CF:บทที่ 129 ถูกมองข้าม
ในตอนนี้ พวกของมนุษย์ชุดเกราะก็ได้มาที่โซนหน้าสุดของที่นั่งชม, ซึ่งเป็นโซนสำหรับผู้เข้าชมบางท่านที่ถูกเชิญเข้ามาเท่านั้น
“ร้อยมีดโม่ชูอยู่ตรงนั้น พวกเราต้องไปหาเขาให้ได้ก่อนใคร ไม่งั้นแล้ว ถ้าเขาได้ไปพบกับเทพธิดาก่อน เราจะหมดโอกาสได้เข้าไปพบเทพธิดาแน่”
“ใจเย็นก่อน, เฮ้พี่ชาย พอจะรู้มั๊ยว่า เราจะเข้าไปพบเชฟที่มาเข้าร่วมแข่งขันได้ที่ไหน?”
“เอ…ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ, แต่มันน่าจะอยู่ตรงนั้น ได้ยินว่ามันเป็นทางเข้าของพวกเชฟที่มาร่วมแข่งล่ะนะ”
ทั้งสามคนเดินตามการนำทางของคนๆนี้และพบว่าทางเข้าที่นี่ได้ถูกขวางห้ามเข้าไว้
“แล้วพวกเราจะเข้าไปได้ยังไง?”
“คอยดูฉันนี่”
สมองกลเดินตรงไปหาสต๊าฟงานแข่งที่กำลังจัดเตรียมช้อนส้อมอยู่ เข้าไปแตะไหล่เขาและพูดขึ้น “ผมได้ยินมาว่าที่นี่มีเชฟที่ชื่อร้อยมีดโม่ชูมาเข้าร่วมในงานแข่งครัวโบราณในครั้งนี้ด้วย ผมชื่นชมเขามานานมากแล้ว และผมก็มีบางสิ่งบางอย่างจะมามอบให้เขา คุณช่วยส่งข้อความไปบอกเขาให้หน่อยว่า มีเพื่อนของพ่อค้าของเก่าที่เป็นเพื่อนกับเชฟกำลังมองหาเขาอยู่ทีนะ”
“เรื่องแบบนี้ จริงๆแล้ว คุณรอจนการแข่งจบก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวทางผู้จัดงานก็จะจัดการให้พวกคุณได้เข้าพบเองแหละ”
“แต่ผมมีของที่ต้องการจะให้เขาเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวผมจะต้องรีบไปขึ้นยานอวกาศเพื่อไปที่อื่นต่อ ไม่งั้นเดี๋ยวผมจะไปเข้าร่วมประชุมด่วนไม่ทัน”
สต๊าฟมองที่สมองกล ก่อนจะผงกหัวและพูดขึ้น “OK งั้นเดี๋ยวผมจะไปบอกให้ละกัน แต่ผมไม่มั่นใจนะว่าเขาจะออกมาพบคุณรึเปล่า”
“ขอบคุณมาก ขอบคุณมาก แล้วก็ถ้าในอนาคตคุณต้องการที่จะซื้อสมองแสงอันใหม่ คุณถามหาผมได้นะครับ, นี่นามบัตรผม แล้วผมสัญญาว่าจะลดราคาให้เป็นพิเศษ”
สต๊าฟดูไม่ค่อยสนใจ แล้วเก็บนามบัตรเข้าไว้ในสมองแสง
สมองกลมองดูสต๊าฟที่เดินไปพร้อมกับโบกมือให้คนอื่นและพูดขึ้น “เรียบร้อย คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา”
……………………..
“ผู้กองครับ มีข่าวแจ้งเข้ามาครับว่า ตอนนี้ มีบุคคลน่าสงสัยสามคนกำลังต้องการจะเข้าไปพบกับเป้าหมายครับ”
“โอ้” หลีต้าจวงลูบคางของเขาและถามกลับไป “แล้วทราบข้อมูลยืนยันตัวตนของทั้งสามคนรึยัง?”
“ทราบข้อมูลยืนยันตัวตนแล้วครับ และตัวตนของทั้งสามคนนั้นค่อนข้างพิเศษครับ ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสามคนเคยถูกหยุดโดยทางกองทัพมาก่อนหน้านี้เพราะพวกเขาอยากจะเข้าไปด้านในของงานแข่งครับ”
หลี่ต้าจวงมองดูที่ข้อมูลของทั้งสามคนและก็พอจะทราบเหตุผลแล้ว ตัวเขานั้นรู้อะไรมากกว่าทหารพวกนี้ “ไม่เป็นไรหรอก, ปล่อยพวกเขาไป”
ด้านหลังของสถานที่จัดแข่งขัน ในตอนนี้กลุ่มเชฟต่างกำลังถกกันเรื่องอาหารที่พวกเขาทำและอะไรจะเกิดขึ้นในท้ายที่สุด
“มันเป็นอาหารที่ดีมาก รูปลักษณ์ของมันก็ออกมาดูดีมาก ย่อมแน่นอนว่าจะต้องดึงดูดความสนใจของผู้คนได้แน่ๆ”
“ใช่, อย่างน้อยก็ได้คะแนนเต็มด้านสีสันแน่ๆล่ะ”
“อย่างไรก็ตาม, พี่ร้อยมีดดูเหมือนคราวนี้จะงานหนักหน่อย เขาเล่นทำ 108 จานจริงๆ ซึ่งฉันว่ามันจะทำให้ยากแก่การตัดสิน”
มันจริงอยู่ว่าอาหารแบบนั้นมันจะได้รับความสนใจที่ดี ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะตัดสินได้ยังไงเมื่อถ้าต้องชิมพวกมันทั้งหมด มันมีความต่างมากเกินไปในอาหารแต่ละจานเหล่านั้น ซึ่งมันน่าจะมีผลอย่างมากกับคะแนนที่ได้”
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก ความตั้งใจของพี่ร้อยมีดในคราวนี้น่ะไม่ใช่คะแนนหรอก แต่เขาแค่ต้องการพิสูจน์ประวัติศาสตร์ เพื่อดูว่าอาหารในตำนานอย่างสำรับแมนจูฮั่นครบสูตรนั้น เป็นสุดยอดอาหารจีนโบราณจริงๆ”
ว่ากันว่าอาหารจานนี้นั้น เป็นอะไรที่ใครหลายคนยากแก่การจะให้คะแนน แต่อาหารจานนี้เป็นการแสดงความตั้งใจที่แน่ชัดว่านี่คืออาหารสไตล์ดั้งเดิมที่เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ในตอนนี้
ในตอนนี้ หมวกขาวสูงก็ได้ลุกขึ้นยืนและตะโกนออกมา “เขากำลังหลอกทุกคนอยู่ ผักดองพวกนี้ต่างหากคืออาหารของพวกเราชาวฮั่นและอาหารดั้งเดิมอย่างแท้จริง และพวกเรามีหลักฐานยืนยันทางประวัติศาสตร์ด้วย”
“ช่าย, ของพวกเราต่างหากที่ดั้งเดิม พวกเราได้รับการรับรองมาจากสมาคมเชฟแห่งจักรวาลแล้วด้วย”
“ไอ้พวกบ้านี่มารวมตัวกันอีกละ นี่ถ้าพวกมันเป็นเหมือนเมื่อก่อนนะ พวกมันคงทำลายเผ่าพันธุ์ตัวเองไปแล้ว”
“ตอนนี้พวกมันก็เกือบจะเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามียีนส์ที่สวยหรูเพียงใดที่ถูกเพิ่มเข้ามาในร่างกาย แต่ท้ายที่สุดแล้ว การพัฒนานั้นก็ผิดพลาดและก็กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่แปลกประหลาดไปละ”
แน่นอนว่า ชนเผ่าที่จองหองพวกนี้นั้น เป็นชนเผ่าที่มีผู้คนจำนวนไม่มากนักที่อยากจะข้องแวะด้วย โดยเฉพาะเมื่อตอนเข้าสู่ยุคก้าวข้ามดวงดาวแล้ว ก็ได้ไปทำเรื่องโง่ๆไว้จนเกือบทำให้ตัวเองต้องสูญสิ้นชนเผ่า
ในตอนนั้นพวกเขาได้อ้างสิ่งที่พบในอารยธรรมที่ล้ำหน้ากว่า และอ้างว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ชนเผ่าของตัวเองเป็นคนค้นพบ แต่ทว่าพวกอารยธรรมที่ล้ำหน้านั้นกลับทำเมินเฉยราวกับว่าไม่มีค่าอะไร มิเช่นนั้นแล้ว คนพวกนี้คงได้หายสาบสูญจากจักรวาลไปแล้ว
แน่นอนว่า ทุกคนต่างรู้ดีว่า เจ้าพวกสิ่งมีชีวิตด้อยปัญญาพวกนี้นั้น เป็นตัวตนที่มีมาตั้งแต่โลกยุคโบราณ แต่พวกเขาก็ไม่เคยทำอันตรายอะไรร้ายแรงขนาดทำร้ายสิ่งมีชีวิตมนุษย์ด้วยกันเอง ไม่งั้นแล้ว พวกมันคงจะสูญสิ้นกันไปนานแล้ว
สำหรับพวกเขาแล้ว, ในตอนที่รัฐบาลสหพันธ์ได้ออกกฏหมายแห่งดวงดาวออกมานั้น พวกชนเผ่านี้ก็ได้ออกมาอ้างกรรมสิทธิ์ในของบางอย่าง ซึ่งเรื่องพวกนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับสหภาพมนุษย์
“อย่าตะโกนโหวกเหวกน่า พวกเจ้าจะไปเอาหนังสือรับรองงานวิจัยในยุคโบราณมาก็ได้ ข้าเองก็พอจะมีบันทึกในยุคนั้นอยู่เหมือนกัน ถึงแม้ข้าจะไม่รู้หรอกนะว่า บรรพบุรุษของพวกเจ้าได้ทำอะไรไว้บ้างในยุคแห่งการท่องอวกาศ และได้ลบข้อมูลทางประวัติศาสตร์ไปเป็นจำนวนมาก แต่ก็มีบางอย่างที่ยังถูกเก็บรักษาไว้ได้”
ลุงชาวจีนยิ้มและหยิบเอาหนังสือเก่าที่อู๋ฮ่าวเหรินเคยให้แก่เขาไว้ มันคือหนังสือสูตรอาหารที่มาจากยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน ในตอนที่อูฮ๋าวเหรินกำลังเลือกซื้อหนังสือ คนขายก็ได้จัดหาหนังสือมาให้ขายให้เป็นอย่างดี
“ว้าว, หนังสือที่มาจากกระดาษนี่มันหายากมากเลยนะ สูตรทำอาหารงั้นเหรอ? ร้อยมีด, นายไปได้มันมาจากที่ไหน นายให้หนังสือเล่มนี้กับชั้นได้มั๊ย? แล้วเดี๋ยวชั้นจะให้อีกเล่มที่อยู่ที่บ้านเป็นการแลกเปลี่ยน”
“ไป กลับไปเลย คิดจะมาขอแลกกับหนังสือของข้างั้นเหรอ แกคิดว่าข้าโง่นักรึไง!”
“นี่มันเหมือนหนังสือโบราณที่มาจากยุคนั้นจริงๆ ร้อยมีด คุณไปได้มาจากที่ไหน?”
“มีคนหนุ่มแปลกๆส่งมันมาให้ข้า และได้ทำการตรวจสอบและยึนยันแล้วว่ามาจากยุคนั้นจริงๆ”
เมื่อได้เห็นใบรับรองที่ได้การรับรองจากทางสหพันธ์ที่หยิบมาให้ดูโดยร้อยมีดแล้ว ทุกคนต่างมองด้วยความอิจฉาตาร้อน
สำหรับพวกเขาแล้ว, ต่อให้ได้หนังสือเล่มคัดลอกมา มันก็จะกลายเป็นหลักฐานที่ดีสำหรับพวกเขาที่บ่งบอกว่าเป็นเชฟโบราณ
“แกปลอมมันขึ้นมา แกกำลังโกหก อย่าไปเชื่อเขานะ มันต้องเป็นของปลอมแน่นอน ตามบันทึกในประวัติศาสตร์ ผักดองของพวกเราต่างหากคือของดั้งเดิมที่แท้จริง
“เออ, เออ, เจ้าบอกว่าใช่ แต่พวกเราบอกว่าไม่ใช่, อย่าตื่นตระหนกนักเลยน่า ร้อยมีด, ขอแลกหนังสือเล่มนี้ไม่ได้จริงๆเหรอ?”
“ใช่”
“อย่าแม้แต่จะคิดเลย ข้าบอกแล้วไงว่า ข้าได้หนังสือเล่มนี้มาจากคนอื่น”
“ถ้างั้นเจ้าพอจะบอกชื่อคนๆนั้นได้มั๊ย? ฉันอยากจะรู้ว่าเขาจะมีของดีอย่างอื่นอีกมั๊ย”
“ก็ได้ บางทีเขาอาจจะมีอะไรที่นายต้องการ เขามีทั้งเครื่องครัวยุคนั้นที่ถูกเก็บไว้ในสภาพดีมากมาย คุณก็น่าจะเคยได้ยินชื่อของเขา เขาคือพ่อค้าของเก่าที่มีชื่อเสียงในตอนนี้ ข้าพบเขาในกลุ่มพ่อครัวของอาจารย์หอยเม่น(หอยเม่นเก่า)”
หมวกขาวสูงนั้นถูกเมินโดยกลุ่มคน และทุกคนกำลังเริ่มคุยกันถึงเรื่องกลุ่มเชฟ
ในตอนนั้นเอง ก็มีสต๊าฟได้เข้ามาและได้บอกคำที่ฝากมาโดยสมองกลให้ร้อยมีดฟัง
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยรึ ได้, นายให้เจ้าพวกนั้นไปรอที่โซนรับรองแล้วเดี๋ยวข้าจะไปพบกับพวกเขา”
และในขณะเดียวกันนั้นเอง ผู้จัดงานก็ได้รีบเข้ามาและบอกกับเขาว่า หลิงหยิ่งนั้นต้องการจะขอพบเขา
แน่นอนว่าผู้จัดงานไม่ได้บอกกับเขาเรื่องที่เทพสงครามมาด้วย
“OK คุณจัดเตรียมสถานที่ไว้ แล้วเดี๋ยวข้าจะไปที่นั่นทีหลัง
ร้อยมีดเองก็อยากรู้เรื่องของดาราใหญ่ที่มาเหมือนกันว่า ทำไมเธอถึงต้องการตามหาตัวเขา
———————