CF:บทที่ 270 แผนการของรถยนต์
เมื่อรัฐมนตรีเกิ่งเห็นแบบแปลนรถไร้คนขับของอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว, เขาก็ประหลาดใจและถามกลับไปว่า
“ถ้าเป็นเช่นนี้, คุณสามารถทำมันได้จริงๆด้วยอุปกรณ์ชิ้นนี้งั้นเหรอครับ?”
“แน่นอนครับ, หลังจากที่นำอุปกรณ์นี้ติดตั้งบนดาวเทียม ตราบเท่าที่ดาวเทียมสามารถครอบคลุมได้ทั้งโลก คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งบนรถยนต์ก็จะสามารถเชื่อมต่อกับดาวเทียมเพื่อทำการอัพเดตข้อมูลให้สอดคล้องกันได้, แล้วด้วยวิธีเดียวกันนี้ ตราบเท่าที่รถติดตั้งด้วยคอมพิวเตอร์แบบนี้ คุณก็จะสามารถรู้สภาพของถนนและข้อมูลของรถยนต์ที่อยู่บนถนนได้”
“ถ้ารถทุกคันติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์เช่นนี้, พวกเราก็จะสามารถจับตาดูและจัดการรถพวกนี้ผ่านระบบคอมพิวเตอร์ได้สินะ?” รัฐมนตรีเกิ่งถามกลับ
อู๋ฮ่าวเหรินไม่คิดว่ารัฐมนตรีเกิ่งจะถามคำถามนี้กับเขา จึงตอบกลับไป “ได้แน่นอนครับ”
“จริงๆแล้ว, ถ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถนำไปติดตั้งให้กับดาวเทียมสื่อสารทุกดวงได้ มันก็จะครอบคลุมทั้งโลกใบนี้เลยล่ะครับ” เขาพูดพร้อมกับชี้ไปที่อุปกรณ์บนจอคอมพิวเตอร์
อู๋ฮ่าวเหรินได้สั่งบางอย่างบนคอมพิวเตอร์, แล้วก็ปรากฏภาพบางอย่างบนจอคอมพิวเตอร์ขึ้นมา
“ในกรณีนี้, ถ้าสามารถทำให้ครอบคลุมทั้งโลกได้ ก็จะสามารถซิงโครข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งบนรถได้ตลอดเวลา, ตราบเท่าที่สภาพอากาศไม่ได้แย่มากจนเกินไป ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร”
รัฐมนตรีเกิ่งมองดูภาพบนจอคอมพิวเตอร์ของอู๋ฮ่าวเหริน สายตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมา, ราวกับว่าเขาได้พบอะไรบางอย่างที่ดีมากอยู่
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของฟิวเจอร์กรุ๊ปนั้นมีประสิทธิภาพมาก, และตราบเท่าที่โปรแกรมนี้ไม่สามารถแฮกได้ และถูกติดตั้งไว้บนรถทุกคันแล้ว, หากนำมาใช้ในเรื่องของการจัดการจราจรแล้ว มันก็จะมีประสิทธิภาพมากเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น, ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉิน พวกเขาก็จะสามารถแกะรอยของรถได้จากในระบบด้วย
“มันเป็นความคิดที่ดีและระบบก็ยอดเยี่ยมมาก, ถ้าเทคโนโลยีนี้ถูกนำไปใช้ในเรื่องของการจราจรแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องให้ตำรวจจราจรลงไปจัดการดูแลบนท้องถนนอีกต่อไป, ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับเรื่องของการฝ่าฝืนกฏจราจร ขโมยรถ และอื่นๆอีกมากมาย พวกเราก็จะสามารถตามหาตัวได้ผ่านระบบนี้”
อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัว, และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมการขโมยรถจึงได้หมดไปในอนาคต, เพราะถึงแม้จะขโมยรถไปได้ แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องของสมองกลที่ติดตั้งบนรถได้, จึงไม่มีใครกล้าขโมยรถอีก
สำหรับเรื่องของการจราจรแล้ว, มันเป็นความจริงที่ว่าระบบนี้จะทำให้ การกระทำที่ผิดกฏจราจรของรถแต่ละคันจะไม่จำเป็นต้องถ่ายรูปหรือสืบสวนอีกต่อไป เพราะคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งบนรถจำทำการบันทึกเรื่องพวกนั้นไว้ให้
และแน่นอนว่า, ถ้าใช้ระบบไร้คนขับแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องจะขับรถผิดกฏจราจรเลย
รัฐมนตรีเกิ่งคิดว่าถ้ารถทุกคันติดเจ้าอุปกรณ์นี้ได้, มันก็จะเป็นประโยชน์สำหรับพวกเขาเวลาที่ต้องการข้อมูลบางอย่าง
ถ้าข้อมูลเหล่านี้สามารถถูกเก็บไว้ที่ฐานข้อมูลได้ล่ะก็, มันก็จะมีประโยชน์อย่างมาก อย่างเรื่องของการสืบสวนตามหาตัวผู้ร้าย
“ถ้ารถทุกคันติดตั้งระบบนี้, มันก็จะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ไม่สิอาจจะทำให้อุบัติเหตุหมดไปเลยก็ได้”
อู๋ฮ่าวเหรินคลิกที่คอมพิวเตอร์อีกครั้ง, คราวนี้แสดงให้ดูว่าหลังจากที่รถยนต์ได้ติดตั้งระบบนี้ไปแล้ว อะไรจะเปลี่ยนไปบ้าง
หากรถคันหนึงอยู่บนทางหลวง, และรถใกล้ๆกันนั้นก็ติดตั้งระบบนี้ด้วยเช่นกัน, ก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่ประหลาดเกิดขึ้น นั่นคือ รถทุกคันก็จะวิ่งตามๆกันเหมือนรถไฟ อย่างถูกต้องตามกฏ
แน่นอนว่า สมมติฐานนี้เป็นจริงได้ถ้าใช้ระบบไร้คนขับ, เพราะถ้าคนขับรถเอง ก็จะเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถทำตามที่คอมพิวเตอร์แสดงได้อย่างแม่นยำ
หลังจากที่ได้เห็นภาพรวมแล้ว, รัฐมนตรีเกิ่งก็พูดขึ้นมา “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น, พวกเราจะช่วยคุณปล่อยดาวเทียมเอง รวมถึงเรื่องการติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นนี้บนดาวเทียมสื่อสารดวงใหม่ของพวกเราในอนาคตด้วย”
อู๋ฮ่าวเหรินผงกหัว, เป้าหมายของเขาสำเร็จแล้ว ตราบเท่าที่มีคนยอมทำตามแผนของเขาที่วางเอาไว้และศึกษาเรื่องของดาวเทียม, เมื่อเวลานั้นมาถึง เขาก็จะขโมยเอาฐานปล่อยจรวดมาใช้ และปล่อยดาวเทียมที่เขาฉกมาจากเจ้าแห่งเรดาร์
ซึ่งๆจริงแล้วแผนพวกนี้, เป็นแผนที่เขากับจี้วิจัยและออกแบบขึ้นมาในตอนที่เขากำลังเบื่อๆ, คิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าระบบ A.I. ถูกติดตั้งบนรถยนต์ขึ้นมา
ถ้าพวกเราสามารถติดตั้งระบบบนดาวเทียมทำให้ครอบคลุมทั้งโลกได้อย่างที่เขาว่าไว้แล้ว, พวกเราก็จะสามารถทำให้เกิดสถานการณ์ที่ปรากฏขึ้นในภาพหน้าจอได้
หลังจากที่ออกมาจากฟิวเจอร์กรุ๊ป, รัฐมนตรีเกิ่งก็ได้ออกมาพร้อมกับข้อมูลที่ได้รับมาจากอู๋ฮ่าวเหริน เขานั้นตั้งใจที่จะรีบกลับเพื่อคนพวกนั้นประเมินความเป็นไปได้ของแผนการของอู๋ฮ่าวเหริน
ในคืนนั้น, รัฐมนตรีเกิ่งที่เดินทางกลับไปยังปักกิ่งแล้วนั้น ก็ได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ในขณะที่รายงานเรื่องนี้ให้กับท่านผู้นำ
“ดูเหมือนคราวนี้คุณจะทำเรื่องอึกทึกครึกโครมมากเลยนะ” ท่านผู้นำพูดขึ้นมาพร้อมกับยิ้ม
“ก็อย่างที่เห็นครับ เรื่องนี้ปล่อยไปไม่ได้เลย, โดยเฉพาะช่วงเวลาแบบนี้ คนพวกนั้นทำเกินไปจริงๆ”
“นั่นสินะ, แล้วเรื่องเทคโนโลยีเป็นไงบ้าง?”
รัฐมนตรีเกิ่งหยิบเอากองเอกสารข้อมูลออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วพูดขึ้น “มันสุดยอดมากเลยครับ และถ้ามันสามารถทำได้สำเร็จตามที่เขาว่าเอาไว้ มันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในด้านของความมั่นคงสาธารณะและความมั่นคงของชาติในประเทศของเรามากครับ”
“โอ้, มันยากมากนะเนี่ย ที่จะเห็นคุณประเมินอะไรได้สูงค่ามากขนาดนี้”
ท่านผู้นำอ่านข้อมูลและทำความเข้าใจว่าทำไมรัฐมนตรีถึงได้พูดแบบนั้น
“เอาไปให้คนพวกนั้นศึกษาข้อมูลพวกนี้และสร้างอุปกรณ์นั้นขึ้นมาทดสอบดูว่ามันสามารถแสดงผลได้ตามที่เขาว่าไว้หรือไม่ และถ้ามันได้ผลตามนั้น, ก็ให้ติดตั้งอุปกรณ์ตัวนี้ลงบนดาวเทียมที่กำลังผลิตขึ้นมาใหม่ทุกดวง”
หลังจากที่พบกับท่านผู้นำเสร็จ รัฐมนตรีเกิ่งก็ได้ไปหาผู้เชี่ยวชาญที่กำลังรอเขาอยู่นานแล้ว
“พวกนี้คือข้อมูลที่ผมนำกลับมา พวกคุณทั้งหมดน่าจะรู้เรื่องกฏข้อบังคับในเรื่องของการรักษาความลับดีอยู่แล้วนะ, คงไม่ต้องให้ผมพูดอะไรอีก ท่านผู้นำได้ขอให้พวกคุณสร้างเจ้าอุปกรณ์นี้ออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และลองทดสอบการทำงานของมันดู”
เมื่อพวกเหล่าผู้เชี่ยวชาญได้เห็นข้อมูลแล้ว, พวกเขาก็เริ่มที่จะหารือกันทันที
“พวกเราเคยพยายามที่จะทำเทคโนโลยีนี้มาก่อนแล้ว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ, แล้วคราวนี้พวกจะประสบความสำเร็จมั๊ย?”
“ที่คุณไม่ประสบความสำเร็จตอนนั้น มันเป็นปัญหาด้านเทคนิค, ดูตรงนี้สิ มันมีชิ้นส่วนบางอย่างที่ติดตั้งไว้ตรงนี้ด้วย บางทีตรงนี้อาจจะเป็นจุดสำคัญของปัญหานั้นก็ได้, อัจฉริยะ เป็นอัจฉริยะจริงๆด้วยที่สามารถคิดและออกแบบวิธีการแบบนี้ขึ้นมาได้”
“ดูเหมือนมันน่าจะตัวขยายสัญญาณข้อมูล, หมายความว่าเขาไม่ได้ใช้สถานีรับสัญญาณจากดาวเทียม แต่ให้รับสัญญาณจากดาวเทียมโดยตรงอย่างงั้นเหรอ?”
“มันจริงอยู่ที่ว่าถ้าเชื่อมต่อโดยตรงกับสัญญาณดาวเทียมแล้วล่ะก็ จะทำให้สามารถครอบคลุมได้มากขึ้นกว่าที่พวกคาดการณ์เอาไว้ ถ้าอุปกรณ์นี้เป็นไปตามที่ระบุไว้ในข้อมูลแล้วล่ะก็นะ, นอกจากนี้เขายังวางแผนที่จะติดตั้งระบบ A.I. ไว้ที่ดาวเทียมเพื่อจัดการกับข้อมูลพวกนี้ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องของข้อมูลที่มากเกินไป, จนทำให้เกิดความสับสนด้วย”
“ความคิดนี้มันอัจฉริยะชัดๆ การออกแบบนี้สามารถช่วยแก้ปัญหาเรื่องของดาวเทียมทางการทหารได้ด้วยนะเนี่ย”
มีบางคนที่เริ่มใช้ปากกาคำนวนข้อมูลที่ได้รับมาจากอู๋ฮ่าวเหริน
หลังจากที่มองดูอยู่สักพัก รัฐมนตรีเกิ่งก็พูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นผมจะวางข้อมูลพวกนี้ไว้ตรงนี้กัน ผมมีเรื่องอื่นที่จะต้องไปจัดการ ผมขอตัวก่อนละกัน”
ดูเมินโดยคนพวกนี้, เกิ่งนั้นไม่ได้อายหรือโกรธอะไร และถอนตัวออกมา, เขาบอกกับคนคุ้มกันที่ยืนอยู่ไม่ไกลเขาให้เข้ามาหา แล้วบอกให้คอยเตือนให้พวกผู้เชี่ยวชาญพวกนี้ไปพักด้วย
จากนั้น ด้วยข้อมูลอีกอย่างที่เขาได้รับมา, เขาจึงเดินทางไปที่ศูนย์วิจัยดาวเทียม
“นี่คือแบบแปลนของดาวเทียม, ลองดูซิว่าพวกคุณสามารถออกแบบให้ดาวเทียมสื่อสารเป็นแบบนี้ได้มั๊ย?”
รัฐมนตรีเกิ่งไม่ลืมเรื่องดาวเทียมพิเศษของอู๋ฮ่าวเหริน ซึ่งจริงๆแล้ว ดาวเทียมนี้เป็นดาวเทียมที่อู๋ฮ่าวเหรินต้องการที่จะขโมย เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะเอาดาวเทียมนี้กลับมาที่ฟิวเจอร์กรุ๊ปเพื่อติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างลงไป และเอาดาวเทียมนั้นส่งขึ้นไปบนอวกาศ
ในคืนนั้น ช่างเทคนิคของหน่วยงานอวกาศหลายคนได้ถูกเรียกมารวมตัวกันชั่วคราว และจากนั้นพวกเขาก็เริ่มคำนวนและวิเคราะห์เทคโนโลยีที่ได้รับมาจากอู๋ฮ่าวเหรินตลอดทั้งคืน
คนพวกนี้ยุ่งกันอยู่ตลอดทั้งคืน เพียงเพื่อคำนวนค่าของชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อจำลองสถานการณ์ และหลังจากที่คำนวนเสร็จ พวกเขาก็เริ่มสร้างอุปกรณ์ขึ้นมา และเตรียมทดสอบข้อมูลจากอุปกรณ์จริง
แน่นอนว่า, สถานการณ์เริ่มค่อยๆเป็นไปตามแผนที่อู๋ฮ่าวเหรินได้วางเอาไว้แล้ว บางทีในอนาคตอันใกล้นี้ พวกบริษัทยานยนต์พวกนั้นถึงคราวที่จะต้องถูกปิดบริษัทโดยเขาแล้ว
—————————