อัลฟ่าการละคร ตอนที่ 3

ตอนที่ 3 ใบปลิว

ตอนที่ 3 ใบปลิว 

ร่างเล็กในชุดการ์ดรัดกุมโรมรันกับคนร้ายที่กระโจนมาจากไหนก็ไม่ทราบอีกสองคน แน่นอนว่าชรัณไม่ได้ฝีมือไก่กา ขาเรียวตวัดไปมาไม่นานก็ซัดเข้าที่ก้านคอของอัลฟ่าคนหนึ่งลงไปกองแน่นิ่งอยู่กับพื้นจนได้ 

“จะเอาใช่ไหม ไม่ไหวแล้วนะเว้ย” 

“ไอ้เปี๊ยกอย่าแส่ ถ้าไม่อยากตาย” 

เสียงคนร้ายอีกคนพูดขึ้นมาขณะที่ชรัณจะเข้าไปหาคนที่นั่งกอดคอม้าหมุนนิ่ง ๆ ที่มีอาการตกตะลึงจริงจังไม่ได้แสร้งทำแต่อย่างใด 

คนที่ถูกส่งมาปลอมตัวเป็นภวินท์ลอบมองท่วงท่าของร่างเล็กยามวาดลวดลายแล้วก็นึกทึ่งจนลืมกระโดดจากเครื่องเล่นลงมาช่วย ครั้นดึงสติกลับมาได้ คนร้ายทั้งหมดก็ลงไปนอนกองกันอยู่กับพื้นหมดแล้ว 

“เป็นอะไรไหมครับคุณ” 

“มะ ไม่เป็นไร ขอบคุณมากครับ” 

ชรัณมองใบหน้าคนบนหลังม้าหมุนด้วยแววตาฉงน ใบหน้าชายคนนั้นไม่ได้จัดว่าหล่อเหลามากมายแต่ก็ดูดีไม่น้อย ฝ่ายคนถูกคนตัวเล็กเอ่ยถามก็เผลอจ้องเสี้ยวหน้าไร้สิ่งปกปิดของอีกฝ่ายนิ่งงัน 

“ไม่เป็นไรแน่นะครับ หรือว่าช็อกไปแล้ว” 

เสียงใสยังคงถาม สังเกตอากัปกิริยาของคนตัวโตไม่วางตา จนแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จึงหันหลังไปจัดการกับพวกคนร้ายที่เหลือ 

“พี่เจต โซนม้าหมุนเกิดเรื่อง รันจัดการแล้วมาเก็บซากพวกมันที รันแบกไม่ไหว” 

มือบางยกวิทยุสื่อสารขึ้นกล่าวไปยังผู้เป็นหัวหน้าการ์ดได้รับรู้ ในจังหวะที่จะหันมามองคนบนม้าหมุนอีกครั้ง กลับพบแต่ความว่างเปล่า มีเพียงกระดาษแผ่นเล็กที่วางอยู่บนหลังม้า พอหยิบขึ้นมาดูก็ทำให้ชรัณอมยิ้มออกมาน้อย ๆ 

“ขอบคุณ…อืม อย่างน้อย ๆ ก็ยังมีมารยาท” 

เสียงเล็กกล่าวเบา ๆ พลันชะงักเพราะกลิ่นขนมที่โปรดปรานลอยเข้าปะทะจมูก ดวงตาราวลูกกวางลอบสำรวจรอบบริเวณจนสายตามาหยุดอยู่ที่กระดาษแผ่นเล็กในมือ 

“อืม เดี๋ยวนี้กระดาษเขาทำกลิ่นช็อกโกแลตได้ด้วยหรือ” 

ชรัณพึมพำเพียงเท่านั้น ก่อนจะหมุนกายเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงคนเป็นเจ้าของลายมือซึ่งถูกชมว่ามีมารยาท กำลังหลุดยิ้มมุมปากออกมา ดวงตาคมกล้าฉายประกายวาววับ 

เขาเฝ้ามองใบหน้าหวานใสที่วันนี้ไร้สิ่งปกปิดอยู่หลังพุ่มไม้ไม่ไกลจากม้าหมุนเท่าไรนัก ทำให้ได้ยินสิ่งที่ร่างน้อยพูดเต็มสองหู และแน่ใจแล้วว่าคนตัวเล็กคือคู่แห่งโชคชะตาของเขา! 

“นายน้อยไม่เข้าไปขอบคุณด้วยตัวเองหรือครับ” 

“ไม่ล่ะ เอาไว้เดี๋ยวก็ต้องได้เจอกันอีก” 

ก้องภพมองกับการ์ดคนที่ให้ปลอมตัวเป็นภวินท์ ลอบส่งสายตาให้กันงง ๆ ไม่สามารถเดาความคิดของผู้เป็นนายได้ ทว่าก้องภพก็ฉลาดพอจะไม่ถามอะไรออกไปในตอนนี้ 

“ไปสืบมา ว่าพวกนั้นเป็นคนของใคร” 

“รับทราบครับ” 

หลังจากกลับจากสวนสนุก ภวินท์ก็ตรงดิ่งไปหาผู้เป็นบิดาทันที คาดว่าตอนนี้คงจะนั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้องใต้ดินเป็นแน่ 

“ว่าไง วิ่งหน้าตาตื่นมาเลยนะ” 

“แด๊ด ผมเจอคู่แห่งโชคชะตาแล้ว” 

“อืม ก็ดีแล้ว…ฮะ อะไรนะ!!” 

นายท่านใหญ่ที่สุดแสนจะโหดเหี้ยมหลุดมาดทุกครั้งเมื่ออยู่กับลูกชายสุดที่รักตามลำพัง เช่นเดียวกับตอนนี้ที่ชายวัยกลางคนตะโกนก้องห้องใต้ดิน กอปรกับกิริยาอันตื่นตะลึงราวกับเห็นผีนั่น ทำให้ภวินท์ระเบิดหัวเราะดังลั่น 

“ผมบอกว่าผมเจอคู่แห่งโชคชะตาแล้ว” 

“ไหน โอเมก้าบ้านไหน บอกมา แด๊ดจะส่งสินสอดไปให้เดี๋ยวนี้เลย” 

คราวนี้เป็นภวินท์บ้างที่อ้าปากค้าง เขาไม่คิดว่าผู้เป็นบิดาจะพูดคำนี้ออกมา ไม่ทันจะได้เห็นหน้าก็จะไปขอลูกคนอื่นเขาแล้วหรือ 

“แด๊ดใจเย็น ๆ ได้ไหมเนี่ย เจ้าตัวเขายังไม่รู้ตัวเลยมั้ง” 

“แย่แล้ว ลูกแด๊ดรักเขาข้างเดียวหรือ น่าสงสารมังกรน้อยของแด๊ดจริง ๆ” 

“แด๊ด! เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว ผมหมายถึงว่าเรายังไม่ได้ทำความรู้จักกันเลย ผมเห็นเขาแค่แวบเดียว ส่วนเขา…ไม่เห็นผมเลย” 

นายท่านใหญ่ของตระกูลคลายความตื่นเต้นลงไปทันทีหลังจากได้ฟังประโยคของลูกชายสุดที่รัก แต่พอนึกถึงคนที่ได้กลิ่นประจำตัวของลูกชายรอยยิ้มบางเบาก็แต่งแต้มมุมปากอีกครั้ง 

“ไม่เห็นก็ทำให้เห็นสิ ในที่สุดก็เจอคนที่ได้กลิ่นแกสักที นึกว่าชาตินี้แด๊ดจะไม่ได้อุ้มหลานซะแล้ว” 

“ให้เขายอมคุยกับผมก่อนเถอะ เรื่องหลานน่ะเอาไว้ก่อน” 

ภวินท์หวนคิดไปถึงใบหน้าหวานใสหมดจรดของใครคนนั้น พลันรอยยิ้มอบอุ่นก็ฉายชัดบนใบหน้า ดวงตาทอประกายระยิบระยับอย่างที่ผู้เป็นบิดาไม่เคยได้เห็น 

“เขาชื่ออะไร ให้แด๊ดไปคุยให้ไหม” 

“อ่า…ชื่อ…” ภวินท์ครางในลำคอ หัวคิ้วขมวดมุ่น สีหน้าหนักอกหนักใจ ปล่อยเวลาทิ้งไปนานสองนานก็ไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากก็ทำเอานายท่านใหญ่ถึงกับกุมขมับ 

“แค่ชื่อ ก็ยังไม่รู้ แล้วจะไปตามหาเขาเจอไหมเจ้าวิน” 

“เจอสิครับ พูดมาถึงตรงนี้ก็ดี ผมมาให้คำตอบแด๊ดแล้วนะ” 

“เรื่อง?” 

ภวินท์มองผู้เป็นบิดาเลิกคิ้วถามแล้วก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง 

“ผมจะรับบอดีการ์ด แต่ผมต้องเป็นคนเลือกด้วยตัวเอง” 

“พูดแบบนี้แสดงว่ามีคนที่หมายตาไว้แล้วสินะ” 

ภวินท์พยักหน้ารับโดยที่รอยยิ้มไม่น่าไว้ใจยังไม่จางหายไปจากใบหน้าหล่อเหลา จนทำให้คนมองต้องออกปากถาม 

“ใคร ไปเจอมาจากไหนล่ะ” 

“หึ ๆ รอลุ้นครับ ผมขอกลับห้องไปคิดวิธีคัดเลือกบอดีการ์ดก่อน” 

พูดจบกายสูงก็ผุดลุกจากเก้าอี้เดินจากไปทันที ทิ้งไว้เพียงสายตาใคร่รู้ระคนยินดีจากผู้เป็นบิดาที่จ้องมองตามแผ่นหลังกว้างของลูกชายคนเดียวไป 

สายวันต่อมาก้องภพก็ได้รับคำสั่งแปลกประหลาดที่สุดตั้งแต่ทำงานรับใช้ตระกูลพิพัฒน์เทพามา นั่นก็คือ… 

“ให้คนทำใบปลิวไปแจก” 

“อะ อะไรนะครับนายน้อย ใบปลิว? รับสมัครบอดีการ์ดตระกูลพิพัฒน์เทพาน่ะหรือครับ” 

พี่เลี้ยงหนุ่มได้แต่ถามออกไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง การรับสมัครบอดีการ์ดตระกูลมาเฟียบ้านไหนเขาร่อนใบปลิวกัน ทว่าคนที่เอ่ยปากสั่งกลับไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจ 

“ใช่ นายน้อยสั่งให้ไปทำก็ทำเถอะน่า” 

“โธ่ นายน้อยครับ…” 

ก้องภพทำหน้าอ่อนอกอ่อนใจ ในขณะที่เด็กรับใช้ได้ยินก็ถึงกลับส่ายหน้าไปมากับความคิดประหลาดของอัลฟ่าคนนี้ ไม่เอาไหนอย่างไรก็ไม่เอาไหนอยู่วันยังค่ำ 

“ไปจัดการได้แล้ว อย่าขัดใจนายน้อยได้ไหมก้องภพ” 

“รับทราบครับ” 

จากนั้นเพียงไม่นานใบปลิวแสนหรูหราก็มาปรากฏอยู่บนโต๊ะทำงานห้องใต้ดินของภวินท์ ดวงตาคมกริบกวาดมองรายละเอียดของมันด้วยความพึงพอใจ ทุกอย่างที่เขาบอกไว้ก้องภพสามารถทำออกมาได้ครบถ้วนทั้งหมด 

“ดีมาก เอาไปแจกที่สวนสนุก” 

“ฮะ! เอ่อ นายน้อยครับ ที่สวนสนุกมันมีแต่เด็ก หรือว่า…” 

ดวงตาเรียวรีเบิกกว้างทันทีเมื่อนึกไปถึงใครบางคน ไม่ใช่ว่านายน้อยของเขาต้องการให้คู่แห่งโชคชะตามาทำหน้าที่บอดีการ์ดหรอกนะ 

“ใช่ เพราะฉะนั้น ทำอย่างไรก็ได้ ให้น้องไวน์ขาวเห็นใบปลิว” 

“น้องไวน์ขาว?” 

“เขานั่นแหละ กลิ่นเขาคือไวน์ขาวที่ฉันชอบดื่ม กลิ่นองุ่นผสมใบชา หอมสดชื่นจนอดใจแทบไม่ไหว…” 

ภวินท์พูดพลางทำหน้าเคลิ้มฝัน ราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในห้วงภวังค์ นั่นทำให้ก้องภพถึงกับพูดไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนคนเป็นนายได้สติ 

“อึ้งอะไร ไปจัดการเดี๋ยวนี้ ถ้าทำให้เขาหยิบใบปลิวมาอ่านไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้า” 

“รับทราบครับ…” 

ก้องภพรับคำด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอย นี่นายน้อยเป็นหนักถึงขนาดนี้ได้อย่างไร หน้าก็ยังเห็นกันไม่ชัด พูดคุยสักคำก็ยังไม่เคย แถมยังล็อกเป้าหมายชัดเจนขนาดนี้ ก็ไม่ต้องเปิดรับสมัครคนอื่นแล้วก็ได้! 

………………….. 

ชรัณกำลังหงุดหงิด เขาในชุดการ์ดของสวนสนุกเดินเตร็ดเตร่ ตรวจตราตามปกติ ทว่าสิ่งที่ไม่ปกติในตลอดวันมานี้ก็คือการที่ต้องโดนร่างใหญ่โตของคนแปลกหน้าเดินชนครั้งแล้วครั้งเล่า และในทุกครั้งข้าวของที่อีกฝ่ายถือมาด้วยก็หล่นกระจายทุกครั้ง! 

“ผมช่วยเก็บครับ” 

“ขอบคุณครับ ๆ” 

คนที่ทำของหล่นรีบกล่าว ก่อนจะยื่นแผ่นกระดาษเรียบหรูไปทางปลายเท้าของชรัณจนร่างบางคิ้วกระตุก อีกแล้ว ยื่นมาให้อีกแล้ว? 

“นี่ครับ ของคุณเก็บไปไม่หมด” 

“เอ่อ…ขอบคุณครับ” 

ฝ่ายนั้นมีสีหน้าไม่สู้ดี ทำเหมือนไม่อยากรับของคืนไปกระทั่งคนตัวเล็กต้องตีหน้านิ่ง มือใหญ่จึงได้เคลื่อนออกมารับ 

เป็นแบบนี้ตลอดทั้งวันจนชรัณนึกสงสัย ว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือความตั้งใจ สุดท้ายก็ตัดสินใจมานั่งพักอยู่หน้าร้านไก่ทอดเจ้าดังของสวนสนุก 

“พี่คิว ขอแบบเดิมชุดนึงครับ” 

“ได้ ๆ รอแป๊บนะรัน” 

เสียงพนักงานกล่าวตอบพลางหยิบจับอุปกรณ์อย่างคล่องแคล่ว ระหว่างนั้นก้องภพที่เพียรพยายามให้คู่ของเจ้านายเห็นใบปลิวหลายครั้งหลายคราก็ลอบปาดเหงื่อ 

“จิน แกให้คนไปเดินชนคุณรันกี่ครั้งแล้ว” 

“ห้าครับพี่ แต่คุณเขาไม่อ่านใบปลิวเลย” 

“ได้เอาไปวางตามทางเดินไหม” ก้องภพยังถามต่อไป เพราะเขาไม่ได้ไปตามดูตอนบอดีการ์ดอีกคนทำงาน 

“วางหน้าห้องน้ำแล้วคุณรันก็เหยียบ เอาไปใส่ถาดรองอาหารเขาก็ไม่เห็น แถมพนักงานทำน้ำหกใส่อีก เลวร้ายสุดคือวางตรงหน้าเขาแต่เขาหยิบมันขึ้นมาพัด แหะ ๆ” 

น้ำเสียงอ่อนระโหยช่างน่าเวทนา ไม่คิดว่าคู่แห่งโชคชะตาของผู้เป็นนายจะไม่สนโลกถึงเพียงนี้ ถือไว้ในมือแท้ ๆ นึกว่าจะอ่านบ้างแต่กลับเอาขึ้นมาพัด! 

“นายน้อยนะนายน้อย” 

ก้องภพก่นด่าเจ้านายออกมาอย่างสุดจะทน จนคนที่แอบมองอยู่ข้าง ๆ ได้แต่ยิ้มแหย นานทีปีหนพี่เลี้ยงคนดีจะบ่นเจ้านายตัวเองสักครั้ง นับว่าครั้งนี้คงยากจะทานทนจริง ๆ 

“คราวนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง” 

“พี่ก้องจะไปเดินชนเองเหรอ” 

ก้องภพไม่ตอบคำถามนั้น แต่กลับยกแมสก์ขึ้นมาปิดปาก จัดเสื้อแจ็กเกตให้เข้าที่ ก่อนจะเดินตัวตรงมุ่งหน้าไปทางร่างบอบบางที่นั่งแทะไก่อย่างสบายใจ 

คราวนี้ไม่หยิบมาอ่านอีกก็ให้มันรู้ไป! 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป 

#อัลฟ่าการละคร 

ฮ่า ๆ เป็นก้องภพคือลำบากลำบนมากนะแม่ นายน้อยค่อนข้างไม่ปกติค่ะทุกคน ชื่อก็ยังไม่รู้ หน้าน้องก็ยังไม่เห็นอีพี่มันชัด ๆ เลยเถอะ เรื่องอุ้มหลานของนายท่านต้องพับเก็บไปก่อนนะคะ นายน้อยยังงุ่มง่ามอยู่แบบนี้ ฮิอิ  

ไรต์ : นายน้อยปกติใช่ไหมคะ 

นายน้อย : คำว่าปกติของนายน้อย อาจไม่ปกติสำหรับคนอื่น 

ไรต์ : …. 

ขอบคุณทุกคนที่โดเนต คอมเมนต์ และกดหัวใจให้ไรต์น้า เดี๋ยวจะมาตอบเหมือนเดิมค่า มาคุยกันเยอะ ๆ นะคะ 

แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า (เที่ยงวัน) 

-กาลกวี- 

อัลฟ่าการละคร

อัลฟ่าการละคร

อัลฟ่าการละคร
Score 6.7
Status: Ongoing
อ่านนิยายอัลฟ่าการละครเรื่องย่อ การเป็นอัลฟ่าปัญญาอ่อนในสายตาคนอื่นมีข้อดี แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะดีขนาดนี้ จนกระทั่งได้เจอกับรันจัง ไม่ว่านายน้อยจะกอด ซบ หรือซุก รันจังก็ยังมองนายน้อยอย่างเอ็นดู…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset