ตอนที่ 111 คุณถังผู้ไม่ขัดสน
สามารถตอบสนองได้แบบนี้ แต่กลับเสแสร้งเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา มีหรือเขาจะไม่สนใจว่าเธอจะเล่นกับมันแบบไหน?
อันโหรวกดเบอร์โทรศัพท์ของอันหน่วนอย่างประหม่า อันที่จริงเธออยากจะถามอาจารย์มากกว่า แต่กลัวว่าอาจารย์จะพาหยางหยางและหน่วนหน่วนออกมาด้วยกัน
ดังนั้นจึงโทรศัพท์ไปเป็นการยืนยันก่อน เพื่อความสบายใจ
“แม่จ๋าเหรอคะ” น้ำเสียงหวานที่นุ่มนวลของอันหน่วนดังขึ้น อันโหรวถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
“หน่วนหน่วน นี่แม่จ๋าเอง” สายตาของอันโหรวเหลือบไปมองจิ่งเป่ยเฉิน ก่อนจะถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างลังเล และพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง “ลูก ๆ อยู่ที่ไหนกันจ๊ะ”
“พวกหนูอยู่ที่ร้าน KFC ค่ะแม่ ร้านที่คุณลุงถังพาพวกเรามาครั้งก่อน แม่จ๋าจะมารับพวกหนูไหมคะ?”
เมื่ออันโหรวได้ยินแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าเด็กน้อยกำลังกินข้าวอยู่ แต่เป็นแบบนั้นก็ดี อย่างน้อยจิ่งเป่ยเฉินก็หาพวกเขาไม่เจอ
“เป็นเด็กดีนะ เชื่อฟังที่พี่ชายพูด เดี๋ยวแม่จ๋าจะรีบกลับไป” เธอจงใจพูดออกไปแบบนั้นเพื่อให้จิ่งเป่ยเฉินออกไปจากที่นี่
เพราะเธอได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามา เธอจึงวางสายและหันหลังกลับไปยิ้มให้ พลางยื่นโทรศัพท์คืนเขา “ขอบคุณสำหรับโทรศัพท์นะคะประธานจิ่ง แต่ว่าเพื่อนของฉันได้ช่วยพาเด็ก ๆ กลับบ้านไปแล้ว”
“รับกลับไปแล้วงั้นเหรอ?” จิ่งเป่ยเฉินเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ ก่อนจะก้มลงกดบันทึกชื่อสองพยางค์ใส่ในนั้น “หน่วนหน่วน”
“ใช่ค่ะ! เพราะฉันมาช้าไปหน่อย เขาผ่านมาแถวนี้พอดีเลยรับกลับบ้านไปแล้วค่ะ” เธอทำท่าทางยื่นมือออกมาร้องขอ “รบกวนคุณแท้ ๆ เลยประธานจิ่ง ”
รบกวนอะไรกัน จิ่งเป่ยเฉินเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก
คิดว่าครั้งนี้จะได้เห็นเด็กที่ชื่อหยางหยางซะอีก เขาเก็บอารมณ์ที่เศร้าเสียใจไว้ไม่ได้
รู้ว่าผ่านไปแล้ว แต่ก็อดเสียดายไม่ได้ แค่อีกนิดเดียวเท่านั้นก็จะได้เจอกันแล้ว
ในทางกลับกัน ใบหน้าที่ซีดเซียวของอันโหรวกลับเผยรอยยิ้มออกมา แสดงสีหน้าที่ดูมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง
หลังจากที่ออกไป อันโหรวแทบรอไม่ไหวที่จะรีบแยกจากเขา เธอยื่นมือไปโบกรถแท็กซี่และโบกมือลาเขา “ไปก่อนนะคะประธานจิ่ง”
จากนั้นเธอก็เข้าไปในรถและบอกที่อยู่บ้านของตน
ตามที่เธอคาดการณ์ไว้ จิ่งเป่ยเฉินขับรถตามเธอออกมา โชคดีที่เธอคิดไว้แล้วว่าเขาจะต้องทำแบบนี้ จึงใช้วิธีนี้เพื่อที่เขาจะไม่สามารถตามหาพวกเด็ก ๆ เจอ
รถแล่นออกไปสักพัก จิ่งเป่ยเฉินเหมือนว่าจะเชื่อคำพูดของเธออยู่ไม่น้อย แต่เมื่อรถเบี่ยงเลี้ยวไปยังอีกเส้นทางกลับขับหายไปทันที
เธอบอกให้คนขับวนรถกลับ ทำให้คนขับรถงุนงงไปชั่วครู่ ความจริงแล้วเธอไม่ได้อยากจะทำแบบนี้ แต่วิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้จิ่งเป่ยเฉินหาเด็ก ๆ ไม่เจอ
เมื่อเธอมาถึงร้าน KFC อันหยางและอันหน่วนก็กินอาหารกันจนอิ่มแล้ว ถังซั่วนั่งหันหลังให้เธอจึงมองไม่เห็นเขา แต่มองเห็นหยางหยางและหน่วนหน่วนที่ดูมีความสุขอยู่ไม่ไกล พวกเขาเข้ากันได้ดีเลยทีเดียว
“แม่จ๋า!” อันหน่วนเห็นเธอเป็นคนแรก และวิ่งเข้ามาหาเธอทันที
เมื่ออันหยางเห็นเธอก็รีบวิ่งตามมาเช่นกัน “แม่จ๋า……”
เมื่อถังซั่วได้ยินเสียงเด็กสองคนร้องตะโกน เขาหันไปมองอันโหรวที่ยังคงสวมแว่นกันแดดอันเก่าอย่างเรียบง่าย
ก่อนจะหันไปมองท้องฟ้าด้านนอกที่ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องสวมแว่นกันแดดเลยสักนิด หรือว่าเธอตั้งใจที่จะให้เขาเห็นเธอในสภาพแบบนี้?
ทำไม?
อันโหรวจูบที่แก้มของลูกทั้งสอง ก่อนจะจูงมือเด็ก ๆ ไปหาถังซั่ว “คุณถัง ขอบคุณนะคะที่ช่วยดูแลเด็ก ๆ ทำให้คุณเสียเวลา ฉันจ่ายค่าเสียเวลาให้นะ”
เธอปล่อยมืออันหยางแล้วก้มลงหยิบเงินค่าเสียเวลาออกมา
“ไม่ต้องหรอก เกรงใจกันเกินไปแล้ว” ถังซั่วรีบปฏิเสธ
“ผมชอบเด็กสองคนนี้ ถ้าคุณไม่ว่าง สามารถบอกผมได้เลย ผมอาสาไปรับเด็ก ๆ ให้เอง”
“ต่อจากนี้คงจะไม่รบกวนคุณถังแล้ว” อันโหรวหยิบเงินออกมาสองร้อยหยวนและวางลงบนโต๊ะ
“คุณถังช่วยฉันสองครั้งติดต่อกันแบบนี้ ฉันรู้สึกซึ้งใจมาก ไม่สามารถรับความช่วยเหลือจากคุณถังได้อีก”
ถังซั่วมองไปที่เงินสองร้อยหยวนบนโต๊ะก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ออกมาอย่างไม่สนใจ “ทำไมคุณถึงได้ปฏิเสธคนเก่งแบบนี้นะ ผมช่วยคุณเพราะเงินอย่างนั้นเหรอ”
“ฉันเข้าใจดีว่าคุณถังไม่ได้ขัดสน” เธอเพิ่งลบเครื่องสำอางบนใบหน้าออกตอนอยู่บนรถแท็กซี่ ภายใต้แว่นกันแดดสีดำเผยให้เห็นใบหน้าครึ่งหนึ่งที่ดูดึงดูดสายตาผู้คนจนไม่อาจละสายตา
“แต่ฉันไม่มีอะไรจะตอบแทนคุณถังได้เลย อย่างน้อยอาหารมื้อนี้ให้ฉันเป็นคนออกเถอะค่ะ” เธอจูงมือเด็กน้อยทั้งสอง “บอกลาคุณลุงเร็ว”
……………………………….
ตอนที่ 112 พี่ชายรังแกหนู
“คุณลุงลาก่อนนะ!” ทั้งสองคนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“คุณนี่มันใจร้ายเกินไปจริง ๆ ถ้าหากไม่เป็นแบบนี้ คุณก็คงไม่คิดจะขอบคุณผมเลยสินะ ทำไมไม่ยอมบอกชื่อคุณให้ผมรู้บ้าง” ถังซั่วจับจ้องไปที่ตัวเธอ ก่อนจะมองไปที่แว่นกันแดดสีดำที่ปิดบังดวงตาของเธอเอาไว้
ตั้งแต่ตอนไหนกันที่เธอคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าเขา?
ถ้าหากถังซั่วคิดอยากจะรู้ชื่อของเธอจริง ๆ นั้นก็ง่ายแสนง่าย แค่ไปโรงเรียนอนุบาลและตรวจสอบรายชื่อก็จบแล้ว แต่ว่าเขากลับไม่ทำ เพราะนี่นับว่าเป็นการแสดงความเคารพอย่างหนึ่งของเขา
“แม่จ๋าชื่อ…….” อันหน่วนจู่ ๆ ก็จะพูดขึ้น
อันโหรวตกใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบเอ่ยปากพูดไปว่า “หน่วนหน่วน หิวน้ำหรือเปล่า อยากกินอะไรไหม?”
“หนูไม่หิว!” อันหน่วนไม่ได้อยากกินอะไร แต่เธอก็ลืมที่จะตอบคำถามนั้นไปเสียแล้ว
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะคุณถังที่ช่วยเหลือ ส่วนชื่อนั้นไม่สำคัญ ถ้าหากมีโอกาสไว้พบกันคราวหน้าค่ะ” เธอพูดจบก็รีบดึงเด็ก ๆ ออกไปอย่างรวดเร็ว
คล้ายรีบหนีจากโรคระบาดยังไงยังงั้น
ถังซั่วยิ้มอย่างอ่อนโยน ต่างหูสีเงินของเขาส่องประกายวิบวับและดูสว่างไสวตามจังหวะการเคลื่อนไหวของใบหน้า
น่าสนใจมาก!
คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะลึกลับขนาดนี้ ทำให้แม้กระทั่งคุณชายของสกุลถังที่ครอบครองวงการสื่ออย่างยิ่งใหญ่ก็ไม่อาจจะถามชื่อของเธอได้
ทันใดนั้นเขาก็นั่งลงและเอื้อมไปหยิบเงินสองร้อยหยวนขึ้นมา พลางยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้
เมื่อกลับมาถึงบ้าน อันโหรวก็ให้เด็กทั้งสองคนนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะจ้องมองด้วยท่าทีขึงขัง
“แม่จ๋า แม่จะดุพวกเราเหรอ?” อันหน่วนเริ่มเบะปาก ทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“หน่วนหน่วน แม่จ๋าไม่ได้จะดุพวกหนูหรอก” เธอลูบผมของลูกอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมาและพูดขึ้นว่า “แม่จ๋าคิดว่าลุงคนนั้นเป็นคนดี แต่ว่าหลังจากนี้ไม่ใช่ว่าจะตามเขาไปแบบนี้ได้อีกนะ อย่าอยู่กับเขาด้วย เพราะเดี๋ยวแม่จ๋าจะไปรับพวกหนู แต่ถ้าหากแม่จ๋าไปรับช้าก็ต้องอดทนรอรู้ไหม?”
“แม่จ๋า ผมทราบแล้ว” อันหยางยิ้มตอบกลับโดยทันที เขารู้ว่าแม่ไม่ต้องการให้ลุงถังคนนี้ติดตามแม่
แต่เขาคิดว่าลุงถังคนนี้เป็นคนดีไม่เลวเลย ดีกว่าเจ้านายของแม่ที่ต้องการเอาชนะเด็กให้ได้คนนั้นเสียอีก
ถ้าหากอันโหรวรู้ว่าจิ่งเป่ยเฉินได้กลายเป็นภาพในความคิดของอันหยางแบบนั้นละก็ เธอคงต้องหัวเราะหนักแน่ ๆ ทั้งยังคงโล่งใจมากอีกด้วย!
“หนูจะจำไว้นะ!” อันหน่วนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะยื่นมือไปหาแม่ “แม่จ๋า หนูหิวแล้ว”
อันโหรวแตะไปที่ท้องของลูกสาว “หนูเพิ่งกินไปเอง หิวอีกแล้วเหรอ!”
“คนกำลังโตนี่คะ! แต่ว่าแม่จ๋าใช้โทรศัพท์ของคุณลุงโทรมาที่เครื่องของหนูเหรอคะ?” อันหน่วนเขย่าตัวอันโหรวราวกับอยากรู้คำตอบ
“คุณลุงงานยุ่งมากเลยนะ หน่วนหน่วนอย่าได้โทรไปรบกวนคุณลุงเชียว!” เธอไม่สามารถเอามือถือลูกสาวมาลบเบอร์ได้อย่างโจ่งแจ้งจึงเอ่ยไปแบบนั้น
“อือ หน่วนหน่วนจะจำไว้” เธอพยักหน้าแรง ๆ ใบหน้าที่สวยงามมีรอยยิ้มสดใส
“งั้นแม่ไปทำอาหารก่อนนะ” อันโหรวลูบผมของเธอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องครัว
ทันทีที่เธอเดินไป อันหน่วนก็ทำท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ พลางยื่นโทรศัพท์ไปให้อันหยางและพูดว่า “พี่ พี่ช่วยหนูบันทึกเบอร์นี้หน่อยได้ไหม?”
“อือ” อันหยางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือเล็ก ๆ ของเขากดไปที่หน้าจอหลาย ๆ ครั้ง ก่อนจะกด ‘ลบ’ ทันที
เมื่ออันหน่วนรับโทรศัพท์กลับมาก็เอียงศีรษะมองไปรอบ ๆ และอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาอย่างเสียงดัง
อันโหรวเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกสาวก็รีบวิ่งมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่เสียงเด็กน้อยจะดังขึ้นว่า “แม่จ๋า แม่จ๋า พี่ชายรังแกหนู”
อันโหรวนั่งยอง ๆ ลงเช็ดน้ำตาให้เธอ พลางเอ่ยถามว่า “หน่วนหน่วน มีอะไรเหรอ?”
“ฮือ ฮือ ฮือ……” ร่างเล็ก ๆ ของอันหน่วนยังคงสั่นไม่หยุด ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้อันโหรว “พี่นิสัยไม่ดี ทำเบอร์ของคุณลุงหายไป”