ตอนที่ 536 คืนกลับมา
“ขอให้ทั้งสองฝ่ายสวมแหวนให้แก่กัน”
ฟังหยวนรับแหวนจากเพื่อนเจ้าบ่าวแล้วค่อยๆ สวมให้หลินเหยา ต่อมาหลินเหยาก็สวมแหวนให้ฟังหยวน เมื่อทั้งสองคนสวมแหวนให้กันเสร็จแล้ว เสียงร้องเชียร์ก็ดังขึ้น
“จูบเลย จูบเลย”
“เจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวได้” บาทหลวงเองก็ถูกบรรยากาศในห้องพาไป ทุกคนต่างพูด “จูบเลย จูบเลย”
หลินเหยาพูดกับฟังหยวนเบาๆ “ทำยังไงดี พวเขาบอกให้….”
“ถ้าอย่างนั้นก็จูบสิ” ฟังหยวนประคองใบหน้าของหลินเหยาไว้ในอุ้งมือ ริมฝีปากค่อยๆ ใกล้ลงมา “ห้ามขยับด้วย ต้องจูบหนึ่งนาทีนะ”
คนจากด้านล่างตะโกนขึ้นมา เมื่อฟังหยวนได้ยินเสียงคนด้านล่างก็จูบยาวนานหนึ่งนาทีจริงๆ
ถังโจวโจวเห็นพวกเขาอย่างนั้นจึงพูดกับลั่วเซ่าเชินว่า “โชคดีที่ตอนนั้นพวกเราไม่มีคนเชียร์แบบนี้”
“อ้อ คุณวางใจได้ ถ้ามีคนเชียร์ ผมก็สามารถทำให้ได้นะ” ลั่วเซ่าเชินยังพูดไม่จบ ‘ต่อให้ทำไม่ได้ก็จะจูบอยู่ดี’
เมื่อหลินเหยามีโอกาสมองไปรอบๆ ก็พบว่าหลินเสวียจงออกไปแล้ว เขาทำอย่างที่พูดจริงๆ แต่ทำไมในใจเธอกลับรู้สึกเสียใจ เธอคงยังคิดถึงพ่อคนนี้ของเธออยู่สินะ
“เขาไปแล้วจริงๆ เหรอ” หลินเหยาเห็นฟังหยวนเข้ามาก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“ใช่ ถ้าคุณคิดถึงเขา ต่อไปผมจะไปรับเขามา คุณว่าดีไหม” ฟังหยวนรู้ว่าในใจหลินเหยาคิดอะไร แต่ก็ไม่อยากเสียหน้า ไม่เป็นไร อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้สัญญาอะไรกับหลินเสวียจง
“อืม หลินเหยาตอบด้วยเสียงต่ำ
ตอนเที่ยงผ่านพ้นไป งานเลี้ยงตอนกลางวันถูกจัดขึ้น ลั่วเซ่าเชินอยู่กับถังโจวโจวตลอดเวลา ทันทีที่มีคนมาดื่มยินดีด้วยก็จะช่วยขวางไว้ในทันที
ถึงตอนค่ำ ทั้งสองคนถึงได้กลับมาบ้าน วันนี้ที่งานเลี้ยงครึ้กครื้นมาก เสี่ยวอวี่ยังเล็กมาก เลยไม่ได้พาเขาไป ลั่วอิงเองก็ไปโรงเรียน วันนี้ก็เลยไม่มีโอกาสไปร่วมงาน
ถังโจวโจวคิดถึงปัญหาที่ลั่วเซ่าเชินสร้างให้ฟังหยวนก่อนหน้านี้ คิดไปคิดมาก็ยิ่งตลก “ทำไมคุณคิดถึงเรื่องพวกนั้นออกมาได้ ร้ายกาจจริงๆ ไม่ใช่ว่าคุณตั้งใจแก้แค้นเขาเพราะเรื่องตอนงานแต่งงานของเราใช่ไหม”
ดูแล้วเขาก็ไม่เหมือนคนเจ้าเล่ห์อะไรนี่นา ไปฝึกลูกไม้พวกนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เมื่อกี้ทรมานฟังหยวนไปตั้งเยอะ ขนาดเธอที่ยืนอยู่ข้างๆ ยังรู้สึกกังวลแทนเลย
“ในเมื่อผมสัญญาแล้วก็ต้องทำให้ได้ นอกจากนี้ผมก็ช่วยเขาผลาญพละกำลังด้วย คืนนี้เขาจะได้ไม่มีแรงทำอย่างอื่น แต่ถึงเขาอยากจะทำ สถานการณ์ตอนนี้ก็คงไม่เอื้ออยู่ดี”
ถังโจวโจวคิดอย่างละเอียดก็เข้าใจเหตุผลของลั่วเซ่าเชินทันที “คุณนี่รอบคอบจริงๆ”
ตอนนี้หลินเหยากำลังตั้งท้องอยู่ เดิมทีฟังหยวนก็ไม่สามารถทำเรื่องอะไรแบบนั้นได้ เพียงแต่ลั่วเซ่าเชินเองก็อยากแก้แค้นเรื่องคราวก่อนด้วยวันนี้เลยแก้เผ็ดเขาอย่างนั้น
ฟังหยวนเช็ดเหงื่อบนศีรษะ หลินเหยาเองก็รีบยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เขา “รีบเช็ดเหงื่อเถอะ คุณลั่วก็จริงๆ เลย ให้คุณวิดพื้นขนาดนี้ได้ยังไง”
ทำตั้งร้อยครั้ง อยากให้ฟังหยวนเหนื่อยตายรึไง
และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ในใจหลินเหยาโกรธลั่วเซ่าเชินไหม แต่วันนี้ลั่วเซ่าเชินอารมณ์ดี ในเมื่อคืนนั้นเขาไม่มีคืนเข้าห้องหอ ดังนั้นตอนนี้ฟังหยวนก็ควรจะเป็นแบบเดียวกัน
“ไม่เป็นไร เขาทำเพื่อผมนั่นแหละ” ตอนนี้ฟังหยวนทำได้แค่ปลอบใจตัวเอง ตอนนี้หลินเหยาท้องได้สองสามเดือน ทำได้แค่ดู แต่กินไม่ได้
“เหยาเหยา วันนี้เหนื่อยไหม รีบเปลี่ยนชุดเถอะ จะได้พักผ่อน” วันนี้หลินเหยาเปลี่ยนชุดตั้งสามชุด ตอนค่ำก็ยังมีงานเลี้ยง แถมเธอยังท้องอีก เดิมทีควรพักผ่อนให้มากๆ
“ได้ คุณรีบไปอาบน้ำเถอะ เมื่อกี้เหงื่อออกไปเยอะเลย” ในที่สุดหลินเหยาก็เข้าใจความเจ็บใจของถังโจวโจวแล้ว คนเป็นสามีโดนทรมานขนาดนี้ จะมีภรรยาที่ไหนไม่เจ็บปวดใจบ้าง
ตอนนี้เธอรู้สึกอย่างนั้น
ตอนที่ 537 ฉินอวิ๋นหายไป
ฉินอวิ๋นนั้นราวกับได้สลายหายไปจากโลกนี้แล้วก็ไม่ปาน เมิ่งไหวเซินเองก็ไม่ได้คิดจะไปตามหาเธอ สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นทำทั้งหมดนั้นเขารู้หมดแล้ว ไม่คิดเลยว่าตอนนั้นเธอจะกล้าขนาดนั้น ก่อนหน้านี้ฉินอวิ๋นเป็นคนที่อ่อนโยนสำหรับเขามาโดยตลอด
ใครจะรู้ว่าสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับฉินอวิ๋นนั้นไม่เป็นความจริงเลยสักอย่าง ความจริงคือเธอร้ายกาจนัก เรื่องอะไรก็สามารถทำออกมาได้ แม้จะต้องฆ่าคนก็ทำได้
ตอนนี้เมิ่งไหวเซินอยู่บ้านคนเดียว หรือบางครั้งก็ไปนอนที่บริษัทบ้าง หลายปีมานี้ในใจของเขางานล้วนสำคัญที่สุด ในเมื่อที่บ้านไม่มีใครรอเขากลับไป ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไม่ต้องรีบร้อนกลับไปก็ได้แล้ว
แต่เรื่องของเมิ่งชิงซีนั้นก็ยังทำให้ใจเขาเจ็บปวดอยู่ดี ถึงแม้เมิ่งชิงซีจะทำเรื่องเลวร้ายอย่างนั้นและตอนนี้ก็มาติดคุกเพราะถังโจวโจวอีก แต่ตอนนี้เธอเองก็เหมือนกับเขา เมิ่งไหวเซินเข้าใจเธอดี
ตอนแรกเขาฝากความหวังไว้กับถังโจวโจว ช่างเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดจริงๆ ถังโจวโจวไม่ยอมรับเขาเลยแม้แต่น้อย นอกจากนี้ยังมีเสิ่นหลานอีคอยขัดขวางเขาอีก เมิ่งไหวเซินไม่มีแม้แต่โอกาสจะไปขอให้ถังโจวโจวช่วยเขาเรื่องบริษัทเลยสักนิด
เมื่อพูดถึงลั่วเซ่าเชินก็ทำให้เมิ่งไหวเซินยิ่งโกรธ เขาไม่ถูกกันเลย ทุกครั้งการปฏิบัติตัวต่อเมิ่งไหวเซินก็เหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา เมิ่งไหวเซินไม่ใช่เด็กสามขวบ พอหลายๆ ครั้งเข้าก็รู้ได้เองว่าลั่วเซ่าเชินไม่อยากช่วยเขา
เมิ่งไหวเซินนั้นก็ช่างไร้เดียงสาเสียจริง เขาก็แค่ผู้ให้กำเนิดของถังโจวโจว นอกจากนี้เสิ่นหลานอีกตางหากที่เป็นคนคลอดเธอออกมา เมิ่งไหวเซินก็แค่มีส่วนนิดหน่อย ส่วนคนที่เลี้ยงดูก็ยังเป็นครอบครัวตระกูลถัง
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมสามีของถังโจวโจวถึงต้องทำตามที่เขาขอร้องด้วยเล่า เขายังหลงคิดว่าแค่พูดไม่กี่คำก็จะสามารถจัดการเรื่องราวได้ ช่างเพ้อฝันจริงๆ
ดังนั้นตอนนี้เมิ่งไหวเซินจึงคิดอยากจะเอาตัวเมิ่งชิงซีออกมาจากคุก เขาเพียรไปหาเมิ่งซงอวิ๋น เดิมทีเขาไม่เคยก้มหัวให้อีกฝ่าย แต่เพื่อลูกสาวแล้วเรื่องอะไรเขาก็ทำได้
วันนี้เมิ่งไหวเซินมาเยี่ยมเมิ่งชิงซีที่เรือนจำ พอเห็นลูกสาวของตัวเอง เขาก็แทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเธอคือลูกสาวของเขา
เขารู้สึกว่าลูกสาวดูแก่ขึ้นมาก พอไม่ได้แต่งหน้า บำรุงผิว สวมเสื้อผ้าแพงๆ เมิ่งชิงซีคนเดิมก็ได้หายไปแล้ว
“ชิงซี ช่วงนี้สบายดีไหม”
“พ่อ มาได้ยังไงคะ แม่ล่ะ” ต้องรู้ว่าเมิ่งไหวเซินเกลียดคนที่ทำให้เขาอับอายมากที่สุด แต่การที่เธอมีสภาพอย่างตอนนี้ พ่อเองก็มีส่วนในความดีความชอบครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
“แม่ของลูก เธอหายตัวไป” ที่จริงเมิ่งไหวเซินรู้ว่าฉินอวิ๋นอยู่ไหน เพียงแต่ที่นั่นเป็นถิ่นของโอวหยางเลี่ย เขาจะไปก้มหัวให้เสิ่นหลานอีและโอวหยางเลี่ยเพื่อช่วยฉินอวิ๋นได้ยังไง นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงหาข้ออ้างไปมั่วๆ
“แม่หายไป เป็นไปได้ยังไง พ่อคะ พ่อต้องส่งคนไปตามหาแม่นะคะ ถ้าแม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วจะทำยังไง” เมิ่งชิงซีคิดไม่ถึงว่าฉินอวิ๋นจะหายตัวไปแบบนี้
ก่อนหน้านี้ฉินอวิ๋นไม่มาเยี่ยมเธอ เธอยังคิดว่าแม่ไม่สนเธอแล้ว ที่แท้ก็หายตัวไป เรื่องนี้ต้องมีสาเหตุแน่
“ชิงซี ทำไมลูกต้องโมโหด้วย แม่ของลูกหายตัวไปก็ไม่ใช่เรื่องที่พ่อจะยอมได้ พ่อส่งคนไปหานานแล้ว เพียงแต่หาไม่เจอเท่านั้น”
“พ่อคะ พ่อล้อเล่นรึเปล่า นั่นแม่หนูนะ ท่านหายตัวไปหนูไม่เดือดเนื้อร้อนใจก็แปลกแล้ว พ่อบอกความจริงหนูมา นี่มันยังไงกันแน่” เมิ่งชิงซีไม่ยอมเชื่อเขา
“ทำไมลูกถึงทำท่าทางแบบนี้ใส่พ่อ ชิงซี นับวันก็ยิ่งไม่รู้ประสาขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ” เมิ่งไหวเซินมองลูกสาวตรงหน้า นับวันยิ่งเหมือนคนแปลกหน้า
“พ่อ ทำไมตอนแรกไม่มาหาหนู แล้ววันนี้จะมาทำไม มีเรื่องอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ ยังไงหนูก็ใกล้จะตายแล้ว” เมิ่งชิงซีไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาเหมือนเมื่อก่อนที่คิดว่าขอแค่ได้รับความรักจากเมิ่งไหวเซินแล้วก็จะสามารถได้ครอบครองทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว
บนโลกใบนี้ คนที่เธอสามารถพึ่งพาได้มากที่สุดก็คือตัวเธอเองเท่านั้น