ตอนที่ 506 เจตนา
ถังโจวโจวโอบลั่วอิงเข้ามา “ลูกรัก ลูกเข้าใจเจตนาของพ่อแม่ไหมคะ”
ลั่วอิงส่ายหน้า นั่นคือสิ่งที่ถังโจวโจวคาดคิดไว้ ถ้าเธอเองต้องเผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้ เธอเองก็คงไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมพ่อถึงต้องให้เรียกคนอื่นว่าพ่อด้วย
“เพราะว่าลุงใหญ่เป็นพ่อจริงๆ ของลูก เขาต้องยอมเสียสละเพราะเหตุผลบางอย่างตอนที่ลูกเกิดมา และหลังจากที่แม่ของลูกคลอดลูกออกมาแล้วก็เอาลูกมาฝากไว้กับคุณปู่คุณย่า ดังนั้นเลยมีพ่อคนนี้ของลูกไง”
ถังโจวโจวมองท่าทีของลั่วอิงอยู่ตลอด ตอนที่เธอได้ยินว่าลั่วเซ่าอวี๋คือพ่อที่แท้จริงของเธอ เธอดูเหลือเชื่อ เป็นไปได้อย่างไร พ่อของเธอไม่ใช่ลั่วเซ่าเชินหรอกเหรอ ทำไมเปลี่ยนเป็นคนอื่นไปได้
ดวงตาของลั่วอิงเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ถังโจวโจวรีบเข้าไปปลอบ “ไม่ต้องร้องนะลูก ที่แม่บอกลูกเพราะอยากให้ลูกรู้ว่าพ่อของลูกเป็นคนดีแค่ไหน ไม่ได้อยากให้ลูกเสียใจ ไม่ใช่ว่าลูกอยากรู้มาโดยตลอดเหรอว่าแม่แท้ๆ ของลูกคือใคร มองดูที่สุสานข้างๆ สิ”
“เห็นแล้วค่ะ เธอคือแม่หนูเหรอคะ” ลั่วอิงอึกอัก กลับกลายเป็นว่าพ่อแม่แท้ๆ ของเธอไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว
ไม่รู้ทำไม ก่อนหน้านี้ลั่วอิงเองก็รู้สึกว่ารูปภาพของผู้หญิงที่หลุมศพข้างๆ นี้เธอเห็นแล้วรู้สึกว่าคุ้นเคยแปลกๆ ที่แท้ก็ไม่ใช่ความรู้สึกคุ้นเคย แต่เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดออกมาได้
ตนไม่ได้เกลียดเธอเลย แต่กลับรู้สึกอยากจะใกล้ชิดกับเธออย่างน่าประหลาด แต่ตอนนั้นเธอรู้สึกกลัวมาก ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมีความรู้สึกแบบนี้ ตอนนี้เรื่องทั้งหมดก็ชัดเจนแล้ว ที่แท้ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแม่แท้ๆ ของเธอเอง
บางทีอาจเป็นเพราะคิดเรื่องนี้มานานแล้ว เมื่อได้ว่าซูเสี่ยวคือแม่ของเธอ ลั่วอิงก็สามารถยอมรับได้อย่างเป็นธรรมชาติ
“แม่คะ แม่แท้ๆ ของหนูเป็นคนยังไงเหรอคะ” พอเห็นว่าตอนนี้ลั่วอิงยอมรับได้แล้ว ถังโจวโจวก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก พี่สาว พี่ดูสิ ลูกของพี่มาเยี่ยมพี่แล้วนะ
“เธอเป็นคนดีมาก รอพวกเรากลับไปแล้วแม่จะค่อยๆ เล่าให้ฟังนะ ตอนนี้ลูกไปเยี่ยมคุณแม่ก่อนเถอะ”
ลั่วอิงเงยหน้ามองถังโจวโจว หลังจากนั้นก็เดินไปที่สุสานของซูเสี่ยว “แม่คะ หนูชื่อลั่วอิง คุณแม่โจวโจวบอกว่าแม่คือแม่ที่แท้ของหนู ก่อนหน้านี้หนูไม่รู้ แต่ตอนนี้หนูรู้แล้ว หนูภูมิใจมากค่ะ”
ถังโจวโจวกัดริมฝีปากตัวเอง ไม่รู้ว่าเพราะเธอเห็นว่าลั่วอิงยังเล็กขนาดนี้แต่กลับเป็นคนที่เข้าใจอะไรได้ง่าย หรือดีใจแทนซูเสี่ยวกันแน่ แต่เธอก็ยินดีกับทั้งสองเรื่อง
ลั่วเซ่าเชินอุ้มเสี่ยวอวี่เดินมาที่สุสานของลั่วเซ่าอวี๋ “พี่ครับ ดูสิครับ ลูกชายผมเอง เหมือนผมไหม เดิมทีคิดอยากจะพาเขามาหาพี่ตลอด แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีเวลา ตอนนี้เขาโตขึ้นมากแล้ว”
ลั่วเซ่าเชินภูมิใจในความเป็นพ่อ การมีลั่วอิงและการมีเสี่ยวอวี่นั้นไม่เหมือนกัน เสี่ยวอวี่คือเด็กผู้ชาย บ่อยครั้งมักจะไม่ออดอ้อนเหมือนลั่วอิง บางครั้งลั่วเซ่าเชินก็นึกอยากจะแกล้งเสี่ยวอวี่ซึ่งจุดนี้ไม่เหมือนกับลั่วอิง
ลั่วอิงมักจะออดอ้อนลั่วเซ่าเชินอยู่บ่อยๆ มาคุยเล่นหรือแม้แต่มาใกล้ชิด ลูกชายกับลูกสาวนั้นไม่เหมือนกัน ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขเป็นสองเท่า
อยู่บนภูเขานานมากแล้ว ลั่วอิงก็ยอมรับลั่วเซ่าอวี๋และซูเสี่ยวแล้ว ไม่ต้องบอกเลยว่ามันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน เดิมทีถังโจวโจวยังคิดว่าต้องใช้เวลามากกว่านี้ ไม่คิดว่าจะง่ายขนาดนี้เลย
ตอนนี้ลั่วอิงได้เข้าใจถึงที่มาของตัวเองแล้วแต่ก็ไม่ได้ทุกข์ใจอะไร ในเมื่อพ่อแม่แท้ๆ ของเธอเองก็ไม่อยู่แล้ว แต่เธอยังมีถังโจวโจวและลั่วเซ่าเชิน พวกเขาทั้งสองก็เป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดของเธอ
“ลั่วอิง ลูกยอมรับได้ใช่ไหม ถึงแม้ตอนนี้ลูกจะเรียกแม่ว่าแม่ แต่แม่ก็คิดมาตลอดเลยว่าลูกเป็นลูกแท้ๆ ของพ่อแม่”
ไม่สิ ต้องพูดว่าก่อนหน้านี้เธอคิดมาตลอดว่าลั่วเซ่าเชินคือพ่อแท้ๆ ของเธอ ดังนั้นจึงแค่คิดถึงแม่แท้ๆ ของตัวเองเท่านั้น แต่ตอนนี้ได้รู้แล้วว่าพ่อไม่ใช่พ่อแท้ๆ ถังโจวโจวเองก็กลัวว่าเธอจะเสียใจ โชคดีที่ดูเหมือนว่าตอนนี้ลั่วอิงจะเข้มแข็งขึ้นมาก
ตอนที่ 507 ออกรสออกชาติ
ถังโจวโจวนั่งอยู่บนรถเล่าเรื่องราวของลั่วเซ่าอวี๋และซูเสี่ยวอย่างละเอียดให้ลั่วอิงฟัง ลั่วอิงฟังอย่างออกรสออกชาติ ไม่คิดว่าพ่อของเธอเป็นฮีโร่คนหนึ่ง “แม่คะ พ่อของหนูเป็นฮีโร่จริงๆใช่ไหมคะ”
“แน่นอนสิจ๊ะ เขาเสียสละเพื่อประเทศชาติก็ต้องเป็นฮีโร่แน่นอนอยู่แล้ว ควรได้รับการยกย่องจากทุกคน” ถังโจวโจวเองก็ยกย่องลั่วเซ่าอวี๋ แต่ไรมาคนเราก็มักจะให้ความเคารพกับทหารมากที่สุดแล้ว
ลั่วเซ่าเชินเองก็พยักหน้าเห็นด้วย “ลูกรัก ลูกต้องรู้ว่า พ่อของลูกเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก”
ระหว่างทาง ลั่วอิงก็ถามเรื่องราวของลั่วเซ่าอวี๋อยู่ตลอด บางเรื่องถังโจวโจวก็รู้บ้าง บางเรื่องก็ต้องให้ลั่วเซ่าเชินเล่าให้ฟัง
เมื่อถึงบ้านตระกูลลั่ว หลังลงจากรถก็พบว่าคุณพ่อคุณแม่ลั่วกำลังเดินออกมาจากในบ้าน คุณแม่ลั่วแค่ได้ยินเสียงรถก็ออกมาดูและพบว่าพวกลั่วเซ่าเชินกลับมาแล้ว
“เซ่าเซิน โจวโจว พวกเธอมาแล้วเหรอ นานแล้วนะเนี่ยที่แม่ไม่ได้เจอหลานชายคนโตของแม่” คุณแม่ลั่วรีบตรงมารับเสี่ยวอวี่ไปทันที
คุณพ่อลั่วก็ตามออกมา แต่ไม่ได้มีสีหน้าตื่นเต้นเหมือนคุณแม่ลั่ว แต่ก็ยังรับรู้ได้ว่าเขาดีใจมากเช่นกัน “เซ่าเซิน พวกลูกมาแล้วเหรอ ทำไมไม่โทรมาบอกที่บ้านก่อนเล่า”
“ใช่ ใช่ ถ้ารู้ว่าพวกลูกจะมา แม่จะได้ให้คนเตรียมของกินอร่อยๆ ไว้ให้” ตอนนี้จู่ๆ จะมาก็มา จะเตรียมอะไรให้ก็ไม่ทันแล้ว
“แม่ครับ จะเตรียมของอะไรกัน ปกติแม่กินอะไรพวกเราก็กินอย่างนั้นแหละครับ ไม่ต้องยุ่งยากหรอก” ลั่วเซ่าเชินแค่กลับมาบ้านเท่านั้น ถ้าจะต้องยุ่งยากแบบนี้ทุกครั้ง ถ้าอย่างนั้นครั้งหน้าก็คงไม่ต้องมาแล้ว
“คุณปู่ คุณย่า” ลั่วอิงมองคุณแม่ลั่วอยู่นาน แต่คุณแม่ลั่วก็ไม่สนใจเธอ เธอดูเสียใจเล็กน้อย
“อือ ลั่วอิง เข้าไปก่อนเถอะ เซ่าเซิน พวกเราเข้าไปก่อนเถอะ รออีกเดี๋ยวค่อยคุยกัน” คุณแม่ลั่วทักทายลูกชายและลูกสะใภ้ของตัวเองโดยไม่ได้สนใจลั่วอิงนัก
“แม่…” แน่นอนว่าเด็กย่อมรู้สึกแตกต่างและน้อยใจ ทันทีที่ถังโจวโจวสังเกตเห็นความรู้สึกของลั่วอิงก็รีบเอ่ยทันที “เด็กดี เข้าไปกับแม่เถอะจ๊ะ”
ในที่สุดคุณพ่อลั่วก็สังเกตเห็นการมีอยู่ของลั่วอิงเสียที ราวกับว่าคิดถึงเมื่อก่อนที่ลั่วอิงเป็นหลานเพียงคนเดียวของเขา “มา ลั่วอิง มาหาปู่มา ปู่จะพาหลานไปกินขนม”
“ค่ะ” ลั่วอิงเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
ลั่วอิงจับมือคุณพ่อลั่ว ทั้งสองคนตามหลังคุณแม่ลั่วเข้าไป หลังจากนั้นถังโจวโจวกับลั่วเซ่าเซินก็ตามหลังเข้าไป ถังโจวโจวเห็นลั่วเซ่าเชินดูมีท่าทีพึงพอใจ “ดูเหมือนว่าพ่อจะสังเกตเห็นแล้วนะคะ”
“อืม แม่ทำตัวเย็นชาเกินไป ไม่ใช่ว่ามีหลานชายแล้วก็จะมาทิ้งขว้างกันแบบนี้ไหม” ลั่วเซ่าเชินก็รู้สึกไร้คำจะเอ่ย
ทั้งสองคนกระซิบกระซาบเกี่ยวกับพฤติกรรมของคุณแม่ลั่ว น่าเสียดายที่คุณแม่ลั่วถึงได้ยินก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน สุดท้ายก็ไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด โอกาสนั้นน้อยเสียยิ่งกว่าถูกหวยเสียอีก
หลังเข้ามาในห้องรับแขก แม่นมจ้าวก็เอาผลไม้กับชามาเสิร์ฟ “คุณชาย คุณหนู คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายรอพวกคุณนานแล้วค่ะ”
“งั้นเหรอ แม่นมจ้าว ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ” ลั่วเซ่าเชินมองไปทางคุณแม่ลั่ว เธอไม่ยอมวางเสี่ยวอวี่ลงเลย เหมือนรอเขามานานมากแล้วอย่างนั้น
“ยังดีอยู่ค่ะ มีคุณชายเป็นห่วงถามไถ่แบบนี้ แม่นมจ้าวคงแข็งแรงยิ่งกว่ากินยาบำรุงอะไรเสียอีก คุณชายเองก็ทำงานหนัก ยังไงก็ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะคะ”
“ครับ วางใจเถอะครับ “
คุณพ่อลั่วมองไปทางลั่วอิง “เป็นอะไรไป ไม่มีความสุขเหรอ” คุณพ่อลั่วเพียงแค่รู้สึกว่าปัญหาน่าจะมาจากตัวคุณแม่ลั่ว แต่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน
“คุณปู่คะ ทำไมทุกครั้งที่มีน้องชายปู่กับย่าถึงไม่สนใจหนูเลยล่ะค่ะ” คำพูดนี้ทำให้คุณพ่อลั่วขมวดคิ้วทันที คุณแม่ลั่วเองก็หยุดหยอกล้อกับเสี่ยวอวี่แล้วหันมาฟังลั่วอิง
“ที่ไหนกัน ปู่กับย่าเองก็รักหลานมากนะ” คุณพ่อลั่วไม่ยอมรับว่าตัวเองเห็นความสำคัญหลานชายมากกว่าหลานสาว ถึงแม้ในใจจะมีความคิดอย่างนี้ แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกมาได้