คุณพ่อและคุณแม่ถังดีใจเป็นอย่างมากเมื่อได้เจอลั่วอิง “เซ่าเชิน โจวโจวล่ะ” แต่พวกเขาไม่เห็นลูกสาวของพวกเขาเลย และช่วงนี้พวกเขาก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากถังโจวโจวด้วย คุณแม่ถังสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับลั่วเซ่าเชินและถังโจวโจว
ลั่วเซ่าเชินขยิบตาส่งสัญญาณให้ลั่วอิง ลั่วอิงเข้าไปหาคุณแม่ถังทันทีเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของคุณพ่อและคุณแม่ถัง “คุณตาคุณยายขา คุณตาคุณยายรักหนูไหมคะ”
“ถามอะไรอย่างนั้นล่ะลูก ครั้งก่อนที่พ่อหนูมา คุณยายยังถามถึงหนูอยู่เลย ลั่วอิง หนูบอกกับคุณยายมาค่ะ แม่โจวโจวไปไหนคะ” คุณแม่ถังรู้จักลูกสาวของเธอดี โอกาสที่จะได้กลับบ้านแบบนี้ มีหรือที่เธอจะไม่มา
เมื่อคุณแม่ถังเห็นลั่วเซ่าเชินมองไปที่ลั่วอิงด้วยท่าทางตึงเครียด เธอก็รู้ว่าลั่วเซ่าเชินต้องมีอะไรบางอย่างปกปิดเธออยู่แน่
“เซ่าเชิน โจวโจวล่ะ ทำไมเธอถึงไม่มาหาพ่อกับแม่ บอกแม่มาตามตรงนะ”
“พ่อครับ แม่ครับ เข้าไปข้างในกันก่อนเถอะครับ” มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ลั่วเซ่าเชินจะบอกพ่อตาแม่ยายของเขา คุณพ่อและคุณแม่ถังเป็นคนที่มีจิตใจเมตตาอ่อนโยน พวกเขาไม่เคยทำให้ใครรู้สึกลำบากใจ ครั้งนี้ถ้าลั่วเซ่าเชินไม่ได้ปิดบังพวกท่าน จนพวกท่านสามารถสังเกตเห็นได้เอง พวกท่านก็คงจะไม่ปฏิบัติกับลั่วเซ่าเชินแบบนี้
คุณพ่อและคุณแม่ถังมองดูสองพ่อลูกที่ยืนอยู่ที่หน้าประตู พวกเขาก็คิดว่าไม่น่าจะยืนคุยกันอยู่ตรงนี้จริงๆ พวกเขาจึงหลีกทางให้ลั่วเซ่าเชินเดินเข้ามา ในขณะที่คุณแม่ถังก็พาลั่วอิงเข้ามา
ทันทีที่คุณแม่ถังพาลั่วอิงมานั่ง ลั่วอิงก็รีบแก้ต่างให้ลั่วเซ่าเชิน “คุณตาคุณยายขา คุณพ่อไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังคุณตาคุณยายนะคะ แม่โจวโจวหายไปเมื่อสองสามวันก่อน แล้วเธอก็ยังไม่กลับมา คุณแม่ไม่ต้องการหนูแล้ว… ฮือ…”
เมื่อเห็นว่าลั่วอิงร้องไห้ คุณแม่ถังก็ไม่สนใจเรื่องอื่นชั่วคราว เธอรีบปลอบโยนลั่วอิงทันที “คุณยายไม่ได้ว่าคุณพ่อของหนูนะคะ คุณยายแค่ถามเฉยๆ เอง ลั่วอิงไม่ต้องร้องไห้นะ โจวโจวอาจจะออกไปสักสองสามวัน เดี๋ยวเธอก็กลับมาแล้วลูก”
เมื่อเทียบกับการที่ถังโจวโจวหนีออกจากบ้านไป คุณพ่อคุณแม่ถังกลับเป็นกังวลว่าถังโจวโจวยังปลอดภัยดีหรือเปล่า อยู่ข้างนอกเธอได้กินอิ่ม นอนหลับสบายไหม
“เซ่าเชิน นี่มันเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ โจวโจวจะทำแบบนี้ทำไม”
คุณแม่ถังอดคิดไม่ได้ เธอรู้จักลูกสาวของเธอดี ถังโจวโจวเป็นคนอารมณ์ดีมาแต่ไหนแต่ไร เธอใจเย็นมาโดยตลอด ตอนเด็กๆ ถ้าหกล้ม เด็กคนอื่นก็อาจจะร้องไห้ทันที มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ปัดฝุ่นและลุกขึ้นยืนเองได้เลย
อีกเหตุการณ์หนึ่ง คุณพ่อถังเคยเห็นเธอถูกเด็กตัวใหญ่รังแกอยู่ เขารีบพุ่งตัวเข้าไปหาเพื่อช่วยเธอ แต่ถังโจวโจวก็ยังคงยิ้มได้ และพูดกับคุณพ่อถังว่า “พ่อขา หนูไม่เป็นอะไร หนูแค่ทะเลาะกันนิดหน่อย คุณพ่ออย่าโกรธเลยนะ!”
เมื่อคุณพ่อถังเห็นเสื้อผ้าหน้าผมที่สกปรกของถังโจวโจว เขาก็ไม่เชื่อเรื่องที่เธอแต่งขึ้น เขาพาเธอกลับบ้านและให้คุณแม่ถังเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอ จากนั้นก็ตรวจดูว่าเธอมีบาดแผลตรงไหนหรือเปล่า โชคดีที่ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อคุณพ่อถังไต่สวนเธอ ถังโจวโจวถึงได้ยอมพูดออกมาว่า เด็กคนนั้นรังแกเธอมานานแล้ว แต่เธอแค่ไม่เคยบอกคุณพ่อและคุณแม่ถังเท่านั้น เพราะเธอคิดว่าเธอสามารถจัดการเองได้ เพียงแต่เธอจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะว่าอีกฝ่ายกลับไม่ออมแรงเลย ยิ่งเด็กคนนั้นเห็นว่าถังโจวโจวอ่อนแอก็ยิ่งรังแกเธอแรงขึ้น
คุณแม่ถังจะเชื่อได้อย่างไรว่าถังโจวโจวจะทิ้งลั่วเซ่าเชินและลั่วอิงไปโดยไม่มีเหตุผล แล้วเธอก็ไม่ได้ส่งข่าวหาพวกเขาด้วย มันจะต้องมีอะไรผิดปกติอย่างแน่นอน เมื่อคุณแม่ถังมองไปที่ลั่วเซ่าเชิน เธอก็รู้สึกว่าปัญหาอยู่ที่เขา
ลั่วเซ่าเชินยิ้มเจื่อนอย่างหมดหนทาง “มันเป็นความผิดของผมเองครับ คุณแม่ ผมทำเรื่องไม่ดีเอาไว้ โจวโจวก็เลยโกรธจนหนีไป แต่คุณแม่ครับ ผมสัญญานะครับ ผมจะไม่ก่อเรื่องแบบนี้อีก ผมกังวลใจจริงๆ ที่โจวโจวหนีไปอย่างนี้ ซ้ำยังหายไปคนเดียวด้วย”
“เซ่าเชิน คุณนี่เหลือเกินจริงๆ ปิดพวกเรามาได้ตั้งนาน ไม่รู้ว่าลูกสาวของพ่อจะเป็นยังไงบ้างตอนนี้” คุณพ่อถังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตอนแรกเขาเห็นว่าลั่วเซ่าเชินดีกับลูกสาวของเขา เขาก็เลยยอมให้โจวโจวแต่งงานด้วย แต่ตอนนี้เขากลับทำให้โจวโจวเสียใจได้
คุณพ่อถังรู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ ลูกสาวของเขากลัวว่าลั่วเซ่าเชินจะหาเธอเจอใช่ไหม เธอถึงไม่กลับบ้าน? โชคดีที่อวี้หนิงรับมือเขาได้อย่างใจเย็น
เมื่อคุณแม่ถังเห็นคุณพ่อถังเริ่มดุด่าลั่วเซ่าเชิน เธอก็รีบห้าม “จิ่งฉิน หยุดพูดได้แล้ว สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือการหาตัวโจวโจวให้เจอก่อน”
แน่นอนว่าคุณแม่ลั่วก็อยากจะบ่นลั่วเซ่าเชินอยู่เหมือนกัน แต่ผู้หญิงกับผู้ชายคิดต่างกัน ลูกสาวของเธอยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่กับเขา และเธอไม่สามารถหนีไปได้อย่างนี้ตลอด
แต่คุณแม่ถังก็รู้ว่าควรจะสั่งสอนลั่วเซ่าเชินสักหน่อย ให้เขาได้รู้ว่าลูกสาวของตระกูลถังไม่ใช่คนที่เขาจะรังแกได้ง่ายๆ
“เซ่าเชิน แม่จะไม่พูดอะไรมาก ถ้าวันหลังเกิดเรื่องแบบนี้อีก คุณก็ควรจะบอกพวกเราก่อน แม้ว่ามันจะเรื่องที่พ่อกับแม่เข้าไปจัดการไม่ได้ แต่พ่อกับแม่ก็หวังว่าพวกลูกทั้งสองคนจะมีชีวิตที่ดี”
“ครับ คุณแม่ ครั้งนี้ผมผิดไปแล้วจริงๆ ขอแค่โจวโจวกลับมา ผมก็พอใจแล้วครับ” เมื่อได้ฟังสิ่งที่ลั่วเซ่าเชินพูด คุณพ่อถังก็คลายความกลัดกลุ้มลงไปมาก
คุณแม่ถังเห็นลั่วเซ่าเชินก้มศีรษะ “แล้วเซ่าเชินมีวิธีตามหาโจวโจวหรือยัง หรือจะให้แม่โทรศัพท์หาเธอให้?”
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอรบกวนคุณแม่ด้วยนะครับ!” สีหน้าของลั่วเซ่าเชินไม่ได้หดหู่อีกต่อไป เขามาที่นี่ก็เพื่อขอให้คุณพ่อและคุณแม่ถังช่วยติดต่อถังโจวโจวให้ ช่างเป็นโอกาสที่ดีมากจริงๆ เมื่อคุณแม่ถังเธอออกปากเอง
คุณพ่อถังยื่นโทรศัพท์ให้คุณแม่ถัง เมื่อคุณแม่ถังค้นหาชื่อของถังโจวโจวเจอ เธอก็กดโทรออก ในไม่ช้าเธอก็โทรติด สักพักเธอก็ได้ยินน้ำเสียงที่มีความสุขของถังโจวโจว “พ่อขา มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“โจวโจว นี่แม่เอง ช่วงนี้ลูกสบายดีไหม” เมื่อคุณแม่ถังได้ยินเสียงของถังโจวโจว เธอก็รู้สึกว่าลูกสาวน่าจะสบายดี และเดาว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาก็น่าจะโอเคอยู่ เธอจึงวางใจได้ชั่วคราว
ลั่วเซ่าเชินตั้งใจฟังบทสนทนาระหว่างคุณแม่ถังและถังโจวโจว แต่เสียงของถังโจวโจวนั้นเบามาก ฟังแล้วไม่ชัดเจนสักเท่าไร ลั่วเซ่าเชินอยากจะขยับตัวเข้าไปใกล้กับคุณแม่ลั่ว แต่ดูเหมือนว่าคุณพ่อถังจะยังโกรธเคืองลั่วเซ่าเชินอยู่เล็กน้อย จึงใช้สายตาดุจพญาเสือจ้องมาที่เขา ลั่วเซ่าเชินจึงไม่กล้าขยับตัว
ลั่วเซ่าเชินมองไปที่ลั่วอิงอีกครั้ง แล้วเขาก็เกิดความคิดบางอย่าง เขาบุ้ยปากให้ลั่วอิงขยับเข้าไปใกล้คุณแม่ถัง ลั่วอิงเข้าใจเจตนาของเขาในทันที เธอมุดเข้าไปในอ้อมแขนของคุณแม่ถังและตะโกนใส่โทรศัพท์ว่า “แม่โจวโจวขา ลั่วอิงคิดถึงคุณแม่ คุณแม่จะกลับมาเมื่อไรคะ”
ถังโจวโจวได้ยินเสียงของคุณแม่ถังเป็นเสียงแรก จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงตะโกนของลั่วอิง เธอเข้าใจวัตถุประสงค์ที่คุณแม่ลั่วโทรมาในทันที คุณพ่อถังก็นั่งมองอยู่ข้างๆ เมื่อคุณแม่ถังยื่นโทรศัพท์มาให้เขา คุณพ่อก็เอ่ยเสียงทักทายออกไป “โจวโจว ทำไมไม่กลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่ล่ะลูก”
“พ่อคะ แม่คะ หนูผิดไปแล้วค่ะ” ถังโจวโจวเดาไว้แล้วว่าลั่วเซ่าเชินจะต้องไปหาคุณพ่อและคุณแม่ถัง เธอคิดว่าเขาจะมาเร็วกว่านี้เสียอีก นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะยืดเวลามาจนถึงตอนนี้ แต่ช่วงนี้ถังโจวโจวก็พยายามบังคับตัวเองไม่ให้คิดถึงลั่วเซ่าเชิน
เวลาส่วนใหญ่เธอก็จะทำได้ดี มีแค่บางครั้งเท่านั้นที่เมื่อเธอเหม่อมองไปไกล เธอก็จะหวนคิดไปถึงวันที่เธอได้รู้จักกับลั่วเซ่าเชิน แต่หลังจากนั้นเธอก็จะอารมณ์เสียขึ้นมาทันที
คุณแม่ถังคว้าโทรศัพท์กลับมาไว้ที่หูของเธออีกครั้ง “โจวโจว พ่อกับแม่ไม่โทษลูกนะ ไม่ว่าลูกจะทำอะไร พ่อกับแม่ก็จะสนับสนุนลูกเสมอ แต่การที่ลูกหนีหายไปเลยแบบนี้ มันไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา ลูกกลับมาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยดีกว่านะ เซ่าเชินเองก็อยู่ตรงนี้ กลับมาคุยกันดีๆ ลูกจะว่ายังไง”
ถังโจวโจวเงียบไป คุณแม่ถังไม่รู้ว่ามีอะไรผิดปกติ
“โจวโจว ได้ยินที่แม่พูดหรือเปล่า”
“…ได้ยินค่ะแม่ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ หนูจะคุยกับเขา แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ขออีกสักสองสามวันนะคะ แม่กับพ่อไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะ หนูสบายดี” ถังโจวโจวพยายามพูดน้ำเสียงปกติ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคุณพ่อและคุณแม่ถัง
เมื่อคุณแม่ถังเห็นเธอบอกมาแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก “โจวโจว พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ขออะไรมาก ขอแค่ให้ลูกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็พอ ลูกมีอะไรจะคุยกับเซ่าเชินกับลั่วอิงไหม”
เมื่อลั่วอิงได้ยินคุณแม่ถังเอ่ยถึงเธอ ดวงตาคู่นั้นของเธอก็ลุกวาว “แม่โจวโจวขา หนูคิดถึงคุณแม่ค่ะ!” แน่นอนว่าถังโจวโจวเองก็ต้องได้ยินประโยคแสดงความรักของลั่วอิง เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่สะดวกที่จะพูดคุยกับเธอ ซึ่งมันจะทำให้เธอเศร้าใจ
ลั่วเซ่าเชินเองก็มองดูโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของคุณแม่ถังด้วยความคาดหวัง ราวกับว่ามันคือขุมทรัพย์ล้ำค่า ถ้าไม่ติดว่าคุณแม่ถังเป็นแม่ยายของเขา เขาอาจจะแย่งมันมาแล้ว
“ไม่เป็นไรค่ะ แม่ เดี๋ยวหนูค่อยกลับไปคุยทีเดียว”
“โอเคๆ ถ้าอย่างนั้นแม่วางแล้วนะ ลูกก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ”
“รู้แล้วค่ะแม่” คุณแม่ถังมองดูโทรศัพท์ที่วางสายไป เมื่อเธอก้มหน้าลง เธอก็พบว่าลั่วอิงใกล้จะร้องไห้เต็มทีแล้ว
ลั่วอิงเอ่ยถามด้วยเสียงแหบแห้งว่า “คุณยายขา ทำไมแม่โจวโจวถึงไม่คุยกับหนูล่ะคะ คุณแม่ไม่ต้องการหนูกับคุณพ่อแล้วเหรอ”
ลั่วอิงค้นพบความจริงบางอย่างที่ทำให้เธอนึกกลัว ถังโจวโจวไม่ยอมคุยกับเธอแบบนี้ นี่เป็นการบ่งบอกว่าถังโจวโจวไม่รักเธอแล้วใช่ไหม คุณแม่จะไม่กลับมาแล้วใช่ไหม?
แม้ว่าลั่วเซ่าเชินจะเตรียมใจมาบ้างแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกผิดหวังมากอยู่ดี เขานึกไม่ถึงเลยว่าถังโจวโจวจะใจร้ายมากขนาดนี้ แม้แต่ลั่วอิงเธอก็ไม่สนใจ จะด่าเขาก็ไม่เป็นไร แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องดึงลั่วอิงเข้าไปเกี่ยวด้วยเลย
“โอ๋ อย่าร้องนะลูก แม่โจวโจวพูดที่ไหนว่าไม่ต้องการหนู เธอบอกว่าอีกสองสามวัน เธอจะกลับมาหาหนูนะคะ” คุณแม่ถังเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของลั่วอิงและรีบปลอบโยนเธอ
“คุณยายพูดจริงๆ เหรอคะ” ลั่วอิงลืมความเศร้าเมื่อครู่นี้ไปชั่วขณะ ก่อนจะให้ความสำคัญกับการกลับมาของถังโจวโจว
“แน่นอนสิคะ คุณยายจะหลอกหนูได้เหรอ” คุณแม่ถังแสร้งทำหน้าบึ้ง
เมื่อลั่วอิงเห็นว่าคุณแม่ถังโกรธ เธอก็รีบพูดจาออดอ้อนในทันที “หนูเชื่อคุณยายอยู่แล้วค่ะ! แม่โจวโจวได้บอกไหมคะว่าจะกลับมาเมื่อไร”
ลั่วอิงค่อนข้างกังวลใจ เธอไม่ได้เจอถังโจวโจวมาประมาณสิบวันแล้ว นับตั้งแต่ที่ถังโจวโจวย้ายเข้ามาอยู่ด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่ถังโจวโจวกับเธอไม่เห็นหน้ากันนานขนาดนี้ ซึ่งมันทำให้ลั่วอิงรู้สึกอึดอัดมาก
เมื่อลั่วเซ่าเชินได้ยินว่าถังโจวโจวจะกลับมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขาก็อดที่จะพูดไม่ได้ว่า “แม่ครับ โจวโจวได้ระบุวันไหมครับว่าเธอจะกลับมาวันไหน ผมจะไปรับเธอ”
“ใช่ค่ะใช่ คุณพ่อไปรับแม่โจวโจวได้ หนูก็จะได้เจอคุณแม่เร็วๆ ด้วยค่ะ” ลั่วอิงพยักหน้าอย่างใจร้อน
“เซ่าเชิน โจวโจวไม่ได้บอกจ้ะ แล้วเธอก็ไม่ได้บอกด้วยว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน คุณอดทนรอไปก่อนเถอะนะ เดี๋ยวเธอก็กลับมาเอง” คุณแม่ถังจำเป็นต้องบอกลั่วเซ่าเชินแบบนี้ ถ้าถังโจวโจวไม่หายไป พวกเขาก็คงจะไม่รู้ว่าสองสามีภรรยาคู่นี้มีปัญหากัน
คุณแม่ถังเดาว่าสถานการณ์ในครั้งนี้คงจะรุนแรงมาก เพราะแม้แต่ถังโจวโจวก็ยังขี้คร้านจะคุยกับลั่วเซ่าเชิน แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะรุนแรงมากขนาดไหน คุณแม่ถังก็ยังสงสัยว่าลั่วเซ่าเชินไปทำอะไรให้ลูกสาวของเธอเสียใจ จนถึงขั้นโมโหหนักและหนีออกไปจากบ้านไปอย่างนี้?