CF:บทที่ 218 สายลับที่คาดไม่ถึง
เมื่อดูข้อมูลที่ชื่อว่าซ่ง ยู่หมิง แล้ว อู๋ ฮ่าวเหริน ก็พูดไม่ออก มีคนแบบนี้ในโลกด้วยหรือนี่
ถ้าดูแค่เพียงข้อมูลก่อนหน้านี้เท่านั้นก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยที่บุคคลผู้นี้จะมาเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เขาเคยเป็นผู้จัดการทั่วไปสำหรับสาขาในประเทศจีนให้กับบริษัทจดทะเบียนในอเมริกาที่รับผิดชอบคนมากกว่า 10,000 คน
ผู้ชายคนนี้ลาออกจากงานเมื่อสองเดือนก่อน แล้วเดินทางอยู่สักพัก ก่อนกลับบ้านเมื่อไม่นานมานี้แล้วจึงหางานทำ
จะว่าไปเขามีคุณสมบัติที่ดีที่สุดในสามคน เปี่ยมประสบการณ์ด้านบริหารจัดการ บวกกับความสำเร็จที่ผ่านมา เรซูเม่ของเขาฉบับนี้ทำให้ทุกคนพอใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้ทำแบบทดสอบออนไลน์เขาได้คะแนนสูงถึง 96 คะแนน อยู่กลุ่มคนที่มีความสามารถพิเศษ
จะพูดว่าเขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์โดยแท้ก็ได้ อู๋ ฮ่าวเหริน อยากจะ รับเขาเข้าทำงานกับบริษัท
แต่น่าเสียดายที่พออ่านเจอข้อมูลด้านล่าง เขาส่ายหัว คนแบบนี้ที่จริงแล้วเขาเป็นสายลับ เป็นสายลับที่ซุ่มซ่อนมานานกว่าสิบปี
“เออนี่ จี้ ไม่มีบันทึกการเดินทางไปต่างประเทศใน 20 ปีที่ผ่านมาเลย แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นสายลับ และเขามาเป็นสายลับได้อย่างไร”
อู๋ ฮ่าวเหริน สงสัยว่าชายคนนี้ แสดงตนเป็นสายลับมาตั้งหลายปีได้อย่างไร
“จากข้อมูลที่ฉันค้นเจอ เขาเป็นสายลับก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ สำหรับวิธีที่เขากลายเป็นสายลับมากว่าสิบปีฉันค้นไม่พบข้อมูล ตอนนั้นอินเทอร์เน็ตของประเทศจีนยังไม่เป็นที่นิยม เพราะอย่างนั้นฉันจึงไม่มีได้ข้อมูลมา”
เขาอ่านดูข้อมูลการติดต่อของผู้ชายคนนี้กับกรมข่าวกรองต่างประเทศ มันเป็นรหัสที่แปลก อู๋ ฮ่าวเหริน คิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ลองดูรหัสนี่ที่ซิว่าใช้ทำอะไร”
“รหัสชนิดนี้เป็นรหัสของสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งพันธมิตรใช้เพื่อส่งข้อความลับ”
“เอาล่ะ รหัสประเภทนี้ใช้สำหรับงานข่าวกรอง ครอบครัวไง คุณลองตรวจสอบครอบครัวของเขา โดยเฉพาะพ่อแม่
ข้อมูลประเภทนี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับจี้ มันค้นหาได้ง่าย อย่างไรก็ตามเมื่อตรวจดูบันทึกข้อมูลของเขา พ่อแม่ของเขาเป็นเกษตรกรและไม่มีอะไรโดดเด่น
อู๋ ฮ่าวเหริน ยังสงสัยบางอย่าง ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นสายลับธรรมดา เพราะบุคคลที่เขาติดต่อคือหัวหน้าหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ
ตามข้อมูลที่ได้รับจากจี้ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ตัวตนของสายลับและไม่ได้ถูกบันทึกไว้
หรือพูดอีกอย่างก็คือ มีการบันทึกไว้ แต่ข้อมูลเหล่านี้จะถูกบันทึกในรูปแบบกระดาษ ทำให้จี้ไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาได้
ยิ่งไปกว่านั้น เห็นได้จากข้อมูลว่าสิทธิของ ซ่ง ยู่หมิง ในแผนกข่าวกรองนั้นไม่ใช่เล็กๆ เมื่อใดที่เขาถูกคุกคามหรืออาจถูกเปิดเผยฐานะ เขาสามารถสังเวยสายลับอื่นเพื่อปกปิดตัวตนของตัวเอง ได้
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว อู๋ ฮ่าวเหริน ก็พิมพ์ข้อมูลออกมาและเดินออกจากออฟฟิศ
“หวังหลาน ส่งข้อมูลนี้ให้รักษาความปลอดภัยที่อยู่นอกประตูทางด้านซ้าย”
“ค่ะ ท่านประธาน”
มันจะเป็นการดีกว่า ที่จะปล่อยเรื่องแบบนี้ให้เป็นหน้าที่ของทางการ ถ้าเขาหาข้อมูลนั่นไม่พบก็ไม่ได้หมายความว่าทางการจะหามันไม่เจอ
สำหรับเรื่องเช่นนี้ทางการมีประสบการณ์มากกว่าเขา ข้อมูลที่ไม่มีการบันทึกบนอินเทอร์เน็ตอาจมีการบันทึกบนกระดาษมาก่อนแล้ว
อู๋ ฮ่าวเหริน ไปที่ห้องประชุม เขาอยากพบกับสายลับปริศนา และมอบหมายงานให้กับผู้จัดการทั่วไปของบริษัท
พอเขาเข้าไปในห้องประชุมคน ผู้สมัครสามคนที่น่าจะแข่งขันกันกลับกำลังสนทนากันจริง ๆ
มิหนำซ้ำ จากพฤติการณ์ของพวกเขา ไม่ได้ท่าทีท่าทีแข่งขันสักนิด หากเหมือนเพื่อนสามคนกำลังพูดคุยกันมากกว่า
พอเห็นเขาเข้ามาในห้อง ทั้งสามคนก็เลิกสื่อสารกัน ลุกขึ้นยืนจากตรงนั้นแล้วมองมาทางนี้
“คุณอู๋!”
เมื่อเผชิญหน้ากับ อู๋ ฮ่าวเหริน ทั้งสามคนออกอาการตึงเครียดให้เห็นเล็กน้อย ซึ่งไม่มีทางเลย ช่วงนี้ อู๋ ฮ่าวเหริน มีข่าวมากเกินไป และตระกูลหลิงนั้นมีอิทธิพลต่อโลกทั้งใบ พวกเขารู้แจ้งดีถึงความสามารถและความฉลาดของคนแบบนี้
พวกเขาต่างก็เป็นชนชั้นสูง แต่เมื่อเผชิญกับความหลักแหลมของอู๋ ฮ่าวเหริน ก็ยังรู้สึกถึงความด้อยกว่าเช่นกัน
อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ อู๋ ฮ่าวเหริน ยังเด็กเกินไปนัก นักธุรกิจใหญ่ที่พวกเขาเคยพบมาก่อนถ้าไม่อาวุโสกว่านี้หรือไม่ก็เป็นทายาทของตระกูล
ไม่มีการเปรียบเทียบระหว่างคนเหล่านั้นกับอู๋ ฮ่าวเหริน ซึ่งทำให้พวกเขาปรับสถานะและตัวตนของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง
“นั่งลงเถอะ ผมน่าเกลียดน่ากลัวเหมือนตาแก่อย่างนั้นเลยหรือ”
คำพูดของอู๋ ฮ่าวเหริน ทำให้ทั้งสามคนหัวเราะในทันที ตอนนี้พวกเขาเป็นประธานคณะกรรมการซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากสิ่งที่พวกเขาจินตนาการก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่
หากพวกเขาต้องการที่จะมา คนอัจฉริยะน่าจะภาคภูมิใจและยากที่จะเข้ากันได้
“คุณอู๋พูดจาตลกมาก ก่อนจะมาที่นี่ ผมคิดว่าอัจฉริยะอย่างคุณคงจะแตกต่างจากคนทั่วไป ดูเหมือนว่าผมคิดผิด”
“ผมไม่มีอะไรต่างจากคนธรรมดา ตอนนี้เรามาคุยถึงผู้สมัครทั้งสามท่านกันเถอะ ผมเห็นประวัติของคุณแล้วพอใจมากและตรงตามความต้องการสรรหาบุคลากรของบริษัทเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประวัติของคุณซ่ง ยู่หมิง และคะแนนการทำแบบทดสอบเบื้องต้น” อู๋ ฮ่าวเหรินกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้า
เมื่อได้ยินคำพูดของอู๋ ฮ่าวเหริน แม้ว่าผู้สมัครอีกสองคนยังคงยิ้มบนใบหน้า แต่ก็มีร่องรอยของความสูญเสียแสดงออกมา
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดว่าที่อู๋ ฮ่าวเหริน เอ่ยมานั้นหมายความว่าซ่ง ยู่หมิง เป็นผู้ได้รับเลือกในการสมัคร
“คุณอู๋ ยอเกินไป”
แม้ว่าซ่ง ยู่หมิง ออกจะตื่นเต้น แต่การแสดงออกทางสีหน้าของเขาก็ไม่เปลี่ยน เขาคิดว่าเขาจะได้ตำแหน่งในที่สุด
“ไม่ เปล่าเลย คุณซ่งคุณมีพรสวรรค์เช่นนั้นจริงๆ ดังนั้นคุณน่าจะหาบริษัทที่ดีกว่าได้ถึงแม้ว่าคุณไม่ได้สมัครกับ บริษัทเรา”
การพลิกผันอย่างฉับพลันของอู๋ ฮ่าวเหริน ทำให้ทั้งสามคนตะลึง อีกสองคนคิดว่าซ่ง ยู่หมิง ได้รับเลือกเข้าทำงาน แต่เขาถูกตัดออกอย่างคาดไม่ถึง
ถึงตอนนี้ ซ่ง ยู่หมิง ค่อนข้างสับสน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากเขาเป็นผู้สมัครที่ดีที่สุดในสามคน เขาจะตัดตัวเองออกไปได้อย่างไร
“คุณอู๋ คุณหมายความว่าผมถูกตัดชื่อออกหรือครับ”
เมื่อเห็น อู๋ ฮ่าวเหริน พยักหน้า ซ่ง ยู่หมิง เอ่ยด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าที่ตึงของเขา “ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ ผมจะออกไปก่อน”
หลังจากซ่ง ยู่หมิง ออกไปแล้ว อู๋ ฮ่าวเหริน ก็มองไปที่อีกสองคนแล้วพูดว่า “ไม่แปลกหรือครับ ที่ผมตัดคนที่ดีที่สุดออกไป”
“ไม่หรอกครับ เพราะคุณอู๋เป็นคนตัดเขาออกไป ก็ต้องมีเหตุผล”
“ต้องมีเหตุผลบางอย่าง หรือไม่ผมจะเลือกเขาเป็นผู้จัดการทั่วไป ตอนนี้คุณทั้งสองมีสองตัวเลือก คนใดคนหนึ่งในสองคนอาจจะเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท และอีกคนจะรับผิดชอบโครงการเทอร์โมอิเล็กทริกของบริษัทต่อไป”
สองคนตกตะลึงสุดๆ ไม่คาดว่า อู๋ ฮ่าวเหรินจะถามคำถามแบบมีตัวเลือกอย่างนี้
หลังจากนั้นไม่นาน ตู้ เผิงเฟย (ไม่ใช่ลู่เผิงเฟยนะคะ) ก็เอ่ยขึ้นว่า “คุณอู๋ ผมมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ผมเลือกผู้จัดการทั่วไป”
“ดีมากคุณมั่นใจ มีความยินดีที่ได้เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเรา”
“คุณได้ตำแหน่งงานกับบริษัทของเราแล้วตอนนี้ แต่คุณเลือกเป็นได้เพียงตำแหน่งผู้จัดการโครงการของอุปกรณ์เทอร์โมอิเล็กทริก แน่นอนว่าคุณสามารถเลือกที่จะไปและสมัครงานกับบริษัทที่ดีกว่าได้นะครับ”
กู่เหริน พูดกับ เผิงเฟยว่า “ขอแสดงความยินดีด้วย”
“คุณอู๋ ผมฉันเลือกที่จะสมัครในตำแหน่งผู้จัดการโครงการเทอร์โมอิเล็กทริก อย่างไรก็ตามผมจะไม่ยอมแพ้ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป”
“ยินดีต้อนรับเข้าร่วมงานกับเรา ตอนนี้คุณได้เข้าสู่บริษัทที่มีเวทย์มนต์” อู๋ ฮ่าวเหริน เอ่ยพร้อมกับรอยยิ้ม
หลังจากคุยกับทั้งสองคนจบลง อู๋ ฮ่าวเหรินกลับไปที่สำนักงาน หลี่เหวินหัวกำลังรอเขาอยู่ ดูเหมือนว่าเขามาหา ซ่ง ยู่หมิง
———————