CF:บทที่ 19 กลับบ้าน
เมื่อเขาตื่นขึ้น อู๋ ฮ่าวเหรินรู้สึกสดชื่นมากๆ เขาไม่ได้นอนอย่างสบายใจเช่นนี้มานานมากแล้ว
เปิดหน้าต่างดูพระอาทิตย์ขึ้นจากทิศตะวันออก แล้วค่อยเดินตรงไปห้องน้ำ
เขาได้นอนอย่างสบายก็จริง แต่เขาไม่รู้เลยว่าเพราะวิดิโอที่เขาเอาลงอินเตอร์เน็ตเมื่อคืนจะทำให้คนเป็นล้านนอนไม่หลับ
ใส่เสื้อผ้าที่เขาซื้อมาเมื่อวานแล้วส่องกระจกดู อู๋ ฮ่าวเหรินก็ยิ้มได้ มันจริงที่ผู้คนต้องเพิ่งพาเสื้อผ้าและเครื่องประดับเสริมบารมี
เพียงแค่เปลี่ยนเสื้อผ้า เขาก็กลายเป็นคนหล่อทันที
“ดูเหมือนว่าหน้าขาวนิดๆนี่ก็มีความเป็นไปได้อยู่นะ แย่หน่อยที่มันคงไม่มีโอกาสได้ใช้งานจริงไปตลอดชีวิตของฉัน”
เมื่ออู๋ ฮ่าวเหรินออกมาจากห้องโถงของแผนกต้อนรับ สาวน้อยที่แผนกต้อนรับจำอู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้เลยจนกระทั่งเขาเดินผ่านมาและกล่าวอรุณสวัสดิ์กับเธอ
เพียงเท่านั้นเธอถึงกับต้องขยี้ตาแล้วมองอู๋ ฮ่าวเหรินเดินออกไปด้วยสีหน้าตกใจ
“อรุณสวัสดิ์ลุง!”
ลุงร้านขายอุปกรณ์กำลังขนของอยู่นอกร้านเมื่อเขาได้ยินเสียงเขาจึงเงยหน้าขึ้นมา
“ปัง!”
กล่องในมือเขาก็หล่นลงพื้นทันที เขาชาไปทั้งตัวและพึมพำว่า ”จบแล้ว มันจบแล้ว ฉันไม่น่าขายค้อนให้เขาเลย”
อู๋ ฮ่าวเหรินมองลุงแก่ๆที่มีสีหน้าซึมเซา เขาก็งงและคิดว่าลุงตกใจเพราะเห็นใบหน้าหล่อๆของเขา จึงส่ายหัวแล้วเดินไปที่ร้านขายอาหารเช้าข้างหน้า โดยที่ไม่รู้เลยว่าลุงกลายมาเป็นแบบนี้เพราะคิดว่าเขาไปก่อคดีด้วยค้อนนั่นจริงๆ
“เถ้าแก่ ขอซุปเนื้อถ้วยหนึ่ง และซุปใส่ถุงอีกถุงหนึ่ง”
“แหม ทำไมพ่อหนุ่มแต่งตัวหล่อจังเลยวันนี้ จะไปสมัครงานหรือว่าจะไปหาแม่สะใภ้ล่ะ?”
“ไม่ใช่งาน ไม่ใช่แม่สะใภ้ ผมแค่จะกลับบ้านวันนี้น่ะ”
“เอ้านี่ซุปเนื้อ ส่วนซุปถุงจะเสร็จในอีกไม่ช้า แล้วการกลับบ้านก็ดีนะ คนหนุ่มๆอย่างนายอย่าเอาแต่คิดหาเงินทุกวันๆ ถ้ามีเวลาพอจะกลับบ้าน ก็กลับไปเยี่ยมที่บ้านดีกว่า” ลุงพูดอย่างนี้ความสุข
อู๋ ฮ่าวเหรินพยักหน้าเห็นด้วย คำว่ากลับบ้าน คำง่ายๆเพียงสองคำ กลับเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกปวดใจและน้ำตาของคนทำงานนับไม่ถ้วน
ถุงซุปถูกนำมาให้โดยลูกสาวเถ้าแก่ อู๋ ฮ่าวเหรินไม่อยากยอมรับว่าเขามาที่ร้านนี้เพื่อกินอาหารอีกครั้ง เพราะลูกสาวแสนสวยของเถ้าแก่
โชคร้ายที่เขาจะออกจากเมืองนี้ ครั้งหน้าที่เขากลับมาเขาจะไปที่บริษัทเพื่อลาออกแล้วบอกลาเมืองนี้ไป
เมื่อเขากลับมาที่โรงแรม เขาเห็นชายตัวอ้วนกำลังคุยอยู่กับสาวน้อยที่แผนกต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่สาวน้อยที่แผนกต้อนรับสีหน้าไม่ค่อยดีและไม่สนใจชายอ้วนเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าอู๋ ฮ่าวเหรินรู้ว่าชายอ้วนคนนี้เป็นใคร เขาเห็นรถจอดอยู่ข้างนอกเมื่อครู่นี้
“สวัสดี!”
สาวน้อยที่แผนกต้องรับได้ยินเสียงและเงยหน้าขึ้นมาเห็นอู๋ ฮ่าวเหริน เธอยิ้มและพูดอย่างนุ่มนวลว่า ”คุณอู๋ คุณกลับมาแล้ว”
ชายตัวอ้วนหันมามองที่อู๋ ฮ่าวเหริน และเห็นท่าทีตรงกันข้ามของสาวน้อยแล้ว เขาตะโกนในใจว่าแค่มีเงินก็ง่ายที่จะจีบสาวแล้ว
“โอ้ ทำไมถึงมาด้วยตัวเองเลยล่ะ”
“แน่นอน เพราะนี่เป็นธุรกิจแรกของผม ผมต้องเป็นคนมาส่งด้วยตัวเองสิ ผมจะมาเยี่ยมพี่และอวยพรสักหน่อย พี่ชาย ผมกลายมาเป็นพนักงานประจำแล้ว”
“ฮ่าๆ ผมจะทำงานให้หนักขึ้นในเมื่อเป็นพนักงานประจำแล้ว บางทีผมอาจจะขอให้พี่ซื้อรถแบบวันนั้นอีก”
อู๋ ฮ่าวเหรินเดินไปที่แผนกต้อนรับและบอกกับสาวน้อยว่า “ช่วยผมทำเรื่องเช็คเอาท์หน่อยนะ ผมจะขึ้นไปเอาข้าวของลงมาก่อน”
ฉาง หยางขึ้นไปกับอู๋ ฮ่าวเหรินและช่วยเขาขนของต่างๆ เขาดูของที่เพิ่งซื้อมาใหม่ และกล่องเก่าๆใบใหญ่ในห้องแล้วก็รู้สึกงงงวย
“พี่ชาย บอกผมหน่อยว่าพี่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยเพื่อมาหาประสบการณ์ชีวิตใช่ไหม?”
อู๋ ฮ่าวเหรินมองที่ชายอ้วนด้วยความสงสัยแล้วถามว่า “ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”
“ก็ดูของพวกนี้แล้วก็ตอนที่ซื้อรถเมื่อวาน มันเหมือนจะเป็นแบบนั้นล่ะ”
“ที่จริงแล้ว เมื่อสามวันก่อน ฉันเป็นเพียงผู้ชายจนๆที่มีเงินเพียงสองพันหยวนในมือ ฉันไม่มีปัญญาจ่ายค่าตั๋วเพื่อกลับบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วยซ้ำ”
“ห๊ะ! แล้วคุณไปทำอะไรมา?”
“เมื่อวานนี้ ฉันทำเงินได้มหาศาลจนซื้อของพวกนี้มาได้”
เขาทำเงินได้มหาศาล ชายอ้วนก็ถึงกับงง เงินมหาศาลขนาดไหนเขาถึงได้ซื้อรถมูลค่าสองล้านโดยไม่ต้องกระพริบตาเลย!
ชายตัวอ้วนเหมือนจะคิดอะไรได้ เขาถามอู๋ ฮ่าวเหรินด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย “พี่อย่าบอกนะว่าหยกราคาสูงในย่านการค้าเมื่อวานคือสิ่งที่พี่ขายน่ะ!”
เห็นอู๋ ฮ่าวเหรินพยักหน้า ชายตัวอ้วนก็สั่นไปทั้งตัวอยู่พักหนึ่ง บ้าไปแล้ว นั่นมันมูลค่า 30 ล้าน 30 ล้านเลยนะ
สาวน้อยที่แผนกต้อนรับที่เพิ่งทำเรื่องเช็คเอาท์เสร็จ เห็นคนสองคนขนของมาจากข้างบนเรื่อยๆ สายตาเธอก็เต็มไปด้วยความสงสัย
เธอยังจำอู๋ ฮ่าวเหรินที่กำลังหมดหวังตอนที่เขามาที่นี่ในวันนั้นได้ เพียงแค่สามวันผ่านไป ทำไมชายที่ทำให้เธอต้องคิดว่าเป็นคนแบบนั้นถึงกลายเป็นเศรษฐีไปได้
เธอได้เห็นรถที่จอดอยู่ข้างนอกแล้ว แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามันมีราคาเท่าไหร่ แต่เธอก็รู้ว่ามันเป็นรถที่ดีกว่ารถที่เจ้านายเธอขับแน่นอน
แน่นอนว่าอู๋ ฮ่าวเหรินไม่รู้ถึงความสงสัยในใจของสาวน้อยเลย ณ ตอนนี้เขากำลังมองชายตัวอ้วนด้วยสายตาแปลกๆ
“ผมต้องบอกเลยว่ามันน่าเสียดายมากที่พี่ไม่ได้ท่องอินเตอร์เน็ตเมื่อคืนนี้ มีวิดิโอที่ตอนนี้เป็นที่สุดของส่วนใหญ่ บางคนเสนอ 100 ล้านหยวนเพื่อลิขสิทธิ์เฉพาะ และบางคนถึงกับส่งคำเชิญด้วยค่าจ้าง 10 ล้านต่อปีบวกด้วย 20% ของรายได้หนังทั้งหมดเป็นค่าคอมมิชชั่น
ฟังคำชมปนอิจฉาของชายตัวอ้วนแล้ว อู๋ ฮ่าวเหรินก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
“ยังไงก็ตาม คนๆนี้ก็ไม่เท่าไหร่ มันน่าสมเพชมาก เนื้อหาวิดิโอนั่นมีเพียงแค่ครึ่งเดียว มันเลยไม่จบไม่สิ้น เมื่อคืนคนจำนวนมากต้องนอนไม่หลับเลย ผมขอแช่งให้เขาได้กินบะหมี่แบบไม่มีถุงเครื่องปรุงเลย”
สีหน้าอู๋ ฮ่าวเหรินก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง เขาเกือบจะยั้งหมัดไม่อยู่เพราะการแสดงออกแบบแย่ๆของชายตัวอ้วน
“ว่าตามที่นายพูดแล้ว ในเมื่อมันมีเพียงแค่วิดิโอเดียวมันยังถูกตัดต่ออีก คงต้องมีเหตุผลอยู่ล่ะที่ส่วนที่เหลือของวิดิโอไม่ถูกปล่อยออกมา”
อู๋ ฮ่าวเหรินคิดว่า ภาพส่วนที่เหลือในวิดิโอนนั้นไม่ควรปรากฏออกมา เช่นยานอวกาศพวกนั้น และคนในโลกอนาคตเขาไม่กล้าจะปล่อยมันออกมาหรอก
ในวิดิโอนั่นตราบใดที่มีภาพใครสักคนติดมาเขาต้องจัดการกับมัน ดังนั้นทั้งวิดิโอเลยมีแต่ผู้คนในชุดเกราะกำลังต่อสู้กันอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว ซึ่งดูเหมือนเอฟเฟ็คพิเศษที่ถูกสร้างโดยคอมพิวเตอร์
ต่อให้ใครบางคนจะสงสัย พวกเขาก็ไม่สามารถคิดว่ามันคือภาพการต่อสู้ของจริงได้
“ผมหวังว่าคนๆนั้นจะปล่อยวิดิโอฉบับเต็มออกมาในอนาคตนะ ตอนนี้บนอินเตอร์เน็ตกำลังบ้าคลั่งเลย ทุกคนกำลังมองหาคนที่เป็นคนอัพโหลดวิดิโอ เขาลือกันว่าเป็นใครสักคนที่ใช้เทคโนโลยีการแฮ็ค แต่พวกเขาก็หาตัวไม่เจอ”
ได้ยินเช่นนี้อู๋ ฮ่าวเหรินก็ตกตะลึงคิดว่าโชคดีที่เขาส่งวิดิโอไปโดยตรงผ่านดาวเทียมด้วยมือถือของเขา ต่อให้นักแฮ็คตามรอยดาวเทียมมาได้ พวกเขาก็หาเบาะแสของเขาไม่ได้อยู่ดี
เขามองไปที่มือถือโลกอนาคตบนข้อมือเขา ซึ่งมันเหมาะที่จะทำเรื่องลับๆมันไม่ได้ไร้ประโยชน์
“เอาล่ะ ทุกอย่างที่ผมช่วยขนมาอยู่ในรถหมดแล้ว แต่สำหรับครั้งแรกที่รถหรูๆของพี่ถูกใช้เป็นรถขนของเนี่ย ผมเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลย ขอให้เป็นการเดินทางที่ดีแล้วก็ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยด้วยครับ”
“ยังไงก็พยายามทำงานหนักและเริ่มเปิดบริษัทขายรถของตัวเองให้ได้เร็วๆล่ะ”
มองดูชายตัวอ้วนกลับไป อู๋ ฮ่าวเหรินก็รับเงินค่าเช่าส่วนที่เหลือกลับมาจากสาวน้อยที่แผนกต้อนรับ ในสายตาแปลกๆของเธอ เขาได้เปิดประตูรถ นั่งข้างในและขับออกไป
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้ไม่ชินหรอก แต่ยังคุ้นเคยมากๆด้วยเพราะว่าความต้องการของบริษัททำให้ เขาได้ใบขับขี่ตั้งแต่สามเดือนหลังจากเข้าบริษัท และหลังจากที่ได้ใบขับขี่แล้วทุกครั้งที่บริษัทต้องออกไปทำงานข้างนอก เขาก็จะต้องเป็นคนขับประจำ
เอาล่ะ กลับบ้านกันเถอะ!
————————–