CF:บทที่ 214 เป้าหมายคือคลังสินค้า
สายลับทั้งสองไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ห้องปฏิบัติการ หากแต่เป็นคลังสินค้าที่อยู่ถัดไป
แน่นอนอยู่แล้วว่าพวกเขาต้องการสำรวจห้องปฏิบัติการของอู๋ ฮ่าวเหริน แต่ก็รู้แจ้งแก่ใจว่าที่นั่นอันตรายอย่างยิ่งและเป็นไปไม่ได้ที่ตีฝ่าเข้าไป
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่รออยู่รอบๆห้องปฏิบัติการไม่ได้ต้อนรับสายลับสองคนซึ่งทำให้พวกเขาสับสนเล็กน้อย
เมื่อสายลับเข้าสู่บริเวณโรงงาน อุปกรณ์ตรวจจับก็พร้อมอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงรอให้สายลับพาตัวเองเข้าไปติดกับ
“กัปตันครับ มีบางอย่างผิดปกติ สายลับสองคนไม่ได้มาทางนี้”
“ตรวจดูซิว่าพวกมันอยู่ที่ไหน ถนนด้านหลังถูกพวกเราปิดทางไว้หมดแล้ว พวกมันไม่สามารถหลบหนีจากวงล้อมได้เว้นเสียแต่มันจะบินได้”
“รับทราบครับ กัปตัน”
จี้มองดูสายลับทั้งสองที่จู่ๆ ก็เปลี่ยนเส้นทาง และพุ่งตรงไปยังคลังสินค้าที่อยู่ถัดจากห้องปฏิบัติการ เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องหินสำหรับเขาที่เห็นว่าไม่มียามเฝ้ารอบๆ คลังสินค้าอยู่เลย
พอนึกได้อย่างนี้ เขาเริ่มต้นเปิดใช้งานหุ่นยนต์กัง ฟู ที่ อู๋ ฮ่าวเหริน ตั้งไว้ในคลังสินค้าโดยตรง ตั้งแต่หุ่นยนต์ถูกแสดงครั้งล่าสุดมันก็ถูก อู๋ ฮ่าวเหริน ส่งไปเก็บคลังสินค้า
หลังจากกลับมาจากสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์แห่งชาติ อู๋รู้สึกว่าการออกแบบหุ่นยนต์ตัวนี้ไม่ดีเท่าของหุ่นยนต์ของสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์แห่งชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของพลังงาน
ดังนั้นหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ตัวนี้จึงถูกเขาโยนเข้าไปในโกดัง โดยยังไม่พร้อมที่จะนำมันออกมา
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าหุ่นยนต์ที่ถูกเก็บไว้ในคลังสินค้าจะยังคงยังมีประโยชน์อยู่บ้าง
เจ้าหุ่นยนต์ยักษ์ตัวนี้ หลังจากถูกแปรเปลี่ยนรูปร่างให้อยู่ในสถานคืบคลานเหมือนแมงมุมที่อยู่ภายใต้การควบคุมของปัญญาประดิษฐ์กำลังค่อยๆเข้าใกล้พื้นที่ที่มีเหยื่อสองคนอยู่
ชายสองคนที่อยู่ด้านนอกกำลังใช้อุปกรณ์ตัดหน้าต่างของคลังสินค้า
หุ่นยนต์ยักษ์หลบอยู่ใต้หน้าต่างราวกับปีศาจ เพื่อรอให้สองคนนั้นกระโดดลงมาจากหน้าต่างกระจก
สายลับตัดกระจกหน้าต่างเป็นช่องพอให้มือลอดเข้าได้ จากนั้นก็เอื้อมมือเข้าไปแล้วเปิดหน้าต่าง
ชายสองคนเลื่อนหน้าต่างกระจกอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ควานในความมืดเข้าไปในโกดังเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกเขาไม่มีอุปกรณ์ให้แสงสว่าง
พวกเขาไถลตัวเข้าไปในคลังสินค้า
“ห่ะ แสงที่อยู่ข้างหน้านั่นคืออะไร”
“ดูเหมือนอุปกรณ์อะไรสักอย่าง”
“ปัง.”
พอไฟทุกดวงในคลังสินค้าเปิดสว่างขึ้น เจ้าสองคนนั่นก็มองเห็นฝ่ามือโลหะมหึมาที่สามารถบดขยี้พวกเขาเข้าให้เป็นซอสเนื้อตอนไหนก็ได้และผู้บุกรุกหนึ่งในนั้นก็กระเด้งกลับมาอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาถูกเจ้าหุ่นยนต์กังฟูยิงที่ลำตัว และล้มกระแทกกำแพงโกดังทันที
อีกคนหนึ่งเห็นแสงจากกล้องของหุ่นยนต์เล็งมาที่เขา เขาชูมือตรงๆ ขึ้นและยืนนิ่ง
ชายผู้นี้ตื่นตระหนก เมื่อครู่หุ่นยนต์เคลื่อนไหวเร็วมาก พอคู่หูของเขาขยับตัวก็โดนหุ่นยนต์ลั่นไกและกระเด็นลอยไป
ถึงตอนนี้ เขาไม่มีเวลาที่จะตรวจดูว่าเพื่อนของเขาถูกยิงเสียชีวิตหรือไม่ เขาแค่ต้องการหลบเลี่ยงความเข้าใจผิดของเจ้าหุ่นยนต์นี่ ไม่อย่างนั้นเขาก็โดนยิงราวแมลงวันและต้องกลายเป็นพายเนื้อ
“กัปตัน เร็วเข้าเถอะครับ พวกมันอยู่ในโกดังเป้าหมายของพวกมันคือโกดัง!”
“ สายลับพวกนี้มีปัญหาเรื่องสมองหรือเปล่านะ พวกมันไม่หาตำแหน่งของห้องปฏิบัติการ แต่ไปที่คลังสินค้า ซึ่งดูเหมือนว่าจะมีแค่ของเก่าที่คุณอู๋เก็บสะสมไว้เท่านั้น”
“ไม่ผิดพลาดแน่หรือ สองคนนี้ไม่ได้เป็นสายลับ แต่เป็นโจรที่มาขโมยโบราณวัตถุสิหรือนี่”
“เป็นสายลับครับ เมื่อสักครู่เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับที่ชายแดนได้ระบุตัวตนของสองคนนี่ว่าเป็นสายลับสองคนที่เก่งมาก ไม่ทราบพวกมันว่าจะแอบเข้ามาในประเทศของเราตอนไหน”
พอเปิดประตูคลังสินค้าออกและเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ตกใจ
“กัปตัน ผมจะทำอย่างไร ดูเหมือนหุ่นยนต์ที่คุณอู๋ศึกษามีพลังร้ายแรงมาก พวกเราจะถูกหุ่นยนต์นี่โจมตีในฐานะศัตรูเหมือนที่ผ่านมาไหม”
“น่าจะไม่เป็นอะไรหรอก ผมได้ยินคุณอู๋อธิบายว่าหุ่นยนต์ตัวนี้มีระบบจดจำข้อมูล มันจะไม่โจมตีเราเพราะเราป้อนข้อมูลบุคลากรทั้งหมดของบริษัทเข้าสู่ระบบระบุตัวตนของหุ่นยนต์แล้ว”
พูดจบเขาก็เดินไปที่หุ่นยนต์ ซึ่งตอนนี้หุ่นยนต์มองมาเขาและไม่มีการเคลื่อนไหวที่เป็นการจู่โจมตีใดๆ ทำให้กัปตันโล่งใจ
เจ้าหุ่นยนต์ร่างใหญ่นี้ช่างหน้าเกรงขาม เหมือนกับการเผชิญหน้ากับรถถังที่ทำให้หลอนว่าจะถูกฆ่าตายในเวลาใดก็ได้
เมื่อคิดถึงที่คุณอู๋กล่าวว่าอานุภาพการต่อสู้ของหุ่นยนต์ชนิดนี้ไม่ดี ทำให้เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องตลกทั้งเพ
ถ้าเจ้าหุ่นยนต์นี้ไม่มีอาวุธ พวกนั้นคงรีบบุกเข้ามาและเสียชีวิต เว้นแต่ว่าเจ้าหุ่นยนต์จะพลังงานหมด
“เข้ามา มีคนหนึ่งอยู่ตรงโน้น ดูเหมือนว่าจะถูกหุ่นยนต์จู่โจมไม่รู้ว่าตายไหม ตรวจดูซิ ระวังตัวด้วยอาจเป็นอันตรายได้”
แต่เมื่อมองที่ดวงตาตรวจจับภาพของหุ่นยนต์แล้วเขาก็ส่ายหัว หากสองคนนี่กล้าขัดขื้นก็อาจถูกหุ่นยนต์สังหารทันที
“กัปตันครับ ชายคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่ถ้าเขาไม่ได้รับการรักษา เขาอาจจะตาย”
“เอาตัวทั้งคู่ออกไป”
สมองกลที่ควบคุมหุ่นยนต์มุ่งกลับไปที่ตำแหน่งเดิมโดยตรงและปิดสวิทซ์หุ่นยนต์
พอได้มาเห็นเหตุการณ์นี้ คนเหล่านี้ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาไม่คิดว่าหุ่นยนต์จะฉลาดขนาดนี้
พวกคนที่เหลือออกไปหมดแล้วเหลือแต่เพียงสายลับสองคน พวกเขาไม่ได้จัดการกับคลังสินค้า พวกเขาได้รับแจ้งเหตุที่นี่และอู๋ ฮ่าวเหรินจะจัดการกับพวกเขาด้วยตัวเอง
พอพวกเขารู้ว่าสายลับสองย่องเข้ามาในโกดังไม่ใช่ห้องปฏิบัติการพวกเขาดูแปลกใจ
“ท่านรัฐมนตรีคิดว่าสองคนนี้ ก็กำลังกระอักเลือดเพราะโบราณวัตถุเหมือนเราไหม พวกเขาส่งสายลับหัวกะทิสองคนไปที่โกดังเพื่อสืบดูอย่างนั้นหรือ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ก็เป็นเป็นไปได้จริงๆ เราทุกคนต่างก็ปวดหัวกับเรื่องนี้ จนต้องใช้วิธีการแบบนี้
พวกต่างชาติที่มีข้อมูลน้อยกว่าเรา ก็ไม่สามารถคาดเดาจุดประสงค์ของนายสติเฟื่อง นี่เป็นละครที่สนุกดี”
พอกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรู้ว่าเป้าหมายของสายลับสองคนนั้นคือคลังสินค้าพวกเขาก็ทำหน้าพิกล
พวกเขาเข้าโกดังทุกวันเพื่อช่วยอู๋ ฮ่าวเหริน ขนของโบราณพวกนั้น นอกจากพวกวัสดุและวัตถุโบราณก็มีเพียงหุ่นยนต์นั่นซึ่งเป็นความลับ
สายลับพวกนั้นเข้าไปในคลังสินค้า และไม่อยากถูกหุ่นยนต์จับได้ ไม่ใช่เข้าไปตาย!
เราได้ก็ทำลายสายลับชั้นยอดสองคนของฝ่ายข่าวกรองของประเทศหนึ่ง โดยไม่ได้เสียข้อมูลใดๆ ในเวลานี้บรรยากาศดูสง่างาม
ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็แน่ใจยิ่งขึ้นว่ามีความลับสำคัญซ่อนอยู่ในคลังสินค้า มิฉะนั้นสายลับชั้นดีสองคนนั่นจะไม่โดนจับได้ง่ายถึงเพียงนี้ และเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ที่จับพวกเขา
ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจทำการสอบสวนต่อไป เนื่องจากวิธีนี้ไม่ดีแน่พวกเขาอาจหาวิธีปะปนเข้ามา พวกเขาจะใช้การตรวจพิสูจน์โบราณวัตถุเพื่อปะปนเข้ามา
อู๋ ฮ่าวเหรินไม่ได้คิดว่าสาเหตุที่มีสายลับสองคนถูกควบคุมตัวโดยหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ ทำให้หน่วยงานข่าวกรองในบางประเทศพิจารณาว่ามีความลับในคลังสินค้าของเขา
เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเขารู้จากหวังหลานว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ เขาส่ายหน้า คิดไม่ถึงว่าเป้าหมายของคนเหล่านั้นคือคลังสินค้า
เขาคิดว่าเป็นเพราะมีโบราณวัตถุมากมายที่เก็บรวบรวมไว้ในช่วงนี้ ทำให้มีคนต้องการขโมยวัตถุพวกนั้นในโกดัง
พอเขารู้ว่าสายลับทั้งสองเข้ามา เขาก็ไม่เข้าใจว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
———————–