ตอนที่ 201 เขาโอบเธอจากไป
เห็นได้ชัดว่ามีคำพูดอื่นมากมาย แต่เขาเลือกโอบเธอเดินออกไป
เขายื่นโทรศัพท์ให้กับหยางหยาง พลางมองไปที่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของอันโหรว ก่อนจะพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันจะนอนห้องเธอนะ”
“ใครสั่งนายกัน!” อันโหรวอุ้มหยางหยางออกไปด้านนอกห้อง “ลูกจ๋า พวกเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนดีกว่า เดี๋ยวแม่จ๋าตามขึ้นไปด้านบนนะ”
“ครับ แม่จ๋า”
แม่ลูกทั้งสองคนฮัมเพลงพร้อมเดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องเธอ
ขณะที่เดินผ่านเขา หยางหยางมองเขาอย่างห่วงใย “พ่อจ๋าราตรีสวัสดิ์ครับ”
“ราตรีสวัสดิ์” สองคำที่ออกจากปากของเขา เขายิ้มมุมปาก พลางมองไปที่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอ
“ประธานจิ่ง หากคุณนอนไม่หลับ สามารถกลับไปได้ทันทีนะคะ ฉันไม่ถือสา” ทันทีที่เธอและหยางหยางเดินออกไป เธอเหลือบไปมองเขาที่หัวเราะอย่างเย็นชา
“พรุ่งนี้เธอได้เจอฉันแน่” เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อออกจากที่นี่ตั้งแต่คืนแรกหรอกนะ
แต่พวกเขาทั้งสามคนจู่ ๆ ก็ขึ้นไปนอนชั้นบน ปล่อยให้เขาอยู่ข้างล่างคนเดียว อันโหรวเธอแน่มาก เธอมันร้ายกาจจริง ๆ
เขามองไปรอบ ๆ ห้องรับแขก ก่อนจะเดินไปยังห้องนอนของอันโหรว
สำหรับตัวของเขาแล้ว คืนนี้เขาตั้งใจจะไม่หลับอยู่แล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น จู่ ๆ เขาก็รู้สึกได้ถึงเนื้อนุ่ม ๆ ที่ขยับอยู่ข้างตัวเขา เขาสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาดู สัญชาตญาณบอกเขาว่าไม่มีทางเป็นอันโหรวอย่างแน่นอน
เขาลืมตาขึ้นพลางยกมือขึ้นบังแสงแดดที่ส่องเข้ามา เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็เห็นหน่วนหน่วนนอนคว่ำมองเขาด้วยรอยยิ้มอยู่บนเตียง “แด๊ดดี้ตื่นแล้วเหรอคะ?”
“หน่วนหน่วน” เขาจับมือนุ่ม ๆ ของเธอ “แม่จ๋าอยู่ไหนคะ?”
“แม่จ๋ากำลังทำกับข้าวอยู่ค่ะ!” เธอขยับเข้าไปใกล้เขาเล็กน้อย “แด๊ดดี้ไม่ได้นอนกับแม่จ๋าเหรอคะ?”
วันนี้เธอเห็นแม่จ๋ากับพี่ชายนอนด้วยกันในห้อง ตอนที่เธอลงมาพี่ชายบอกว่าพ่อจ๋านอนอยู่ที่นี่ เธอเลยเดินเข้ามาหา แล้วก็เจอเขาอยู่คนเดียวจริง ๆ
แด๊ดดี้น่าสงสารจัง!
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมาทันที สมกับที่เป็นลูกสาวของเขาจริง ๆ รู้ว่าเขารู้สึกแย่ ไม่เหมือนโหรวโหรวกับหยางหยาง สองคนนั้นรู้ทั้งรู้ยังแกล้งเขาอีก
“พี่ชายบอกว่าเขากลัว เมื่อคืนเลยให้แม่จ๋านอนเป็นเพื่อน พี่ชายไม่กล้าหาญเหมือนหนูใช่หรือเปล่าคะ?” เขาต้องหาผลประโยชน์ของเขากลับคืนมาเพื่อที่เขาจะได้อยู่ร่วมกันภายในบ้านเดียวกัน หากไม่คว้าโอกาสนี้ไว้ เขาจะมาที่นี่ทำไมกัน?
“ไม่ได้แล้วสิ แม่จ๋านอนเป็นเพื่อนพี่ชายไปแล้ว คืนนี้ต้องนอนกับหนูถึงจะยุติธรรม แด๊ดดี้ว่าถูกไหมคะ?”
หน่วนหน่วนไม่เข้าใจความหมายของจิ่งเป่ยเฉินเลยแม้แต่น้อย เธอรู้ว่าแม่จ๋านอนเป็นเพื่อนพี่ชายเมื่อคืน
หน่วนหน่วนเป็นคนที่ดูเอาใจใส่ แค่ตอนนี้เธอไม่เข้าใจความรู้สึกของเขาเท่านั้น
“หน่วนหน่วน งั้นคืนถัดไปแม่จ๋าต้องนอนเป็นเพื่อนแด๊ดดี้ถึงยุติธรรมใช่ไหมนะ?” เขารออย่างเป็นธรรม
“จิ่งเป่ยเฉิน!” ทันใดนั้นเสียงของอันโหรวก็ดังขึ้น ทั้งสองคนที่อยู่บนเตียงมองไปที่ประตูทันที
“แม่จ๋า” หน่วนหน่วนที่นอนคว่ำอยู่ลุกขึ้นมาทันที “เมื่อกี้แด๊ดดี้พูดว่า……”
“ไม่ต้องสนใจว่าเขาพูดว่าอะไร วันนี้หนูกับพี่ชายอยู่บ้านนะจ้ะ ที่โรงเรียนอนุบาลทำความสะอาดเลยไปโรงเรียนไม่ได้ ค่อยไปวันจันทร์หน้านะ” เธอที่ได้รับข่าวสารเมื่อเช้านี้เอง รู้สึกงุนงงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
“ได้ค่ะ“ หน่วนหน่วนเดินไปจับมือเธอ “กอด……”
จิ่งเป่ยเฉินที่นอนอยู่ลุกขึ้นนั่ง ผมสีดำดูยุ่งเหยิง ชุดนอนสีเทากระดุมบนถูกเปิดออก เผยให้เห็นผิวสีขาว เขามองไปที่พวกเธอ
“โหรวโหรว คุณปฏิบัติกับสามีแบบนี้เหรอ? มอนิ่งคิสของฉันล่ะ?” เธอปลุกเขาตั้งแต่เช้าตรู่แล้ว แต่เขากลับไม่รู้สึกตัว
ทำยังไงดี ลางสังหรณ์บอกว่าในอนาคตเขาต้องตกเป็นทาสเธออีกยาวไกล
เขาต้องเปลี่ยนสถานะตัวเอง!
อันโหรวจ้องไปที่หน้าอกที่กระดุมเสื้อหลุดออกแต่เช้า เธอมองหน้าเขาที่ดูหล่อเหลากว่าปกติ
เธอหัวเราะและกอดหน่วนหน่วน “หน่วนหน่วนจุ๊บแด๊ดดี้หน่อยสิคะ”
หน่วนหน่วนรีบส่งจุ๊บให้เขา “แด๊ดดี้ จุ๊บ!”
อันโหรวอุ้มหน่วนหน่วนออกไปทันที แต่ก่อนจะเดินออกไปเธอก็ไม่ลืมที่จะเตือนเขา “ประธานจิ่ง ตื่นแล้วก็ออกมากินข้าวก่อนไปทำงานนะคะ สายแล้วโทษฉันไม่ได้นะ”
สะใภ้ที่เขาขอมากับมือ เธอจะทำอะไรก็ถูกเสมอ พูดอะไรก็ต้องถูกทุกอย่าง แต่จะไม่นอนกับเขาไม่ได้ !
อันโหรวดูแลหน่วนหน่วนกับหยางหยางที่กำลังกินข้าว ไม่นานจิ่งเป่ยเฉินก็แต่งตัวเสร็จและมานั่งกินข้าวร่วมกับพวกเขา
เธอเหลือบไปมองเขาที่ดูมีท่าทางเรียบเฉย ดูไม่ใช่สไตล์เขาเลย!
เขาคงไม่คิดบัญชีทีหลังหรอกนะ
หลังจากที่ออกไป จิ่งเป่ยเฉินเรียกเสี่ยวหยางมาคอยดูแลหยางหยางและหน่วนหน่วน เดิมทีเธอคิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนเธอจึงไม่ได้ปฏิเสธออกไป
และการที่เธอไม่ได้ปฏิเสธนั้นทำให้เธอปฏิเสธที่จะนั่งรถไปทำงานพร้อมกับเขาไม่ได้
เธอนั่งดูข่าวสารในอินเทอร์เน็ตอยู่บนเบาะข้างคนขับ เจอรูปเมื่อคืนที่เขายืนอยู่หน้าประตูจริง ๆ เขาโอบเอวของเธอไว้แน่น ตอนแรกเขามีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ตอนนี้กลับเย็นชาขึ้นมา
หัวข้อข่าวคือ…น่าเวทนาจนไม่อาจดูได้
“ประธานจิ่งกิ๊กกั๊กกับแม่เลี้ยงเดี่ยว ยินดีเป็นพ่อเลี้ยง!” เธอดูที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ พลางค่อย ๆ เลื่อนอ่าน “ข่าวฮอต ประธานจิ่งสุดเพอร์เฟกต์กับความรักครั้งใหม่กับหญิงชราที่น่าเกลียด!”
จิ่งเป่ยเฉินจับพวงมาลัยแน่น มองไปด้านหน้าอย่างจริงจัง ก่อนจะถามต่ออย่างสนใจว่า “มีอะไรอีก?”
“เมื่อวานระดับน้ำทะเลหลานไห่ขึ้น ข่าวเรื่องรักของประธานจิ่งทำให้ผู้หญิงทั้งประเทศถึงกับน้ำตาตก นี่มันบ้าอะไรกัน?” อันโหรวรีบปัดไปหน้าถัดไปอย่างรวดเร็ว “จะเกินไปแล้ว ทำไมไม่บอกเพราะภายในฉันสวยถึงดึงดูดนายได้กัน?”
“อืม ๆ เกินไปจริง ๆ!” เขารีบพยักหน้าตอบทันที สิ่งสำคัญอันดับแรกคือภรรยาต้องอารมณ์ดี เธออารมณ์ดีก็จะพูดง่าย
“จิ่งเป่ยเฉิน ความจริงนายก็ชอบฉันที่ภายนอกดูสวยใช่ไหม?” หากคล้อยตามเธอไปมันจะดูเร็วไป ทำเอาซะคิดไม่ทันเลย
จิ่งเป่ยเฉินขมวดคิ้ว พลางหันไปมองเธอ “เปล่า ฉันกล้าจูบเธอตอนหน้าแบบนี้นะ จะลองไหม?”
“ไม่ต้อง” เธอแค่ถามดูเท่านั้น ไม่ต้องการให้ทำจริง
วันนี้เธอต้องถูกจับจ้องจากสายตาคนรอบข้างแน่ ๆ ข่าวนี้ต้องบินว่อนไปทั่วอินเทอร์เน็ตแน่นอน
ทันทีที่ถึงบริษัทจิ่ง เธอก็ถามขึ้นว่า “งั้นวันนี้พวกเราต้องเป็นเรื่องอื้อฉาวใช่ไหม?”
จิ่งเป่ยเฉินขมวดคิ้ว ก่อนจะตอบอย่างช้า ๆ “มันก็เรื่องจริงไม่ใช่เหรอ?”
มันไม่ใช่เรื่องอื้อฉาว เรื่องซุบซิบอะไรพวกนี้ล้วนไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริงหรอก
จิ่งเป่ยเฉินนายนี่มันเก่งจริง ๆ มีเขาคอยกันให้จึงทำให้เธอไม่ต้องกลัว ใครกล้าพูดว่าเธอคืออันโหรว เธอคืออันอีหาน!
ขณะที่ทั้งคู่เดินเข้าไปในบริษัทจิ่ง พวกเขาก็ถูกจับจ้องเป็นที่สนใจของคนรอบข้าง เธอเดินตามหลังจิ่งเป่ยเฉินด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
แต่ในส่วนของจิ่งเป่ยเฉินกลับไม่มีใครกล้าซุบซิบนินทา ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปในลิฟต์ ผู้คนในล็อบบี้ก็เริ่มนินทากันอย่างสนุกปากว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิด เธอหันไปมองสีหน้าที่เย็นชาของจิ่งเป่ยเฉิน “ประธานจิ่ง คุณคิดอยากจะจ้างเลขาคนอื่นหรือเปล่า?”
ทันทีที่เธอพูดจบ ร่างตรงหน้าก็หันมาผลักเธอชิดผนังลิฟต์แล้วจูบไปริมฝีปากบาง ๆ ของเธอ “ถังซั่วให้ประโยชน์อะไรกับเธอกันแน่?”