อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 1737 ซึมซับหยดเลือดนักปราชญ์โบราณ

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 1737 ซึมซับหยดเลือดนักปราชญ์โบราณ

“ลุกขึ้นเถอะ!”

จางเซวียนโบกมือ แล้วกระบี่เปลวเพลิงสีดำก็ลอยเข้าสู่มือของเขา เขารู้สึกได้ทันทีถึงพละกำลังทำลายล้างที่อยู่ในตัวมัน

ก่อนหน้านี้ จางเซวียนจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะนักรบขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึกให้ได้ แต่เมื่อมีกระบี่เปลวเพลิงสีดำอยู่ในมือ เขาจะสามารถสังหารนักรบขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึกจำนวนหลายสิบคนได้อย่างง่ายดายด้วยการกวัดแกว่งเพียงครั้งเดียว

แม้วรยุทธขั้นนักปราชญ์โบราณกับขั้นชั่วกัลปาวสานจะห่างกันเพียงหนึ่งขั้น แต่ช่องว่างของมันก็ยิ่งใหญ่ราวกับสวรรค์กับโลก ความแตกต่างนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะเอื้อมถึงได้โดยง่าย

“ในที่สุดเราก็สามารถปกป้องตัวเองจากเหล่านักปราชญ์โบราณได้แล้ว…” จางเซวียนตาโตด้วยความตื่นเต้น

แม้หน้าหนังสือสีทองจะทำให้เขาสังหารนักปราชญ์โบราณได้ แต่ก็มีขีดจำกัด ยกตัวอย่าง ถ้าตาเฒ่าหยูยังคงหลบซ่อนและเก็บตัวเงียบ เขาก็ไม่มีทางทำอะไรได้ ต่อให้มีหน้าหนังสือสีทองอยู่กับตัว แต่สถานการณ์จะพลิกผันทันทีเมื่อกระบี่เปลวเพลิงสีดำสำเร็จวรยุทธขั้นนักปราชญ์โบราณ!

ถ้าตาเฒ่าหยูโจมตีเขาอีกครั้ง กระบี่เปลวเพลิงสีดำจะต้องแกะรอยจากรังสีของอีกฝ่ายได้ และเล่นงานจนหมอนั่นได้รับบาดเจ็บแน่

นี่คือวิธีการที่บรรพบุรุษเก่าแก่ของตระกูลจางใช้เล่นงานตาเฒ่าหยูให้ล่าถอย

สิ่งนี้จะเป็นไม้ตายล้ำค่าอีกอันหนึ่งที่จางเซวียนมีอยู่ในครอบครอง หากเขาใช้มันพร้อมกับศพของเผ่าพันธุ์ปีศาจที่เป็นนักปราชญ์โบราณ ก็คงสามารถสังหารนักปราชญ์โบราณได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!

เขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเฉพาะหน้าหนังสือสีทองอีกต่อไปแล้ว

“เอาล่ะ แกควรขัดเกลาวรยุทธเสียก่อน” จางเซวียนสั่งการ

กระบี่เปลวเพลิงสีดำพยักหน้า มันลอยไปหาพื้นที่เงียบๆเพื่อทำการฝึกฝนวรยุทธ แต่ยังไม่ทันจะไปได้ไกล มันก็พุ่งเข้าใส่หอกสวรรค์กระดูกมังกรที่กำลังลอยเข้ามาและรีบโค้งคำนับอย่างงามให้อีกฝ่าย ก่อนจะมุ่งหน้าไปตามทางของตัวเอง

เมื่อสำเร็จวรยุทธขั้นนักปราชญ์โบราณแล้ว กระบี่เปลวเพลิงสีดำถึงได้รู้ว่าฉนวนที่อยู่บนหอกสวรรค์กระดูกมังกรนั้นทรงพลังแค่ไหน หากฉนวนได้รับการปลดปล่อยพลังออกมา ก็แน่นอนว่ามันย่อมไม่มีโอกาสรับมือกับหอกสวรรค์กระดูกมังกรได้เลย

“เซวียนเอ๋อ หอกของลูก…”

เห็นภาพนั้น เซียนดาบชิงตาโตด้วยความประหลาดใจ

ลำดับขั้นระหว่างของล้ำค่าแต่ละชิ้นถูกแบ่งไว้อย่างชัดเจน มันจะโค้งคำนับให้กับของล้ำค่าที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองเท่านั้น ถ้ากระบี่เปลวเพลิงสีดำแสดงความเคารพต่อหอกสวรรค์กระดูกมังกร นั่นก็หมายความว่าหอกสวรรค์กระดูกมังกรแข็งแกร่งกว่าของล้ำค่าระดับนักปราชญ์โบราณอย่างนั้นหรือ?

เขารู้ว่าหอกสวรรค์กระดูกมังกรมีพละกำลังเหนือชั้นกว่าอาวุธทั่วไป แต่ยังไม่แน่ใจว่ามันทรงพลังขนาดไหน

“ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ความโชคดีเล็กน้อยอีกอย่างหนึ่งเท่านั้น” จางเซวียนอธิบายยิ้มๆ

“แค่ความโชคดีเล็กน้อยอีกอย่าง?” เซียนดาบชิงถึงกับเซและแทบทรุดฮวบลงกับพื้น

ลูกเข้าใจอะไรผิดเกี่ยวกับคำว่า ‘ความโชคดีเล็กน้อย’ หรือเปล่า?

ถ้าหอกสวรรค์กระดูกมังกร กระบี่เปลวเพลิงสีดำ และของล้ำค่าระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดที่ลูกมีอยู่เป็นแค่ความโชคดีเล็กน้อย แล้วอะไรในโลกนี้ที่จะเรียกว่าเป็นความโชคดีใหญ่หลวง?

“รอตรงนี้สักครู่นะ ผมจะทำให้ภาพวาดยอมจำนน…” จางเซวียนไม่อธิบายอะไรต่อ เขามุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางหนึ่ง

ไม่ช้า จางเซวียนก็มาถึงถ้ำ เขาคว้ามือกลางอากาศ แล้วม้วนกระดาษม้วนหนึ่งก็ปรากฏ

มันคือภาพวาดฉบับดั้งเดิมของผืนผ้าใบสี่ฤดู จางเซวียนพบมันตอนที่แผ่อาณาเขตของจิตวิญญาณออกไปไกลแสนไกล

ด้วยการเคาะ 2-3 ครั้ง ภาพวาดนั้นก็ยอมรับเขาเป็นเจ้านาย จางเซวียนเก็บมันเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติ

ครืนนนน!

เกิดการกระตุกครั้งหนึ่ง แล้วเซียนดาบชิงเหมิงก็พบว่าพวกเขากลับมายังห้องโถง ทั้งคู่หันขวับไปมองบริเวณที่ภาพวาดเคยติดตั้งอยู่ แต่ก็พบว่ามันหายไปแล้ว

อึดใจต่อมา จางเซวียนก็ออกจากภาพวาดและมาปรากฏตัว “ท่านพ่อท่านแม่อยากฝึกฝนวรยุทธที่นี่หรือตามผมไป?”

ทรัพย์สมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในหอความสำเร็จอันยิ่งใหญ่คือผืนผ้าใบสี่ฤดู แต่ทั้งรูปปั้นของ 72 นักปราชญ์ พลังจิตวิญญาณอันเข้มข้น และอักษรจารึกที่อยู่บนผนังก็ล้วนแต่เป็นทรัพยากรล้ำค่าสำหรับการฝึกฝนวรยุทธเช่นกัน

ทั้งคู่จะยกระดับวรยุทธได้เร็วขึ้นอีกเป็น 10 เท่าหากฝึกฝนวรยุทธในห้องโถงแห่งนี้ แทนที่จะไปที่อื่น

เซียนดาบชิงเหมิงสบตากันก่อนจะพร้อมใจส่ายหน้า “พวกเราไม่ตามลูกไปหรอก ที่นี่เงียบสงบดี เป็นโอกาสดีที่เราจะได้ยกระดับวรยุทธของจิตวิญญาณและสภาวะจิตใจ รวมทั้งซึมซับหยดเลือดของนักปราชญ์โบราณด้วย พ่อกับแม่จะพยายามฝ่าด่านวรยุทธที่นี่แหละ!”

ทั้งคู่รู้ดีว่าหากติดตามจางเซวียนไปก็มีแต่จะเป็นภาระ ซึ่งในเมื่อเป็นอย่างนั้น อยู่ฝึกฝนวรยุทธที่หอความสำเร็จอันยิ่งใหญ่จะดีกว่า หากสามารถฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นนักปราชญ์โบราณได้ ก็จะได้มีส่วนช่วยเหลือลูกชายในการปฏิบัติภารกิจของเขา

“ฉันก็จะอยู่ที่นี่ด้วย” หูเหยาเหย่าพูด

เธอเพิ่งฝ่าด่านวรยุทธไปสู่การเป็นนักรบการพักฟื้นภายใน และยิ่งจะเป็นภาระหนักขึ้นอีกหากยังยืนกรานที่จะติดตามจางเซวียน

จ้าวหย่าก้าวออกมาแล้วพูดว่า “ท่านอาจารย์ ฉันขอตามไปด้วย ฉันรู้ว่าพวกนั้นนำเว่ยหรูเหยียนกับหยวนเทาไปไว้ที่ไหน!”

“อือ” จางเซวียนพยักหน้า เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกระดิกนิ้ว แล้วหยดเลือดหยดหนึ่งของนักปราชญ์โบราณก็ลอยเข้าหาจ้าวหย่า “ซึมซับเลือดหยดนี้เสียก่อน!”

อันตรายมากมายรออยู่ข้างหน้า ถึงหยดเลือดของนักปราชญ์โบราณทุกหยดจะเป็นทรัพย์สมบัติที่ประเมินค่ามิได้ แต่ก็ไม่ได้สำคัญกับจางเซวียนมากไปกว่าความปลอดภัยของลูกศิษย์ของเขา

“ได้!”

จ้าวหย่าทรุดตัวลงนั่งและซึมซับหยดเลือดเข้าสู่ร่างกาย พลังงานพลุ่งพล่านไปทั่วร่างของเธอ แต่เพียงไม่ถึง 10 นาที เธอก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้งด้วยนัยน์ตาเป็นประกายเจิดจ้า

“คุณ…ซึมซับหยดเลือดของนักปราชญ์โบราณสำเร็จแล้วหรือ?” จางเซวียนถามอย่างประหลาดใจ

เหตุที่เขาซึมซับหยดเลือดได้เร็วก็เพราะมันเป็นหยดเลือดของบรรพบุรุษเก่าแก่ที่มีต้นกำเนิดมาจากตัวเขา แต่ทำไมจ้าวหย่าถึงซึมซับได้รวดเร็วเหมือนกัน?

“ใช่แล้ว ท่านอาจารย์” จ้าวหย่าพยักหน้า “หลังจากที่คุณปรับเปลี่ยนทางเดินพลังปราณให้ฉันใหม่ ฉันก็รู้ตัวว่าสามารถแปรเปลี่ยนพลังงานใดๆก็ตามให้กลายเป็นพลังปราณของฉันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แม้หยดเลือดหยดนี้จะมีพลังงานมาก แต่การซึมซับมันก็ไม่ใช่ปัญหา”

“ทางเดินพลังปราณ?” จางเซวียนขมวดคิ้ว

เขากระดิกนิ้วและส่งกระแสพลังปราณสายหนึ่งเข้าสู่ร่างของจ้าวหย่าเพื่อตรวจสอบสภาวะของเธอ ดูเหมือนว่าหลังจากที่จ้าวหย่าได้รับการปรับเปลี่ยนทางเดินพลังปราณ ความสามารถในการซึมซับ พลังงานเข้าสู่ร่างของเธอก็เหนือชั้นกว่านักรบทั่วไปมาก

พูดกันตามตรง แม้แต่จางเซวียนก็ยังอ่อนด้อยกว่า

ในเมื่อเครือข่ายทางเดินพลังปราณของเธอเหนือชั้นเสียยิ่งกว่านักปราชญ์โบราณ ก็ไม่น่าแปลกที่เธอจะซึมซับหยดเลือดของนักปราชญ์โบราณได้อย่างรวดเร็ว

“ไปกันเถอะ”

ข้อเท็จจริงที่ว่าจ้าวหย่าซึมซับหยดเลือดของนักปราชญ์โบราณได้อย่างรวดเร็วนั้นหมายความว่า อย่างน้อยที่สุดตอนนี้เธอก็มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตอยู่ในมือแล้วหากเกิดเหตุร้าย ทั้งคู่กล่าวอำลาเซียนดาบชิงเหมิง จากนั้นจางเซวียนก็มุ่งหน้าออกจากหอความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ไปพร้อมกับจ้าวหย่า

เซียนดาบชิงยิ้มเจื่อนๆขณะเฝ้ามองทั้งสองที่กำลังจากไป พร้อมกับเปรยว่า “เขาอาจเป็นลูกชายของเรา แต่ก็ต้องบอกว่าทั้งตัวเขาและลูกศิษย์ของเขานั้นทรงพลังเหลือเกิน…”

เพียงแค่การซึมซับหยดเลือดของนักปราชญ์โบราณ เซียนดาบชิงเหมิงต้องเก็บหยดเลือดไว้ในจุดตันเถียนและซึมซับมันทีละน้อย โดยอาจต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนหรือยาวนานกว่านั้น แต่ในทางกลับกัน จางเซวียนกับจ้าวหย่าสามารถซึมซับหยดเลือดเข้าสู่ร่างกายของพวกเขาได้ทันที ช่างเป็นวีรกรรมที่น่าทึ่งเหลือเกิน

“เราต้องฝึกฝนให้หนักกว่าเดิมแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้น ถ้าลูกชายของเรากับลูกศิษย์ของเขาล้ำหน้าเราไป เราคงไม่อาจรักษาเกียรติยศของผู้อาวุโสเอาไว้ได้” เซียนดาบเหมิงพูด

“จริง จริงด้วย!” เซียนดาบชิงพยักหน้า

ทั้งคู่ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นและตั้งต้นฝึกฝนวรยุทธ

…..

“บรรพบุรุษเก่าแก่ คุณต้องชดเชยความเสียหายให้พวกเรานะ!”

ที่ด้านนอกหอความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เด็กวัยรุ่นทั้งแปดซึ่งถูกขับไล่ออกมากำลังร่ำร้องด้วยน้ำตานองหน้า

พวกเขาทุ่มเทเวลาและความพยายามมากมายเพื่อเตรียมการเข้าสู่หอความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่ไม่นึกไม่ฝันว่าจะถูกซ้อมอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะถูกจับโยนออกมาจากหอบริวารโดยที่ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือมาเลย

“ความแข็งแกร่งของพวกคุณยังอ่อนด้อย พวกคุณต้องโทษตัวเองเท่านั้นแหละ!” นักปราชญ์โบราณที่ซ่อนตัวอยู่ตอบโต้ด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกความไม่แยแส

“ไม่ใช่เพราะพวกเราอ่อนด้อย แต่หมอนั่นทำให้ทั้งอสูรและของล้ำค่ามากมายยอมจำนนได้ ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งเหล่านั้น ไม่มีทางที่เขาจะสู้กับพวกเราได้หรอก” เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งกัดฟันด้วยความจงเกลียดจงชัง

หมอนั่นมีอะไรดี?

ทั้งหมดที่หมอนั่นมีก็แค่อสูรกับของล้ำค่า หากปราศจากสองอย่างนี้ ก็ไม่มีทางที่จะสู้รบปรบมือกับพวกเขาได้เลย!

“ใช่แล้ว บรรพบุรุษเก่าแก่ พวกเราขอวิงวอนให้คุณจัดการให้เราได้ดวลกันอย่างชอบธรรมกับเขา!”

“ถ้าเขาสามารถเอาชนะพวกเราได้โดยไม่พึ่งพาความช่วยเหลือจากสิ่งอื่นใด พวกเราก็จะเต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้”

วัยรุ่นอีกคนหนึ่งรีบพยักหน้ารับ

“เอ่อ…” บรรพบุรุษเก่าแก่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง “พี่หงเทียน ทายาทของผมอยากทำการดวลอย่างชอบธรรมกับทายาทของคุณ คุณจะอนุญาตไหม?”

“คุณหารือเรื่องนี้กับทายาทของผมได้เลย วางใจเถอะ ขอแค่คุณไม่ทำอะไรที่ขัดกับหลักการ ผมจะไม่เข้าไปก้าวก่าย” บรรพบุรุษเก่าแก่ของตระกูลจางตอบ

ขณะที่จางเซวียนกับคนอื่นๆเข้าสู่หอความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เขาก็ซ่อนตัวอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

“ค่อยยังชั่วหน่อย…” บรรพบุรุษเก่าแก่ของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ถอนหายใจเฮือก

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset