CF-บทที่ 291 การคุกคามของวัสดุยา
หลังจากได้ข่าวจากอู๋ฮ่าวเหรินแล้ว จื่อหยงก็วางสายแล้วโทรหากระทรวงสาธารณสุข
ที่จริงถ้าเขาไม่โทรล่ะก็ประเทศเหล่านั้นจะไม่สามารถซื้อสมุนไพรพวกนั้นจากจีนได้
ตอนนี้ วัสดุยาเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับความเป็นความตายของคนกว่าสามล้านคน เขาสามารถนึกถึงความสําคัญในเรื่องนี้ได้เลย
เมื่อฟิวเจอร์กรุ๊ปได้รู้ข่าวโรคมะเร็ง วัสดุยาที่เกี่ยวข้องกับยาต้านมะเร็งถูกจํากัดการขายในต่างประเทศ
ณ ปัจจุบัน ตราบใดที่ยาที่เกี่ยวข้องกับยาต้านมะเร็งวางขายในตลาดก็ไม่สามารถซื้อได้ เนื่องจากพวกเขารู้ว่ายานี้สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ดังนั้นจึงกักตุนมันไว้
หลังจากได้รับการแจ้งเตือนจากจื่อหยงแล้ว พวกเขารายงานข่าวให้พวกเขาโดยตรง ในตอนนี้ พวกเขาไม่กล้าจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
ถ้ามีปัญหาขึ้นมา ผลที่ตามมาก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะแบกรับไหว
ในท้ายที่สุดหัวหน้ารายงานว่าเรื่องดังกล่าวมีความสําคัญอย่างมากกับหัวหน้า แต่ก็เป็นเรื่องความเป็นอยู่ของชาติด้วย
เมื่อดูที่เอกสารแล้ว หัวหน้าจึงถามว่า “มันสอดคล้องกับการสอบสวนของคุณรึเปล่า?”
เลขานุการตอบ “ข้อมูลการสํารวจในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าประเทศจีนมีผู้ปวยโรคมะเร็งสามล้านหนึ่งแสนห้าหมื่นคน มากกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่ปวยเป็นโรคร้ายแรง หากคํานวณตามข้อมูลที่ได้รับจากฟิวเจอร์กรุ๊ปพวกเขาสามารถสนับสนุนวัสดุยาชุดต่อไปได้จริง”
“นอกจากนี้ตามข้อมูลจากช่างเทคนิค กระบวนการรักษาเร็วกว่าที่ระบุไว้ในข้อมูล ยิ่งกว่านั้นจํานวนผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศก็ลดลงเมื่อใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าชีวะภาพบําบัด”
“ดังนั้นเราจึงไม่ต้องห่วงเรื่องขาดแคลนสมุนไพร”
” ตราบเท่าที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ก็ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาของวัสดุยา ทว่าด้วยสภาพของวัสดุยาในจีนเช่นนี้ แน่นอนว่าจะไม่เพียงพอสําหรับให้ผู้ป่วยมะเร็งต่างประเทศใช้”
“ถ้าเป็นแบบนี้ก็ให้พวกเขาดําเนินการตามเอกสารนี้และเปิดตลาดยาแผนจีนโบราณเลย”
เมื่อข่าวออกมาจากกระทรวงสาธารณสุข คนที่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้บนอินเทอร์เน็ตต่างก็สับสนกับสิ่งที่พวกเขาต้องการจะทํา
วัสดุยาเหล่านี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมราคา แล้วจะเปิดตลาดที่อนุญาตให้ทุกคนซื้อขายได้อย่างอิสระได้อย่างไร
“ใครรู้บ้างว่าเอกสารนี้ของกระทรวงสาธารณสุขมันหมายความว่ายังไง?”
“จะหมายความว่าอะไรได้อีกนอกจากเปิดการค้ายาต้านมะเร็งกล่าว หรือก็คือคุณสามารถซื้อขายได้อย่างอิสระ ยิ่งพวกเกษตรกรผู้ผลิตยา พวกเขาสามารถขึ้นราคายาได้ตามต้องการเลยทีเดียว”
“ฉันเข้าใจเรื่องนั้น แต่ฉันต้องการจะรู้ว่าทําไมถึงทําแบบนี้ เบื้องบนจัดการกับพวกเกษตรกรผู้ผลิตยาแล้วหรือ”
“ฉันก็คิดแบบนั้น มันต้องทําอะไรสักอย่างกับข่าวนี้แล้วล่ะ”
มีคนลงสูตรยาต้านมะเร็งของฟิวเจอร์กรุ๊ป นี่คือคําอธิบายโดยละเอียดของยาต้านมะเร็งนี้ แน่นอนว่าประโยคสุดท้ายนั้นสําคัญมาก ในปัจจุบันนอกเหนือจากฟิวเจอร์กรุ๊ปแล้วยังไม่มีสถาบันวิจัยด้านเภสัชกรรมใดที่มีเทคโนโลยีในการผลิตยานี้
“ฉันไม่เข้าใจเลย เมื่อสูตรออกมาแล้วยาก็ควรจะถูกควบคุมเท่าที่ฉันรู้มีเพียงไม่กี่ประเทศที่มียาสมุนไพรจีนชนิดนี้ แถมยังมีปริมาณน้อยมากและไม่มีเพาะขยาย ตอนนี้ในสถานการณ์เช่นนี้ หากต่างประเทศต้องการผสมยาต้านมะเร็งของตัวเองพวกเขาก็ทําได้เพียงซื้อได้จากสายยาจีน เท่านั้น
“ใช่ ต่างประเทศจําเป็นต้องซื้อสมุนไพรจากตลาดยาสมุนไพรจีน แล้วปัญหาก็คือถ้าไม่มีเทคโนโลยีของฟิวเจอร์กรุ๊ปพวกเขาก็ไม่สามารถผลิตยาต้านมะเร็งได้อยู่ดี ยกเว้นในอนาคตบริษัทจะขายอุปกรณ์ผลิตให้กับต่างประเทศด้วย ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถซื้อวัสดุยาได้”
“คุณได้ข่าวมาเมื่อไหร่? ฉันเพิ่งได้ข่าวล่าสุดมาว่ามันถูกเปิดเผยบนอินเตอร์เน็ตว่า บริษัทที่ซื้อสมุนไพรเมื่อไม่นานมานี้เป็นบริษัทที่ช่วยฟิวเจอร์กรุ๊ปซื้อสมุนไพร หรือก็คือในอนาคต บริษัทจะไม่ขาดวัสดุยาสําหรับการผลิตยาต้านมะเร็ง ดังนั้นรัฐก็จะออกการควบคุมของตลาดวัสดุยาได้”
“แล้วก็มันผิดที่จะค่าบริษัทที่ซื้อยาส่วงหน้า! มันไม่ใช่เจ้าหน้าที่สักคนของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้รู้ข่าวล่วงหน้าและพร้อมที่จะขายยาในราคาแพง”
“ฉันเพิ่งจะไปตรวจสอบมา ดูเหมือนว่าจะมีคนจํานวนมากลบโพสต์ไปแล้ว ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าผู้คนเข้าใจผิดไป เจ้าหน้าที่เหล่านั้นไม่กล้าจะฆ่าตัวตายแบบนี้หรอก ในประเทศจีนยังผู้ป่วยโรคมะเร็งกว่าสามล้านคนนอกจากนี้ ปัจจุบันทางการกล้าที่จะหลอกฟิวเจอร์กรุ๊ปซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็น การไม่เคารพการตายอย่างช้าๆของเขาเอง”
คนเหล่านี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าไม่มีใครกล้าซื้อสมุนไพรเหล่านั้นในปริมาณมาก ณ เวลานั้นนั้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากฟิวเจอร์กรุ๊ป
เพราะถ้าโดนจับได้ ผู้ที่เปิดเผยข้อมมูลของสถาณะของฟิวเจอร์กรุ๊ปคงไม่พ้นโดนถอดถอนและตรวจสอบ แล้วอาจจะถูกลงโทษโดยการฟ้องว่าเปิดเผยความลับของบริษัทด้วย
ตอนนี้เบื้องบนทําการตัดสินใจอีกครั้ง มันต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับฟิวเจอร์กรุ๊ปแน่
เกษตรกรผู้ผลิตขาก็มีความสุขในทันที แต่ตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าจะขายยาให้ใครดี
นอกเหนือไปจากหลิงเหยา ใครยังจะซื้อสมุนไพรเหล่านี้ในราคาเดิม ไม่มีใครในตลาดจีนที่ซื้อสมุนไพรพวกนี้จริงเลย
เนื่องจากพวกเขาเป็นกังวลมาก ว่าประเทศจะกดดันอย่างหนักจนพวกเขาไม่มีอะไรจะเสีย
ในเวลานี้เอง ผู้ซื้อต่างประเทศเข้ามาและทําให้เกษตรกรผู้ผลิตยาเหล่านี้ตื่นเต้น
หากไม่มีใครในประเทศจีนซื้อมัน พวกเขาก็จะขายให้ต่างประเทศ เนื่องจากไม่มีกฎระเบียบจากเบื้องบนว่าไม่อนุญาตให้ขายยากับต่างประเทศ นั่นก็หมายความว่าอนุญาตให้พวกเขาทําการค้ากับชาวต่างชาติได้นั่นเอง
คนแรกที่ทําการค้าขายกับนักธุรกิจต่างชาติได้ลิ้มรสความหวาน และคนอื่นๆ ก็เริ่มทําตาม เมื่อตอนนี้นักธุรกิจต่างชาติที่มาซื้อยาเหล่านี้มีความใจกว้างในเรื่องราคาอย่างมาก ราคายาจึงเริ่มทะยานไปเรื่อยๆ
เนื่องจากการมาอย่างฉับพลันของนักธุรกิจต่างชาติจํานวนมาก ราคาของวัสดุยาจากเดิมสิบหยวนก็ขึ้นไปถึงร้อยหยวน
ยิ่งกว่านั้นเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์การซื้อของตลาดวัสดุยาราคานี้ไปไกลเกินขีดจํากัด เพราะนักธุรกิจต่างชาติที่มาซื้อสมุนไพรไม่คิดจะหยุดเลย พวกเขาซื้อมากเท่าที่พวกเขาต้องการ
เมื่อตลาดยาสมุนไพรจีนไม่สามารถซื้อยาสมุนไพรเหล่านี้ได้อีก ทุกคนถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ
บางคนได้ลงข่าวบนอินเทอร์เน็ตเพื่อเตือนประเทศว่านักธุรกิจต่างชาติซื้อวัสดุยาเหล่านี้ไป และยารักษาผู้ปวยโรคมะเร็งของจีนก็มาจากวัสดุนั้น
และตอนนี้เองที่ผู้คนถึงจะเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งที่นักธุรกิจต่างชาติเหล่านั้นเล็งไว้ แต่ตอนนี้วัสดุยาทั้งหมดในตลาดถูกขายออกไปหมดแล้ว ยกเว้นเพียงวัสดุยาที่โตเต็มที่ในไร่เท่านั้น
แต่ในขณะที่ทุกคนกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ อู๋ฮ่าวเหรินที่นั่งอยู่ในสํานักงานและเกือบจะไม่หัวเราะออกมาเมื่อเขาเห็นอีเมลที่บริษัทได้รับ
“ประธาน เราจะตอบกลับประเทศเหล่านี้ได้อย่างไร ?
“ไม่ต้องสนใจ อยากจะบีบบังคับฉันด้วยยาและการเปลี่ยนอุปกรณ์? พวกเขาคงอยากจะได้ผลลัพธ์จริงๆ”
อู๋ฮ่าวเหรินพูดไม่ออก ประเทศเหล่านี้คิดว่าพวกเขาสามารถบังคับให้เขาขายอุปกรณ์ที่ขาดแคลนอย่างหนักอยู่แล้วไปยังต่างประเทศได้โดยวิธีนี้หลังจากซื้อวัสดุยาทั้งหมดในตลาดจีนไปแล้ว
ไม่เช่นนั้น เพื่อให้จีนจะมีอุปกรณ์ แต่ก็ไม่สามารถผลิตยาต้านมะเร็งได้หากไม่มีวัสดุยา
ความคิดแบบนี้ดีมาก หากเป็นแบบนี้เขาอาจจําเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ผลิตยา เขาไม่สามารถทนดูผู้ปวยโรคมะเร็งในประเทศของตัวเอง โดยไม่มียารักษาพวกเขา
ญี่ปุ่น อเมริกา เยอรมนี และประเทศอื่นๆ กําลังรอการตอบกลับของฟิวเจอร์กรุ๊ปในขณะนี้
เพื่อที่จะซื้อวัสดุยาทั้งหมดในตลาดจีนพวกเขาจึงทําการซื้ออย่างบ้าเลือดครั้งนี้ ซึ่งเป็นการสร้างความประหลาดใจให้กับรัฐบาลขึ้น
แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้ตรวจสอบให้ดีในช่วงก่อนที่จะซื้อวัสดุยา รัฐบาลจีนได้ควบคุมยาแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะไตร่ตรองอย่างรอบคอบกว่านี้