อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด – ตอนที่ 13 : ทั้งรักทั้งแค้น

ตอนที่ 13 : ทั้งรักทั้งแค้น

ผู้ชายคนนี้แยกทั้งรักและแค้นได้! แต่กลับมีภาวะไม่รู้ใบหน้า ช่างน่าตลกสิ้นดี

“แม้แต่เลขาหลินที่อยู่ข้างกายเขาเองก็จำไม่ได้ เลขาหลิน….” ฉีเซิ่งเทียนถูกขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะเอ่ยคำพูดต่อ

“คืนนี้เลขาหลินจะให้ข้อมูลกับคุณ ส่วนเรื่องวางแผน พรุ่งนี้ผมจะดูมันที่โต๊ะทำงาน” หลังจากนั้นจิ่งเป่ยเฉินก็ลุกออกจากเก้าอี้และเดินออกไป

หลังจากที่เดินออกไปไม่กี่ก้าว เขาก็ได้ยินเสียงที่แหบพร่าดังออกมาจากด้านหลัง

“ประธานจิ่ง นี่คุณมีภาวะไม่รู้ใบหน้าจริง ๆ เหรอ? ถ้าอย่างนั้นฉันควรทำป้ายพิเศษนำทางดีไหม?”

ทันทีที่พูดจบ ฉีเซิ่งเทียนอดทนไว้ไม่ได้อีกต่อไป ก่อนจะหัวเราะเสียงดังออกมา “เลขาหลินก็สวมป้ายสีแดงพิเศษเอาไว้ทุกวัน ถ้าหากถอดออกละก็ ประธานจิ่งแทบจะไม่รู้จักเลขาหลินเลยด้วยซ้ำ”

ฉีเซิ่งเทียนหัวเราะในขณะที่พูด แต่เมื่อเขาเห็นการจ้องมองของชายที่เข้มงวด รอยยิ้มและเสียงหัวเราะก็พลันหยุดลงทันที

“ไม่ต้องใช้เครื่องหมายพิเศษ ผมก็จำคุณได้”

ประโยคนี้ทำให้ฉีเซิ่งเทียนหวาดกลัว ในเมื่อเขาพูดออกมา เขานั้นจดจำเธอได้แน่นอน

เขาคิดว่ามีเพียงแค่หญิงสาวตระกูลอันคนนั้นเสียอีก…

“เพื่อให้เป็นไปตามนั้น ฉันจะเลือกสีอื่น ๆ ให้เธอเอง พรุ่งนี้ก็สวมมาละกัน เพราะนี่จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนกวางแผน ส่วนเรื่องการรับผิดชอบ…” เขาก็แค่อยากตรวจสอบและดูว่าเธอนั้นคงไม่ใช่จริง ๆ

ถ้าหากใช่จริง ๆ ละก็ เมื่อห้าปีก่อน เขาก็ต้องพบนานแล้วสิ

“ฉันบอกว่าไม่ต้องการก็ไม่ต้องการ ไม่เข้าใจอย่างนั้นเหรอ?” จิ่งเป่ยเฉินจ้องมองมาด้วยสายตาที่เย็นชา หลังจากนั้นก็ละสายตา พร้อมเดินออกไปทันที

“บ้าไปแล้ว ผู้รับผิดชอบแผนกการวางแผนโฆษณาต่าง ๆ ยังจะบอกว่าจำได้อย่างนั้นเหรอ?” ฉีเซิ่งเทียนก้าวเดินตาม “พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน?”

“ก็หมายความว่าฉันจะไปแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะส่งแผนดังกล่าวที่ว่าไปยังห้องทำงานของประธานเอง”

“มีผู้หญิงไม่กี่คนที่เขาจำได้ เธอยัง..” ฉีเซิ่งเทียนมีรอยยิ้มขี้เล่นที่มุมปาก นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่ยิ้มแบบนี้

ช่างเป็นงานที่ใหญ่โตในหนึ่งปีจริง ๆ

จิ่งเป่ยเฉินน่าจะไม่รู้ว่าอันอีหานคนนี้เป็นแม่คนแล้ว

อันโหรวไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไป ก่อนที่จะเดินออกไปทันที

ตอนนี้เหลือเพียงฉีเซิ่งเทียนที่อยู่ในห้องสัมภาษณ์

เมื่อลิฟต์ลงมาถึงชั้นหนึ่ง อันโหรวก็ก้าวออกมาจากลิฟต์ เธอมองเห็นลูซี่ที่กำลังมุ่งตรงเดินมาหาตัวเองด้วยท่าทีที่ก้าวร้าว

“นี่ยัยคนแก่ ใครเป็นคนหนุนหลังเธอกันแน่?” ลูซี่มองอันโหรวด้วยท่าทีที่หยิ่งยโส แววตาที่มองมานั้นแฝงไว้ด้วยความดูถูก

“คุณอย่าคิดดูถูกคนอื่นจะดีกว่า” อันโหรวเงยหน้ามองเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมาบาง ๆ และไม่สนใจเธออีกต่อไป

ปกติแล้ววิธีนี้มักจะหลีกเลี่ยงความวุ่นวายได้เป็นอย่างดี

“ฉันเป็นผู้หญิงของเฉิน บริษัทอุตสาหกรรมจิ่งจะต้องเป็นของฉัน คนที่หนุนหลังเธอเป็นใครกันแน่ พูดมา เป็นใคร?” ลูซี่ชำเลืองสายตามอง คำพูดเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

“ถ้าอยากรู้ว่าเป็นใคร คุณก็ลองไปถามประธานจิ่งดู” อันโหรวรู้สึกรำคาญเธอ เมื่อพูดจบจึงได้เดินหันหลังเพื่อที่จะออกไปจากตรงนี้

เพียงแต่ลูซี่กลับคว้าตัวของเธอจากด้านหลังเอาไว้ ก่อนจะพูดว่า “พูดจาอวดดี กล้ามากนะ เธอเป็นผู้หญิงของประธานจิ่งอย่างนั้นเหรอ? เธอมีดีอะไรกันแน่ หน้าอกใหญ่อย่างนั้นเหรอ? มีเสน่ห์อะไรกัน”

เมื่อเห็นผู้คนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่หันมามองทางนี้ อันโหรวก็ขยับข้อมือหลัง ก่อนที่จะสลัดมือของลู่ซี่ออก “หน้าอกฉันอาจจะไม่ใหญ่เท่าคุณ แต่ว่าฉันมักจะใช้สมองในการแก้ปัญหา ว่าแต่ขอถามหน่อย คุณมีสมองหรือเปล่า?”

เธอหยุดพูดไปสักพัก ก่อนจะมองขึ้นด้วยหางตาที่เหลือบมองทุกส่วนเล็กน้อย พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มอย่างไม่เกรงใจ “อีกอย่าง มันคงไม่ได้ใช้แค่หน้าอกหรอก เทียบกันแล้วคุ้มค่าไหม?”

ทันทีที่พูดจบ ผู้คนต่างก็ลุกลี้ลุกลน ใบหน้าของลูซี่พลันเปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด ราวกับจานสีที่ถูกบดขยี้จนแหลก

ผู้คนรอบข้างต่างก็หยุดเดินพลางกระซิบกันไปมา

Related

Related

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

Status: Ongoing
อ่านเรื่อง อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉดตอนที่ 1 ฉันเป็นเจ้าสาวของคุณ ภายในเรือเดินสมุทรที่ค่อนข้างหรูหรา ในตอนนี้ได้มีการจัดพิธีแต่งงานขึ้น อันโหรวกำลังมองไปยังคู่รักคู่หนึ่งด้วยสีหน้าและแววตาที่เย็นชา ชุดเดรสสีฟ้าที่เธอสวมใส่อยู่นั้นพลิ้วไหวไปกับสายลม “หยุดก่อน!” เธอตะโกนหยุดพิธีแต่งงานที่ดูไร้สาระนั่น ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานต่างจับจ้องมาที่ตัวเธอ “ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน? ทำไมถึงได้มายืนอยู่ตรงหน้าบ่าวสาวแบบนี้?” “หรืออาจจะเป็นคนรักของคุณชายโอวหยาง? แล้วทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่กัน?” ซุ่มสียงทั้งหมดดังเข้ามาในหูของเจ้าสาวอย่างเหลียวเว่ย รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอนั้นแข็งทื่อขึ้นมาทันที หัวใจก็เต้นโครมครามไม่หยุด เมื่อหันหน้าไปสบตากับผู้หญิงที่อยู่ตรงข้าม หัวใจของเธอก็ดำดิ่งลงไปเสียยิ่งกว่าอะไร คงไม่มีใครโง่พอที่จะปล่อยให้อดีตคู่รักมาสร้างปัญหาในพิธีแต่งงานหรอก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในช่วงเวลานี้ เธอพร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้มันพังลง! “โหรวโหรว…” โอวหยางลี่ปล่อยมือของเหลียวเว่ยทันที เขาหันไปอย่างไม่แยแสต่อสายตาของผู้คนภายในงาน รอยยิ้มบนใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด ลียวเว่ยรู้สึกเป็นกังวลใจ เธอจึงรีบยื่นมือไปคว้าเขาไว้ “ลี่ ฉันเป็นเจ้าสาวของคุณนะ ในตอนนี้ตระกูลของอันได้ตกต่ำลงไปแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล แต่ทว่ามือที่จับแขนของเขานั้นกลับเต็มไปด้วยแรงที่ค่อนข้างมาก

Comment

Options

not work with dark mode
Reset