ตอนที่ 20 นี่คุณผู้หญิง คุณกลัวผมเหรอ?
“ถ้าหากไม่มีก็พูดได้เลยว่าบริษัทจิ่งนั้นจัดการเรื่องพวกนี้ได้แย่มาก ก่อนที่จะวางแผนอะไร คุณต้องเข้าใจลูกค้าอย่างถ่องแท้เสียก่อน เมื่อถึงเวลานั้นการทำธุรกิจ เลขาเองก็จะต้องรวบรวมข้อมูลชุดที่สมบูรณ์มาให้หนึ่งชุด แล้วส่งมายังประธาน หลังจากนั้นก็คัดกรองอย่างละเอียด เพื่อที่จะส่งไปให้ยังแผนกวางแผน”
หลังจากที่ได้ฟัง จิ่งเป่ยเฉินก็รู้ได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นมืออาชีพของจริง
เมื่อได้ฟังเธอพูดจบ เขาก็คิดในใจสักพัก ก่อนจะก้มหน้าต่ำและเดินเข้ามาพร้อมโอบไปที่ด้านหลังของเธอ ตอนนี้เขากำลังโอบกอดอันโหรวเอาไว้
“คุณอยู่ให้ห่างจากฉันเลย” เธอผลักเขา แต่ทว่ากลับถูกเขาคว้ากลับมาอีกครั้ง
“ต้องการกลับบ้านอย่างนั้นเหรอ?” จิ่งเป่ยเฉินเอ่ยถามอีกครั้ง อันโหรวไม่ได้ตอบอะไร
เธอคลิกเม้าส์สองสามครั้ง แป้นพิมพ์ก็ถูกกดปุ่มรัว ๆ ไม่นานกล่องจดหมายก็ถูกเปิดขึ้น
ภายในนั้นเต็มไปด้วยข้อมูลที่เป็นระเบียบแบบแผนมาก อันโหรวเจอสิ่งที่เธอต้องการได้ทั้งหมดภายในครั้งเดียว
เธอกังวลใจรีบอยากจะกลับบ้าน เธอพยายามคลิกเม้าส์ทันที เพียงแต่มือของจิ่งเป่ยเฉินนั้นกลับแตะไปที่เม้าส์ที่มีมือของเธออยู่
ช่วงขณะนั้นราวกับถูกไฟฟ้าช็อตหรืออะไรบางอย่างที่ดูไม่ธรรมดา เธอรีบดึงมือออกทันที
จิ่งเป่ยเฉินขมวดคิ้วและพูดขึ้นว่า “นี่คุณผู้หญิง คุณกลัวผมงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ว่าคุณมีภาวะจดจำใบหน้าไม่ได้หรือไง?” เธอจงใจใช้ประโยชน์นี้เพราะต้องการเปลี่ยนเรื่อง
ทันทีที่พูดจบ เธอก็ยกคางของเธอขึ้น เธอไม่ค่อยชอบท่าท่างนี้เท่าไรนัก เขาชอบมองเธอราวกับเย่อหยิ่งนักหนา คิดว่าตัวเองเป็นจักรพรรดิที่สูงส่งหรือยังไง
“อันอีหาน” เขาและเธอในยามนี้มองตากันอย่างใกล้ชิด
“คุณชอบผู้หญิงแก่ ๆ งั้นเหรอ?” อันโหรวเอ่ยถามพลางแสยะยิ้มออกมา
“ผมเพิ่งจะจำคุณได้ ไม่ได้บอกว่าชอบสักหน่อย” จิ่งเป่ยเฉินจงใจใช้แรงของเขากดไปเพื่อทำลายสีหน้าที่ยิ้มกว้างของเธอ
เธอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะมองเขาด้วยสายตาที่ดุร้าย “ฉันต้องการอ่านข้อมูลและเขียนแผน ถ้าคุณคิดจะหาหญิงมาบริการก็อย่ามายุ่งกับฉัน ไปหาลูซี่เถอะ”
เห็นได้ชัดว่าเมื่อเธอพูดถึงลูซี่ขึ้นมา ใบหน้าของเขาก็พลันจมลงอย่างรวดเร็ว
จิ่งเป่ยเฉินปล่อยมือของเธอออก ก่อนจะปล่อยให้เธอทำงานต่อไป “ภายในหนึ่งชั่วโมง ผมอยากเห็น”
เมื่อพูดจบเขาก็เดินไปที่อีกด้านหนึ่งทันที
ตอนนี้เขาต้องมีสติให้มากที่สุด ดวงตาคู่นั้นของเธอทำให้เขาคิดถึงอันโหรวที่เคยอยู่ตรงหน้าเขา
เพียงแต่ว่าเธอคนนี้คืออันอีหาน
ดวงตาที่เหมือนกัน แซ่ก็คล้ายกัน นี่คงเป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้น
ความกดดันได้หายไปแล้ว อันโหรวรีบปรับสมาธิใหม่ หลังจากนั้นก็บันทึกข้อมูลลงหน้าเดสก์ท็อป พร้อมเปิดและตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ในส่วนท้ายของข้อมูลคือแผนดั้งเดิมที่เคยถูกวางเอาไว้ ทั้งหยกก็เป็นพื้นหลัง
เมื่อเธอเห็นคำว่าหยก เธอก็แทบจะเป็นลมทันที
หยก (อวี้) หยกยุทธภัณฑ์ของโลก ตระกูลอัน
ในช่วงขณะนั้นเองก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา “แม่ครับ”
จากนั้นประตูก็ถูกเคาะอยู่หลายครั้ง
อันโหรวพลันตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินเสียงของหยางหยาง เขามาอยู่ที่นี่แล้ว!
เธอมองไปที่ประตูที่ถูกปิดอยู่ จิ่งเป่ยเฉินอยู่ข้างใน แน่นอนเธอต้องทำให้อันหยางไม่ได้พบกับเขาโดยเด็ดขาด
ด้วยเหตุนี้เธอจึงรีบลุกขึ้น ตอนนี้เขาไม่อยู่ต้องรีบไปจัดการเรื่องพวกนี้ให้เรียบร้อย
“จะไปไหน?” จิ่งเป่ยเฉินที่บังเอิญออกมาจากห้องพอดี เขารีบคว้าไปที่ข้อมือของเธอ
ใบหน้าของอันโหรวเปลี่ยนสีหน้าเป็นดำดิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่เธอกลัวดูเหมือนจะใกล้มาถึงแล้ว
“คุณปล่อยฉันนะ ฉันเป็นห่วงลูกชายของฉัน” อันโหรวรีบดิ้นให้หลุดจากเขาเร็ว ๆ
“เลขาหลินส่งข้อความมาให้แล้ว เด็กคนนั้นจะกลับบ้านแล้ว”
จิ่งเป่ยเฉินยืนกราน จะเป็นไปได้ยังไง? เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงของหยางหยางที่หน้าประตู
“ฉันจะกลับบ้านไปเขียนแผนให้ พรุ่งนี้ฉันสัญญาว่าจะส่งให้คุณเอง” เมื่อพูดจบ เธอก็รีบปิดคอมและพุ่งออกจากตัวเขา
ด้วยความเร่งรีบบวกกับการสวมใส่รองเท้าส้นสูงและด้วยความไม่ระวัง เมื่อถึงหน้าประตูก็ส่งผลให้เธอล้มลงแทบจะทันที
ท้องฟ้าที่หมุนไปรอบ ๆ แต่ที่หล่นนั้นกลับไม่ใช่พื้นเย็น ๆ แต่กลับเป็นแผ่นหลังที่บ่งบอกถึงความอบอุ่น
“คุณ….” อันโหรวเอ่ยขึ้นเพียงแค่นั้น เพราะประโยคต่อมากลับติดอยู่ในลำคอ พูดออกมาไม่ได้
มือใหญ่ ๆ โอบไปที่เอวของเธอ ถูกเขากอดเอาไว้ในอ้อมแขนแบบนี้ คืนนี้กี่ครั้งแล้วที่เธอตกอยู่ภายใต้อ้อมแขนของเขา และครั้งนี้เป็นการเผชิญหน้ากับเขาโดยตรงอีกด้วย
“เขียนแผนให้เสร็จ ถึงจะออกไปได้” จิ่งเป่ยเฉินปล่อยเธอออก อันโหรวรีบลุกขึ้นและเดินไปทันที
เพียงแต่ว่าเมื่อเธอลุกขึ้น เข่าของเธอก็พลันงอไปสัมผัสเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ควรสัมผัส
นั่นคือจุดสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นชายของเขา
อันโหรวหน้าแดงขึ้นมาทันที เธอทำตัวเคอะเขิน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงไปโดนจุดนั้นได้
Related