CF:บทที่ 139 สร้างคฤหาสน์
อู๋ฮ่าวเหรินมองไปที่นายอำเภอ แล้วคิดว่าเขานั้นน่าจะเป็นคนที่เบื้องบนส่งมา มิฉะนั้นแล้วเขาคงไม่ถูกย้ายมาที่นี่เป็นแน่
“นายอำเภอหลิวครับ, ผมจำได้ว่าคุณเคยถามผมเกี่ยวกับมุมมองของผมในเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ คุณต้องการให้ผมร่วมมือกับคุณเพื่อวางแผนและก่อสร้าง จุดที่น่าสนใจในอำเภอหยุนหลงสินะครับ”
หลิวเคยคิดแบบนั้นจริงๆ ในตอนที่เขาได้รู้จักกับบริษัทของอู๋ฮ่าวเหรินนั้น เขานั้นอยากให้อู๋ฮ่าวเหรินร่วมลงทุนในการก่อสร้างจุดดึงดูดในอำเภอหยุนหลง แต่ทว่า ตอนนี้เขาไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว เพราะมีการก่อสร้างจุดท่องเที่ยวในอำเภอหยุนหลงที่ได้เริ่มลงมือไปแล้ว
“ใช่ครับ, แต่ตอนนั้นผมยังไม่ได้รู้จักบริษัทของท่านประธานอู๋เลยครับ ดังนั้นผมจึงพูดล้อเล่นไปน่ะครับ”
“ไม่, ไม่, ไม่ครับ ตอนนี้ผมต้องการที่จะให้การช่วยเหลือในการก่อสร้างจุดที่น่าสนใจในอำเภอหยุนหลงของเรา ไม่ทราบว่านายอำเภอหยุนหลงจะยอมรับข้อเสนอนี้มั๊ยครับ?”
นายอำเภอหลิวถึงกับอึ้งไปพักหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าที่อู๋ฮ่าวเหรินมาในวันนี้นั้นมีจุดประสงค์อะไร หากคิดถึงสถานการณ์ในปัจจุบันของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว, ฮ่าวเหรินย่อมไม่เข้าร่วมโปรเจ็คเล็กๆแบบนี้แน่ๆ”
“ผมไม่ค่อยเข้าใจครับ ประธานอู๋, คุณต้องการอะไรกันแน่?”
“คุณพอจะมีแผนที่มั๊ย? มันค่อนข้างจะอธิบายยาก ถ้าชี้ให้เห็นเลยน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่า”
“โอเคครับ, แผนที่สินะ…เสี่ยวจาง ไปเอาแผนที่อำเภอหยุนหลงมาให้หน่อย”
ไม่นานนักเลขาก็ได้เอาแผนที่เข้ามาให้ อู๋ฮ่าวเหรินกางแผนที่แล้วมองหาจุดที่เขาเคยมองหาไว้ จากนั้นก็วงรอบๆด้วยนิ้วของเขาและพูดขึ้น “ที่นี่แหละครับ, นายอำเภอหลิวคุณพอจะเคยเห็นสถานที่มั่งไหม, หรือจะลองถามคนที่น่าจะเคยไปมาแล้วดูก็ได้”
นายอำเภอหลิวรู้สึกสับสนเล็กน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเคยไปยังสถานที่นี้ในอำเภอหยุนหลงมาก่อน เขาจึงตะโกนออกไปข้างนอก: “เสี่ยวจาง, ช่วยออกไปตามผู้อำนวยการอู๋ของสำนักแผนงานมาที่นี่หน่อย”
หลังจากนั้นสักพักหนึ่ง, ก็มีคุณลุงคนหนึ่งที่สวนแว่นตาคนแก่เดินเข้ามาจากข้างนอก
“นายอำเภอครับ คุณเรียกผมมาทำไมรึ? อ้าว, ประธานอู๋ก็อยู่อยู่ที่นี่ด้วยรึครับ?”
“อื้ม”
“ผอ.อู๋, ช่วยมาดูตรงนี้หน่อย แล้วบอกผมเกี่ยวกับสถานที่นี้ที”
ผู้อำนวยการของสำนักแผนงาน, ซึ่งเป็นคนที่ไม่ได้ถูกย้ายมา, มองดูพื้นที่ๆอู๋ฮ่าวเหรินได้วงเอาไว้และพูดขึ้น “ตรงนี้เป็นบริเวณยอดเขาทิศใต้ มีสภาพพื้นที่เป็นภูเขาหิน มีคนอาศัยอยู่บริเวณนี้น้อยมาก, เพราะดินของนี่เป็นดินเค็มด่าง, ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก, จึงไม่มีใครต้องการครับ”
“โอ้, เป็นสถานที่แบบนั้นนี่เอง ผมไม่เข้าใจครับประธานอู๋ คุณชี้ให้ผมดูที่นี่นั้นหมายความว่าอย่างไรครับ?”
“เพราะที่แห่งนี้เป็นที่รกร้างไม่ใครต้องการ ผมนั้นต้องการจะลงทุนทำสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอหยุนหลง หลังจากที่เห็นที่นี่แล้ว, ผมก็คิดว่าที่ตรงนี้แหละเหมาะสม, ผมเลยต้องการที่จะซื้อมันเพื่อทำธุรกิจท่องเที่ยว”
“ทำธุรกิจท่องเที่ยว?” หลิวมองไปที่ผอ.อู๋ เพื่อต้องการให้เขาอธิบาย
“นายอำเภอครับ, ที่ตรงนี้ไม่เหมาะสมแก่การพัฒนา เหตุผลหลักเลยคือดินที่นี่ไม่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกและเต็มไปด้วยภูเขาหินที่ไม่มีค่าอะไร ถึงแม้จะมีแม่น้ำไหลผ่าน แต่ก็ไม่มีวิวทิวทัศน์อะไรให้ชมครับ”
หลังจากนั้น, เขาก็หันกลับมามองที่อู๋ฮ่าวเหรินอย่างสงสัย เขารู้ว่าชายหนุ่มคนนี้นั้นไม่ใช่คนธรรมดา ตอนนี้ในที่ว่าการอำเภอ, เขาและบริษัทของเขานั้นถูกเป็นที่พูดถึงอยู่ทุกวัน
“ตอนนี้ทางบริษัทสามารถทำเงินได้จำนวนหนึ่งแล้ว, และผมต้องการที่จะคืนกลับให้บ้านเกิดของผม, ช่วยเตรียมสัญญาของพื้นที่ตรงนี้ให้ผมที ผมจึงอยากจะสร้างคฤหาสน์ที่นี่”
“คุณวางแผนที่จะพัฒนาที่นี่จริงๆเหรอ?”
“ใช่แล้วครับ, ว่ายังไงครับนายอำเภอหลิว ผมสามารถใช้ที่ดินตรงนี้ทำการก่อสร้างและทำธุรกิจได้รึเปล่าครับ?”
ผอ.อู๋ พูดขึ้นบ้างตอนนี้: “นายอำเภอครับ, ถ้าท่านประธานอู๋อยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้ทำจุดที่น่าสนใจ, ผมว่าไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ไม่ใช่พื้นที่เพาะปลูก ไม่ใช่พื้นที่ป่าเขา เป็นเพียงแค่พื้นที่รกร้าง จึงไม่มีปัญหาอะไรที่จะพัฒนาที่นี่ ในทางกลับกันผมว่าออกจะเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ”
นายอำเภอหลิวผงกหัว, แต่ก็ยังไม่ได้ให้คำตอบตกลงแก่อู๋ฮ่าวเหริน, เพราะเนื่องจากว่าเป็นเรื่องของอู๋ฮ่าวเหริน, เขาจำเป็นที่จะต้องรายงานให้เบื้องบนได้ทราบก่อน
“ท่านประธานอู๋ครับ, ผมจำเป็นที่จะต้องถามกรมโยธาในเรื่องนี้ก่อน, แล้วผมจะให้คำตอบแก่คุณทีหลังครับ”
“ไม่มีปัญหาครับ ผมจะรออยู่ที่นี่แหละ”
อู๋ฮ่าวเหรินคิดในใจ, คุณต้องการจะไปถามกรมโยธา, หรือจะไปแจ้งให้เบื้องบนทราบกันแน่
“ได้คำตอบแล้วครับ,
เรื่องที่ท่านประธานอู๋ต้องการจะพัฒนาที่ดินแปลงนั้น ไม่มีปัญหาอะไรครับ”
“ถ้าอย่างนั้น, ผมขอสิทธิ์ที่จะใช้ที่ดินแปลงนั้น, ด้วยระยะเวลามากที่สุดเท่าที่จะทำได้, คุณแจ้งราคามาได้เลย, ผมต้องการที่จะเซ็นสัญญาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“ไม่มีปัญหาครับ, พวกเราทำสัญญากันที่นี่เลยก็ได้, ระยะเวลาสูงสุดก็ 70 ปีครับ…”
อู๋ฮ่าวเหรินขัดเขาก่อนและพูดขึ้น, “ผมจะให้คนของผมมาดำเนินการจัดการเรื่องนี้เองทั้งหมด, เช่นเดียวกับตอนเรื่องที่ดินของโรงงานครับ”
นายอำเภอหลิวผงกหัวรับ, และขณะที่เขากำลังจะส่งอู๋ฮ่าวเหรินกลับนั้น เขาก็ถามขึ้นมา “ผมอยากจะรู้ว่าท่านประธานอู๋นั้นต้องการที่จะลงทุนในที่ดินแปลงนี้เท่าไรและจะสร้างคฤหาสน์แบบไหนขึ้นมาเหรอครับ?”
“ฮ่าๆ, เงินลงทุนน่ะเหรอ ผมกะจะลงทุนซัก 2หมื่นล้านก่อน, และจะค่อยเพิ่มเติมทีหลังถ้าไม่พอ, ผมว่าจะสร้างอะไรคล้ายๆกับพระราชวังฤดูร้อนหยวนหมิงหยวนขึ้นมา”
นายอำเภอหลิวถึงกับช็อค 2หมื่นล้านหยวนในขั้นแรก, และยังมีเพิ่มเติมอีกในขั้นหลัง ล้อกันเล่นรึเปล่า นี่มันไม่ใช่คฤหาสน์แล้ว
แต่เมื่อเขามองไปดูสีหน้าอันสดใสของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ราวกับว่า 2หมื่นล้านหยวนสำหรับอู๋ฮ่าวเหรินแล้วมีค่าแค่ 200 หยวนเท่านั้น
“ผมหวังว่านายอำเภอหลิวจะช่วยผมเร่งดำเนินการเรื่องเอกสารรับรองสิทธิ์ต่างๆให้ผมด้วยนะครับ”
“แน่นอน, แน่นอนครับ, ท่านประธานอู๋, คุณวางใจได้เลยว่า ผมจะจัดการเรื่องของเอกสารรับรองสิทธิ์ให้เร็วที่สุดครับ”
จนกระทั่งอู๋ฮ่าวเหรินได้ออกไปแล้ว, นายอำเภอหลิวยังคงอยู่สภาวะสับสน, 2หมื่นล้านหยวนเรอะ!
ในตอนแรก, เขาคิดว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นอาจจะต้องการสร้างคฤหาสน์ของเขาขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่แบบนั้นแล้ว มันดูฟุ่มเฟือยเกินไปที่จะสร้างคฤหาสน์ส่วนตัวด้วยเงินถึง 2หมื่นล้านหยวน
ถึงอู๋ฮ่าวเหรินจะบอกว่าต้องการที่จะสร้างสถานที่ท่องเที่ยว, แต่เขาเองก็ยังสงสัยอยู่ดี หลังจากที่คิดอยู่สักพัก เขาก็รีบวิ่งไปที่ห้องของตัวเองและรายงานต่อเบื้องบน เรื่องนี้จำเป็นต้องรายงานโดยด่วน
——————————————————-
“ฮ่าๆๆ, แก่แล้วจริงๆ, ข้าแก่แล้วจริงๆ, ไม่อยากที่จะแก่เลยน้า!” ชายชราคนหนึ่งที่เพิ่งจะวางหูโทรศัพท์ไปและหัวเราะขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้นรึ?, อะไรที่ทำให้เจ้าต้องพูดแบบนั้น, แล้วเมื่อกี้ใครโทรมาล่ะ?”
“จากหน่วยข่าวกรองน่ะ, ดูเหมือนเจ้าหนุ่มของเราจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ และลงทุนอีก 2หมื่นล้านหยวนเพื่อสร้างของเลียนแบบหยวนหมิงหยวนขึ้นมา”
“หา! 2หมื่นล้าน, เพื่อเลียนแบบพระราชวังฤดูร้อนหยวนหมิงหยวน?”
“ใช่แล้ว, จากสถานการณ์ในตอนนี้, ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวพวกเราอยู่! ตอนนี้เขารีบใช้เงินของเขาให้หมดโดยไว ข้าได้ยินมาว่าเจ้าหนุ่มนั่นเพิ่งจะกว้านซื้อร้านค้าในแต่ละจังหวัด เพื่อทำร้านค้าขายผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะ ยิ่งไปกว่านั้น, ยังได้ติดต่อมายังทางกองทัพอีก เขาต้องการที่จะจ้างรปภ. 200 นายอีก”
“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก มันคืออุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดที่สามารถทำให้หลายๆประเทศปั่นป่วนได้เลยนะ ในด้านของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เอง, ก็สามารถต้านทานการรุกรานจากแฮกเกอร์ทั้งหมดในโลกและสวนกลับไปได้ด้วย, และยังมีผลงานเรื่องของปัญญาประดิษฐ์และวัสดุทางการทหารอีก พวกเราคงจะต้องปกป้องเขาให้ดีที่สุด อัจฉริยะแบบนี้ในที่สุดประเทศของเราก็มีกับเขาบ้างเสียที”
“ถึงเวลาที่จะต้องดูแล้วอย่างดีแล้วสินะ เมื่อไรที่วัสดุเส้นใยพืชได้เริ่มดำเนินการ, ก็ได้เวลาที่ทางประเทศจะต้องชดใช้คืนให้เขาบ้างแล้ว”
ชายชราสองคนกำลังคุยถึงอู๋ฮ่าวเหริน ซึ่งในตอนนี้อู๋ฮ่าวเหรินกำลังอยู่ไซต์ก่อสร้าง
“ถ้าคุณไม่สามารถที่จะดำเนินการเรื่องพวกนี้พร้อมกันได้, ผมคงจะต้องไปเชิญบริษัทอื่นมาแล้วล่ะ”
“ท่านประธานอู๋, คุณนี่ช่างดื้อด้านจริงๆ ตอนนี้พวกเราก็ทำอย่างเต็มที่แล้วครับ คุณเห็นมั๊ย, พวกเราสามารถสร้างโรงงานให้เสร็จได้ด้วยเวลาเพียงแค่ 1 เดือน ใช้เวลาแค่ 1 เดือนเองนะครับในการสร้างโรงงาน”
อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัวของเขา เขากำลังหงุดหงิดเรื่องที่เขาไม่สามารถที่จะหาเรื่องจ่ายเงินของเขาได้ในตอนนี้
“ไม่มีใครบอกเลยว่าผมจะไล่คุณออกและไม่ให้เงินคุณ ผมไม่ได้มาเพื่อบีบคั้นคุณ, แต่ผมเสนอจะเพิ่มเงินให้อีก 10% ส่วนผลงานที่ผมต้องการก็ง่ายมาก ภายในปีนี้ผมต้องการที่จะเห็นทุกสิ่งก่อสร้างตามแปลนนี้ปรากฏขึ้นมาที่นี่”
เมื่อได้ยินว่าเพิ่มเงินให้อีก 10% จากราคาปกติ, พวกบริษัทต่างชาติต่างก็รีบบอกว่าไม่มีปัญหาในทันที แต่แรกพวกเขาแค่อยากมาทำงานที่นี่เพื่อที่จะเรียนรู้เทคนิคของที่นี่เท่านั้น
ส่วนบริษัทในจีนเองต่างก็ตอบไม่มีปัญหา, และพวกเขาเองก็จะแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดคนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถ้ามีจำนวนคนมากขนาดนั้น เขาก็น่าจะไม่ต้องกังวลเรื่องงานล่าช้า, พวกเขาก็ไม่น่าจะไม่มีปัญหาอะไร, โดยเฉพาะเรื่องเงิน
หลังจากที่แก้ไขปัญหานี้แล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็กลับบ้านเพื่อกลับไปศึกษา เรื่องการเลียนแบบหยวนหมิงหยวน เขาจำเป็นที่จะต้องหาคนมาช่วยเขาก่อสร้าง, ซึ่งงานนี้ไม่ใช่งานของวิศวกรธรรมดาๆจะสามารถทำให้สำเร็จได้
—————————