CF:บทที่ 150 ใครจะมีเวลาสัมภาษณ์คุณ
เมื่อเห็นอู๋ฮ่าวเหรินปรากฏตัวออกมา, สาวน้อยคนนั้นก็กรีดร้องขึ้นมาอีก: “อ๊ะ!”
จากนั้น, เธอก็รีบวิ่งเข้าไปหาอู๋ฮ่าวเหรินและก้มหัว90องศาให้เขา แล้วเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้: “ขอโทษด้วยค่ะ, ขอโทษด้วย, หนูไม่ได้ตั้งใจ, หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ หนูบอกข้อมูลของคุณให้กับผู้จัดการฟังเท่านั้นเองนะคะ, หนูไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้”
อู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้ตอบสนองอะไร และกำลังสงสัยอยู่ว่าสาวน้อยคนนี้หมายถึงอะไร
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มีนักข่าวมากมายอยู่ด้านนอกค่ะ”
“โอ้, นักข่าวรึ, ไม่เป็นไร ผมกะไว้อยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น ไม่ต้องกังวลไป ผมไม่โทษคุณหรอก แต่ขอผมเช็คเอาท์ก่อนนะ”
“อ๊ะ! ได้ค่ะ, ขอหนูเป็นคนทำให้นะคะ”
เมื่อเธอได้ยินว่าอู๋ฮ่าวเหรินไม่ได้โทษและไม่ได้โกรธเธอ สาวน้อยจึงมีรู้สึกดีขึ้น
ถ้าอู๋ฮ่าวเหรินต้องการที่จะเอาเรื่องนี้ให้ได้จริงๆ ถึงแม้ว่าข่าวจะหลุดออกไปโดยผู้จัดการ, แต่สุดท้ายเรื่องราวก็จะสาวกลับมาหาตัวเธออยู่ดี ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นปัญหาสำหรับเธอ
ตอนนี้คนที่เหลือกำลังเริ่มสับสนแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเธอจะต้องขอโทษใครกันแน่
ดาราคนนั้นกำลังโกรธจัด, ชายคนนี้อีกแล้ว และนี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่, ทำไมเธอถึงไปขอโทษชายคนนั้นแทน
“ท่าทีของพนักงานของพวกคุณนี่มันอะไรกัน แทนที่จะมาขอโทษผมกลับไปขอโทษคนที่ไม่เกี่ยวข้องแทน”
“เอ่อ คือ….”
ตอนนี้พนักงานทั้งสองคนเกิดสับสนขึ้นมา คนๆนั้นเป็นดาราใหญ่อย่างงั้นเหรอ?
ในตอนนี้เอง, มีคนสองคนเดินเข้ามา, คนหนึ่งคือผู้จัดการซุ่ย, ส่วนอีกคนคือโจวห่าว ประธานกรรมการบริหารของโรงแรม
หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้น, ผู้จัดการซุ่ยก็สอบถามกับภรรยาของเขาและพบว่าลูกสาวของเขานั้น ได้โพสท์ลงในอินเตอร์เนท, เขาถึงได้รู้ว่าเขามีปัญหาแล้ว
ตัวตนของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นพิเศษมาก สำหรับฟิวเจอร์กรุ๊ปในตอนนี้แล้ว ตราบเท่าที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหัวหน้าของพวกเขา บริษัทนี้ก็ถือว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่บริษัทหนึ่ง
ดังนั้น, เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเขาเองอีกแล้ว จึงได้โทรไปหาท่านประธาน ซึ่งจะเป็นการดีกว่าที่จะให้ท่านประธานออกมารับหน้าแทน
“สวัสดีค่ะ ท่านประธาน”
“ดูเหมือนพวกคุณจะกำลังยุ่งๆกันอยู่สินะ เดี๋ยวผมจัดการเรื่องนี้ให้เอง ซุ่ยเหรินหยี่, ไปเรียกรปภ.มาเพิ่ม แล้วก็ให้ใครก็ได้ไปเอารถของฉันมาจอดรอด้วย”
เมื่อดาราคนนั้นได้ยินเรียกท่านประธาน, เขาก็เริ่มกระตือรือร้นขึ้นมาทันที, จัดเสื้อผ้าของเขาให้เข้าที่, และพูดขึ้น, “คุณคือประธานกรรมการบริหารของโรงแรมนี้สินะครับ? เกิดอะไรขึ้นกับโรงแรมของคุณกันแน่ครับ? ถ้าพวกคุณทำอะไรผิดก็ควรจะออกมาขอโทษไม่ใช่เหรอครับ เป็นโรงแรมห้าดาวแท้ๆ, แต่กลับมีการเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าแบบนี้”
โจ้วห่าวมองดูดาราที่กำลังวางท่าใหญ่โต เขาก็รู้สึกงงขึ้นมา ทำไมคนๆนี้ถึงดูต่างจากในรูปภาพ? ความยาวของผมก็ไม่ใช่!
ซุ่ยเหรินหยี่วิ่งออกมาและอธิบายด้วยเสียงค่อยๆ, “พวกเด็กๆบอกว่า, คนๆนี้คือดาราระดับ3ที่มาเข้าพักเมื่อคืน ซึ่งน่าจะมีการเข้าใจผิด ทำให้เขาคิดว่านักข่าวด้านนอกนั้นคือผลจากที่เราเปิดเผยข้อมูลของเขาครับ”
“ถ้างั้นฝากนายจัดการให้ทีนะ แล้วคุณอู๋อยู่ที่ไหน?”
“ตรงนั้นครับ, กำลังเช็คเอาท์อยู่ที่เคาเตอร์ครับ”
โจ้วห่าวหันไปดูที่เคาเตอร์ก็พบอู๋ฮ่าวเหรินยืนอยู่ตรงนั้น, และกำลังคุยอยู่กับพนักงานต้อนรับ เขาจึงรีบเดินอย่างไว และปล่อยให้ดาราคนนั้นยืนทำสีหน้างงงวยต่อไป
ซุ่ยเหรินหยี่จึงได้คุยกับเขา: “คุณลูกค้าครับ, นักข่าวที่อยู่ด้านนอกนั้นไม่ได้เป็นเพราะคุณหรอกครับ และข้อมูลของคุณก็ไม่ได้ถูกเปิดเผยออกไปด้วย แต่ในนามของโรงแรม, ผมก็ต้องขอกล่าวขอโทษด้วยที่ทำให้คุณไม่สะดวก ถ้าคุณต้องการที่จะออกตอนนี้ ผมจะจัดหารถมารับคุณให้นะครับ”
“ไม่ใช่เพราะผม ข้อมูลของผมไม่ได้ถูกเปิดเผย และนักข่าวพวกนั้นมาหาเขาอย่างนั้นเหรอ?”
“ถูกต้องแล้วครับ, แต่ผมไม่สามารถบอกข้อมูลของลูกค้าท่านนั้นให้คุณได้ คุณจะออกเลยรึเปล่าครับ?”
ตอนนี้ดาราคนนั้นโกรธจัด ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้, เขานั้นถูกเมินเฉยมาตลอด ซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่ดีอย่างมาก
“คุณไม่ต้องมาส่งผมหรอก ผมไปเองได้ เนี่ยน่ะเหรอการบริการของโรงแรมระดับห้าดาว ผมจะไม่มาพักที่โรงแรมนี้อีกแล้ว”
หลังจากที่พูดจบ, เขาถอดหมวกถอดแว่นตาดำออก, และเดินออกไปทั้งแบบนั้น
เขานั้นคิดในใจว่า, มาดูกันว่านักข่าวน่ะ มารอสัมภาษณ์ผมหรือเขาที่พวกคุณพูดถึงกันแน่
พวกนักข่าวที่อยู่ด้านนอกเห็นใครบางคนกำลังเดินมาจึงตะโกนขึ้น “ออกมาแล้ว, ออกมาแล้ว, ตั้งใจเร็ว, ตั้งใจ, หยิบเอากล้องมาตั้งเตรียมถ่ายเร็ว
“อย่าเบียดว้อย, อย่าเบียด…”
“มาเลย, มาเลย, นี่จะเป็นรายงานข่าวแรกที่เขาจะได้รับเลยล่ะ”
“….”
ได้ยินเสียงของพวกนักข่าวที่ดังมาจากด้านนอก ดาราคนนี้ก็คิด, พวกคุณบอกว่าไม่ได้เปิดเผยข้อมูลของผมงั้นเหรอ, เห็นไหมว่านักข่าวพวกนี้นั้นมาหาผมชัดๆ, เตรียมรอเจอจดหมายร้องเรียนจากผมได้เลย!
เมื่อเขาเดินออกมาจากนอกประตู, เขากำลังคิดอยู่ว่าเขาจะพูดอะไรกับพวกนักข่าวดี
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร, เสียงอึกทึกและแสงแฟลชก็พลันหยุดลง, พวกนักข่าวก็มีสีหน้าผิดหวังขึ้นมา
“เมื่อกี้ใครพูดฟระ? อย่าให้รู้นะ ทำเอาเสียแรงฟรีเลย”
“ใช่แล้ว เมื่อกี้ฉันโดนเหยียบเท้าด้วย”
“คนๆนี้ดูคุ้นๆอยู่นะ, เหมือนเขาจะเป็นดารานี่แหละ ชื่อว่าอะไรน้า?”
“จางเสี่ยวหาน, ดาราชั้น 3, ได้ยินมาว่าเขาเล่นละครทางทีวีบ่อยๆช่วงนี้”
“โอ้, ดูเหมือนเขาจะเป็นข่าวอยู่นะ, เราจะไปสัมภาษณ์เขาไหม?”
“ถ้าคุณอยากจะไปสัมภาษณ์ก็ไปเองคนเดียวละกัน, อย่าลากฉันไปด้วย ถ้าฉันพลาดการสัมภาษณ์คนๆนั้น, หัวหน้าเล่นงานฉันตายแน่”
นักข่าวจึงอาศัยจังหวะนี้หลบเข้าไปอีกทาง นักข่าวบางคนที่ไม่อยู่สายงานวงการบันเทิงก็ตะโกนขึ้นมา “อย่ามาบังกล้อง หลบไปเร็วเข้า!”
ดาราคนนั้นก็ได้พูดถามออกไปซึ่งมันจะทำให้เขารู้สึกผิดไปชั่วชีวิต “พวกคุณไม่ได้มาสัมภาษณ์ผมหรอกเหรอ?”
“ใครเขาจะมีเวลามาสัมภาษณ์คุณกัน? ออกไปให้พ้นเลย อย่ามาขวางกล้อง ดูเหมือนพวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวกันแล้ว บ้าจริง, ใครก็ได้เอาหมอนี่ออกไปทีสิ? ฉันเข้าไปด้านในไม่ได้เลย”
ในตอนนี้เองหัวใจของดาราคนนั้นได้แตกสลาย เงามืดในดวงใจของเขาได้แผ่ออกไปไม่สิ้นสุด และเขานั้นก็ได้ถูกทิ้งไว้อยู่ข้างๆ
“ผมขอโทษด้วยนะครับ, คุณอู๋ ผมไม่คิดว่าทางเราจะสร้างปัญหาให้คุณแบบนี้”
“ไม่เป็นไรครับ ผมคิดอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตั้งแต่ผมออกมาจากหลีฉุ่ยแล้ว, เดี๋ยวพวกคุณส่งผมแค่ตรงนี้ก็ได้ เดี๋ยวผมหาทางจัดการกับพวกนักข่าวเองครับ”
“มิได้ครับ, ทางเราได้จัดเตรียมรถไว้ให้คุณแล้ว ผู้จัดการซุ่ยเดี๋ยวสั่งให้รปภ.หยุดพวกนักข่าวไว้และพาคุณอู๋ไปส่ง”
“จะจัดการให้เดี๋ยวนี้ครับ, ท่านประธาน”
เมื่อเห็นอู๋ฮ่าวเหรินกำลังจะออกมา, พวกนักข่าวก็ต่างก็พากันแห่เข้าไปหา แต่ก็ต้องผิดหวัง, เพราะเหล่ารปภ.ได้ใช้ตัวเองเป็นกำแพงขวางพวกนักข่าวที่บุกเข้ามาเอาไว้
อาศัยจังหวะตอนนี้, อู๋ฮ่าวเหรินรีบตรงไปขึ้นรถที่เตรียมไว้โดยโจ้วห่าว และขับออกไปจนถึงสถานีขนส่ง
กว่าพวกนักข่าวจะไหวตัวทัน, รถก็วิ่งออกไปได้ 100 เมตรแล้ว, ซึ่งสายเกินไปที่จะไล่ตามได้ทัน
หลังจากที่ถึงที่สถานีขนส่งแล้ว, อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้หยุดพัก เขารีบขึ้นรถเพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังตัวอำเภอลู่ แล้วถึงได้พักผ่อน
ข่าวเรื่องที่อู๋ฮ่าวเหรินได้มาปรากฏตัวที่มณฑลเสฉวนนั้นได้แพร่สะพัดออกไปไวมากบนอินเตอร์เนทราวกับติดปีก
มีบางคนที่ได้เจอกับอู๋ฮ่าวเหรินแล้วเพิ่งจะรู้สึกตัวก็ในตอนนี้เองว่า คนที่เขาได้เจอในตอนนั้นคืออู๋ฮ่าวเหริน, ประธานบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปตัวจริงเสียงจริง
อีกข่าวที่น่าสนใจคือมีดาราระดับ3กับประธานฟิวเจอร์กรุ๊ปปรากฏตัวที่โรงแรมในเวลาเดียวและถูกเมินโดยนักข่าว
ตั้งแต่เริ่มแรกจนจบ, ตัวตนของดาราคนนี้ไม่ได้ถูกพูดถึง ซึ่งก็ไม่ทราบว่านักข่าวที่เขียนข่าวนี้ขึ้นมานั้นเป็นคนใจดีหรือว่าแค่ต้องการใช้เรื่องนี้เพื่อดึงดูดให้คนสนใจก็ไม่ทราบได้
นอกจากจะไม่รู้ตัวตนแล้ว, ก็ไม่รู้ด้วยว่าชายหรือหญิง, แม้กระทั่งชื่อโรงแรม, เรื่องแบบนี้ก็เป็นข่าวได้ด้วยเหรอเนี่ย!
———————