ตอนที่ 191 หัวขโมย
วันนี้ถังโจวโจวงานยุ่งทั้งวัน ช่วงนี้บริษัทกำลังจะก้าวเข้าสู่ขั้นตอนวางแนวทางกับโปรเจกต์ของลั่วกรุ๊ป ดังนั้น พนักงานทุกคนจึงกระตือรือร้นกันเป็นอย่างมาก โดยหวังว่าโปรเจกต์นี้จะช่วยพลิกสถานการณ์ปัจจุบันของบริษัทได้
ถังโจวโจวเดินออกมาที่หน้าบริษัทพร้อมกับกระเป๋าเอกสารสีดำ จวิ้นเจี่ยเองก็เดินออกมาด้วยกันกับเธอ “โจวโจว วันนี้มีคนมารับหรือเปล่า”
“ช่วงนี้เซ่าเชินต้องทำงานล่วงเวลาน่ะค่ะ เดี๋ยวฉันขึ้นรถกลับเอง” ลั่วอิงมีคนไปรับกลับบ้านแล้ว ดังนั้น เธอแค่จัดการตัวเองก็พอ
จวิ้นเจี่ยถามอย่างกระตือรือร้น เมื่อได้ยินว่าถังโจวโจวไม่มีคนมารับ “วันนี้สามีพี่มารับนะ โจวโจว เธอนั่งรถไปกับพวกพี่ดีกว่าไหม”
ถังโจวโจวเคยเห็นสามีของจวิ้นเจี่ยแล้ว ผู้ชายที่ซื่อสัตย์คนนั้น ที่จริงแล้วเขาก็ดูเหมือนว่าจะเข้ากันได้ดีกับเธอ ถังโจวโจวมักจะได้ยินจวิ้นเจี่ยพร่ำบ่นอยู่เสมอว่าสามีของเธอนั้นไร้อารมณ์ อันนี้ก็ไม่ดี อันนั้นก็ไม่ได้เรื่อง
แต่ถังโจวโจวก็ดูออกว่าจวิ้นเจี่ยรักเขามาก ไม่เช่นนั้นเธอคงจะไม่พูดถึงสามีของเธอด้วยแววตาที่มีความสุข
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันกลับเองดีกว่า ฉันไม่ไปเป็นก้างขวางคอพวกพี่สองคนหรอก” ถังโจวโจวรีบก้าวขาวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนจวิ้นเจี่ย เมื่อเธอถูกล้อเช่นนั้น ก็หน้าแดงขึ้นมา
ถังโจวโจววิ่งออกมาจนกระทั่งไม่เห็นจวิ้นเจี่ยแล้วจึงหยุด เธอแค่คิดว่าทางกลับบ้านของเธอกับจวิ้นเจี่ยนั้นเป็นคนละทางกัน หากเธอรบกวนให้คนอื่นเปลี่ยนทางเพื่อไปส่งเธอ มันจะดูเห็นแก่ตัวไปสักหน่อย
ถังโจวโจวก้าวเดินไปข้างหน้าช้าๆ และเมื่อเห็นว่าที่ป้ายรถเมล์มีคนยืนอยู่มากมาย เธอก็คิดว่าจะเดินเลยไปก่อน แล้วเธอก็เดินผ่านป้ายรถเมล์ไป
ในขณะที่ถังโจวโจวกำลังเดินอยู่นั้น จู่ๆ เธอก็รู้สึกได้ถึงแรงกระแทก ถังโจวโจวกำลังคิดอยู่ว่าทำไมจะต้องรีบร้อนแบบนี้ด้วย และทันใดนั้นเอง เธอก็รู้สึกได้ว่ามือของเธอนั้นว่างเปล่าผิดปกติ และเมื่อก้มลงมอง กระเป๋าของเธอก็ตกไปอยู่ในมือของผู้ชายคนนั้นแล้ว!
เขาวิ่งตรงไปข้างหน้า ในที่สุดถังโจวโจวก็ตั้งสติได้และตะโกนว่า “ขโมย! ช่วยจับขโมยหน่อยค่ะ!” ถังโจวโจวรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าเห็นว่าถังโจวโจวตามมาแล้ว เขาก็รีบวิ่งหนีด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น เขานึกสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้ไม่กลัวตายเลยหรือไง ถึงขั้นวิ่งตามมาอย่างนี้ ในกระเป๋าของเธอมีของมีค่าอย่างนั้นหรือ?
ในขณะที่หัวสมองกำลังคิดสุ่มสี่สุ่มห้า ขาของเขาก็ยังคงขยับไม่หยุด เจ้าหัวขโมยออกแรงวิ่งอยู่ด้านหน้า ส่วนถังโจวโจวก็พยายามวิ่งตามอยู่ด้านหลัง เธอไม่เห็นว่าจะมีใครช่วยเธอเลยสักคน แล้วจู่ๆ จิตใจของถังโจวโจวก็รู้สึกเย็นเยียบ และนั่นก็ยิ่งปลุกเร้าสัญชาตญาณในการต่อสู้ของเธอขึ้นมา เธอจะต้องตามล่าไอ้เจ้าหัวขโมยคนนั้นและเอาของของเธอกลับคืนมาให้ได้
พวกเขาทั้งสองคนวิ่งผ่านถนนเส้นหนึ่ง เจ้าหัวขโมยเปลี่ยนเส้นทางวิ่งฝ่าเข้าไปในฝูงชน เป็นเพราะต้องหลบหลีกคนที่เดินอยู่ ถังโจวโจวจึงต้องผ่อนฝีเท้าลง และแค่พริบตาเดียว คนที่ถังโจวโจววิ่งไล่ตามก็หายไป ถังโจวโจวหมุนรอบตัวเองและมองไปรอบๆ นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะตามมาจนถึงกลางเมืองได้
ถังโจวโจวย่อตัวลงและหอบหายใจอย่างหนัก พลางพร่ำบ่นอย่างเดือดดาลว่า “อย่าให้ฉันได้เจออีกทีนะ ได้เห็นดีกันแน่!”
เมื่อผู้คนรอบข้างได้ยินเธอพูดเช่นนั้น พวกเขาก็มองเธอด้วยความงุนงงไปชั่วขณะ แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็ไม่ได้สนใจ เพียงแค่คิดว่าผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว ก่อนจะเดินไปตามทางของตัวเองกันต่อ
ถังโจวโจวตามหาสถานที่พักผ่อนภายในจัตุรัสเพื่อนั่งพัก กระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ของเธอล้วนแต่อยู่ในกระเป๋าใบนั้น ตอนนี้เธอไม่มีเงินติดตัวเลย แล้วทีนี้จะทำยังไงดี?
ในตอนนั้นเอง ฟังหยวนผ่านมาเห็นถังโจวโจวเข้า เขาพบว่าใบหน้าเล็กๆ ของเธอนั้นแดงก่ำ ราวกับว่าเธอเพิ่งผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างก็หัวเราะเฮฮากับพรรคพวกของตัวเอง มีแต่เธอเท่านั้นที่นั่งอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง และท่าทางหมดแรงแบบนั้นก็ทำให้รู้สึกราวกับเหลือเธออยู่คนเดียวบนโลกใบนี้
ตอนที่ 192 ฟังหยวนช่วยเหลือ
ฟังหยวนรู้สึกว่าถังโจวโจวช่างมีเสน่ห์มากเหลือเกิน จนเขาอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปใกล้ ฟังหยวนห้ามปรามขาตัวเองไม่ได้ และในที่สุดเขาก็เดินเข้าไปถึงตัวถังโจวโจว
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
ถังโจวโจวรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนยืนอยู่ตรงหน้าเธอ และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็พบว่าเป็นคนรู้จัก เธอรู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที “ฟังหยวน คุณนั่นเอง!”
ถังโจวโจวเห็นฟังหยวนในเสื้อคลุมสีดำ ดวงตาสีเข้มคู่นั้นจ้องมองมาที่เธอ หัวใจของถังโจวโจวถูกเติมเต็มไปด้วยความความหวังเมื่อได้เจอกับคนที่รู้จัก ในเวลาที่เธอกำลังลำบากเช่นนี้ เธอนึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะได้พบกับฟังหยวน
ต่อแต่นี้ไป ฟังหยวนจะจดจำวันนี้เอาไว้ วันที่ถังโจวโจวมองเขาราวกับว่าเธอเป็นแค่แมวตัวเล็กๆ ที่เคว้งคว้างหาที่พึ่งไม่ได้ และมองไปรอบๆ ด้วยดวงตาที่เปียกชื้น แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาเจอเขา สายตาที่สับสนคู่นั้นก็เปลี่ยนเป็นมีความสุข ดีอกดีใจ เหมือนกับว่าได้เจอคนที่สำคัญที่สุดของตัวเอง
“คุณควรจะกลับบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงได้มานั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ” ฟังหยวนคิดไม่ออกว่าคนที่ควรจะอยู่ที่บ้านแล้วอย่างถังโจวโจว ทำไมถึงมาอยู่ที่จัตุรัสใจกลางเมืองนี้ได้
ถังโจวโจวเขยิบเว้นที่ให้ “นั่งก่อนค่ะ ฉันจะค่อยๆ เล่าให้คุณฟัง” ตอนนี้เธอมีฟังหยวนอยู่ด้วยแล้ว ถังโจวโจวจึงไม่รู้สึกว้าวุ่นเหมือนก่อนหน้านี้อีก เธอเล่าเหตุการณ์ที่เธอได้เจอกับขโมยให้ฟังหยวนฟังคร่าวๆ
ท้ายที่สุดฟังหยวนก็ได้แต่พูดอย่างปลงตกว่า “วันนี้คุณอาจจะโชคไม่ดีน่ะ”
ถังโจวโจวได้ฟังแล้วก็พูดอะไรไม่ออก ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปก็คงจะปลอบเธอ? แต่ทำไมเขาถึงได้พูดกับเธอด้วยประโยคขวานผ่าซากแบบนั้น ทำเอาเธอเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก “คุณไม่คิดจะปลอบใจฉันสักนิดเลย?”
“ปลอบสิ ว่าแต่คุณไม่อยากให้ผมช่วยตามหากระเป๋าให้เหรอ”
“คุณสามารถตามหาให้ได้?” ถังโจวโจวคิดว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าเจ้าหัวขโมยนั่นไปอยู่ที่ไหน แล้วฟังหยวนจะช่วยเธอตามหากระเป๋าจนเจอได้อย่างไร หรือเขามีวิธีพิเศษ?
ในหัวสมองของถังโจวโจวเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ตอนนี้เธอเป็นเหมือนหมอที่รักษาม้าตายดุจม้าเป็น[1] ถ้าฟังหยวนมีหนทางจริงๆ ก็ถือว่าเขาช่วยเธอได้มากเลย!
“คุณเชื่อผมไหมล่ะ?” ฟังหยวนถามคำถามนี้ออกมา หากถังโจวโจวไม่เชื่อเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีกแล้ว
“เชื่อสิคะ!” ถังโจวโจวมองไปที่เขาอย่างจริงใจ ตอนนี้มีแค่เขาที่มีวิธี มีหนทาง หากเธอไม่เชื่อใจเขา แล้วเธอจะไปเชื่อใครได้ล่ะ
“โอเค งั้นตอนนี้เราไปกินข้าวกันก่อน อีกเดี๋ยวกระเป๋าของคุณก็กลับมาแล้ว” ฟังหยวนที่ดูใจเย็นขนาดนี้ ยิ่งทำให้ถังโจวโจวสงสัยหนักมากขึ้นไปอีก เขาดูมั่นอกมั่นใจเอามากๆ เขาจะทำยังไงกันนะ
ฟังหยวนลุกขึ้นแล้วเดินตรงนำไป แต่เมื่อเห็นว่าถังโจวโจวยังไม่ตามมา เขาก็หันกลับไปถามว่า “ทำไม? หรือคุณจะนั่งหิวอยู่ตรงนี้?”
แน่นอนว่าถังโจวโจวไม่อยากนั่งหิวอยู่ตรงนี้ ดังนั้นเธอจึงได้แต่เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่พาเธอไปขายหรอก เมื่อก่อนฟังหยวนมักจะล้อเล่นกับเธอเสมอ เขาพูดอยู่ตลอดว่าอยากให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา แต่ท่าทางจริงจังของเขาในตอนนี้ ทำเอาถังโจวโจวปรับตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ
ฟังหยวนขับรถพาถังโจวโจวมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พวกเขานั่งอยู่ในห้องส่วนตัว หลังจากสั่งอาหารแล้ว ถังโจวโจวก็ขอยืมโทรศัพท์มือถือของฟังหยวนเพื่อโทรบอกคนที่บ้าน เธอบอกป้าหลิวว่าเธอจะไม่กลับไปรับประทานอาหารค่ำที่บ้าน
จากนั้นเธอก็เอาแต่คิดว่าฟังหยวนจะตามหากระเป๋าของเธอกลับคืนมาได้อย่างไร เธอรู้สึกว้าวุ่นใจที่เขายั่วให้เธออยากรู้แบบนี้
อาหารมาเสิร์ฟครบแล้ว แต่ฟังหยวนก็เห็นว่าถังโจวโจวยังไม่ยอมขยับตะเกียบ เขาจึงคีบอาหารใส่ชามไว้มากมาย แล้วเขาก็ส่งมันให้กับเธอ “กินข้าวก่อน หลังจากกินเสร็จแล้ว ไม่แน่ว่ากระเป๋าของคุณอาจจะมาถึงพอดีก็ได้”
[1] รักษาม้าตายดุจม้าเป็น หมายถึง ยามที่รู้ว่าบางสิ่งบางอย่างนั้นสิ้นหวัง แต่ก็ยังอยากจะลองอีกครั้งเพื่อรักษามันไว้ โดยทั่วไปแล้วหมายถึงความพยายามครั้งสุดท้าย