อั่งเปาทะลุโลกตอนที่ 171

CF:บทที่ 171 ก้าวเข้าสู่โลกแห่งเกมส์

ทุกๆคนต่างก็รู้สึกงุนงง มองดูสิ่งที่แสดงอยู่ที่สแตนด์, พวกเขาคิดว่ามันน่าจะมีอะไรที่น่าทึ่งกว่านี้เสียอีก

“ฉันเชื่อว่าข่าวที่ออกเมื่อ 2 สัปดาห์แล้วทุกคนคงจะยังไม่ลืมกันนะคะ, ที่ว่าท่านประธานของเราได้ประกาศไว้ว่าบริษัทของเราจะก้าวเข้าสู่วงการเกมส์คอนโซลในงานจัดแสดงวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีนั้น สิ่งที่พวกเราจะแสดงให้พวกคุณได้เห็นต่อไปนี้คือเรื่องราวของเกมที่พวกเราและท่านประธานได้ใช้เวลาสองอาทิตย์ทำขึ้นมา, เชิญชมค่ะ”

ทันใดนั้นทุกคนก็ได้รู้สึกได้ว่า ธีมของการจัดแสดงในครั้งนี้มีไว้เพื่อการนี้

พวกเขารู้สึกเหมือนพูดอะไรไม่ออก, เมื่อพวกเขาได้เห็นแสงที่ออกมาจากบูธที่อยู่ตรงกลาง ขณะที่พวกเขากำลังมองดูแสงอยู่นั้น, ผู้คนต่างก็เงียบและมองดูที่บูธ

“เท่ห์มากเลย ผู้ชายที่ถือดาบคนนั้นหล่อมาก, นี่เป็นผลจากตัวแสดงภาพจำลองงั้นเหรอ”

“ดูสัตว์ตัวน้อยที่น่ารักพวกนี้สิ ฉันอยากอุ้มพวกมันจังเลย”

“ทิวทัศน์สวยงามมาก ดูแล้วเหมือนอยู่ในความฝันเลยนะ”

“ดูเหมือนว่าภาพเหล่านี้จะเชื่อมต่อกันเป็นเรื่องราวดีนะ พวกมันดูดีมาก, แต่ว่าสั้นไปหน่อยนะ”

“นี่มันไม่พอที่จะใช้เป็นเกมให้เล่นได้เลยนะ!”

“อย่างที่ฉันได้บอกไปนะคะ, นี่คือเรื่องราวของเกมที่ท่านประธานได้คิดขึ้นมา, หรือจะอาจจะเรียกได้ว่า นี่คือเกมที่บริษัทของพวกเราจะทำขึ้นมาค่ะ”

ทันใดนั้น, ฝูงชนก็ฮือฮาขึ้นมาทันที เมื่อสักครู่, พวกเขาต่างรู้ดีว่าหลังจากเหตุการณ์นี้แล้ว มันจะต้องกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นอีกแน่ ซึ่งหลายคนนั้นได้คิดว่าถึงแม้บริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปจะมีเงินก็ตามที, แต่ก็ยากที่จะก้าวเข้าสู่วงการเกมคอนโซลได้, เพราะว่ามันเป็นเรื่องยากที่พวกเขาจะซื้อเกมเฉพาะเครื่องที่ดีๆ เพื่อขายเครื่องเกมส์ได้

พวกเขาไม่รู้ว่าท่านประธานกรรมการคนนั้นที่ “เก็บตัว” ไปสองสัปดาห์เพื่อทำเกมส์ขึ้นมา ซึ่งดูจากสิ่งที่เห็นแล้ว พวกเขาต่างไม่รู้ว่าเกมนี้ทำงานอย่างไร

“หลังจากนี้, บริษัทของเราจะเปลี่ยนหนังสือการ์ตูน, อนิเม, และภาพยนตร์ จากที่เรื่องที่ท่านประธานได้คิดขึ้นมา และท้ายที่สุดก็จะทำเกมขึ้นมาแล้วใส่ไว้ที่คอมพิวเตอร์เมนเฟรมที่สร้างขึ้นมาโดยบริษัทของเราค่ะ”

ทุกคนถึงกับอึ้ง เรื่องของคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ ดูเหมือนเรื่องที่ถกเถียงกันในอินเตอร์เนทนั้น จะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเสียแล้ว มันเป็นความจริงที่ว่าประธานของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น ตั้งใจที่จะสร้างคอมพิวเตอร์เมนเฟรมขนาดใหญ่ยักษ์ขึ้นมา 2 ตัวจริงๆ

จ้องมองไปที่บรรยากาศ, ตัวละครและแสงสีเสียง ทั้งหมดถูกแสดงขึ้นมาโดยเครื่องฉายภาพจำลองที่ตั้งอยู่บนบูธที่อยู่ด้านหน้า, ในตอนนี้เห็นพวกเขารู้สึกได้ว่าท่านประธานผู้มากความสามารถคนนี้ จะสามารถขับเคลื่อนอุตสหากรรมของจีนให้เคลื่อนไปอย่างไม่รู้จักจบสิ้นจริงๆ

งานจัดแสดงจบลงด้วยบรรยากาศที่แปลกๆนี้, และทุกคนต่างก็กำลังคิดว่าท่านประธานคนนั้นกำลังคิดและจะทำอะไรต่อไปกันแน่?

ไม่นานนัก, เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องจัดแสดงของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นก็ได้เป็นเรื่องราวฮือฮาบนโลกอินเตอร์เนท

เครื่องฉายภาพจำลองสุดเฉียบก็ทำให้คนจำนวนมากตื่นตะลึง, และในขณะเดียวกัน, พวกเขาต่างก็คิดว่าบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นเป็นจ้าวแห่งเทคโนโลยีล้ำยุคกี่ชิ้นแล้ว

เช่นเดียวกับโมเดลของอู๋ฮ่าวเหรินที่นำมาแนะนำและเผยแพร่นั้น, หลายคนต่างก็พูดอะไรไม่ออก ในตอนนี้พวกเขานั้นไม่สามารถตามความคิดของท่านประธานคนนี้ได้เลย

นึกอยากจะวิ่งบนพื้นก็วิ่ง, นึกอยากจะบินบนท้องฟ้าก็บิน, ต่อไปคงนึกอยากจะออกจากนอกโลก, เรื่องแบบนี้จะเป็นจริงอย่างงั้นเหรอ?

คนจำนวนมากต่างตั้งข้อสงสัยนี้ไว้ในใจ, และประเทศต่างๆที่สนใจฟิวเจอร์กรุ๊ปอยู่ในช่วงนี้นั้น ต่างก็ต้องสงสัยและรู้สึกว่าคนๆนี้ที่รู้กันว่าเป็นอัจฉริยะนั้น มีปัญหาทางสมองหรือเปล่า

“หลง, คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้? จะอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัดที่ยังไม่เปิดขายก็ดี, และวัสดุเส้นใยพืชที่ยังศึกษาไม่เสร็จก็ดี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้แล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องของปัญญาประดิษฐ์กับ, วัสดุมายา, ที่กำลังศึกษาอยู่, สร้างแต่สิ่งของเพ้อฝันออกมาไม่หยุด

“ฮ่าๆ, นายพลหลี่, คุณผิดแล้ว อัจฉริยะน่ะคือคนที่คิดและกล้าที่จะทำ ดังนั้นเขาจึงกล้าที่ก้าวไปข้างหน้าต่างหากล่ะ”

กลุ่มคนในห้องประชุมต่างก็ส่ายหัวกันอย่างช่วยไม่ได้ สำหรับอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, พวกเขานั้นจับตาดูมาโดยตลอด

“เจ้าหนูนี่ต้องการจะทำเกมส์จริงๆเหรอ?”

“มีการยืนยันแล้วครับว่าจริง, แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำแค่เกมส์ครับ, แต่จะรวมถึงอนิเมชั่นและภาพยนตร์ครับ” หัวหน้ากระทรวงวัฒนธรรมกล่าว “ทางแผนกตรวจสอบได้ยืนยันแล้วว่าทางบริษัทได้ทำการจดทะเบียนสิ่งนี้ครับ”

“ไม่สำคัญว่า, การตลาดด้านนี้ของจีนจะปล่อยให้นักธุรกิจต่างชาติมาลงทุน แต่ตราบที่คนหนุ่มคนนี้ยังสามารถทำได้จริง, มันก็จะเป็นผลประโยชน์กับประเทศแน่นอน”

แน่นอนว่าไม่เพียงแค่นักลงทุนชาวจีนที่กำลังสับสน, แม้แต่เหล่าผู้นำของต่างประเทศเองก็ต้องจับตามองฟิวเจอร์กรุ๊ปที่เดาไม่ถูกว่าอู๋ฮ่าวเหรินกำลังจะทำอะไรต่อ

—————————————————

เดิมอู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้คิดไว้ที่จะเผยแพร่โมเดลพวกนั้น แค่เขาต้องการที่จะเผยแพร่เกมออกไปเท่านั้น

ในปัจจุบัน, คนมากมายบนอินเตอร์เนทต่างก็เฝ้ารอดูว่าบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปจะทำเกมแบบไหนออกมา

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์, เกมส์, หรืออนิเมชั่น, สิ่งเหล่านี้นั้นขาดแคลนในจีน ถ้าบริษัทได้ครองตลาดนี้จริงๆในอนาคต, มันก็จะเป็นอะไรที่ชาวจีนน่าจะมีความสุขขึ้นมาได้

บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ทั้งสามอย่าง, โซนี่, ไมโครซอฟท์และนินเทนโด้, ถึงแม้บริษัททั้งสองชื่อแรกจะได้ดูถูกบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปเอาไว้ว่าจะเข้าวงการเครื่องเกมคอนโซล, แต่พวกเขานั้นก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว

ส่วนนินเทนโด้นั้นไม่สำคัญอีกแล้ว เพราะพวกเขานั้นได้พ่ายแพ้ให้กับสงครามเกมคอนโซล ทำให้ได้ส่วนแบ่งของตลาดที่เล็กลง

เมื่อเหลียงเฉิงและทีมงานของเขาได้มาที่นี่, อู๋ฮ่าวเหรินก็ได้ให้พวกเขาศึกษาเทคโนโลยีของโรงงาน ถ้าพวกเขาต้องการที่จะทำให้งานให้ดีในการทำตัวประมวลผลหลัก, พวกเขาก็ควรที่จะเรียนรู้เทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวประมวลผลหลักก่อน

ในตอนแรก, คนพวกนี้ต่างก็รู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์ พวกเขาคิดว่าอู๋ฮ่าวเหรินนั้นใช้พวกเขาทำงานแบบคนงาน พวกเขามาศึกษาเรื่องตัวประมวลผลหลัก, ไม่ได้มาทำหน้าที่ยกวัตถุดิบ

แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นชิ้นส่วนที่ผลิตโดยอู๋ฮ่าวเหริน, ตาของพวกเขาก็สว่างขึ้นมา, หลายคนต่างไม่เชื่อในสายตาตัวเอง, และพวกเขาก็เริ่มประหลาดใจขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

ทุกคนต่างรู้ดีว่าชิ้นส่วนส่วนใหญ่ของตัวประมวลผลหลักต้องสั่งนำเข้ามาจากข้างนอก แม้แต่ไมโครซอฟท์และโซนี่ก็ไม่มีข้อยกเว้น พวกเขาไม่มีความสามารถและความคิดที่จะประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ของตัวเองขึ้นมาได้

“หัวหน้าครับ เราจะต้องเตรียมชิ้นส่วนทั้งหมดในการผลิตฮาร์ดแวร์, ด้วยตัวของพวกเราเองงั้นเหรอครับ?”

“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ดูที่ข้อมูลในนี้สิ, มันใส่ข้อมูลของชิ้นส่วนทุกชิ้นในการผลิตเอาไว้แล้ว มันก็น่าจะราวๆ 100 ชิ้นเอง”

กลุ่มคนถึงกับรู้สึกมึนตึ๊บขึ้นมา พวกเขาคิดว่าหัวหน้านั้นบ้าไปแล้ว ทุกชิ้นส่วนผลิตขึ้นด้วยตัวเอง แค่พูดก็ทำให้หลายคนขยาดขึ้นมาแล้ว

เป็นไปไม่ได้, ที่จะเป็นเจ้าของฮาร์ดแวร์มากขนาดนี้, ไม่ว่าจะแผงวงจรจนถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ, จนถึงตัวประมวลผลใหญ่ๆ, ตัวเก็บข้อมูล, และอื่นๆ

สิ่งเหล่านี้ทำขึ้นโดยบริษัทๆเดียวนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ ดูเหมือนคนๆนี้ พร้อมที่จะทำแบบนั้นแล้ว เขาผลิตทุกชิ้นส่วนด้วยตัวเขาเองทั้งหมด

ในความเป็นจริงแล้ว, ความคิดของอู๋ฮ่าวเหรินนั้นง่ายมา เขานั้นไม่คิดที่จะใช้อะไรที่เกี่ยวกับสิทธิบัตรของคนอื่น เขาคิดที่จะผลิตทุกอย่างด้วยตัวเอง, แล้วจากจดสิทธิบัตรทั้งหมด

เมื่อถึงตอนนั้น, แน่นอนว่า, ฮาร์ดแวร์เหล่านี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องผลิตด้วยตัวพวกเขาเองอีก เขาจะขายข้อมูลฮาร์ดแวร์ทุกอย่างที่สามารถขายได้ ถ้าไม่สามารถขายได้, เขาจึงค่อยตั้งบริษัทขึ้นมาผลิตเองภายหลัง

ดังนั้น, หลังจากที่การวิจัยการทำเครื่องเกมส์นี้เสร็จ, อู๋ฮ่าวเหรินก็จะจดสิทธิบัตรชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ทั้ง 100 อย่างนี้ทีหลัง

ความคิดของอู๋ฮ่าวเหรินนั้น ถ้าหากมีฮาร์ดแวร์ที่ดีกว่า, ทำไมต้องจ่ายเงินให้คนพวกนั้นทำฮาร์ดแวร์ให้ เครื่องเกมส์ที่เขาทำจะต้องไปส่วนทางกับทั้งสองบริษัทนั้น เพื่อแก้ไขปัญหานี้แล้ว เขาตั้งเวลาไว้ปีเดียว แล้วหลังจากนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาแล้ว

หลังจากที่เครื่องเกมส์ได้ส่งต่อให้คนพวกนี้แล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็ไม่ได้ขออะไรพวกเขาต่ออีก ตอนนี้เขาต้องการที่จะหาทางเพิ่มกำลังพลในเกาะกลางทะเลต่อ
—————————–

อั่งเปาทะลุโลก

อั่งเปาทะลุโลก

อั่งเปาทะลุโลก
Score 7.8
Status: Ongoing Released: N/A Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง อั่งเปาทะลุโลก ในวันปีใหม่ใครต่อใครต่างเฉลิมฉลอง แต่อู๋ ฮ่าวเหริน กับพยายามคว้าซองแดงในโทรศัพท์ จนเผลอทำน้ำหกใส่ปลั๊กไฟ ตู้ม!!หลังจากที่เขาฟื้นสติขึ้นมาในตอนเช้าก็มีเสียงดังก้องในหัว “ การรวมเสร็จสมบูรณ์ ระบบซองแดงกำลังเริ่มต้น วิเคราะห์ข้อมูลเสร็จสิ้น กำลังสร้างช่องมิติ เสร็จสิ้นการเชื่อมต่อ การเชื่อมต่อกับผู้รับ เสร็จสิ้น ทดสอบอุปกรณ์เสร็จสิ้น เริ่มต้นการใช้อุปกรณ์” ด้านหน้าของเขามีซองจดหมายสีแดงขนาดใหญ่ มันเหมือนกับระบบซองแดงในโทรศัพท์มือถือของเขาก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าจะมีอภินิหารบางอย่างเกิดขึ้น!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset