อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 2124 มันแสนจะน่าเบื่ออออออ!

อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆

ตอนที่ 2124 มันแสนจะน่าเบื่ออออออ!

เห็นความตกตะลึงของทั้ง 9 คน จางหย่วนไว่รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ จึงตั้งคำถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ถ้าเดาไม่ผิด ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นท่านอาจารย์ของพวกเรา…” จ้าวหย่าตอบพร้อมกับยิ้มเจื่อนๆ

“ท่านอาจารย์ของพวกคุณ…” จางหย่วนไว่ชะงักกับสิ่งที่ได้ยิน

“ต้องขออภัยด้วย แต่ไม่ทราบว่าคุณจะช่วยพาพวกเราไปสำนักดาบเมฆเหินได้ไหม?” จ้าวหย่าถาม

ทั้งกลุ่มตั้งคำถามอีก 2-3 ข้อ ไม่ช้าก็มั่นใจว่าผู้ที่ถูกเรียกว่าเจ้าสำนักจางจะต้องเป็นท่านอาจารย์ของพวกเขาแน่

“ง่ายมาก ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้แหละ” จางหย่วนไว่ตอบก่อนจะรีบออกจากห้อง

เขานึกสงสัยเรื่องราวของเด็กทั้ง 9 อยู่แล้ว แต่ด้วยความบังเอิญ สิ่งที่พวกเขาพูดออกมากลับกลายเป็นความจริง และทุกคนก็ล้วนเป็นศิษย์สายตรงของเจ้าสำนักจาง ในฐานะผู้ช่วยชีวิต เขาจะต้องได้รับการตบรางวัลอย่างงามสำหรับความดีความชอบครั้งนี้!

…..

ที่บริเวณยอดเขาในอาณาเขตเมืองชวนเจียง จางเซวียนกับหวู่เฉินรออยู่ 1 ชั่วโมงก่อนที่ริบบิ้นสีแดงที่ผูกไว้กับง้าวจะเริ่มโบกสะบัด มันชี้ตรงไปยังทิศทางหนึ่ง

จางเซวียนลุกพรวด

น่าประหลาดใจที่ริบบิ้นนั้นชี้ไปยังจุดที่แม่น้ำชวนเจียงตั้งอยู่

“ไม่สงสัยแล้วว่าทำไมเราหาทางเข้าไม่เจอ…”

จางเซวียนเคยสอบถามตั้นเฉี่ยวเทียนว่าอีกฝ่ายพบตัวเขาที่ไหน และแน่ใจว่าได้ตรวจสอบพื้นที่นั้นอย่างถี่ถ้วนแล้วตั้งแต่มาถึงเมืองชวนเจียง แต่ไม่พบอะไรเลย

ลงท้ายก็กลับกลายเป็นว่าทางเข้าสู่ทางเดินแห่งมิตินั้นอยู่ในแม่น้ำชวนเจียง

กระแสน้ำได้ปกคลุมพลังจิตวิญญาณที่แผ่ออกมาจากค่ายกลไว้ ด้วยความกว้างใหญ่ของแม่น้ำ ถ้ามีค่ายกลถูกติดตั้งไว้ในนั้นจริงๆ ก็ย่อมเป็นเรื่องยากแม้แต่กับสำนักดาบเมฆเหินที่จะหาเจอ

จางเซวียนรีบเก็บธงค่ายกลกับง้าวเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติก่อนจะมุ่งหน้าไปยังจุดที่ริบบิ้นสีแดงชี้ไป เขากระโจนลงสู่แม่น้ำและดำดิ่งลงไปโดยไม่ลังเล

แม่น้ำชวนเจียงลึกมาก ก้นแม่น้ำอยู่ต่ำกว่าผิวน้ำราว 100 เมตร จางเซวียนใช้เวลาไม่นานก็ลงไปถึงก้นบึ้ง แต่แล้วเขาก็ย่นหน้าผาก

เท่าที่เห็น ทุกอย่างภายในรัศมีหลายร้อยลี้รอบตัวเขาดูจะไม่มีอะไรผิดแปลก

เขาไม่เห็นความผิดปกติใดๆเลย

“นายน้อย…”

หวู่เฉินก็ไม่พบอะไรเหมือนกัน เขาหันมามองจางเซวียนอย่างสงสัย

ค่ายกลเมื่อครู่นี้มีอะไรผิดเพี้ยนไปหรือเปล่า จึงนำพวกเขามาผิดตำแหน่ง?

“รอสักพักเถอะ” จางเซวียนพูด

เขาใช้กระแสดาบสีเฉือนนิ้วและหยดเลือดลงไปหยดหนึ่ง

เกิดเสียงหึ่งดังลั่น กรวดทรายที่ปกคลุมก้นบึ้งแม่น้ำลอยตัวขึ้นทันที เผยให้เห็นประตูหินอยู่ด้านล่าง

จางเซวียนเดินเข้าไปและผลักมันเบาๆ

ประตูหินเปิดออกโดยแทบไม่มีแรงต้านทานใดๆ เผยให้เห็นทางเดินมืดมิด

จางเซวียนกำลังจะเดินเข้าไป ก็พอดีกับที่เห็นหวู่เฉินจ้องมองประตูหินอย่างครุ่นคิด เขาหัวเราะหึๆและอธิบาย “ทางเดินนี้ถูกปรมาจารย์ขงปิดกั้นไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทจากมิติเบื้องบนรั่วไหลออกไปได้ สายเลือดของผมแตกต่างจากปรมาจารย์ขง แต่ในฐานะที่เป็นปรมาจารย์ฟ้าประทานเหมือนกัน พละกำลังของเราจึงไม่ต่างกันเท่าไหร่ ด้วยสายเลือดของผม ผมสามารถเปิดใช้งานค่ายกลที่ถูกซ่อนอยู่ได้ ไม่อย่างนั้นเราคงไม่มีทางพบมัน!”

อันที่จริง ความเหมือนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะทั้งคู่เป็นปรมาจารย์ฟ้าประทาน ที่สำคัญกว่าก็คือพวกเขาต่างก็แบกรับเศษเสี้ยวหนึ่งของสวรรค์ไว้ในตัว

เพียงแต่จางเซวียนไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้กับใคร

ส่วนหวู่เฉินก็ตาโตเมื่อพลันเข้าใจ

ทั้งคู่เดินไปตามเส้นทางนั้น ไม่ช้าก็มาถึงห้องโถงขนาดใหญ่ มีนักปราชญ์โบราณ 8 คนอารักขาที่นั่น ทุกคนกำลังล้อมวงดื่มกัน

“การต้องอารักขาที่นี่น่ะต่างอะไรกับการถูกขัง?”

“มันแสนจะน่าเบื่ออออออ!”

“ผมได้ยินว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกอีกฟากหนึ่งนั้นอ่อนแอมาก…”

“พวกเขาอ่อนแอ แต่ทางเข้าก็ถูกปิดตาย เราไม่มีทางไปที่นั่นได้หรอก”

องครักษ์ทั้ง 8 พึมพำขณะกระดกไวน์

พวกนี้คงเป็นองครักษ์ที่ปรมาจารย์ขงส่งมาอารักขาทางเดินแห่งมิติ จางเซวียนคิดขณะฟังบทสนทนาของพวกเขา

เขาโบกมือเบาๆ ยังไม่ทันที่ทั้งกลุ่มจะทันได้ตอบโต้ ทุกคนก็แหลกสลายเป็นธุลี

ทั้งแปดคนอารักขาที่นี่ภายใต้คำสั่งของปรมาจารย์ขง แต่การมีคนเหล่านั้นอยู่จะเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อร้อยสำนักแห่งนักปราชญ์และทวีปแห่งปรมาจารย์ เพื่อความปลอดภัย จางเซวียนจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกำจัด

ด้วยพละกำลังของเขาในเวลานี้ เขาทำให้คนคนหนึ่งหายไปจากโลกได้อย่างง่ายดาย

บริเวณใจกลางห้องมีเกลียวขนาดใหญ่ กระแสพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทถูกดึงดูดเข้าสู่เกลียวนั้นและหายไปยังดินแดนที่ไม่มีใครรู้

ประตู 2 บานที่อยู่ด้านข้างเกลียวขนาดใหญ่นั้นมีอักษรประหลาดจารึกอยู่ เมื่อเพ่งดูใกล้ๆ รูปแบบของมันดูคล้ายกับอักษรจารึกบนแท่นบูชาของตำหนักคว้าดาว

ดูเหมือนปรมาจารย์ขงจะกังวลว่าอาจมีใครมากีดขวางทางเข้า จึงออกแบบค่ายกลที่ทำให้คนจากทวีปแห่งปรมาจารย์ที่จะเข้าสู่มิติเบื้องบนจะถูกส่งทะลุมิติตรงไปยังสถานที่ไหนสักแห่งในอาณาบริเวณของเมืองชวนเจียง

จางเซวียนลูบคางอย่างครุ่นคิด

แม้ประตูเหล่านี้จะไม่ต่างจากประตูธรรมดา แต่ด้วยอักษรที่ถูกจารึกไว้ ถ้าใครสักคนผ่านทางเดินแห่งมิติไป ก็จะถูกส่งตรงไปยังที่ไหนสักแห่งในอาณาบริเวณรอบเมืองชวนเจียง

ไม่อย่างนั้น ด้วยความที่เขาสลบไสลไม่ได้สติตอนที่ถูกส่งทะลุทางเดินแห่งมิติมา ก็คงไม่อาจเอาชีวิตรอดจากคนกลุ่มนี้ได้

“ที่นี่ถูกเปิดใช้งานได้โดยปรมาจารย์ขงและสายเลือดของเราเท่านั้น ต่อให้นักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ก็หาเส้นทางนี้ไม่พบ แต่เขาก็ยังส่งบริวารมาอารักขาที่นี่…เขาพยายามปกป้องพื้นที่นี้จากใคร?” จางเซวียนนึกสงสัย

ทางเดินแห่งมิตินี้เป็นความลับสุดยอดแม้มองด้วยมาตรฐานของมิติเบื้องบน ดูเหมือนปรมาจารย์ขงตั้งใจออกแบบมันเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีผู้คนจากมิติเบื้องบนหามันพบ หรือต่อให้มีใครสักคนหาเจอ ก็ไม่อาจทำอันตรายผู้ที่มาจากทวีปแห่งปรมาจารย์ได้

จึงออกจะดูขัดแย้งกันเองที่ปรมาจารย์ขงสั่งการให้บริวารอารักขาทางเดินแห่งมิติไว้ ราวกับเขาพยายามจะกำจัดใครก็ตามที่มาจากทวีปแห่งปรมาจารย์

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง…หรือจะหมายความว่าเขาอ่านอักษรจารึกไม่ออกและไม่รู้ว่าใครก็ตามที่เข้าสู่ทางเดินแห่งมิติจะถูกส่งทะลุมิติตรงไปที่อื่นทันที?

ที่ไอ้โหดพูดน่าจะเป็นเรื่องจริง…ชายผู้นั้นคือปรมาจารย์ขงตัวปลอม!

ก่อนหน้านี้เขายังแคลงใจเมื่อได้ฟังไอ้โหด แต่ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกว่ามีเหตุผล ถ้าปรมาจารย์ขงที่เขาได้พบเป็นตัวจริง คงไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะไม่รู้เรื่องกลไกมากมายที่ถูกติดตั้งไว้ที่นี่…เว้นเสียแต่เขาจะสูญเสียความทรงจำด้วยวิธีการใดสักอย่าง เหมือนกับไก่น้อย

เมื่อนึกถึงไก่น้อย จางเซวียนก็ถอนหายใจเฮือก เขามอบรังสีพิเศษที่ได้จากสะพานเบื้องบนบางส่วนให้ไก่น้อย แต่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง เจ้านั่นก็ยังไม่อาจฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ได้!

จางเซวียนพยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยมันยกระดับวรยุทธ แต่ไม่มีวิธีไหนได้ผล เขาไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไรถึงจะฝ่าด่านวรยุทธสำเร็จ

จางเซวียนส่ายหัว เขาเดินหน้าต่อไปเพื่อสำรวจสภาพของทางเดินแห่งมิติ เมื่อเห็นว่ายังคงใช้การได้ ก็นำเครื่องรางสำหรับการปลอมตัวออกมาและใช้มันกดข่มระดับวรยุทธของตัวเอง

พร้อมกันนั้น เขาก็หันไปพูดกับหวู่เฉิน “ลดระดับวรยุทธของเราให้เป็นนักปราชญ์โบราณขั้น 4 เสียก่อน แล้วค่อยเข้าสู่ทางเดินแห่งมิติ”

วรยุทธระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 4 คือเพดานสูงสุดของทวีปแห่งปรมาจารย์ ถ้ามีนักรบขั้นกึ่งสรวงสวรรค์หรืออมตะขั้นสูงเข้ามา ต่อให้กดข่มระดับวรยุทธไว้ ก็จะถูกโลกปฏิเสธ

จางเซวียนมีเครื่องรางแห่งการปลอมตัวขณะที่หวู่เฉินมีกรรมวิธีการปลอมตัวที่ได้รับถ่ายทอดจากหลัวลั่วชิง เมื่อใช้สิ่งเหล่านี้ปกปิดวรยุทธไว้ พวกเขาก็สามารถตบตาได้แม้แต่กับสรวงสวรรค์ของทวีปแห่งปรมาจารย์

หลัวลั่วชิงก็ใช้วิธีการเดียวกันนี้เมื่อตอนที่เธอเข้าสู่ทวีปแห่งปรมาจารย์ในครั้งนั้น แต่เพราะเธอเปิดเผยพละกำลังที่แท้จริงออกมาระหว่างการต่อสู้เพื่อแย่งชิงมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง จึงถูกสวรรค์ปฏิเสธและบีบบังคับให้ออกจากทวีปแห่งปรมาจารย์

เมื่อเข้าสู่ทางเดินแห่งมิติ จางเซวียนเห็นกระแสมิติอันสับสนวุ่นวายพลุ่งพล่านอยู่โดยรอบ คลื่นความสั่นสะเทือนของมิติทั้งหมดพุ่งเข้าหาเขา พยายามจะเฉือนเขาให้เป็นชิ้นๆ

นักรบระดับนักปราชญ์โบราณขั้น 4 คนอื่นๆที่อยู่ในสภาพเดียวกันกับเขาคงหมดสติไปนานแล้วถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่เพราะหวู่เฉินกับจางเซวียนคือนักรบชั้นยอดของมิติเบื้องบน แม้จะลดระดับวรยุทธลงมา ก็ยังมีพลังจิตวิญญาณและพลังของกายเนื้อมากพอที่จะปกป้องตัวเอง

ดังนั้น คลื่นความสั่นสะเทือนของมิติที่พุ่งเข้าโจมตีพวกเขาจึงไม่อาจสร้างความบอบช้ำใดๆ

ในเวลาเดียวกัน ความเร็วของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ก่อนหน้านี้จางเซวียนใช้เวลาราวครึ่งเดือนกว่าจะเดินทางไปถึงปลายสุดอีกด้านหนึ่งของทางเดินแห่งมิติ แต่คราวนี้เขามองเห็นทางออกตั้งแต่ออกเดินทางได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง

โลงศพขนาดใหญ่ลอยตัวอย่างเงียบเชียบอยู่กลางอากาศ สกัดกั้นมิติที่อยู่โดยรอบบริเวณทางออกไว้ มันหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับทางออก ปิดกั้นทุกสิ่งไว้อย่างแน่นหนา

จางเซวียนแตะมันเบาๆ ค่ายกลถูกปลดปล่อยทันที เขาเดินผ่านทางออกไปอย่างสบายๆพร้อมกับหวู่เฉิน

กลิ่นอายอันคุ้นจมูกของทวีปแห่งปรมาจารย์โชยมา

เขากลับมาถึงแล้ว

“ปรมาจารย์จาง!”

ทันทีที่จางเซวียนร่อนลงสู่พื้น ก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกมาแต่ไกล ไม่ช้านักปราชญ์โบราณเหยียนชิงก็ปรากฏตัวตรงหน้า

ผ่านไป 1 ปี อีกฝ่ายยกระดับวรยุทธได้สูงขึ้นอีกมาก และดูไม่กระเสาะกระแสะเหมือนเดิม

“อือ” จางเซวียนพยักหน้ารับ

เขาเบนสายตาไปด้านข้างและเห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่หน้าแท่นบูชา กำลังร่ายมนต์อย่างต่อเนื่อง เปลวเพลิงลุกโชนอยู่เหนือแท่นบูชา เรืองแสงเกรี้ยวกราดเจิดจ้า นี่คือพิธีกรรมที่นำพาพวกเขากลับสู่ทวีปแห่งปรมาจารย์

แต่ผู้ประกอบพิธีกรรมไม่ใช่คนที่เขาคุ้นหน้า

“เขาเป็นใคร? หลิวหยางอยู่ไหน?” จางเซวียนตั้งคำถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

อำมาตย์เฉินหย่งคนปัจจุบันคือหลิวหยาง, ศิษย์สายตรงของเขาไม่ใช่หรือ? ทำไมผู้ประกอบพิธีกรรมถึงเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจจากโลกอื่นที่เขาไม่รู้จัก?

“ชายผู้นี้คืออำมาตย์คนใหม่ของเผ่าพันธุ์ปีศาจจากโลกอื่น, เฉินเสี่ยว เป็นศิษย์สายตรงของหลิวหยาง” นักปราชญ์โบราณเหยียนชิงตอบ

“ศิษย์สายตรงของหลิวหยาง? ก็เป็นศิษย์หลานของผมน่ะสิ” จางเซวียนชะงัก

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชร

LOHP, Thiên Đạo Đồ Thư Quán, Tian Dao Tu Shu Guan, 天道图书馆
Score 7.4
Status: Completed Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Library of Heaven’s Path อัจฉริยะสมองเพชรจางเซวียนข้ามไปอีกโลกหนึ่งโดยบังเอิญ ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกลายเป็นครูไปเสียแล้ว ซ้ำยังเป็นครูที่ไม่เก่งและกำลังจะถูกไล่ออกอีกด้วย ทว่าจางเซวียนกลับพบความลับอันยิ่งใหญ่ของร่างใหม่ร่างนี้ นั่นก็คือ… เขามีสมองเพชร! ในสมองของครูหนุ่มคนนี้แอบซ่อน ‘หอสมุด’ ขนาดใหญ่ไว้ด้านใน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่จางเซวียนเห็น ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ล้วนถูกเก็บสู่คลังหนังสือในรูปแบบของสมุดเล่มหนึ่ง ก็ถ้าในเมื่อมีไอเท็มสุดยอดนี้อยู่กับตัวแล้ว ใครยังจะกล้าเรียกเขาว่าครูกระจอกอีก?!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset