CF:บทที่ 127 เทพสงคราม
เทพสงครามนั้นคือตัวตนที่พิเศษมากในสหภาพมนุษย์ ถ้าเขาต้องการอะไรแล้ว ขอเพียงแค่เขายืนขึ้นและบอกสิ่งที่ต้องการออกมา และทางกองทัพของสหภาพก็จะจัดหาให้ทันทีโดยไม่มีข้อแม้
นี่ไม่ใช่เรื่องตลกหรืออะไรที่สภาของสหพันธรัฐเข้ามาขัดขวางได้ เพราะว่านี่คือตำแหน่งเทพสงครามของทั้งสหพันธรัฐและอารยธรรมมนุษย์
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เขานั้นได้เสียสละลูกชาย 3 คนและลูกสาว 1 คน ในศึกชี้ชะตาครั้งสุดท้าย เพื่อชะลอการโจมตีของกองทัพของแมลงพวกนั้น
แล้วหลังจากนั้น กองทัพนี้ ซึ่งสูญเสียกำลังพลไปแล้วเกือบ 80% ซึ่งทั้งตายและบาดเจ็บ พวกเขาได้รวบรวมเหล็กและโลหะที่เหลือ และบุกเข้าโจมตีเอาชนะตัวเรือดขับไล่ออกจากพื้นที่ของมนุษยชาติได้สำเร็จ และในท้ายที่สุดด้วยการเข้ามาจัดการของสหพันธรัฐ พวกเขาก็ได้บังคับให้พวกมันลงนามสนธิสัญญาที่อัปยศอดสูนี้ได้สำเร็จ
และด้วยเหตุการณ์นั้นอารยธรรมมนุษย์ก็สามารถก้าวออกจากยุคมืด และกลายมาเป็นอารยธรรมที่แข็งแกร่งได้ดั่งเช่นทุกวันนี้
และในท้ายที่สุดมนุษยชาติได้คิดที่จะให้เขาได้ขึ้นมาผู้นำคนแรกของสหภาพมนุษย์ ทันทีที่ได้ขึ้นตำแหน่งเขาก็ประกาศยุบสภา และส่งมอบอำนาจทางกองทัพและไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับทางกองทัพอีกเลย
มันอาจเรียกได้ว่าชายชราผู้นี้ได้สูญเสียไปมากเกินไปเพื่ออารยธรรมมนุษย์ ในตอนนั้น มีอารยธรรมที่สูงส่งกว่าที่สามารถช่วยเหลือลูกชายลูกสาวเขาได้ แต่แลกกับการที่พวกเขาจะเข้ามาควบคุมดูแลอารยธรรมมนุษย์
เขากลับไม่เห็นด้วย และเลือกที่จะเสียสละลูกชายกับลูกสาวของเขาและเข้าต่อสู้กับพวกกองทัพแมลงต่อ
จึงกลายมาเป็นเทพสงครามที่มีชีวิตและเป็นที่เชื่อถือของผู้คนมากมาย
ในสหภาพมนุษย์นั้น คุณสามารถโทษรัฐสภา, เจ้าหน้าที่, หรือแม้แต่กองทัพได้, แต่คุณไม่สามารถกล่าวโทษเทพสงครามได้
หลิงหยิ่งเดินลงมาจากยานรบโดยที่เจ้าหน้าที่ต้อนรับไม่สนใจได้ เพราะพวกเจ้าหน้าที่กำลังมัวแต่สนใจอยู่กับคุณปู่ของเธอ
เมื่อเทียบกับคุณปู่ของเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นซูเปอร์สตาร์และเทพธิดาในดวงใจของใครหลายคน แต่รัศมีของเธอนั้นกลับถูกกลบหมดในตอนนี้
“พี่คะ, ทำไมคนพวกนั้นเขาถึงไม่ส่งเสียงเชียร์พี่กันเมื่อเห็นพี่ล่ะคะ?” เตี๋ยอู่ที่หลบอยู่ข้างหลังหลิงหยิ่งและโผล่หัวมาเล็กน้อยถามขึ้น
“นั่นเป็นเพราะว่าคุณปู่อยู่ที่นี่ด้วยยังไงล่ะ”
“โอ้, เพราะพวกเขากลัวคุณปู่กันสินะคะ!”
เจ้าหน้าที่ต้อนรับได้ยินบทสนทนาเมื่อสักครู่, แต่ได้ไม่ได้ตอบสนองอะไร เขามองดูเทพสงครามด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันดูเหมือนความคลั่งไคล้ที่แปลกๆ
“เอาล่ะ, พอได้แล้ว ตาแก่คนนี้แค่ต้องการที่จะมาที่ดาวดวงนี้เพื่อมาร่วมชมการแข่งกับหลานสาวของฉันเท่านั้น”
“ได้ครับ เดี๋ยวทางเราจะรีบดำเนินการให้ทันทีครับ”
หลิงเทียนซิงรู้สึกทำอะไรไม่ค่อยถูก เขาก็คาดไว้อยู่แล้วว่าสถานการณ์แบบนี้จะต้องเกิดขึ้นเมื่อเขามาถึง นี่เองก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเอาแต่อยู่ที่ดาวเทพสงคราม และไม่ต้องการที่จะออกไปที่ไหน
หลี่ต้าจวงพูดกับพนักงานต้อนรับ “คุณไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย พวกเราจะจัดการเอง พวกคุณแค่กันไม่ให้คนธรรมดาเข้ามายุ่งก็พอ”
ในที่สุดเจ้าหน้าที่ต้อนรับก็นึกตัวตนของหลี่ต้าจวงออก และเข้าว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นๆหน้า เขาคือบอดี้การ์ดส่วนตัวของเทพสงครามและเป็นคนที่แข็งแกร่งติดอันดับในจักรวาลของสหพันธรัฐจักรวาลในปัจจุบัน
หากมีคนแบบนี้อยู่ด้วย พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยอีกเลย เว้นแต่จะมีคนยิงถล่มพวกเขาด้วยปืนใหญ่ดวงดาวเท่านั้นแหละ ถึงจะทำอันตรายเขาได้
ทางสภาของดาวหม่านหลินก็ว่องไวมาก เมื่อพวกเขาออกมาจากท่าเทียบยานอวกาศ พวกเขาก็มาถึงที่นี่พอดี
หลิงเทียนซิงไม่ได้พูดอะไร ทุกสิ่งอย่างเขาปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหลี่ต้าจวง คนๆนี้ถึงแม้จะซ่อนร่างกายอันกำยำของเขาแล้ว แต่ก็ยังทำให้คนจำนวนมากรู้สึกเกรงกลัวอยู่ดี
“เอาล่ะ ไม่จำเป็นต้องมาคุยอะไรกันที่นี่ คุณก็แค่จัดการตามหน้าที่ของพวกคุณไป ตอนนี้พวกคุณรู้แล้วว่าท่านนายพลมาที่นี่ พวกคุณก็จัดการไปตามสถานการณ์เท่านั้นพอ”
หลี่ต้าจวงได้เข้ามาขัดขวางพวกเขา และจัดการกับคนพวกนี้โดยอาศัยแรงกดดัน
ตอนนี้เจ้าหน้าที่พวกนี้รู้แล้วว่าข่าวลือนั้นเป็นจริง หลิงหยิ่งนั้นเป็นหลานสาวของเทพสงครามและสายเลือดที่ยังหลงเหลือ
จริงๆก็ไม่ใช่ความลับอะไรของทางสหภาพ แต่แค่ไม่ได้เปิดเผยออกไปเท่านั้นเอง และตอนนี้หลิงหยิ่งเองก็ได้มาปรากฏตัวพร้อมกับเทพสงคราม
อีกไม่นานข่าวนี้คงได้รู้กันไปทั่วทั้งสหภาพ
ทางด้านงานแข่งขันครัวโบราณ เมื่อทางผู้จัดได้ทราบข่าวนี้ พวกเขาต่างรู้สึกทำอะไรไม่ถูก
ตอนแรกพวกเขาได้ยินแค่ว่าหลิงหยิ่งกำลังจะมา แต่ตอนนี้ทางสภาได้แจ้งเข้ามาว่าเทพสงครามนั้นกำลังจะมาด้วย ซึ่งมันไม่ใช่ปัญหาเดียวแล้ว
อิทธิพลของนักร้องซูเปอร์สตาร์หนึ่งละ และยังมีความเชื่อของสหพันธรัฐเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่ง กลายเป็นสอง
“พวกเราจะทำยังไงดี? หัวของฉันมันสับสนไปหมดแล้ว”
“ใจเย็นๆ พวกเขาก็บอกอยู่ไม่ใช่รึ พวกเราแค่จัดการแข่งขันไปตามเดิม ส่วนทางนั้นจะจัดการเรื่องอื่นให้เอง เอาเป็นว่าพวกเราไปคุยกับผู้จัดการของที่นี่กันก่อนดีกว่า พวกเราจำเป็นต้องขอเช่าสถานที่ทั้งหมดแล้ว”
กองทัพหม่านหลินได้เข้าเตรียมพร้อมปฏิบัติหน้าที่ แต่พวกแฟนที่มากันก็ไม่ได้สนใจอะไร เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุกครั้งที่เทพธิหาหลิงปรากฏตัว
แต่พวกเขาไม่ได้สังเกตว่าคราวนี้มีทหารมากกว่าที่เคย และดูราวกับว่าทหารจะมาเข้าสนามรบกัน สายตาของพวกเราสอดส่องราวกับเครื่องสแกนเนอร์, เพื่อมองดูสถานการณ์ของผู้คนรอบๆพวกเขา
“เจ้าเกราะ, นายรู้สึกมั๊ยว่าบรรยากาศตอนนี้มันดูผิดปกตินิดๆนะ”
มนุษย์ชุดเกราะมองดูที่ทหาร เขาเองก็เคยเป็นทหารมาก่อน เขารู้สึกได้ว่าทหารรอบๆตัวเขานั้นหายใจผิดปกติ
“ฉันไม่แน่ใจ แต่ทหารพวกนี้รู้สึกกระวนกระวายเหมือนเตรียมจะพร้อมรบตลอดเวลา ต่อให้เทพธิดามาพวกก็ไม่น่าจะทำถึงขนาดนี้”
ในตอนนี้พ่อค้าพลังงานกำลังสอบถามเรื่องการเข้างานแข่งขันพ่อครัวโบราณอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาไม่รู้เรื่องการมาถึงของเทพสงคราม และสิ่งที่ผิดปกติทั้งหมดกำลังอยู่ในการสอบสวน
แต่ดูเหมือนจะเกิดเรื่องเศร้ากับพวกเขาเข้าเสียแล้ว เมื่อเขามองเห็นเจ้าหน้าที่ที่จะมาพาพวกเขาเข้าไปในงานแข่งขันครัวโบราณ แต่เขาคนนั้นกลับถูกจับตาดูโดยทหารสองนาย
“เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่าคุณจะพาเราเข้าไปในงานแข่งไม่ใช่รึไง ถึงแม้พวกเราจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า แต่ก็ไม่น่าถึงขนาดกับให้ทหารมาจับตัวพวกนี่”
“ผมรู้ ผมไม่เป็นไร แต่หลังจากนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนะ ทหารพวกนี้เข้ามาหาผมและถามเรื่องที่ผมจะมาพาพวกคุณเข้าไป จากนั้นพวกเขาก็ให้ผมพามาหาพวกคุณ”
“เอ้า พวกคุณบอกผมมาได้แล้ว ทำไมพวกคุณถึงต้องการเข้างานแข่งขันครัวโบราณ?” เจ้าหน้าที่ถามทั้งสาม
“ครับ, นี่ไม่ใช่ว่ามีอะไรเข้าใจผิดกันรึเปล่าครับ? พวกเราแค่ต้องการเข้างานแข่งขันครัวโบราณเพื่อตามหาเชฟคนหนึ่งเท่านั้นเองครับ”
“อย่าโกหก, ถ้าโกหกอีกผมจะส่งพวกคุณไปที่แผนกสอบสวนของทางกองทัพ, พวกคุณน่าจะรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเกิดตอบไม่ดีอีก”
“หา! แผนกสอบสวนของกองทัพ เดี๋ยวนะครับ พวกเราทำผิดงั้นเหรอครับ? ได้โปรดอธิบายให้เข้าใจหน่อย พวกเราแค่ต้องการเข้าไปในงานและตามหาตัวเชฟเพื่อที่จะได้พบกับเทพธิดาหลิงหยิ่งเท่านั้นเอง ทำไมถึงกับต้องส่งพวกเราไปที่แผนกสอบสวนของทางกองทัพด้วยครับ” มนุษย์ชุดเกราะรีบตอบและอธิบายอย่างไว
“ท่านครับ นี่คือข้อมูลยืนยันตัวตนของทั้งสามคนนี้ครับ ดูเหมือนพวกเราจะเข้าใจผิดไปเองครับ”
หัวหน้ามองดูข้อมูลที่ได้มาจากทางสภา ซึ่งข้อมูลยืนตัวตนของทั้งสามคนนี้นั้นมีความละเอียดมาก เพราะเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยของเทพสงคราม จึงได้ทำการถ่ายโอนข้อมูลไปยังระบบสมองแสงของสหพันธรัฐ จึงทำให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดมาก
หลังจากที่อ่านข้อมูลแล้ว หัวหน้าก็ต้องมองดูทั้งสามคนนี้อย่างตกใจ ตัวตนของทั้งสามคนนี้ล้วนไม่ธรรมดา ธุรกิจของครอบครัวของพวกเขาล้วนเกี่ยวข้องกับทางสหพันธรัฐ ยิ่งข้อมูลของมนุษย์ชุดเกราะนั้น เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่พิเศษของทางกองทัพด้วย
“ดูเหมือนจะมีการเข้าใจผิดเกิดขึ้น ทางผมขอโทษกับทั้งสามคนด้วย เพราะเนื่องจากมีความลับทางการทหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พวกเราจำเป็นต้องเข้าตรวจสอบคนน่าสงสัยทุกคนครับ”
มนุษย์ชุดเกราะรู้สึกสับสนและรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ เขาจึงถามกลับไป “ถึงแม้ว่าเทพธิดาจะมาที่นี่ มันก็ไม่น่าจะต้องถึงกับเป็นความลับทางการทหารเลยนี่ เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินอะไรขึ้นรึเปล่า? ผมเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษของกองทัพ ผมสามารถขับอาร์เมอร์สู้ได้ ถ้าคุณต้องการ คุณสามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลานะ”
“อ้า, ทางเรายังไม่ต้องการความช่วยเหลือในตอนนี้ คุณตามเขาเข้าไปในงานได้เลยครับ แต่ผมเห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา จงเตรียมใจให้พร้อม และไม่ต้องตื่นเต้นมากเกินไป”
เมื่อมองพวกทหารเดินจากไป ทั้งสามคนต่างก็รู้สึกงงงวย ไม่ให้ตื่นเต้นมากเกินไปงั้นเหรอ? ถึงแม้พวกเขาจะได้เจอเทพธิดา พวกเขาก็แค่ขอลายเซ็นและมีประสบการณ์การได้พบกับเทพธิดาแบบใกล้ๆเท่านั้น
—————–