CF:บทที่ 192 เครื่องดื่มราคาแพง
ขณะที่ฉันกำลังคิดหาทางปฏิเสธคนพวกนั้นอยู่นั้นเอง, ไม่คาดคิดว่า ทันทีที่เขาได้รับโทรศัพท์จากหลี่เหวินหัวในตอนบ่ายนั้น คนพวกนั้นจะได้เดินทางมาถึงกันแล้ว
ดูจากสถานการณ์แล้ว พวกเขานั้นกำลังขวางทางเข้าออกของบริษัทเอาไว้ อู๋ฮ่าวเหรินถึงกับพูดอะไรไม่ออก ถึงแม้ว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นจะเปล่าประโยชน์ก็เถอะ
เพื่อจัดการกับคนพวกนี้, เขาอยากให้คนพวกนั้นได้ลิ้มรสชาติให้เต็มที่
อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้ทำเป็นไม่สนใจ เขาจึงได้ไปที่โรงงานผลิตเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยความร้อนและดูการทำงานของทหารพวกนั้นในการผลิตเครื่องผลิตไฟฟ้าด้วยความร้อน
คนพวกนี้ทำงานของพวกเขากันอย่างจริงจังมาก, ถึงแม้เขาจะเดินเข้าไป แต่ก็ไม่มีใครหันมาคุยกับเขาเลย ทุกคนทำงานกันอย่างขมักเขม้น
อู๋ฮ่าวเหรินมองหาเจียงเสี่ยวชวนที่อยู่ข้างใน, คนๆนี้กำลังประกอบส่วนที่ยากที่สุดของอุปกรณ์ตัวดูดซับพลังงาน, มองการเคลื่อนไหวของเขาแล้ว ก็บอกได้ว่าเขานั้นมีฝีมือมาก
ยืนอยู่ใกล้ๆแล้วมองดูเขาอยู่สักพัก จนกระทั่งเขาถึงขั้นตอนการทำไดอะแฟรมบนแผ่นวัสดุ จึงได้พูดขึ้นมา “ผู้กองเจียง, เป็นอย่างไรบ้าง? คุณพบเจอตรงไหนยากบ้างไหม?”
เจียงเสี่ยวชวนเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับอู๋ฮ่าวเหริน จึงได้วางเครื่องมือในมือเขาลง จากนั้นก็ชี้ไปที่ชิ้นส่วนที่ทำเสร็จแล้วจึงพูดขึ้น “เจ้าตัวดูดซับความร้อนนี่มันสามารถทำงานได้ด้วยตัวมันเองได้ไหม?”
“คุณหมายถึงเอาวัสดุชั้นนอกออกมาแล้วใช้มันอย่างเดียวได้ไหมสินะ?”
“ใช่ วัสดุชิ้นนั้น ข้าคิดว่ามันน่าจะเอามาใช้ทำเครื่องยนต์ของเครื่องบินได้น่ะ”
อู๋ฮ่าวเหรินส่ายหัวแล้วพูดตอบ “มันจะไม่มีประโยชน์อะไร ถ้ามีมันเพียงอย่างเดียว, ตัวแผ่นวัสดุพวกนี้มีหน้าที่ร่วมมือกับตัวทำปฏิกิริยาภายใน, ถ้าไม่มีตัวทำปฏิกิริยา มันก็จะเป็นแค่แผ่นโลหะธรรมดาๆเท่านั้น”
เจียงเสี่ยวชวนรู้สึกผิดหวัง เขาคิดว่าเขาได้พบวัสดุดีๆขึ้นมาซะแล้ว แต่กลับคิดผิดซะอย่างงั้น
“ตอนที่ข้าได้ศึกษาเจ้าเครื่องนี้ ก็พบว่าความเร็วในการแปลงพลังงานของมันนั้นช้ามาก มีวิธีที่จะเร่งความเร็วในการแปลงพลังงานไฟฟ้าของมันไหม?”
“ก็มีอยู่ ตราบเท่าที่คุณทำให้อุณหภูมิของมันเปลี่ยนแปลงได้ไวขึ้น มันก็จะสามารถแปลงพลังงานไฟฟ้าได้ไวขึ้นเช่นกัน แต่ทว่าวิธีนี้มันได้ไม่คุ้มเสีย จุดเด่นของมันจริงๆคือมันสามารถใช้ความร้อนในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้เต็มประสิทธิภาพกว่าแผงโซลาร์เซลล์แค่นั้นแหละ”
แน่นอนว่าอู๋ฮ่าวเหรินรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีหลายๆประเทศกำลังศึกษาและตั้งใจที่จะใช้เจ้าเครื่องนี้ในกองทัพ
แต่น่าเสียดายที่ว่า, พวกเขาก็พบว่าความเร็วในการแปลงพลังงานของเจ้าเครื่องนี้นั้นมันช้ามาก ลักษณะเก่าของเจ้าเครื่องนี้จริงๆคือ มันสามารถแปลงพลังงานจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและปล่อยออกมาเป็นพลังงานไฟฟ้า
ยิ่งไปกว่านั้น อายุการใช้งานของเจ้าเครื่องนี้ก็ยาวนานด้วย
มันเป็นแหล่งไฟฟ้าของการพัฒนาแบบยั่งยืน และเหมาะกับอุปกรณ์สาธารณะที่ใช้ไฟฟ้าน้อยอย่างโคมไฟถนน
อู๋ฮ่าวเหรินนั้นคิดที่จะจ้างนักวิจัยมาทำงานในด้านนี้ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องของการย่อส่วนเจ้าเครื่องนี้ และใช้มันเป็นเครื่องชาร์จไฟแบบพกพา
หลังจากที่ออกมาจากโรงงาน เขาก็ขับรถกลับบ้าน
อีกทางด้านหนึ่ง เว่ยหมิงกับทีมผลิตเครื่องดื่มของเขาก็ปรึกษากันในเรื่องของราคาเครื่องดื่ม
“นี่คือผลการทดสอบของเครื่องดื่มต่าง พวกคุณจะเห็นได้ว่า ผมเองได้ลองตรวจสอบเครื่องดื่มที่ราคาแพงที่สุดในโลกมาแล้ว ขอให้ทุกคนดูและเปรียบเทียบ”
ถึงแม้ว่าคนพวกนี้จะมีความคิดในใจของพวกเขาเตรียมไว้อยู่แล้ว แต่เมื่อดูราคาของเครื่องดื่มแล้ว ประกอบกับข้อมูลของวัตถุดิบที่ใช้ทำ
“ผู้จัดการเว่ย เครื่องดื่มสปอร์ตดริงค์พวกนี้มีราคามากกว่า 400 หยวน จนถึง 500 หยวนเลยครับ เรายังไม่ต้องพูดถึงราคาของไวน์นะครับ ด้วยเครื่องดื่มกล้วยไม้ม่วงในปัจจุบันของพวกเรา อย่างน้อยมันก็มีคุณค่าทางอาหาร ที่อาจจะมากกว่าสปอร์ตดริงค์สองขวดนั้นด้วย”
“ถ้างั้นราคาของพวกเราก็ควรจะมากกว่าของพวกเขา แล้วพวกเราจะขายออกเหรอ?”
เว่ยหมิงเคาะโต๊ะด้วยมืออ้วนๆของเขา ทำให้ทุกคนหันมาสนใจเขา ก่อนจะพูดขึ้น “มันไม่สำคัญหรอกว่าจะขายได้หรือไม่ได้ หัวหน้านั้นตั้งใจว่าจะเอาเครื่องดื่มนี้ให้เป็นสวัสดิการของพนักงานในบริษัทของเราเท่านั้น, แต่ทว่าถ้าเป็นแบบนั้นต่อไป พวกคุณคงได้ถูกไล่ออกแน่ ถ้าโรงงานผลิตเครื่องดื่มของบริษัทเราไม่มีการพัฒนาอะไรเลย”
“ดังนั้นหัวหน้าและผมจึงได้ตั้งใจที่พัฒนาโรงงานผลิตเครื่องดื่มของเราและทำให้โรงงานเครื่องดื่มของบริษัทเรายิ่งใหญ่และแข็งแกร่ง ซึ่งนั่นจะเป็นกุญแจสำหรับการก้าวเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมเครื่องดื่มของพวกเรา”
ทุกคนจึงได้หยุดการพูดคุย ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่า ถ้าการผลิตเครื่องดื่มนี้ไปได้ไม่สวยแล้ว จะทำให้โรงงานยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร?
“ผู้จัดการเว่ย, ในเมื่อถ้าเป็นแบบนั้น พวกเราก็เจือจางเครื่องดื่มเพื่อทำให้ราคาต่างกันก็ได้นี่คะ ราคาของเครื่องดื่มก็จะได้ไม่แพงเกินไปด้วย
“มันทำได้ก็จริงอยู่ แต่มันอาจจะมีผลในเรื่องของรสชาติได้ แต่ทว่า มันก็น่าโอเคอยู่นะ ถ้าจะทำให้รู้ว่ารสชาตินั้นต่างกันไปตามราคาของเครื่องดื่ม
“จริงด้วยสิ ถ้างั้นเอางี้สิ, ราคาของเครื่องพวกนี้ก็ตั้งไว้ที่ 500 หยวน, แล้วหลังจากนี้ ก็เจือจางมันทั้งหมด จำนวนของผลิตภัณฑ์ก็จะได้เพิ่มขึ้นด้วย, จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะขายเครื่องดื่มหมดไวด้วย”
“ถ้าจะเอาแบบนั้น ฉันจะได้ไปแจ้งเรื่องของผลการทดสอบทั้งหมดบนเว็บไซต์ของบริษัท ราคาจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ระดับ: 500, 200, 100 และ 50 หยวน พวกเราไม่จำเป็นต้องโฆษณาชวนเชื่อด้วย”
สำหรับเครื่องดื่มของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว มันไม่จำเป็นต้องโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขากล้าที่จะพูดออกมาตรงๆ เพราะเบื้องหลังของพวกเขาคือบริษัทที่ทำกำไรได้มากที่สุดในโลก
เมื่อผู้คนได้เข้ามาอ่านเว็บบอร์ดก็พบว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นได้แจ้งเรื่องผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ของพวกเขา และมันคือเครื่องดื่มชิ้นแรกที่ผลิตโดยบริษัทผลิตเครื่องดื่ม, ที่ทำให้ทุกคนต้องตะลึง
ถ้าไม่มีหมวดเครื่องดื่มบนเว็บไซต์ของบริษัทแล้ว พวกเขาคงลืมไปแล้วว่าบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปเองก็ผลิตเครื่องดื่มด้วย
“บ้าชะมัด ใครจะไปจ่ายวะ? ที่แพงที่สุดราคาสูงถึง 500 หยวนต่อหนึ่งขวด และที่ถูกที่สุดมีราคาแค่ 50 หยวนเท่านั้น มันเป็นเครื่องดื่มอวดรวยชัดๆ!”
“แต่ถ้าเป็นอะไรที่บริษัทนั้นขาย, ฉันว่าจะลองไปหาซื้อดูนะ, ผลิตภัณฑ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นจะต้องคุ้มกับราคาแน่นอน”
“มีผลการทดสอบติดอยู่ด้วยแน่ะ, นี่มันเครื่องดื่มจริงๆเหรอเนี่ย ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพใช่มั๊ย?”
“ข้อมูลพวกนี้คงไม่ใช่ของปลอมหรอกนะ, มันดูเว่อร์เกินจริงไปแล้ว!”
“ของปลอม! คุณคิดว่าจากสถานการณ์ในปัจจุบันของบริษัทฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้น จำเป็นต้องทำข้อมูลปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกคุณด้วยเหรอ? ผมว่าจะลองซื้อแบบที่แพงที่สุดดู อยากรู้เหมือนว่าจะอร่อยสมราคามั๊ย?”
ตอนแรกบุคลากรในแผนกเครื่องดื่มต่างก็รู้สึกกระวนกระวาย เมื่อได้เห็นเสียงตอบรับจากในเว็บบอร์ด แต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็โล่งใจออกมา, แต่โชคดีที่ เครื่องดื่มของบริษัทได้ห่อหุ้มด้วยแสงของอุปกรณ์ไฟฟ้าชีวภาพบำบัด ทำให้คนส่วนใหญ่เชื่อในข้อมูล, ยิ่งไปกว่านั้น จากความคิดเห็นในเว็บบอร์ด ก็มีฮีโร่จำนวนมากที่บอกจะลองซื้อแบบราคาที่แพงที่สุดให้ด้วย
และสำหรับคนที่เคยไปที่หมู่บ้านซุยฉุยเพื่อดูดอกกล้วยไม้ม่วงนั้น หลังจากที่ได้เห็นผลการทดสอบแล้ว ก็เข้าใจได้ถึงคุณค่าที่แท้จริงของดอกไม้นั้น
“เพื่อที่จะผลิตเครื่องดื่มกล้วยไม้ม่วงพวกนี้ จึงได้ปลูกพวกมันที่บ้านเกิดของคุณอู๋ฮ่าวเหรินเหรอเนี่ย ฉันล่ะอยากย้อนเวลากลับไปตอนนั้นจัง ฉันไม่คิดเลยว่าดอกไม้ที่สวยขนาดนั้น ผลของมันจะมีราคามากถึงเพียงนี้”
“ได้ข่าวว่าตอนนี้มีแบบที่แพงสุดขายในร้านแล้ว มีใครสนใจจะไปลองซื้อมาซักขวดพรุ่งนี้แล้วมาทดสอบว่าเป็นจริงตามในข้อมูลรึเปล่าไหม?”
ยังมีผู้คนที่ยังสงสัยในข้อมูลอยู่ แต่เว่ยหมิงไม่สนใจ เขานั้นว่าหวังว่าจะมีคนที่คิดจะทดลองดื่มมากกว่านี้อีก, ข้อมูลพวกนี้เองก็ไม่ได้มาจากสถาบันวิจัยสถาบันเดียว แต่เป็นผลจากหลายๆสถาบันวิจัย ซึ่งรวมถึงข้อมูลจากการทดสอบในระดับชาติอยู่ด้วย
แต่เพราะราคาเครื่องดื่ม ทำให้ไม่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากนัก แต่ถ้าตั้งใจอ่านที่ถกเถียงกันในเว็บบอร์ดแล้ว
ถ้าเครื่องดื่มเป็นจริงตามในข้อมูล ราคาเครื่องดื่ม 500 หยวนนั้น ก็ถือว่าไม่แพงซะทีเดียว ยังมีคนอื่นที่ขายน้ำแบบนี้ในราคาที่สูงลิบลิ่วแบบนี้อีก ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับยาบำรุงกำลัง
เมื่อพนักงานของฟิวเจอร์กรู๊ปในเห็นข้อมูลเครื่องดื่มในเว็บไซต์ของบริษัทแล้ว และมองไปที่เครื่องดื่มสวัสดิการที่แจกจ่ายให้โดยบริษัทบนโต๊ะทำงานแล้ว พวกเขาก็เข้าใจว่า ตราบเท่าที่เป็นสวัสดิการของฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้ว ไม่มีอะไรที่ไม่ดีกับพวกเขาหรอก
———————