อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 1932 ถ้าอย่างนั้นเป็นใคร?

“นรกอะไรกันนี่…”

หัวหน้าทีมลอบสังหารขยี้ตาอย่างไม่อยากเชื่อ

ลูกธนูก็ยิงไม่ถูก เอาเถอะ…อาจมีผู้เชี่ยวชาญบางคนเบนทิศทางของลูกธนูได้ เราพอเข้าใจ!

จู่ๆม้าก็ทรงพลังขึ้นมาเสียอย่างนั้น แต่ก็อาจเป็นเพราะมันเพิ่งได้รับการพัฒนาสายเลือดหรือเป็นอสูรของใครสักคน เราก็พอรับได้!

แต่เกี้ยวซึ่งเป็นสิ่งไม่มีชีวิตกลับกระโจนใส่และสำแดงศิลปะการต่อสู้ออกมาได้ราวกับนักรบที่ทรงพลังที่สุดในโลก…เราจะยอมรับเรื่องเหลวไหลแบบนี้ได้อย่างไร?

ที่นี่มีผีหรือบางสิ่งที่เหนือธรรมชาติอยู่หรือเปล่า?

“ต้องเผ่นแล้ว!”

เพราะเกรงว่าจะต้องพบเจอกับเรื่องเหลือเชื่ออีก เขารีบนำตราหยกอันหนึ่งออกมาแล้วหักมัน

วิ้ง!

เกิดแสงสว่างเจิดจ้า แล้วปราการพลังงานก็โอบล้อมร่างของเขาไว้

ในฐานะกองโจร ทักษะที่สำคัญที่สุดของเขาไม่ใช่การปล้นฆ่า แต่เป็นการรู้รักษาตัวรอด ก่อนจะปฏิบัติภารกิจใดๆ เขาจะต้องวิเคราะห์หาทางหนีทีไล่และเตรียมมาตรการป้องกันตัวไว้ในกรณีที่เกิดความผิดพลาด

ก็เพราะเหตุผลนี้ที่ทำให้เขายอมจ่ายเงินสูงลิ่วเพื่อซื้อตราหยกอันนี้มา มันมีอานุภาพปัดป้องได้แม้แต่การโจมตีของนักปราชญ์โบราณ ทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดจากภัยอันตรายต่างๆได้

ฟึ่บ!

ทันทีที่ปราการพลังงานก่อตัว หัวหน้าทีมลอบสังหารก็กระโจนข้ามกำแพงสูงที่อยู่ด้านข้างเพื่อหลบหนี

ขณะที่กำลังหนี เขาไม่กล้าแม้แต่จะเหลียวหลังไปดูว่ามีใครตามมาหรือไม่ เพราะกลัวว่าจะเห็นอะไรบางอย่างที่ชวนให้ขวัญผวา ตอนนี้ ต่อให้ความตายด้วยน้ำมือของผู้เชี่ยวชาญสักคนก็ไม่ทำให้เขาหวาดกลัว…แต่ถ้าเขาต้องตายเพราะม้าหรือลาตัวหนึ่ง คงไม่มีวันได้ตายอย่างสงบสุขแน่!

หัวหน้าทีมลอบสังหารโกยอ้าวสุดกำลังราวกับใกล้หมดลมหายใจเฮือกสุดท้าย บางทีอาจเป็นเพราะตราหยกทำงานได้ผล หรือไม่ อีกฝ่ายก็ไม่อยากไล่ล่าเขาอีก เพราะเมื่อเขาหันกลับไปก็ไม่มีใครตามมา เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก

“บ้าที่สุด เกือบไปแล้วสิเรา!”

ตอนที่เขารับงานนี้ อีกฝ่ายบอกว่าเป็นงานง่ายๆ เขาสามารถกำจัดเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย แต่ก็แน่นอนว่าคนระแวดระวังอย่างเขาย่อมไม่ฟังความข้างเดียว จึงสืบเสาะเรื่องราวของตั้นเฉี่ยวเทียนจนแน่ใจแล้วว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรก่อนจะรับงาน ไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะลงเอยแบบนี้

ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่ได้เก่งกาจอะไรก็จริง แต่ทั้งม้าและเกี้ยวของหมอนั่นทรงพลังจนน่าสะพรึง!

เขาจะปฏิบัติภารกิจลอบสังหารให้สำเร็จได้อย่างไร?

หัวหน้าทีมล่าสังหารเผ่นหนีออกจากเมืองไปยังจุดที่เขานัดพบกับผู้ว่าจ้างไว้เมื่อทำงานสำเร็จ เขา ก่อไฟและรอคอยอย่างอดทนให้อีกฝ่ายปรากฏตัว

ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ!

…..

ผู้อาวุโสอี้ใช้พลังไปมากตลอดการปะทะจนกระทั่งทุกอย่างจบสิ้น ร่างของเขาซวนเซอย่างอ่อนแรงและทรุดฮวบลงกับพื้น

เขารู้สึกราวกับได้เผชิญกับความตกตะลึงมาทั้งชีวิตภายในคืนเดียว

ผู้อาวุโสอี้คิดว่าการปรากฏตัวของทีมลอบสังหารคงทำให้ทุกอย่างจบเห่ แต่ด้วยความพิสดารบางอย่าง ทั้งเกี้ยวและม้ากลับมีชีวิตขึ้นมา ทุกอย่างมหัศจรรย์ราวกับเทพนิยาย เขาไม่ต้องทำอะไร ปัญหาก็คลี่คลายไปได้ด้วยตัวเอง…

มีเรื่องเหลือเชื่อแบบนี้ในโลกด้วยหรือ?

ขณะที่ผู้อาวุโสอี้ยังจังงัง ม้าก็เหยาะย่างกลับไปที่เกี้ยว จัดการเทียมตัวเองเข้ากับเกี้ยวอีกครั้ง จากนั้นก็เชิดหน้าแล้ววิ่งตรงไปยังบ้านพักตระกูลตั้น

ผู้อาวุโสอี้จับจ้องม้าที่อยู่ตรงหน้าด้วยมือสั่นเทา

ม้าที่เทียมเกี้ยวของพวกเขาน่าสะพรึงขนาดนี้…

ต่อให้แกเต็มใจลากเกี้ยวของเรา ฉันก็ไม่กล้าคิดจะใช้แกไปไหนมาไหนอีกแล้ว!

“นายท่านจาง…” ผู้อาวุโสอี้หันกลับไปตั้งคำถาม

อันที่จริง เขาก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจ

ม้าและเกี้ยวไม่ได้มีความพิเศษอะไรตลอดหลายปีที่ผ่านมา สิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปก็คือเมื่อจางเซวียนปรากฏตัว!

“ถึงบ้านพักตระกูลตั้นแล้วค่อยคุยกัน” เสียงของจางเซวียนลอดออกมาจากเกี้ยว

จางเซวียนรู้ว่าจะต้องมีคนกลุ่มหนึ่งลอบสังหารพวกเขาระหว่างขากลับ จึงได้ร่ายมนต์พลิกฟื้นจิตวิญญาณใส่ม้าและเกี้ยวเอาไว้เมื่อตอนออกเดินทาง

ขนาดคนธรรมดาสามัญที่นี่ยังเป็นนักรบระดับเซียนขั้น 9 ได้โดยไม่ต้องฝึกฝนวรยุทธ นับประสาอะไรกับม้าที่มีสภาวะร่างกายแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทั่วไป เมื่อโตเต็มวัย พวกมันจะมีพละกำลังเทียบเท่ากับนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 1 แต่เนื่องจากสติปัญญาของพวกมันออกจะอ่อนด้อยและไม่มีใครสื่อสารกับมันได้ จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะดึงพละกำลังของมันมาใช้

แต่หากใครสักคนทำให้ม้ายอมจำนนและสื่อสารกับมันได้ ก็จะได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ

อย่าว่าแต่สังหารกองโจรกลุ่มนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหัวหน้าหนีไปอย่างไว ม้าก็คงสังหารหมอนั่นได้เหมือนกัน!

“ขอรับ”

ผู้อาวุโสอี้ระงับความตื่นเต้นไว้ จากนั้นก็หันกลับไปและเฝ้ามองเกี้ยววิ่งไปตามถนนเพื่อกลับสู่บ้านพักตระกูลตั้น

…..

กองไฟลุกโพลงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่สองร่างจะปรากฏ

หนึ่งในนั้นคือชายวัยกลางคน หัวหน้าทีมลอบสังหารจำได้ว่าคือคนที่มามอบหมายภารกิจลอบสังหารตั้นเฉี่ยวเทียนให้เขา

ส่วนอีกคน…แม้จะสวมหน้ากาก แต่ก็พอประเมินได้จากรูปร่างว่าเป็นสาวน้อยคนหนึ่ง แถมยังสวยมากด้วย!

“ว่าอย่างไร? สำเร็จไหม?” ชายวัยกลางคนตรงเข้าประเด็นทันที

เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหัวหน้าใหญ่ของสำนักเจ้าเมือง, เฉว่เฉิน

ซึ่งก็แน่นอนว่าสาวน้อยที่อยู่ข้างเขาคือเฉว่ชิง

โดยปกติเธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ แต่หลังจากถูกหยามหน้า เธอก็อยากเห็นกับตาว่าศีรษะของตั้นเฉี่ยวเทียนกับเจ้ามัมมี่ที่กล้าหาเรื่องเธอหลุดออกจากบ่าแล้ว!

เธอจึงตัดสินใจตามเฉว่เฉินมาที่นี่หลังจากสวมหน้ากากอำพรางใบหน้า

“สำเร็จ? ดูเอาเองเถอะ ไม่คิดบ้างหรือไงว่าคุณควรมีคำอธิบาย? ไอ้แบบนี้หรือที่คุณเรียกว่างานง่าย?” หัวหน้าทีมลอบสังหารคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว

“คุณหมายความว่าอย่างไร?” เฉว่เฉินขมวดคิ้ว “คนของคุณเหยาะแหยะถึงขนาดกำจัดไม่ได้ แม้แต่ชายแก่ที่บาดเจ็บสาหัสกับคนพิการคนหนึ่งหรือ?”

“เหยาะแหยะกับผีอะไร!” หัวหน้าทีมลอบสังหารคำราม “พี่น้องของผมมากกว่า 30 คนต้องตายเพราะภารกิจครั้งนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะผมเผ่นหนีอย่างไวล่ะก็ คงต้องตายที่นั่นเหมือนกัน คุณจะชดใช้ความเสียหายของผมอย่างไร?”

“คนของคุณมากกว่า 30 คนต้องตาย?” เฉว่ชิงตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ “คุณจะบอกฉันว่า ลำพังพวกตั้นเฉี่ยวเทียนน่ะกำจัดพวกคุณได้ทั้งหมดเลยหรือ? เขาเก่งกาจขนาดนั้นเลยหรือไง?”

“ไม่ใช่เขา!” หัวหน้าทีมลอบสังหารคำราม

“ถ้าอย่างนั้นเป็นใคร?” เฉว่เฉินสงสัย

เขาสืบเสาะภูมิหลังของตั้นเฉี่ยวเทียนมาแล้วอย่างดี หมอนั่นไม่มีพรรคพวกที่ไหนในเมืองชวนเจียง ด้วยความแข็งแกร่งของกองโจรกลุ่มนี้ ก็น่าจะจัดการได้สบาย

กองโจรกลุ่มนี้คือปัญหาหนักอกของบรรดาพ่อค้าวานิชที่เดินทางเข้าสู่เมืองชวนเจียง แล้วทำไมจู่ๆถึงเกิดไร้สมรรถภาพขึ้นมาเมื่อเป้าหมายเป็นแค่ตั้นเฉี่ยวเทียน?

หัวหน้าทีมลอบสังหารถ่มน้ำลายลงกับพื้นและตวาดก้อง “ตัวการที่สังหารบรรดาพี่น้องของผมน่ะคือม้าของพวกมัน! อ้อ ไม่ใช่แค่นั้น เกี้ยวของพวกมันด้วย!”

“???” เฉว่เฉินกับเฉว่ชิง

1930 : ความประหลาดใจของเฉาเฉิงลี่(ต้นฉบับ)

เฉว่เฉินมั่นใจในแผนการของเขา เขาแน่ใจว่ากองโจรทั้งกลุ่มจะสามารถกำจัดคนตระกูลตั้นและล้างอายให้นายหญิงน้อยที่ 2 ได้

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นความตายของพวกนั้น แถมหัวหน้ากลุ่มก็ดูเหมือนจะเสียสติ…

ตัวการที่สังหารพวกคุณคือม้ากับเกี้ยวหรือ?

น่าประทับใจนะ? ทำไมไม่รวมลูกบอลกับช้างเข้าไปด้วยล่ะ?

คุณคิดว่าเรากำลังเล่นหมากรุกจีนกันหรือไง?

“คิดจะตุกติกกับผมหรือ? ผมกำลังถามว่าใครคือตัวการที่สังหารคนของคุณ ตอบมา!” เฉว่เฉินตวาด

“ผมก็ตอบคุณไปแล้วไง? มันคือม้าตัวหนึ่งกับเกี้ยวหลังหนึ่ง!” หัวหน้าทีมลอบสังหารคำราม

“ม้า?”

“เกี้ยว?”

เฉว่เฉินกับเฉว่ชิงสับสนหนัก

“ม้ากับเกี้ยวของตั้นเฉี่ยวเทียนมีพละกำลังเทียบเท่ากับนักรบระดับนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้น 1 พวกมันเล่นงานลูกน้องของผมจนตาย ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนจะมีพลังงานเหนือธรรมชาติบางอย่างหนุนหลังพวกมันด้วย เรายิงธนูใส่ไม่รู้กี่ดอก แต่ไม่มีดอกไหนเข้าถึงเป้าหมายเลย…”

ถึงเรื่องราวจะดูเหลวไหลสักแค่ไหน แต่หัวหน้าทีมลอบสังหารก็จดจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้แม่นยำ

“ม้ากับเกี้ยวที่รู้จักศิลปะการต่อสู้?” เฉว่เฉินหน้าตึง รู้สึกเหมือนกำลังถูกท้าทาย เขาคว้าคอเสื้อของหัวหน้าทีมลอบสังหารแล้วดึงตัวอีกฝ่ายลอย “แก ไอ้สารเลว ฉันไม่มีความอดทนพอจะเล่นเกมกับแกนะ ต่อให้แกไม่อยากทำงานให้ฉัน อย่างน้อยก็ควรมีคำอธิบายที่ฟังขึ้น!”

“คุณ…คุณคิดว่าผมโกหกคุณหรือ?” หัวหน้าทีมลอบสังหารแทบเสียสติ

ทำไมไม่มีใครเชื่อสิ่งที่เขาพูด? เขาพูดความจริงทุกคำ!

“พอที! นี่คือบัตรนิรันดร์ มีเงิน 500 เหรียญนิรันดร์อยู่ในนั้น น่าจะชดเชยความเสียหายของแกได้!” เฉว่เฉินคร้านจะเสียเวลากับอีกฝ่าย เขาโยนบัตรนิรันดร์ให้อย่างไม่แยแส

“คุณจะให้เงินผมแค่ 500 เหรียญนิรันดร์เพื่อชดเชยชีวิตของพี่น้องกว่า 30 คนของผมอย่างนั้นหรือ?” หัวหน้าทีมลอบสังหารหน้าถอดสี

เงินเสี้ยวนี้ไม่พอแม้แต่จะจ่ายค่าลูกธนูและคันธนูที่พวกเขาเสียไปด้วยซ้ำ!

“แกทำงานที่เราตกลงกันไว้ไม่สำเร็จ ฉันให้แก 500 เหรียญนิรันดร์ก็ถือว่าปรานีแล้ว ตอนนี้ก็ไสหัวไปได้ ไม่อย่างนั้น ฉันสาบานเลยว่าแกจะไม่ได้เงินจากฉันแม้แต่แดงเดียว!” เฉว่เฉินคำรามพร้อมกับหรี่ตา

“คุณ…”

เมื่อรับรู้ได้ถึงเจตนาสังหารในดวงตาของเฉว่เฉิน หัวหน้าทีมลอบสังหารรู้ดีว่าคงต้องตายแน่หากยังท้าทายความอดทนของอีกฝ่าย จึงรีบเก็บบัตรนิรันดร์แล้วจากไปในความมืดยามค่ำคืน

“ท่านอาจารย์ ตั้นเฉี่ยวเทียนยังไม่ตายนะ แล้วเราจะทำอย่างไร?” เฉว่ชิงถามอย่างร้อนใจ

“ไอ้พวกโง่เง่าไร้ประโยชน์! เหตุผลเดียวที่ผมเรียกใช้พวกมันก็เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยาก” เฉว่เฉินคำราม “ตอนนี้กลับสำนักเจ้าเมืองก่อนเถอะ ไม่ต้องห่วง ผมคิดออกแล้ว หมอนั่นจะไม่มีวันทำตัวเป็นก้อนหินขวางทางของคุณได้อีก ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนล่ะก็ แม้แต่ชื่อเสียงของคุณก็จะกลับมาดีงามเหมือนเดิม!”

…..

หัวหน้าทีมสังหารครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้น ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภมากของเขา คงไม่ต้องสูญเสียมากมายขนาดนี้ จากกองโจรทั้งกลุ่ม ตอนนี้เหลือเขาเพียงคนเดียว

เขากำหมัดอย่างเคืองแค้นและรีบกลับสู่ที่ซ่อน แต่ขณะที่เพิ่งถึงทางเข้า เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากหมู่ไม้ทะมึนที่อยู่โดยรอบ

“พี่น้องของคุณตายไปมากมาย จะปล่อยให้เรื่องจบง่ายๆด้วยเงินเพียง 500 เหรียญนิรันดร์หรือ?”

“นั่นใคร?”

หัวหน้าทีมลอบสังหารชักกระบี่ออกมาและกวาดสายตาโดยรอบ แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็ไม่มีใครให้เห็น

“แกเป็นใคร? ออกมานะ! คิดว่าวิธีนี้จะทำให้ฉันกลัวหรือ? ลูกไม้ตื้นๆน่ะใช้กับตัวฉัน, เฉาเฉิงลี่ ไม่ได้ผลหรอก!”

“อย่าเสียเวลาหาเลย ผมอยู่บนกิ่งไม้ตรงหน้าคุณนี่แหละ” เสียงนั้นพูดต่อ

เฉาเฉิงลี่รีบเงยหน้า ท่ามกลางแสงจันทร์นวลตา เขาเห็นรางๆว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งส่ายไปมา ราวกับมีวิญญาณปีศาจสิงอยู่

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset