CF:บทที่ 273 ทหารผู้บาดเจ็บ
อู๋ฮ่าวเหรินนอนไม่หลับและซึ่งเป็นลางไม่ค่อยดี เขารู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นแน่
เขาเดินออกไปตามถนนหินของหมู่บ้านซุยฉุย ก็ได้เห็นกับควันแปลกๆลอยขึ้นมาทีละน้อยๆ เขาจึงได้ส่ายหัวแล้วเดินต่อไปยังจุดจอดรถตรงทางเข้าหมู่บ้าน
พอได้เห็นว่าเป็นอู๋เชิงที่มาเป็นคนขับรถวันนี้ อู๋ฮ่าวเหรินก็ตกใจ “ทำไมวันนี้มาขับรถล่ะ?”
“ผมก็ไมรู้เหมือนกัน พอผมตื่นมาตอนเช้าก็มีทหารมาที่บ้านแล้วบอกว่าให้ผมมาขับรถวันนี้”
หลังจากนั่งรถลงจากภูเขามาได้ไม่ทันไร จื่อหยงก็โทรเข้ามา
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับนายเมื่อคืนใช่มั้ย?”
“อืม, ไม่นะ เมื่อคืนมีอะไรงั้นหรือ?”
“พวกนั้นเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว มีกลุ่มคนขึ้นไปบนเขา และเตรียมจะบุกเข้าไปในหมู่บ้านซุยฉุยจากตรงท้ายหมู่บ้าน จึงมีการปะทะกันเกิดขึ้น”
อู๋ฮ่าวเหรินตกใจเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่เขารู้สึกไม่ปกติเมื่อคืนนี้?
“จะว่าไป วันนี้คนขับรถของผมไม่มาเลย เขาได้รับบาดเจ็บจากเมื่อคืนหรือเปล่า?”
“รอก่อน เดี๋ยวผมจะถามให้แล้วกัน ผมเองก็เพิ่งจะรู้เรื่องนี้ตอนเช้านี่เอง”
หลังจากนั้นสักพัก จื่อหยงก็โทรมาอีกครั้ง “เขาได้รับบาดเจ็บด้วย และเจ็บหนักไม่น้อยเลยทีเดียว ขาของเขาอาจจะใช้การไม่ได้อีกแล้ว”
“อยู่ที่โรงพยาบาลไหน ผมจะรีบไป”
“โรงพยาบาลรัฐในตัวเมือง”
“ผมจะไปที่นั่นก่อนละกัน”
อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้บอกกับอู๋เชิง “ไปที่โรงพยาบาลรัฐในตัวเมืองก่อน”
เมื่อเขามาถึงที่โรงพยาบาล, เขาก็พบว่าคนที่บาดเจ็บนั้นไม่ได้มีเพียงแค่คนขับรถที่ขับรถให้เขาทุกวันนี้เท่านั้น, แต่ยังมีคนอื่นอีก 3 คนอยู่ด้วย
“เกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้?” อู๋ฮ่าวเหรินยังไม่เข้าไปรบกวนคนบาดเจ็บที่อยู่ข้างใน แต่ถามทหารที่กำลังยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง
“มีกลุ่มคนบุกขึ้นมาจากฝั่งด้านหลังภูเขาครับ พอพวกเราเห็นเข้าจึงเกิดการปะทะกันครับ ฝั่งเรา 4 คนถูกยิงบาดเจ็บระหว่างการต่อสู้ครับ”
“เป็นคนจากประเทศพวกนั้นงั้นเหรอ?”
“น่าจะเป็นพวกญี่ปุ่นครับ เราฆ่าพวกมันไป 5 คน คนนึงหนีไปได้ ตอนนี้พวกเรากำลังตามล่าตัวมันอยู่ครับ”
หลังจากได้รับรู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินก็พูดขึ้น “ผมขอเข้าไปเยี่ยมพวกเขาได้ไหม?”
“เชิญเลยครับ, คุณอู๋”
“ไม่ต้องขยับ ผมมาเยี่ยมคุณเท่านั้น ถ้าต้องการอะไรให้บอกกับทหารหน้าห้องให้เขาแจ้งมาหาผมได้นะ”
เขามองคนขับที่ขับรถให้เขาเป็นประจำทุกวัน, ตอนนี้ขาของเขาถูกเข้าเฝือกเอาไว้ ท่าทางจะเจ็บที่ต้นขาน่าดู
“เป็นอะไรมากไหม?”
“โชคไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ กระสุนพุ่งเข้าตัดเส้นประสาทตอนที่กระสุนทะลุผ่านต้นขาไปครับ”
ถึงแม้พยายามจะปิดบัง แต่อู๋ฮ่าวเหรินยังคงพอจะมองเห็นคราบน้ำตาของเขา เรื่องนี้มันหมายถึงการจบชีวิตการเป็นทหารของเขานั่นเอง
อู๋ฮ่าวเหรินตบไหล่คนขับรถ “ไม่ต้องห่วงนะ หลังจากที่อาการคุณดีขึ้นแล้ว ผมจะให้พวกเขาติดต่อไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วผมจะหาทางช่วยรักษาคุณเอง”
“ตั้งแต่ผมได้เข้ามาที่หน่วยนี้ ผมรู้แล้วว่าสักวันมันต้องเป็นแบบนี้ คุณอู๋ครับ ผมไม่เป็นไร”
อู๋ฮ่าวเหรินรู้ อีกฝ่ายนั้นคิดว่าฮ่าวเหรินนั้นกำลังพยายามจะปลอบใจตัวเขาอยู่ แต่ฮ่าวเหรินจึงไม่พูดอะไรต่อ เพราะในปัจจุบันยังไม่มีหนทางที่จะรักษาอาการแบบนี้ได้, แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับเขา
“ทุกๆปี จะมีทหารผ่านศึกจากการบาดเจ็บแบบคุณเยอะไหม?”
“เยอะมากครับ หลายคนบาดเจ็บและถูกปลดออกระหว่างทำภารกิจ หัวหน้าเก่าของผมก็ออกไปทำภารกิจแล้วบาดเจ็บจนต้องเกษียณตัวเองออกไป”
พอได้เห็นทหารเหล่านี้ อู๋จึงรู้สึกว่าเขาน่าจะเอาอุปกรณ์ทางการแพทย์และยารักษาออกมาได้แล้ว
ถ้าจำไม่ผิด ในบรรดาสิ่งที่เขาได้รับมาจากผู้เชี่ยวชาญการแพทย์นั้น มีอุปกรณ์และยาที่ใช้สำหรับรักษาอาการบาดเจ็บด้วย
การฟื้นฟูสภาพแขนขาและโรคที่รักษาไม่หายนั้น ก็เป็นได้แค่เพียงโรคหวัดธรรมดาด้วยเทคโนโลยีในโลกอนาคต
การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของร่ายกายมนุษย์ทำให้โรคบางอย่างถูกกำจัดไปโดยสิ้นเชิง
เมื่ออู๋ออกมาจากโรงพยาบาล เขาก็ได้บอกกับทหารว่าเมื่อพวกเขาได้รับอนุญาติให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ให้ส่งผู้บาดเจ็บพวกนี้ไปยังฟิวเจอร์กรุ๊ปด้วย
กลับมาในห้องแล็บ อู๋ฮ่าวเหรินกล่าวขึ้น ” จี้ ให้หุ่นยนต์หมายเลข 1 ขึ้นไปบนเขาแล้วหาตัวเจ้าคนที่หนีรอดไปมาให้ได้ แล้วก็ขอข้อมูลการแพทย์ที่ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ให้มานั้น ส่งมาให้ฉันด้วย”
“เจ้าหุ่นหมายเลข 1 ออกไปแล้ว คาดการณ์ว่าน่าจะหาคนๆนั้นเจอภายใน 3 ชั่วโมง ส่วนข้อมูลพวกนั้นอยู่ในคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเปิดดูได้เลย”
อู๋ฮ่าวเหรินคลิกคอมพิวเตอร์แล้วมองดูข้อมูลทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์ให้มา มีข้อมูลมากมายที่ถูกวิจัยขึ้นมาโดยนักวิจัยทางการแพทย์, ซึ่งอู๋ฮ่าวเหรินนั้นไม่ค่อยได้ศึกษาอย่างละเอียดมากนักตอนที่เขานำข้อมูลของไฟฟ้าชีวภาพบำบัดออกมาใช้
“ยาที่ใช้รักษามะเร็งสามารถสร้างขึ้นบนโลกนี้ได้ไหม?”
“ยังไม่สามารถทำได้ เทคโนโลยีนั้นไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่มีรูปแบบที่ง่ายกว่านั้นที่สามารถสร้างขึ้นมาได้ แม้ว่ามันจะไม่สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้แต่สามารถหยุดการเติบโตได้ แล้วจากนั้นด้วยเครื่องมือนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้โดยสมบูรณ์”
จี้เรียบเรียงกลวิธีในการรักษาเซลล์มะเร็งด้วยเทคโนโลยีของโลคในยุคนี้ออกมาอย่างรวดเร็ว
อู๋ฮ่าวเหรินมองดูแผนการที่จี้ให้มา สำหรับตอนนี้มันดูเป็นเรื่องง่ายกว่าการทำยารักษาโรคเสียอีก
“ส่วนอุปกรณ์ซ่อมแซมเส้นประสาทที่คุณต้องการนั้น ด้วยอุปกรณ์การแพทย์แบบนี้สามารถทำได้ แต่มีปัญหาติดอยู่ที่ เราจะต้องให้ความร่วมมือในด้านการรักษาด้วยค่ะ เพราะว่าเจ้าเครื่องที่ใช้ซ่อมแซมเส้นประสาทนี้ จำเป็นที่จะต้องให้คุณเป็นคนติดตั้งเท่านั้น”
อู๋ฮ่าวเหรินพยักหน้า ไม่มีปัญหาอะไรที่เขาจะติดตั้งมันด้วยตัวเอง ในช่วงนี้เขาฉกหินพลังงานมาเป็นจำนวนมากพอสมควร
“แล้วเรื่องวิธีการฟื้นฟูแขนขานี่ล่ะ”
สักพักก็มีวิธีการถึงสามวิธีปรากฎบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว วิธีแรกนั้นทั้งล้ำสมัยและสะดวกรวดเร็ว ภายในวันเดียว คุณสามารถฟื้นฟูสภาพของส่วนใดของร่างกายก็ได้โดยใช้ห้องฟื้นฟูชีวภาพและเสริมด้วยกรรมวิธีการซ่อมแซมเข้าไป
จากที่กล่าวมาข้างต้น แม้จะตัดส่วนไหนออกไป ก็สามารถงอกใหม่ได้ทันทีด้วยเครื่องมือนี้
ทว่า หลังจากดูความต้องการของเทคโนโลยีที่ต้องการใช้ทำห้องฟื้นฟูสภาพรวมไปถึงกรรมวิธีการซ่อมแซมแล้ว อู๋ฮ่าวเหรินจึงได้ทิ้งวิธีนี้ไป
วิธีที่สองนั้นน่าจะดีกว่า เป็นการใช้ยาร่วมกับเทคโนโลยีชีวภาพ แต่ขั้นตอนการรักษานั้นค่อนข้างเจ็บปวด และอาจต้องใช้เวลาในการรักษานานพอสมควร
วิธีที่สามดูจะแปลกออกไปนิดหน่อย วิธีคล้ายกับการใช้ห้องฟื้นฟูชีวภาพแต่ใช้วิธีจำลองสภาพเหมือนกับทารกในครรภ์ของมารดา และด้วยเทคโนโลยีการฟื้นสภาพจะทำให้ผู้คนค่อย ๆ เติบโต
เทคโนโลยีที่สามนี้เป็นเทคโนโลยีรุ่นแรกสุดที่ถูกใช้โดยมนุษย์ แต่ก่อนที่การวิจัยเทคโนโลยีนี้จะสมบูรณ์ได้ ก็มีเหล่า”คนยักษ์”ปรากฏขึ้นมากมาย
แต่แน่นอนว่า ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีไหนในสามอันนี้ ถ้าหากไม่มีสารอาหารชนิดพิเศษแล้ว การรักษาอาการบาดเจ็บของร่างกายที่เกิดจากการฟื้นตัวของเซลล์จะเป็นการเร่งอายุขัยของมนุษย์ทั้งนั้น
“จี้ วิธีที่สามนั้นดูท่าจะง่ายที่สุดแล้วใช่มั๊ย?”
“ก็พอจะพูดแบบนั้นได้อยู่, เพราะว่าวิธีนี้จะเป็นการเลียนแบบสภาพแวดล้อมของครรภ์มารดาและพื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร่างกาย แต่ว่า วิธีนี้ใช้เซลล์ในร่างกายเพื่อฟื้นฟูเป็นจำนวนมาก และนั่นจะทำให้มีผลเสียอย่างใหญ่หลวงต่ออายุขัยของร่างกายด้วยค่ะ”
อู๋ฮ่าวเหรินพยักหน้า ใช่แล้ว เขารู้ผลข้างเคียงของการเร่งอายุขัยบนร่างกายของพวกเขา ซึ่งมันหมายถึงความตาย ในอนาคต เพื่อที่จะมีชีวิตที่ยืนยาว คนในโลกอนาคตนั้นจะใช้วิธีที่พิเศษเพื่อซ่อมแซมการฟื้นฟูสภาพของเซลล์ในร่างกายมนุษย์
และแน่นอนว่า ในอนาคต คนบางคนยังต้องการใช้ความสามารถในการฟื้นฟูนี้เพื่อสับเปลี่ยนร่างกายเพื่อยืดอายุขัย แต่หลังจากนั้นก็พบกว่าวิธีนี้ส่งผลทำให้วิญญานอ่อนแอลงและตายในทันที
เหมือนจะมีคำอธิบายไว้ว่าหากใช้วิธีนี้มากเกินไป จะเป็นการใช้พลังวิญญานเพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับร่างใหม่ และพลังวิญญานที่ลดลงไปนั้น จะพามาซึ่งความตายนั่นเอง
แต่ทว่า เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ของร่างกายมนุษย์ในตอนนี้แล้ว คงไม่น่าจะต้องพะวงกับปัญหานี้เท่าไหร่ เพราะการใช้พลังวิญญานนั้นไม่หนักหนาพอที่จะกระทบกับอายุขัยของมนุษย์ในตอนนี้
“จี้, ให้หุ่นยนต์ผู้ช่วยสร้างอุปกรณ์พวกนี้ขึ้นมา ฉันจะหาทางผลิตยาพวกนั้นเอง”
——————–