยนเองก็ไม่กล้าแสดงออกอะไรเพราะเธอยังมีฉินอวิ๋นอยู่ ไม่อย่างนั้นเขาที่เป็นคนรักสนุกขนาดนั้น ครอบครัวนี้ยังจะอยู่เป็นครอบครัวอยู่ไหมก็ไม่แน่
ฉินอวิ๋นได้ยินคำของฉินเหยียนก็ทำให้วางใจกับเรื่องนี้ลงบ้าง “น้องสาว ชีวิตพี่กับชิงซีขึ้นอยู่กับเธอแล้วนะ เธอวางใจได้เลย ต่อไปมีเรื่องอะไร พี่จะไม่ทิ้งเธอแน่”
“พี่คะ พี่เกรงใจเกินไปแล้ว พวกเราเป็นอะไรกัน พวกเราเป็นพี่น้องแท้ๆ กันนะคะ เรื่องเล็กแค่นี้ฉันสามารถสั่งเสิ่นเยี่ยนได้อยู่แล้ว” หลังจากฉินเหยียนปลอบใจฉินอวิ๋นและไปส่งฉินอวิ๋นกลับ เธอก็โทรบอกให้เสิ่นเยี่ยนกลับมาทันที
ตอนแรกเสิ่นเยี่ยนยังไม่ยอมรับปากจะกลับมาจนฉินเหยียนพูดว่าฉินอวิ๋นมีเรื่องให้เขาช่วย เขาถึงยอมรับปากว่าจะกลับมาทันที ฉินเหยียนรออยู่ครึ่งชั่วโมงถึงจะเห็นเสิ่นเยี่ยนกลับมาถึงบ้าน เพียงแต่กลิ่นน้ำหอมของเขา จะต้องไปที่นั่นมาอีกแน่นอน
“เรียกผมมามีเรื่องอะไร” เสิ่นเยี่ยนคิดถึงเรื่องที่ได้เจอสาวน้อยคนนั้นก่อนหน้านี้ เขาเกือบจะได้เธอมาอยู่ในมือแล้วแท้ๆ รูปร่างของสาวน้อยคนนั้นสุดยอดมาก แต่ถูกฉินเหยียนโทรไปขัดจังหวะ ตอนนี้ในใจของเสิ่นเยี่ยนจึงไม่พอใจเล็กน้อย สำหรับฉินเหยียนแล้วแน่นอนว่าไม่มีสีหน้าที่ดีด้วย
“เสิ่นเยี่ยน คุณไปที่ไหนมา คุณยังอยากรักษาหน้าเอาไว้ไหม กลางวันแสกๆ ก็ยังทำตัวแบบนี้อีก” ความรู้สึกที่ฉินเหยียนมีต่อเสิ่นเยี่ยนคือทั้งรักทั้งเกลียด เสิ่นเยี่ยนเป็นคนพูดจาดี เมื่อรักคุณก็จะมาทำดีกับคุณ เมื่อไม่ได้สนใจคุณแล้วก็จะเหยียบคุณไว้
“รีบพูดมาว่าเรื่องอะไร คุณชายอย่างฉันไม่มีเวลามากพอที่จะมาคุยกับเธอนะ” พอเสิ่นเยี่ยนเห็นใบหน้าสีเหลืองของภรรยาก็ทำหน้าบึ้ง ฉินเหยียนจะไปสู้สาวน้อยข้างนอกพวกนั้นได้อย่างไร อีกทั้งนิสัยของฉินเหยียนยิ่งมาก็ยิ่งแย่ ตอนนี้เขาไม่มีความอดทนพอที่จะง้อเธอหรอกนะ
“พี่สาวอยากให้คุณช่วย ตอนนี้ชิงซีถูกจับ อยู่ในคุก คุณช่วยวิ่งเรื่องให้หน่อย ดูว่าจะช่วยเธอออกมาได้ไหม”