หินวิเศษต้นกำเนิดทองคำ
ไม่ว่าเจ้ายักษ์ใหญ่นั่นจะมีสายเลือดมังกรหรือเป็นเพียงแค่โครงกระดูกมังกรกองหนึ่งก็ตาม ในเมื่อมีคำว่า ‘มังกร’ อยู่ในชื่อของมัน และยังไม่ได้ถึงขั้นมีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์ ก็จะต้องถูกแปดโน้ตมังกรสวรรค์เล่นงานอยู่ดี
ตั้งแต่ก่อนดวล จางเซวียนก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เพราะความอยากถ่อมเนื้อถ่อมตัวซึ่งเป็นนิสัยของเขา จางเซวียนจึงตั้งใจจะใช้พละกำลังของตัวเองล้วนๆเพื่อเอาชนะหอกสวรรค์กระดูกมังกรให้ได้ แต่ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะหน้าไม่อายถึงขนาดยกระดับวรยุทธของตัวเองหลังจากเห็นแล้วว่าจะต้องพ่ายแพ้?
ผมยังพอเอาหูไปนาตาเอาตาไปไร่ได้หากคุณยกระดับวรยุทธเพียงขั้นเดียว แต่ยกทีเดียวตั้งหลายขั้นแบบนี้ มันมากเกินไป
ต่อให้คนมีใจเมตตากรุณาอย่างผมก็ทำหูหนวกตาบอดไม่ได้หรอก!
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงใช้แปดโน้ตมังกรสวรรค์กับมันอย่างไร้ความปรานี และก็เป็นอย่างที่คาดไว้ หอกสวรรค์กระดูกมังกรพ่ายแพ้ในทันที
โครงกระดูกมังกรกองอยู่กับพื้นขณะตั้งคำถามด้วยเสียงแผ่ว “คะ-คุณ…คุณมีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์หรือ?”
เมื่อเจออำนาจของแปดโน้ตมังกรสวรรค์เล่นงาน มันรู้สึกราวกับสติสัมปชัญญะจะหลุดลอยออกจากร่าง
ตัวมันไม่ใช่เจตจำนงที่แท้จริงของกระดูกมังกร แต่เป็นจิตวิญญาณของอาวุธที่เติบโตขึ้นหลังจากกระดูกมังกรถูกหลอมเป็นหอกแล้ว ดังนั้นจึงยังมีสายเลือดมังกรอยู่ ทั้งยังมีความยำเกรงและความหวาดกลัวอย่างเข้ากระดูกดำต่อสายเลือดมังกรบริสุทธิ์
สายเลือดมังกรบริสุทธิ์จะมีอยู่ในเผ่าพันธุ์มังกรในระดับสูงสุดเท่านั้น และไม่มีมังกรตัวไหนที่มีสายเลือดต่ำกว่าจะกล้าต่อต้านพวกนั้น!
“ผมต้องมีสายเลือดมังกรบริสุทธิ์หรือถึงจะใช้แปดโน้ตมังกรสวรรค์ได้?” จางเซวียนคำรามเยาะ
“เอ่อ…”
โครงกระดูกมังกรถึงกับพูดไม่ออก
ตัวมันสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับนักปราชญ์โบราณหรันชิว ได้พบกับปรมาจารย์ขงซึ่งเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของทวีปแห่งปรมาจารย์มาแล้ว แต่แม้ปรมาจารย์ขงก็ยังไม่มีความสามารถในการเปล่งเสียงแปดโน้ตมังกรสวรรค์แบบนี้…ขณะที่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ามันทำได้
เขาเป็นใครกัน?
โครงกระดูกมังกรลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนในที่สุดจะก้มศีรษะลง “ผะ-ผมเต็มใจยอมรับคุณเป็นเจ้านาย!”
ลำดับขั้นในเผ่าพันธุ์มังกรนั้นขึ้นอยู่กับสายเลือด เป็นธรรมดาที่ผู้มีสายเลือดเบาบางกว่าจะต้องรับใช้ผู้ที่มีสายเลือดเข้มข้น อีกทั้งข้อเท็จจริงที่ว่าชายหนุ่มเอาชนะมันได้ เพราะฉะนั้นการยอมจำนนของมันจึงไม่ใช่เรื่องน่าอาย
“ดี!” จางเซวียนพยักหน้า ขณะที่กำลังจะถามว่าขั้นตอนการยอมรับเขาเป็นเจ้านายจะต้องทำอย่างไร โครงกระดูกมังกรก็บีบอัดตัวเองอย่างรวดเร็ว และก็เหมือนกับคราวก่อน มันแปรสภาพเป็นหอกเล่มใหญ่
ฟิ้วววว!
หอกเล่มนั้นหมุนคว้างอยู่กลางอากาศก่อนจะหดลงจนมีความยาวประมาณ 1 จ้างและร่วงลงมาใส่มือของจางเซวียน
จางเซวียนก้มหน้าลงสำรวจชัยชนะของเขาใกล้ๆ หอกเล่มที่อยู่ในมือนั้นมีสีดำสนิท มีประกายเย็นเยือกเปล่งออกมาจากปลายหอก ลำพังแค่การมองหอกก็ทำให้รู้สึกได้ว่าหอกนั้นอาจจะจ้วงแทงเข้ามาได้ทุกขณะ ทำให้ผู้ที่มีจิตใจอ่อนแอรู้สึกเย็นเยือกและสั่นสะท้านไปถึงกระดูกสันหลัง
“เป็นหอกชั้นยอดเลย!” จางเซวียนอุทานอย่างตื่นเต้น
เพียงแค่กวัดแกว่งหอกเบาๆ เขาก็ได้ยินเสียงมังกรคำรามดังกึกก้องไปโดยรอบ เมื่อพยายามถ่ายทอดพลังปราณเข้าสู่หอก ก็ได้รับรู้ด้วยความยินดีว่าไม่ปรากฏการต่อต้านเลย ราวกับหอกนั้นเป็นทางเดินพลังปราณอีกส่วนหนึ่งของเขา มันสามารถปลดปล่อยพละกำลังของเขาออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เลือดหยดหนึ่งของจางเซวียนถูกหยดลงบนปลายหอก มันซึมซับเข้าไปอย่างรวดเร็ว ในชั่วพริบตา แสงเจิดจ้าก็ระเบิดออกจากปลายหอก พื้นที่โดยรอบเกิดรอยร้าวไปทั่ว
“ด้วยอาวุธที่ทรงพลังขนาดนี้ ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเราจะต้องเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 2 เท่า!” จางเซวียนตัวสั่นด้วยความตื่นเต้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหอกสวรรค์กระดูกมังกรเล่มนี้เป็นของล้ำค่าที่ทรงพลังที่สุดที่เขาเคยได้รับนับตั้งแต่เข้าสู่ทวีปแห่งปรมาจารย์ ถึงนักปราชญ์โบราณหรันชิวจะได้สกัดกั้นพละกำลังของมันไว้ แต่พละกำลังเท่าที่มันมีอยู่ก็ยังเรียกว่าไร้เทียมทาน
แน่นอนว่าด้วยระดับวรยุทธที่มีขีดจำกัดของจางเซวียน เขายังไม่อาจดึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของหอกออกมาได้ แต่หากเขาเรียกพลังงานจากหยดเลือดของปรมาจารย์ขงมาเมื่อไหร่ ด้วยหอกเล่มนี้ รับรองว่าจะไม่มีนักรบคนไหนในโลกนี้ที่มีวรยุทธต่ำกว่าขั้นนักปราชญ์โบราณจะทัดเทียมกับเขาได้
อันที่จริง ต่อให้นักรบที่มีวรยุทธขั้นกึ่งนักปราชญ์โบราณ ก็คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่เขาจะรับมือ
ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมหอสมุดเทียบฟ้าถึงชี้นำให้เราเลือกเส้นทางนี้! ด้วยหอกเล่มนี้เพียงเล่มเดียว การเดินทางครั้งนี้ก็ไม่สูญเปล่าแล้ว!
จางเซวียนหัวเราะร่าอย่างสบายใจ เขาสะบัดข้อมือ แล้วหอกก็แปรสภาพกลับไปเป็นกระดูกมังกร
เพียงชั่ววูบหนึ่งของการใช้ความคิด โครงกระดูกมังกรก็กลายเป็นเข็มขัดที่โอบรอบเอวของเขาไว้
หลังจากที่หอกยอมจำนนแล้ว จางเซวียนก็พบว่าโครงกระดูกมังกรมีความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างอิสระ เมื่อเป็นหอก ก็สามารถจ้วงแทงทุกสิ่งที่เข้าขวางทาง หากเป็นแส้ ก็สามารถทิ้งรอยแผลลึกไว้บนโลกใบนี้
หลังจากเสร็จสิ้นทุกอย่าง จางเซวียนถอนหายใจอย่างโล่งอกขณะสำรวจพื้นที่โดยรอบอีกครั้ง
ตอนนี้ทะเลสาบสงบลงแล้ว กลับสู่ความราบเรียบดังเดิม ในห้องโถงที่ดูว่างเปล่านั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นให้เห็น
“นี่เรา…ผ่านการทดสอบแล้วหรือ?” จางเซวียนถามโครงกระดูกมังกรด้วยความสงสัย
“ก็ใช่น่ะสิ คุณผ่านการทดสอบแล้ว ผมจะส่งคุณกลับไปเดี๋ยวนี้แหละ แต่…มีของบางอย่างของผมที่ผมอยากนำไปด้วย” โครงกระดูกมังกรพูด
“ได้สิ ถ้าอย่างนั้น…” จางเซวียนพูด “ไปนำมันมา!”
โครงกระดูกมังกรลอยออกจากเอวของจางเซวียนและโผขึ้นสู่กลางอากาศ แปรสภาพกลับเป็นมังกรตัวใหญ่ที่มีความยาวหลายสิบเมตร มันร่อนลงสู่ผืนน้ำและจ้วงกรงเล็บลงไปในทะเลสาบ
ซู่!
น้ำในทะเลสาบกระเซ็นอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อเจอกับพละกำลังมหาศาลของมัน จากนั้นแผ่นรูปกลมก็ลอยขึ้นสู่กลางอากาศอย่างช้าๆ มันมีรัศมีราว 3 เมตร แผ่พลังจิตวิญญาณอันเข้มข้นอย่างเหลือเชื่อออกมา ซึ่งทำให้รู้สึกราวกับได้รับการบ่มเพาะจากสายลมอันอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ
“นี่คือ…ของล้ำค่าชั้นยอดของช่างตีเหล็ก หินวิเศษต้นกำเนิดทองคำ?” จางเซวียนนัยน์ตาเบิกโพลงด้วยความไม่อยากเชื่อ
ถึงเขาจะเป็นช่างตีเหล็กที่ไม่ได้เรื่องซึ่งทำได้เพียงแค่หลอมก้อนอิฐ แต่ความรู้เรื่องการตีเหล็กและสินแร่ของจางเซวียนนั้นสูงกว่ามาตรฐาน หรือถ้าจะพูดกันตามความเป็นจริง ต่อให้ช่างตีเหล็กระดับ 9 ดาวก็ไม่อาจเทียบชั้นกับเขาได้ในแง่ของความรู้
แม้เมื่อมองจากระยะไกล จางเซวียนก็บอกได้ว่าแผ่นหินรูปกลมนั้นเป็นของล้ำค่าชั้นยอดที่บรรดาช่างตีเหล็กชั้นสูงต่างพากันใฝ่ฝันถึง – หินวิเศษต้นกำเนิดทองคำ!
ในการหลอมของล้ำค่าระดับเซียนขั้นสูงโดยทั่วไป หากใส่หินวิเศษต้นกำเนิดทองคำเพียง 1 กรัมลงไประหว่างการหลอม ก็เพียงพอที่จะยกระดับของล้ำค่าชิ้นนั้นให้เป็นระดับเซียนขั้นสูงสุดได้แล้ว…แต่ตอนนี้มีหินวิเศษรูปกลมขนาดใหญ่เบ้อเร่ออยู่ตรงหน้าเขา!
มันหนักกี่ตันกันนี่?
ขนาดคนสุขุมอย่างจางเซวียนก็ยังหน้าแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น ความปรารถนาที่ไม่อาจควบคุมได้พลุ่งพล่านอยู่ในส่วนลึกของหัวใจของเขา
พูดได้เลยว่าสำหรับแผ่นหินรูปกลมนี้ ในแง่ของราคาค่างวดก็ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าของล้ำค่าระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสูงสุดเลย!
“ใช่แล้ว นี่คือหินวิเศษต้นกำเนิดทองคำ ในครั้งนั้น ตอนที่นักปราชญ์โบราณหรันชิวกักขังผมไว้ที่นี่ เขาได้สั่งไว้ให้ผมรอคอยนักรบคนต่อไปที่ฟ้าจะลิขิตให้มาปรากฏตัวและได้การยอมรับจากผม ซึ่งผมก็รออยู่ที่นี่นานแสนนานจนแทบจะหลงลืมเวลาไปแล้ว! ถึงอย่างไร ในฐานะจิตวิญญาณของอาวุธ อายุขัยของผมก็มีจำกัด เพราะรู้ความจริงข้อนี้ นักปราชญ์โบราณหรันชิวจึงใส่ของล้ำค่าชิ้นนี้ไว้ก้นทะเลสาบ ตราบใดที่ผมยังอาศัยอยู่เหนือมัน ความแข็งแกร่งของผมจะไม่เสื่อมสลาย และอายุขัยของผมก็จะยืนยาวขึ้นอีกมาก!” โครงกระดูกมังกรอธิบาย
“ผมเข้าใจ” จางเซวียนพยักหน้า
นี่คือคำตอบของเรื่องที่เขากำลังสงสัยอยู่ แม้หอกสวรรค์กระดูกมังกรจะเป็นหนึ่งในอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดตลอดระยะเวลาหลายหมื่นปีที่ผ่านมา แต่หลังจากที่มันอยู่มาเนิ่นนาน จิตวิญญาณของมันก็ยอมแก่ตัวลงจนถึงจุดที่ไม่อาจทำการต่อสู้ได้อีกต่อไป โชคดีที่ดูเหมือนนักปราชญ์โบราณหรันชิวจะทำนายปัญหานี้ไว้ล่วงหน้าและเตรียมการไว้พร้อม!
เมื่อมีหินวิเศษต้นกำเนิดทองคำคอยรักษาพละกำลังให้หอกสวรรค์กระดูกมังกร พลังของมันจึงยังคงอยู่แม้จะมีชีวิตอยู่มาเนิ่นนาน ถึงจะผ่านไปหลายหมื่นปี ก็ยังสามารถสำแดงประสิทธิภาพการต่อสู้อย่างเต็มพิกัดได้โดยปราศจากปัญหา
“แต่ก็นั่นแหละ ในเมื่อผมฟื้นคืนชีพแล้ว หินวิเศษต้นกำเนิดทองคำก็ไม่มีประโยชน์กับผมอีกต่อไป ดังนั้นผมจึงเต็มใจมอบให้คุณ, นายท่าน!” โครงกระดูกมังกรสะบัดกรงเล็บ แล้วหินวิเศษต้นกำเนิดทองคำก็ลอยเข้าหาจางเซวียน
จางเซวียนรีบรับไว้และเก็บมันเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติ “ฮ่าฮ่าฮ่า ผมจะไม่ปฏิเสธของกำนัลของคุณละนะ!”
เมื่อได้เห็นทรัพย์สมบัติของเซียนดาบชิงและความใจกว้างที่เซียนดาบชิงมีให้เขา จางเซวียนก็รู้ตัวว่าเขามีมุมมองต่อคำว่า ‘ล้ำค่า’ ต่างไปจากคนอื่น ถึงหินวิเศษต้นกำเนิดทองคำก้อนนี้จะเป็นทรัพย์สมบัติอันแสนล้ำค่าสำหรับเขา แต่ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผู้เชี่ยวชาญระดับนักปราชญ์โบราณหรันชิว และในเมื่อโครงกระดูกมังกรเต็มใจมอบให้ ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะปฏิเสธ
อีกอย่าง ดูเหมือนหินวิเศษต้นกำเนิดทองคำก้อนนี้จะเป็นแหล่งทรัพยากรชั้นเลิศในการเพิ่มพลังให้กับหม้อต้นกำเนิดทองคำ ด้วยหินนี้ เขาจะสามารถยกระดับวรยุทธให้หม้อต้นกำเนิดทองคำได้อีกครั้ง และมันจะช่วยเขาได้ในการสู้รบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“นายท่าน เราออกไปกันเถอะ!”
หลังจากมอบหินวิเศษต้นกำเนิดทองคำให้จางเซวียนแล้ว โครงกระดูกมังกรก็แปรสภาพเป็นเข็มขัดที่รัดรอบเอวของจางเซวียนอีกครั้ง จางเซวียนเงยหน้าขึ้น และพบว่ามีประตูหินหน้าตาเหมือนกับประตูบานที่เขาเข้ามาตั้งอยู่ไม่ห่างออกไปนัก
เขารีบเดินตรงไปและผลักประตูให้เปิดออก
แอ๊ดดด!
ทันทีที่ประตูเปิด จางเซวียนก็พบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในห้องรูปทรงกลมอีกครั้ง มีคนสองกลุ่มกำลังยืนเผชิญหน้ากัน พลังปราณของพวกเขาพลุ่งพล่านอยู่ในอากาศ บ่งบอกกลิ่นอายของการต่อสู้ที่ยังอบอวลอยู่