CF:บทที่ 236 คำท้าจากกูเกิ้ล
เพียงเมื่ออู๋ฮ่าวเหรินกำลังจะซื้อเรือขนาดใหญ่ นานาประเทศต่างก็พากันเคลื่อนไหว
ที่ฐานทัพเพนตากอนของสหรัฐอเมริกา กลุ่มข้าราชการกำลังหารือกันอย่างร้อนแรงเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่เพิ่งประกาศออกมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ป
นายพลทอมสันอ่านข้อมูลในมือและจากนั้นเขาก็ขัดจังหวะสมาชิกสภาแลนดรี้ย์ที่กำลังพูดอยู่ ด้วยการกล่าวว่า “ประเด็นสำคัญในตอนนี้ไม่ใช่การศึกษาว่าพวกเขามีเทคโนโลยีหุ่นยนต์จริงหรือไม่ แต่ต้องหาให้เจอว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของพวกเขาก้าวหน้าไปถึงไหนแล้ว”
“แผนจารกรรมของเราก็ล้มเหลวและพวกเราก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปในฟิวเจอร์กรุ๊ปได้” รัฐมนตรีลอตต์ฝ่ายสืบราชการลับกล่าว ถ้าคุณต้องการที่จะได้ข้อมูลภายในนั้น คุณทำไม่สำเร็จหรอกในตอนนี้ คุณต้องคิดหาทางอื่นด้วย”
หน่วยสืบราชการลับไม่ช่วยอะไรเลย ในอดีตพวกเขาเคยแม้กระทั่งส่งสายลับเข้าไปซ่อนตัวแต่พวกเขาก็ล้มเหลวในที่สุด
การสืบราชการลับในฟิวเจอร์กรุ๊ปมันยากยิ่งกว่าสมองแห่งชาติ
พวกเขาพยายามแม้กระทั่งจะซื้อตัวพนักงานของฟิวเจอร์กรุ๊ปแต่ก็ล้มเหลวในที่สุด
บางคนเมื่อพวกเขาได้รับโทรศัพท์และทราบว่าพวกเขาจะถูกซื้อตัวเพื่อเป็นสายลับในฟิวเจอร์กรุ๊ป ต่างก็พากันตำหนิพวกเขา ซี่งมันทำให้พวกเขาเจ็บปวดอย่างมากที่วิธีนี้เคยใช้ได้สำเร็จอย่างง่ายดาย
แต่ทำไมถึงใช้ไม่ได้กับพนักงานของบริษัทนี้?
“ในเมื่อไม่มีทางที่หน่วยสืบราชการลับจะแทรกซึมเข้าไปได้ พวกเราก็จะทดสอบเองก็แล้วกัน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของกูเกิ้ลก็ดีเช่นกัน พวกเราสามารถปล่อยให้แข่งขันกันเองกับปัญญาประดิษฐ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป วิธีนี้พวกเราก็จะสามารถเข้าใจขอบเขตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของพวกเขาได้
“เป็นความคิดที่ดีนะ และมันก็ไม่ใช่แผนที่ชั่วร้ายด้วย มาทำให้มันกระจ่างและเราก็จะได้ข้อมูลที่เราต้องการผ่านการแข่งขันนี้”
“ผมเห็นด้วย มันเป็นความคิดที่ดี” นายพลทอมสันกล่าว
“ในเมื่อทุกท่านเห็นด้วยกับวิธีนี้ งั้นก็แจ้งให้กูเกิ้ลทราบและปล่อยให้พวกเขาแข่งขันกับปัญญาประดิษฐ์ของฟิวเจอร์กรุ๊ป นอกเหนือจากนี้ข้อมูลเกี่ยวกับหุ่นยนต์ก็ยังต้องสืบสวนต่อไปนะ พวกเราต้องรู้ให้ได้ว่าพวกเขาได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่มีความสามารถด้านการต่อสู้จริงๆ ด้วยหรือไม่”
“ครับ ท่านประธานาธิบดี”
“แล้วการวิจัยเรื่องไมโครไฟท์เตอร์เป็นอย่างไรบ้าง?” ประธานาธิบดีถาม
“เทคโนโลยีจากญี่ปุ่นช่วยให้เราแก้ไขปัญหาด้านเทคโนโลยีการผลิตได้แล้วครับ” แคสเปอร์ ผู้ซึ่งดูแลด้านการทหารกล่าว “อย่างไรก็ตาม ในแง่ของพลังงานพวกเรายังคงไม่สามารถที่จะทำได้ถึงเป้าหมายที่ต้องการ ผมคิดว่ามันจำเป็นที่จะต้องนำเทคโนโลยีบางอย่างจากโซน 51 มาใช้สำหรับการศึกษาด้านอาวุธครับ”
“ถ้าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในโซน 51 ถูกนำไปใช้อาจจะมีปัญหาตามมาก็ได้นะ พวกเรายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านั้นอย่างครบถ้วนเลยในตอนนี้”
“พวกเรายังคงรออยู่ ถ้าพวกเรามั่นใจว่าพวกเขาได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถใช้ในการสู้รบ พวกเราก็จะพิจารณาใช้เทคโนโลยีบางอย่างจากโซน 51 เพื่อตอบโต้” ประธานาธิบดีกล่าว
ดูเหมือนว่าความลับบางอย่างจะมีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่ไม่มีบันทึกข้อมูลวัสดุที่อู๋ฮ่าวเหรินครอบครองเลย
กล่าวอีกนัยหนึ่งความลับเหล่านี้ถูกปกปิดมาโดยตลอดและไม่เคยเผยแพร่สู่สาธารณะชน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เคยลงบันทึกเลย
เมื่ออีริค ชมิดท์ ประธานบริษัทกูเกิ้ล ได้รับแจ้งให้มาที่ฐานทัพเพนตากอน เขาก็แจ้งให้ผู้อำนวยการของบริษัทให้เตรียมการประชุมในทันที
ชมิดท์ ให้ความสนใจที่จะควบรวมบริษัทกับฟิวเจอร์กรุ๊ปและได้รับทราบข่าวสารของบริษัทจากหลากหลายแหล่งข่าว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสงครามแฮคเกอร์ ทำให้เขาเข้าใจว่าบริษัทนี้มีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์อยู่ในระดับสูงสุดของโลก
อย่างไรก็ตาม บริษัทนี้ก็ไม่ได้เข้าสู่อุตสาหกรรมอินเตอรเน็จ สมิดท์เพียงแต่กังวล และไม่คิดว่าฟิวเจอร์กรุ๊ปจะคุกคามพวกเขา
เมื่อฟิวเจอร์กรุ๊ปได้ประกาศการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยการสร้างเทคนิคพิเศษบนภาพยนตร์อนิเมชั่น ชมิดท์ก็รู้สึกขบขัน
บริษัทของพวกเขาได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์มาเป็นเวลากว่าแปดปี และทำได้เพียงความสามารถของคอมพิวเตอร์ควอนตัมซึ่งมีระดับการดำเนินการเพียงการคำนวณ ซึ่งยังห่างไกลปัญญาประดิษฐ์ของแท้
ดังนั้นชมิดท์จึงไม่เชื่อว่าจะมีอัจฉริยะคนใดในโลกสามารถที่จะพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ได้ในโลกอันสั้นนี้
“คนพวกนี้ในเพนตากอนต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ พวกเขาจะให้เราท้าทายบริษัทนี้สำหรับข้อความที่ไม่ได้รับการยืนยัน” ชมิดท์ยิ้มอย่างหมดหนทาง เขารู้ดีว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่
เห็นได้ชัดว่า ผู้อำนวยการฝ่ายต่างๆ ได้รับข่าวนี้ล่วงหน้าแล้ว และมติในที่ประชุมก็ผ่านไปด้วยการลงคะแนนเสียง โดยไม่มีการคัดค้านใดๆ
เมื่อกลับเข้ามาในออฟฟิศ ชมิดท์พูดกับเลขานุการของเขาว่า
“ส่งหนังสือเชิญไปที่ฟิวเจอร์กรุ๊ป พวกเราจะเชิญพวกเขาให้เข้าร่วมการแข่งขันปัญญาประดิษฐ์”
เขาเดินทางมาที่แผนกวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ในทันทีและแจ้งให้เจ้าหน้าที่เทคนิคทราบเกี่ยวกับข่าวเพื่อให้พวกเขาเตรียมตัว
เมื่อฟิวเจอร์กรุ๊ปได้รับจดหมายเชิญจากกูเกิ้ล คนที่จัดการเกี่ยวกับอีเมล์ถึงกับตะลึงงันและคิดว่าเขาอ่านผิด
เป็นกูเกิ้ลจริงๆ ด้วยที่ส่งจดหมายมา และพวกเขาก็รีบแจ้งให้หวังหลานทราบ
เมื่อหวังหลานแจ้งอู๋ฮ่าวเหริน ที่เพิ่งกลับมาจากห้องทดลอง การทดลองของเขาเพิ่งจะผ่านพ้นไปด้วยดีและเขารู้สึกว่าผลที่ได้ดีมาก
“ท่านประธานคะ กูเกิ้ลได้ส่งหนังสือเชิญให้เราเข้าร่วมการแข่งขันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ค่ะ จะให้พวกเราทำอย่างไรกับเรื่องนี้คะ?”
“กูเกิ้ล การต่อสู้ของปัญญาประดิษฐ์อย่างนั้นหรือ!” อู๋ฮ่าวเหรินงงงวยอยู่ชั่วครู่ และถามว่า “พวกเขาเชิญเรา ไม่ได้มีอะไรผิดพลาดใช่ไหม?”
“ไม่ค่ะ ฉันได้รับการยืนยันจากกูเกิ้ลว่าพวกเขาต้องการที่จะเชิญบริษัทของเราให้เข้าร่วมการแข่งขันปัญญาประดิษฐ์จริงๆ ค่ะ”
อู๋ฮ่าวเหรินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย หรือพวกเขาจะคิดว่าว่าเขาเองศึกษาปัญญาประดิษฐ์เพื่อที่จะแย่งชิงตำแหน่งผู้นำในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อย่างนั้นหรือ
“เอาล่ะ คุณลองไปถามแผนกวิจัยคอมพิวเตอร์นะเผื่อว่าพวกเขาจะสนใจเข้าร่วม ถ้าพวกเขาสนใจก็ตอบตกลงพวกเขาไป แต่ถ้าพวกเขาไม่สนใจก็ตอบปฏิเสธไปได้เลย”
เมื่อหวังหลานได้ยินคำตอบของอู๋ฮ่าวเหริน สีหน้าของเธอแปลกไปเล็กน้อย เจ้านายของเธอดูเหมือนจะไม่สนใจการแข่งขันนี้เลยแม้แต่น้อย
“ท่านประธานคะ ถ้าพวกเราตกลงเข้าร่วมการแข่งขันนี้ คุณจะไม่จริงจังหน่อยหรือคะ นี่ไม่ใช่เพียงเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทเรา แต่ยังเกี่ยวกับเกียรติยศของชาติด้วยนะคะ”
อู๋ฮ่าวเหรินยิ้มและพูดว่า “มันจะเป็นการเหยียดที่จริงจังไปหน่อยไหม ไปที่แผนกวิจัยคอมพิวเตอร์และบอกพวกเขาว่า ถ้าพวกเขาตกลงที่จะเข้าแข่งขัน แต่พวกเขาไม่สามารถชนะในการแข่งขันครั้งนี้ได้ สวัสดิการของพวกเขาก็จะหายไปเลยนะ”
“ผมมีอย่างอื่นที่จะต้องทำ คุณช่วยบอกให้แผนกวิจัยคอมพิวเตอร์ตัดสินใจถ้าพวกเขาสามารถแก้ปัญหานี้ได้”
หวังหลานมาที่แผนกวิจัยคอมพิวเตอร์ด้วยความสงสัย ที่นี่เป็นที่เงียบที่สุดในบริษัท และเป็นแผนกที่ไม่เคยทำให้ทั้งบริษัทต้องกังวล
“อ่า คุณเลขาหวัง มาได้อย่างไรนี่?” กู้ซิงเฉิงที่เพิ่งเดินออกมา ร้องถามอย่างไม่คาดคิด
“ทำไมจะมาไม่ได้ล่ะคะ บอกให้พวกเขาหยุดทำงานก่อนค่ะ ฉันมีเรื่องจะมาบอกค่ะ”
“หยุดทำงานก่อน”
“คุณเลขาหวังหลาน ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูด ผมมีเวลาไม่มากต้องไปทำงานต่อ”
“ในตอนนี้ กูเกิ้ลได้ส่งจดหมายเชิญมาท้าแข่งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กับพวกเรา ท่านประธานบอกว่าให้เป็นการตัดสินใจของแผนกวิจัยคอมพิวเตอร์ว่าจะรับคำท้าหรือไม่”
“อย่างนี้นี่เอง พี่เฉิน ภารกิจของคุณมาถึงแล้ว คุณเลขาหวังหลาน คุณไปหาพี่เฉินโดยตรงเลยครับเพื่อแก้ปัญหานี้ พวกเราไม่มีเวลามาเล่นเกมส์นี้กับพวกเขา”
หวังหลานมองดูกลุ่มคนที่เริ่มทำงานของพวกเขาอีกครั้ง ราวกับพวกเขาไม่ได้สนใจอะไรเลย ซึ่งทำให้เธอเป็นกังวลเล็กน้อย
เฉิน เจิ้งหนิง วางถ้วยกาแฟลงและเดินเข้ามาหา เขาคิดว่าคงยังมีใครที่กลัวการท้าทายด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหัวหน้าของพวกเขาก็จะถูกเตะออกจากบริษัทนี้!
———————-